สืบเนืองจากเราเพิ่งได้อ่านกระทู้นี้ค่ะ
http://pantip.com/topic/32433893
บัตรของเรา ก็เป็นของธนาคารนี้ เคยโดนสกิมเมอร์เหมือนกัน ในช่วงปีที่แล้ว ที่มีคนโดนหลายราย
ตอนนั้นก็มีคนตั้งกระทู้ให้ข้อมูลเยอะพอสมควร เราก็เลยไม่ได้แชร์เรื่องของเรา
แต่ก็ยังมีเจ้าทุกข์โดนเรื่อยๆ เราเลยอยากแชร์ขั้นตอนที่เราทำตอนนั้นค่ะ
1. โทรหา call center หลังจากแจ้งเรื่องและอายัดบัตรแล้ว ให้ถามรหัสตู้ที่โดนกดไปว่าเป็นของธนาคารใด สาขาไหน(ควรจำชื่อพนักงานด้วยค่ะ เวลาโทรเข้าไปสอบถามความคืบหน้าจะได้ไม่ต้องเล่าซ้ำเหมือนเรา พอดีตอนนั้นตังค์หายแล้วใจสั่นๆ พนักงานก็พูดชื่อเร็วเลยจำชื่อไม่ได้อ่ะ)
2. แจ้งความในพื้นที่ที่โดนกดตังค์ไป(ของเราโดนกดไป 3 ที่ ที่แรกไปแจ้งผิดสน. ก็โดนไล่ไปอีกที่ พอถามว่าที่ๆ 2 ของท้องที่ไหน ก็บอกไม่รู้ เลยไปตายเอาดาบหน้าแทน ส่วนที่สุดท้ายเป็นต่างจังหวัดเราเลยไม่ได้แจ้ง)
3. การแจ้งความเพื่อขอดูวงจรปิดของธนาคารต้องบอกตำรวจให้ชัดเจนตอนแจ้งความ พวกรหัสตู้ สาขา ธนาคาร และให้ตำรวจออกหนังสือตราครุทเพื่อไปยื่นที่สาขาของธนาคารเจ้าของตู้(ตอนแรกเราก็บอกตำรวจนะ ว่าจะไปขอดูวงจร แต่ตำรวจไม่ได้ออกหนังสือให้ พอเอาใบแจ้งความไปให้ธนาคาร ธนาคารก็ไล่กลับไปขอหนังสือที่สน.ใหม่ พอกลับไปตำรวจก็ออกหนังสือให้ แบบแอบเคือง ก็รู้นิว่ามันต้องใช้หนังสือ แล้วทำไมไม่ออกให้ตั้งแต่แรก -*-)
4. พอได้หนังสือขอดูกล้องวงจรปิด ก็ไปยื่นที่ธนาคาร อันนี้แล้วแต่สาขานะ ที่แรกที่เราไป ใช้หนังสือก็สามารถดูได้ ถ้าต้องการ copy รูปคนร้ายก็แนบสำเนาบัตรของตำรวจมา เค้าก็ให้อ่ะ ส่วนสาขาที่ 2 ไปแล้วเค้าไม่ยอมให้เราดูบอกว่าต้องให้ตำรวจมาเอง(พอกลับมาบอกตำรวจ ตำรวจบอกว่าไปไม่ได้ ถ้าไปแล้วใครจะรับแจ้งความแทนผมล่ะ -*-)
5. บัตรเราโดนกดจากตู้ของธนาคารอื่นอ่ะ เราเลยโทรแจ้ง call center ของธนาคารเจ้าของตู้ด้วย ว่าให้ช่วยประสานงานให้หน่อย(ในกรณีที่ตำรวจไม่ไปเอาเทปให้ ธนาคารเจ้าของตู้จะส่งให้สำนักงานใหญ่ แล้วทางสำนักงานใหญ่จะส่งให้ทางตำรวจอีกที ซึ่งคาดว่าน่าจะใช้เวลานาน)
6. สุดท้ายรวบรวมหลักฐานทั้งหมดแจ้งเรื่องไปที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
http://www.bot.or.th
เราว่าขั้นตอนนี้ทำให้เรื่องดำเนินการได้เร็วขึ้นนะ
หลังจากที่วิ่งไปๆ มาๆ เดินเรื่องระหว่างธนาคาร-สถานีตำรวจ หลายรอบ เราก็ได้รับตังค์คืนตามจำนวนที่โดนคนร้ายกดไป
และหวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้ที่เจอปัญหาแบบนี้นะคะ (อย่างน้อยก็ไม่ต้องเทียวไปเอาเอกสารหลายครั้งเหมือนเรา ไปครั้งเดียวให้ได้ครบเลย)
แชร์ประสบการณ์ บัตร ATM โดนสกิมเมอร์
บัตรของเรา ก็เป็นของธนาคารนี้ เคยโดนสกิมเมอร์เหมือนกัน ในช่วงปีที่แล้ว ที่มีคนโดนหลายราย
ตอนนั้นก็มีคนตั้งกระทู้ให้ข้อมูลเยอะพอสมควร เราก็เลยไม่ได้แชร์เรื่องของเรา
แต่ก็ยังมีเจ้าทุกข์โดนเรื่อยๆ เราเลยอยากแชร์ขั้นตอนที่เราทำตอนนั้นค่ะ
1. โทรหา call center หลังจากแจ้งเรื่องและอายัดบัตรแล้ว ให้ถามรหัสตู้ที่โดนกดไปว่าเป็นของธนาคารใด สาขาไหน(ควรจำชื่อพนักงานด้วยค่ะ เวลาโทรเข้าไปสอบถามความคืบหน้าจะได้ไม่ต้องเล่าซ้ำเหมือนเรา พอดีตอนนั้นตังค์หายแล้วใจสั่นๆ พนักงานก็พูดชื่อเร็วเลยจำชื่อไม่ได้อ่ะ)
2. แจ้งความในพื้นที่ที่โดนกดตังค์ไป(ของเราโดนกดไป 3 ที่ ที่แรกไปแจ้งผิดสน. ก็โดนไล่ไปอีกที่ พอถามว่าที่ๆ 2 ของท้องที่ไหน ก็บอกไม่รู้ เลยไปตายเอาดาบหน้าแทน ส่วนที่สุดท้ายเป็นต่างจังหวัดเราเลยไม่ได้แจ้ง)
3. การแจ้งความเพื่อขอดูวงจรปิดของธนาคารต้องบอกตำรวจให้ชัดเจนตอนแจ้งความ พวกรหัสตู้ สาขา ธนาคาร และให้ตำรวจออกหนังสือตราครุทเพื่อไปยื่นที่สาขาของธนาคารเจ้าของตู้(ตอนแรกเราก็บอกตำรวจนะ ว่าจะไปขอดูวงจร แต่ตำรวจไม่ได้ออกหนังสือให้ พอเอาใบแจ้งความไปให้ธนาคาร ธนาคารก็ไล่กลับไปขอหนังสือที่สน.ใหม่ พอกลับไปตำรวจก็ออกหนังสือให้ แบบแอบเคือง ก็รู้นิว่ามันต้องใช้หนังสือ แล้วทำไมไม่ออกให้ตั้งแต่แรก -*-)
4. พอได้หนังสือขอดูกล้องวงจรปิด ก็ไปยื่นที่ธนาคาร อันนี้แล้วแต่สาขานะ ที่แรกที่เราไป ใช้หนังสือก็สามารถดูได้ ถ้าต้องการ copy รูปคนร้ายก็แนบสำเนาบัตรของตำรวจมา เค้าก็ให้อ่ะ ส่วนสาขาที่ 2 ไปแล้วเค้าไม่ยอมให้เราดูบอกว่าต้องให้ตำรวจมาเอง(พอกลับมาบอกตำรวจ ตำรวจบอกว่าไปไม่ได้ ถ้าไปแล้วใครจะรับแจ้งความแทนผมล่ะ -*-)
5. บัตรเราโดนกดจากตู้ของธนาคารอื่นอ่ะ เราเลยโทรแจ้ง call center ของธนาคารเจ้าของตู้ด้วย ว่าให้ช่วยประสานงานให้หน่อย(ในกรณีที่ตำรวจไม่ไปเอาเทปให้ ธนาคารเจ้าของตู้จะส่งให้สำนักงานใหญ่ แล้วทางสำนักงานใหญ่จะส่งให้ทางตำรวจอีกที ซึ่งคาดว่าน่าจะใช้เวลานาน)
6. สุดท้ายรวบรวมหลักฐานทั้งหมดแจ้งเรื่องไปที่ธนาคารแห่งประเทศไทย http://www.bot.or.th
เราว่าขั้นตอนนี้ทำให้เรื่องดำเนินการได้เร็วขึ้นนะ
หลังจากที่วิ่งไปๆ มาๆ เดินเรื่องระหว่างธนาคาร-สถานีตำรวจ หลายรอบ เราก็ได้รับตังค์คืนตามจำนวนที่โดนคนร้ายกดไป
และหวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้ที่เจอปัญหาแบบนี้นะคะ (อย่างน้อยก็ไม่ต้องเทียวไปเอาเอกสารหลายครั้งเหมือนเรา ไปครั้งเดียวให้ได้ครบเลย)