ผมว่า
ประเด็นมันไม่ได้อยู่ที่ว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะโดนพิพากษายังไงหรอกครับ
แต่มันอยู่ที่ ความโสมมที่เปรอะอยู่เต็มตัวนายอภิสิทธิ์ต่างหาก
หากถึงที่สุด
ศาลพิพากษาว่านายอภิสิทธิ์ผิด โดนโทษโดนอาญาไป ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
หรือหากศาลพิพากษาว่าไม่ผิด หลุดคดี ก็ไม่แปลกอะไรอีกนั่นแหละครับ
ผิด ติดคุก มันก็ธรรมดา เหตุการณ์กระทำผิดมันเห็นชัดเต็มตาคนนับหมื่นนับแสนกลางเมืองหลวง
ไม่ผิด ก็ธรรมดา เพราะรู้ ๆ กันอยู่
ตัวนายอภิสิทธิ์นั้น วันนี้ถือได้ว่าเขาเป็นนักการเมืองที่บอบช้ำที่สุดที่ประเทศไทยเคยมีมา
สฤษดิ์ ถนอม ประพาส เหตุการณ์ 6 ต.ค. 19 รสช. ก็ไม่เท่าอภิสิทธิ์
ในทางส่วนตัว
ตัวนายอภิสิทธิ์ เปรอะไปด้วยเรื่องวิ่งเต้น วิธีนอกลู่
หนีทหาร เข้ารับราชการโดยมิชอบด้วยกฎหมาย เป็นนายร้อยจากการใช้เอกสารเท็จแต่งตั้งประดับยศ
มีเส้นคอยคุ้มอุ้มชูมาตลอด
ในทางการเมืองก็มีนายชวนค้ำให้ ผลักดันอุ้มชูจนได้เป็นหัวหน้าพรรค
ก็ขนาดนายชวนยอมแตกหักกับเสธ.หนั่นนั่นแหละครับ เสธ.หนั่นที่เล่นเกมการเมืองจนนายชวนได้เป็นนายกฯสองครั้ง
(นายชวนก็ตอบแทนด้วยการสร้างภาพความซื่อสัตย์เป็นโลโก้กันผี ขณะที่เสธ.หนั่นรวยอิ๊บอ๋าย)
ตำแหน่งทางการเมืองตอน ปชป. เป็นรัฐบาล ก็นายชวนอีกนั่นแหละ
(ก็คิดดูสิครับ นายชวนตั้งนายอภิสิทธิ์เป็น รมต.สำนักนายกฯ ปี 2540 ด้วยเหตุผลว่า
เด๋วรัฐธรรมนูญ 40 จะบังคับใช้ รมต.ต้องอายุไม่ต่ำกว่า 35 ปี เลยรีบตั้งนายอภิสิทธิ์ก่อน
เพราะตอนนั้น นายอภิสิทธิ์อายุ 33 ปี)
ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ที่นายอภิสิทธิ์ได้เป็น ก็ปฏิเสธไม่ออกหรอกครับ
ว่าทหารเขามอบให้ อุ้มให้ จากอำนาจนอกระบบที่อยู่เบื้องหลังกำกับการแสดง
จะเห็นว่า ชีวิตนายอภิสิทธิ์นั้น ไม่ปกติเหมือนคนอื่นครับ
มองไม่เห็นจริง ๆ ว่า ใช้ความสามารถอะไรในการคว้าตำแหน่งต่าง ๆ มาครองได้
นอกจากวิธีการที่สังคมไทยเราเรียกว่า เส้น
ขนาดเรื่องสัญชาติ นายอภิสิทธิ์ยังตอบสังคมไม่ได้ ว่ามีสัญชาติอังกฤษไหม
จนมาชัดตอนหลักฐานผู้มีสิทธิเลือกตั้งในอังกฤษโผล่นั่นแหละ
สังคมถึงได้ "ชัด" ว่า นายอภิสิทธิ์มีสองสัญชาติ ทั้งไทยและอังกฤษ
ทีนี้
เมื่อถึงที่สุด คดี 99 ศพถึงที่สุด
หากศาลพิพากษาว่า นายอภิสิทธิ์ผิด ก็เข้าคุกไป
แต่หากศาลว่าไม่ผิด นายอภิสิทธิ์ถึงไม่ติดคุกของกรมราชทัณฑ์ ก็ติดคุกสังคมครับ
เพราะไม่มีทางที่สังคมจะเชื่อว่านายอภิสิทธิ์ไม่ผิดจริง แต่เพราะ "เส้น" ต่างหากถึงหลุด
จึงไม่น่าห่วงครับ ว่านายอภิสิทธิ์จะติดคุกหรือไม่
ขอเพียงวันที่ 29 ส.ค. นี้ ที่ศาลจะมีคำสั่งว่า คดี 99 ศพนั้น เป็นอำนาจของใคร
ดีเอสไอที่ทำคดีนี้มาตลอด หรือเป็นอำนาจของ ป.ป.ช. ตามที่นายอภิสิทธิ์ร้องขอ
หากศาลสั่งว่า เป็นของดีเอสไอ ก็อย่างที่ผมสาธยายไว้ข้างบน ไม่มีอะไรน่าห่วงครับ
แต่หากศาลสั่งว่าเป็นอำนาจของ ป.ป.ช. ต้องโอนคดีไปที่ ป.ป.ช. ก็จบคดี คดีจบครับ
วันนั้น ปี 53
หากนายอภิสิทธิ์ใช้วิธีเจรจา หาก นปช. ไม่ยอมเจรจา ก็ต้องร้องขอเจรจา ให้สังคมเห็นว่าพยายามเต็มที่แล้ว
หาก นปช. ไม่ยอม นปช. จะเสียเอง
ซึ่งถึงจังหวะนั้น นายอภิสิทธิ์ยุบสภาได้เลยทันที เลือกตั้งใหม่ พรรคเพื่อไทยไม่มีทางได้ถึงครึ่งสภา
ปชป. กับพรรคร่วม ก็จัดตั้งรัฐบาลได้ อย่างชอบธรรม และนายอภิสิทธิ์จะขึ้นเป็นนายกฯอย่างสง่างาม
แต่เพราะ "อ่อน" ฟังเสียงผู้กำกับการแสดงมากไป เกรงพลังหนุนหลังมากไป ห่วงโอกาสตัวเองเกินไป
จึงตัดสินใจผิด
และมาผิดซ้ำเมื่อยุบสภากลางปี 54 ทั้งที่ตอนนั้นไม่มีการเรียกร้องใด ๆ แล้ว
เรื่องนี้ ในทางลึก เหตุผลที่ยุบสภาก็คือ อภิสิทธิ์ไม่ไหวที่จะเป็นนายกฯต่อไปบนสถานการณ์นั้น
จึงหวังว่า หากมีการเลือกตั้ง และชนะการเลือกตั้ง กลับมาเป็นนายกฯ จะทำให้สถานการณ์ดีชึ้น
แต่ผิดหนัก
แล้วก็มาผิดซ้ำอีกครั้งในการปฏิบัติหน้าที่ฝ่ายค้าน
ภาษาพระท่านเรียกว่า "วิบากรรม"
ดิ้นจนหลงมุม จนเล่นนอกลู่
ช่อดอกไม้วันเกิดก็แค่นั้นแหละครับ เกมหลอกเด็ก
ไม่มีทางที่ใครจะคิดอุ้มนายอภิสิทธิ์กลับมาเป็นนายกฯอีก
ไม่เล่นเรื่องหนีทหารให้จมดินก็บุญหัวนักหนาแล้ว
โชคดีนะแหลหนีทหาร
อย่าห่วงเลยครับกับคดี 99 ศพของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อย่าห่วงครับ อย่าห่วง
ประเด็นมันไม่ได้อยู่ที่ว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะโดนพิพากษายังไงหรอกครับ
แต่มันอยู่ที่ ความโสมมที่เปรอะอยู่เต็มตัวนายอภิสิทธิ์ต่างหาก
หากถึงที่สุด
ศาลพิพากษาว่านายอภิสิทธิ์ผิด โดนโทษโดนอาญาไป ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
หรือหากศาลพิพากษาว่าไม่ผิด หลุดคดี ก็ไม่แปลกอะไรอีกนั่นแหละครับ
ผิด ติดคุก มันก็ธรรมดา เหตุการณ์กระทำผิดมันเห็นชัดเต็มตาคนนับหมื่นนับแสนกลางเมืองหลวง
ไม่ผิด ก็ธรรมดา เพราะรู้ ๆ กันอยู่
ตัวนายอภิสิทธิ์นั้น วันนี้ถือได้ว่าเขาเป็นนักการเมืองที่บอบช้ำที่สุดที่ประเทศไทยเคยมีมา
สฤษดิ์ ถนอม ประพาส เหตุการณ์ 6 ต.ค. 19 รสช. ก็ไม่เท่าอภิสิทธิ์
ในทางส่วนตัว
ตัวนายอภิสิทธิ์ เปรอะไปด้วยเรื่องวิ่งเต้น วิธีนอกลู่
หนีทหาร เข้ารับราชการโดยมิชอบด้วยกฎหมาย เป็นนายร้อยจากการใช้เอกสารเท็จแต่งตั้งประดับยศ
มีเส้นคอยคุ้มอุ้มชูมาตลอด
ในทางการเมืองก็มีนายชวนค้ำให้ ผลักดันอุ้มชูจนได้เป็นหัวหน้าพรรค
ก็ขนาดนายชวนยอมแตกหักกับเสธ.หนั่นนั่นแหละครับ เสธ.หนั่นที่เล่นเกมการเมืองจนนายชวนได้เป็นนายกฯสองครั้ง
(นายชวนก็ตอบแทนด้วยการสร้างภาพความซื่อสัตย์เป็นโลโก้กันผี ขณะที่เสธ.หนั่นรวยอิ๊บอ๋าย)
ตำแหน่งทางการเมืองตอน ปชป. เป็นรัฐบาล ก็นายชวนอีกนั่นแหละ
(ก็คิดดูสิครับ นายชวนตั้งนายอภิสิทธิ์เป็น รมต.สำนักนายกฯ ปี 2540 ด้วยเหตุผลว่า
เด๋วรัฐธรรมนูญ 40 จะบังคับใช้ รมต.ต้องอายุไม่ต่ำกว่า 35 ปี เลยรีบตั้งนายอภิสิทธิ์ก่อน
เพราะตอนนั้น นายอภิสิทธิ์อายุ 33 ปี)
ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ที่นายอภิสิทธิ์ได้เป็น ก็ปฏิเสธไม่ออกหรอกครับ
ว่าทหารเขามอบให้ อุ้มให้ จากอำนาจนอกระบบที่อยู่เบื้องหลังกำกับการแสดง
จะเห็นว่า ชีวิตนายอภิสิทธิ์นั้น ไม่ปกติเหมือนคนอื่นครับ
มองไม่เห็นจริง ๆ ว่า ใช้ความสามารถอะไรในการคว้าตำแหน่งต่าง ๆ มาครองได้
นอกจากวิธีการที่สังคมไทยเราเรียกว่า เส้น
ขนาดเรื่องสัญชาติ นายอภิสิทธิ์ยังตอบสังคมไม่ได้ ว่ามีสัญชาติอังกฤษไหม
จนมาชัดตอนหลักฐานผู้มีสิทธิเลือกตั้งในอังกฤษโผล่นั่นแหละ
สังคมถึงได้ "ชัด" ว่า นายอภิสิทธิ์มีสองสัญชาติ ทั้งไทยและอังกฤษ
ทีนี้
เมื่อถึงที่สุด คดี 99 ศพถึงที่สุด
หากศาลพิพากษาว่า นายอภิสิทธิ์ผิด ก็เข้าคุกไป
แต่หากศาลว่าไม่ผิด นายอภิสิทธิ์ถึงไม่ติดคุกของกรมราชทัณฑ์ ก็ติดคุกสังคมครับ
เพราะไม่มีทางที่สังคมจะเชื่อว่านายอภิสิทธิ์ไม่ผิดจริง แต่เพราะ "เส้น" ต่างหากถึงหลุด
จึงไม่น่าห่วงครับ ว่านายอภิสิทธิ์จะติดคุกหรือไม่
ขอเพียงวันที่ 29 ส.ค. นี้ ที่ศาลจะมีคำสั่งว่า คดี 99 ศพนั้น เป็นอำนาจของใคร
ดีเอสไอที่ทำคดีนี้มาตลอด หรือเป็นอำนาจของ ป.ป.ช. ตามที่นายอภิสิทธิ์ร้องขอ
หากศาลสั่งว่า เป็นของดีเอสไอ ก็อย่างที่ผมสาธยายไว้ข้างบน ไม่มีอะไรน่าห่วงครับ
แต่หากศาลสั่งว่าเป็นอำนาจของ ป.ป.ช. ต้องโอนคดีไปที่ ป.ป.ช. ก็จบคดี คดีจบครับ
วันนั้น ปี 53
หากนายอภิสิทธิ์ใช้วิธีเจรจา หาก นปช. ไม่ยอมเจรจา ก็ต้องร้องขอเจรจา ให้สังคมเห็นว่าพยายามเต็มที่แล้ว
หาก นปช. ไม่ยอม นปช. จะเสียเอง
ซึ่งถึงจังหวะนั้น นายอภิสิทธิ์ยุบสภาได้เลยทันที เลือกตั้งใหม่ พรรคเพื่อไทยไม่มีทางได้ถึงครึ่งสภา
ปชป. กับพรรคร่วม ก็จัดตั้งรัฐบาลได้ อย่างชอบธรรม และนายอภิสิทธิ์จะขึ้นเป็นนายกฯอย่างสง่างาม
แต่เพราะ "อ่อน" ฟังเสียงผู้กำกับการแสดงมากไป เกรงพลังหนุนหลังมากไป ห่วงโอกาสตัวเองเกินไป
จึงตัดสินใจผิด
และมาผิดซ้ำเมื่อยุบสภากลางปี 54 ทั้งที่ตอนนั้นไม่มีการเรียกร้องใด ๆ แล้ว
เรื่องนี้ ในทางลึก เหตุผลที่ยุบสภาก็คือ อภิสิทธิ์ไม่ไหวที่จะเป็นนายกฯต่อไปบนสถานการณ์นั้น
จึงหวังว่า หากมีการเลือกตั้ง และชนะการเลือกตั้ง กลับมาเป็นนายกฯ จะทำให้สถานการณ์ดีชึ้น
แต่ผิดหนัก
แล้วก็มาผิดซ้ำอีกครั้งในการปฏิบัติหน้าที่ฝ่ายค้าน
ภาษาพระท่านเรียกว่า "วิบากรรม"
ดิ้นจนหลงมุม จนเล่นนอกลู่
ช่อดอกไม้วันเกิดก็แค่นั้นแหละครับ เกมหลอกเด็ก
ไม่มีทางที่ใครจะคิดอุ้มนายอภิสิทธิ์กลับมาเป็นนายกฯอีก
ไม่เล่นเรื่องหนีทหารให้จมดินก็บุญหัวนักหนาแล้ว
โชคดีนะแหลหนีทหาร