ตอนเที่ยงดูข่าวช่อง 9 เห็นข่าวคุณแม่ท่านนี้แล้ว
ความรักของแม่นั้นยิ่งใหญ่มากจริงๆ
และเจอที่เวปข่าวกรมประชาสัมพันธ์ด้วย
"ขอยกย่อง คุณหยัน ชาวจังหวัดราชบุรี แม่หัวใจทรนง"
http://thainews.prd.go.th/centerweb/News/NewsDetail?NT01_NewsID=TNSOC5708090010003
ถ้าพอมีกำลังทรัพย์ก็ช่วยกันนะคะ

----------------------------------------------------
40 ปี ของคำว่าแม่ ที่อุทิศตนเพื่อเลี้ยงลูกพิการทั้ง 2 คน ซึ่งป่วยด้วยโรคโปลิโอ แขนขาลีบ ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ แม้จะท้อ แอบร้องไห้แต่ก็ไม่เคยให้ลูกเห็น ขอเพียงทำหน้าที่แม่ให้ดีที่สุด
เป็นเวลา 40 ปีแล้วที่นางศศินา โพธิ์เขียว อายุ 57 ปี หรือ หยัน แม่ที่อุทิศตนเพื่อลูกพิการ 2 คน ซึ่งป่วยเป็นโรคโปลิโอมาตั้งแต่อายุได้ 2 ขวบ อาศัยอยู่ภายในบ้านเลขที่ 71 หมู่ที่ 4 ตำบลอ่างทอง อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี
นางศศินา โพธิ์เขียว เล่าว่า ครอบครัวมีฐานะยากจน มีรายได้จากการพับถุงกระดาษห่อลูกมะระ เพียงวันละ 70-100 บาท ต้องเลี้ยงดูลูกชายทั้งสอง 2 คน ที่พิการไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ โดยลูกคนโตคือนายประชา โพธิ์เขียว อายุ 40 ปี มีสภาพร่างกายแขนขาลีบ ตั้งแต่อายุได้ 2 ขวบ เนื่องจากไม่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโปลิโอเข็มที่ 3 เนื่องจากครอบครัวมีฐานะยากจน จึงไม่สามารถเดินทางไปฉีดวัคซีนได้ ประกอบกับขณะนั้น นายประชา ติดเชื้อโรคไข้เลือดออก และลุกลามไปยังสมองจึงทำให้ไม่สามารถพูดได้ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ต้องนอนอยู่กับที่ ส่วนลูกชายคนที่ 2 คือนายประสิทธ์ โพธิ์เขียว อายุ 38 ปี ก็ป่วยด้วยอาการเดียวกัน แต่ยังสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ด้วยการขยับคลานด้วยข้อมือและหัวเข่า แต่ไม่สามารถพูดได้
ด้วยคำว่าแม่ มีหน้าที่เลี้ยงดูด้วยความรัก ถึงแม้ลูกทั้งสองจะพิการและครอบครัวจะลำบากเพียงไร นางศศินา โพธิ์เขียว ต้องคอยดูแลลูกทั้งสองตั้งแต่เช้า จนลูกทั้งสองหลับ นางหยันจะคอยดูแล อาบน้ำ ป้อนข้าวป้อนน้ำ ทำความสะอาดร่างกาย ทำอย่างนี้มาเป็นระยะเวลา 40 ปี ทำให้นางหยันไม่สามารถไปประกอบอาชีพอื่นได้ ประกอบกับมีสุขภาพร่างกายที่ไม่สมบูรณ์ มีเพียงสามีคือนายณรงค์ ปลดเปลื้อง อายุ 55 ปี มีอาชีพรับจ้างทั่วไป แบกปุ๋ย ฉีดยาในนาข้าว เดือนหนึ่งมีงานเพียงสัปดาห์ละ 1 ครั้ง รวมรายได้เดือนละไม่เกิน 1,200 บาท ก่อนหน้านี้ ครอบครัวมีอาชีพปลูกผัก ในที่เช่าของเพื่อนบ้าน แต่ก็ต้องมาหยุดไป เพราะประสบปัญหาน้ำท่วม พืชผักที่ปลูกไว้เสียหายหมด ทำให้ต้องหมดเนื้อหมดตัว มีความเป็นอยู่ที่ลำบาก เงินที่ได้มาแต่ละวันก็ต้องนำไปซื้อผ้าอ้อมผู้ใหญ่สำเร็จรูป (แพมเพิร์ส) และข้าวสารไว้กินเพื่อประทังชีวิต
นางศศินา โพธิ์เขียว บอกอีกว่า บางครั้งคิดท้อแท้นอนร้องไห้เสียใจแทบทุกคืน แต่โชคดีมีสามีคอยให้กำลังใจและสู้ต่อ เพื่อดูแลลูกทั้งสองไปจนกว่าจะสิ้นลมหายใจ นางศศินา โพธิ์เขียว จึงเป็นแม่อีกคนหนึ่ง ที่อุทิศตนเพื่อลูก แม้ว่าลูกของตนจะพิการ แต่นางศศินาก็ได้ดูแลมาตลอดระยะเวลา 40 ปีที่ผ่านมา ไม่เคยทอดทิ้งให้อยู่โดดเดี่ยวแม้แต่วันเดียว จึงนับว่าเป็นแม่ที่อดทนและสู้กับปัญหาชีวิตของครอบครัว โพธิ์เขียว เป็นคุณแม่ที่อุทิศตนเพื่อลูกอย่างแท้จริง
บริจาคเงินเข้าบัญชีธนาคารกรุงเทพ สาขาถนนศรีสุริยวงศ์ บัญชีออมทรัพย์ หมายเลขบัญชี 5300463345 ชื่อบัญชีนางศศินา โพธิ์เขียว โทร.081-0104192
คุณแม่ชาวราชบุรี "40 ปี ของคำว่าแม่ ที่อุทิศตนเพื่อเลี้ยงลูกพิการ" (ดูจากข่าวช่อง 9) ฝากโหวตกระทู้ด้วยนะคะ
ความรักของแม่นั้นยิ่งใหญ่มากจริงๆ
และเจอที่เวปข่าวกรมประชาสัมพันธ์ด้วย
"ขอยกย่อง คุณหยัน ชาวจังหวัดราชบุรี แม่หัวใจทรนง"
http://thainews.prd.go.th/centerweb/News/NewsDetail?NT01_NewsID=TNSOC5708090010003
ถ้าพอมีกำลังทรัพย์ก็ช่วยกันนะคะ
----------------------------------------------------
40 ปี ของคำว่าแม่ ที่อุทิศตนเพื่อเลี้ยงลูกพิการทั้ง 2 คน ซึ่งป่วยด้วยโรคโปลิโอ แขนขาลีบ ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ แม้จะท้อ แอบร้องไห้แต่ก็ไม่เคยให้ลูกเห็น ขอเพียงทำหน้าที่แม่ให้ดีที่สุด
เป็นเวลา 40 ปีแล้วที่นางศศินา โพธิ์เขียว อายุ 57 ปี หรือ หยัน แม่ที่อุทิศตนเพื่อลูกพิการ 2 คน ซึ่งป่วยเป็นโรคโปลิโอมาตั้งแต่อายุได้ 2 ขวบ อาศัยอยู่ภายในบ้านเลขที่ 71 หมู่ที่ 4 ตำบลอ่างทอง อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี
นางศศินา โพธิ์เขียว เล่าว่า ครอบครัวมีฐานะยากจน มีรายได้จากการพับถุงกระดาษห่อลูกมะระ เพียงวันละ 70-100 บาท ต้องเลี้ยงดูลูกชายทั้งสอง 2 คน ที่พิการไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ โดยลูกคนโตคือนายประชา โพธิ์เขียว อายุ 40 ปี มีสภาพร่างกายแขนขาลีบ ตั้งแต่อายุได้ 2 ขวบ เนื่องจากไม่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโปลิโอเข็มที่ 3 เนื่องจากครอบครัวมีฐานะยากจน จึงไม่สามารถเดินทางไปฉีดวัคซีนได้ ประกอบกับขณะนั้น นายประชา ติดเชื้อโรคไข้เลือดออก และลุกลามไปยังสมองจึงทำให้ไม่สามารถพูดได้ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ต้องนอนอยู่กับที่ ส่วนลูกชายคนที่ 2 คือนายประสิทธ์ โพธิ์เขียว อายุ 38 ปี ก็ป่วยด้วยอาการเดียวกัน แต่ยังสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ด้วยการขยับคลานด้วยข้อมือและหัวเข่า แต่ไม่สามารถพูดได้
ด้วยคำว่าแม่ มีหน้าที่เลี้ยงดูด้วยความรัก ถึงแม้ลูกทั้งสองจะพิการและครอบครัวจะลำบากเพียงไร นางศศินา โพธิ์เขียว ต้องคอยดูแลลูกทั้งสองตั้งแต่เช้า จนลูกทั้งสองหลับ นางหยันจะคอยดูแล อาบน้ำ ป้อนข้าวป้อนน้ำ ทำความสะอาดร่างกาย ทำอย่างนี้มาเป็นระยะเวลา 40 ปี ทำให้นางหยันไม่สามารถไปประกอบอาชีพอื่นได้ ประกอบกับมีสุขภาพร่างกายที่ไม่สมบูรณ์ มีเพียงสามีคือนายณรงค์ ปลดเปลื้อง อายุ 55 ปี มีอาชีพรับจ้างทั่วไป แบกปุ๋ย ฉีดยาในนาข้าว เดือนหนึ่งมีงานเพียงสัปดาห์ละ 1 ครั้ง รวมรายได้เดือนละไม่เกิน 1,200 บาท ก่อนหน้านี้ ครอบครัวมีอาชีพปลูกผัก ในที่เช่าของเพื่อนบ้าน แต่ก็ต้องมาหยุดไป เพราะประสบปัญหาน้ำท่วม พืชผักที่ปลูกไว้เสียหายหมด ทำให้ต้องหมดเนื้อหมดตัว มีความเป็นอยู่ที่ลำบาก เงินที่ได้มาแต่ละวันก็ต้องนำไปซื้อผ้าอ้อมผู้ใหญ่สำเร็จรูป (แพมเพิร์ส) และข้าวสารไว้กินเพื่อประทังชีวิต
นางศศินา โพธิ์เขียว บอกอีกว่า บางครั้งคิดท้อแท้นอนร้องไห้เสียใจแทบทุกคืน แต่โชคดีมีสามีคอยให้กำลังใจและสู้ต่อ เพื่อดูแลลูกทั้งสองไปจนกว่าจะสิ้นลมหายใจ นางศศินา โพธิ์เขียว จึงเป็นแม่อีกคนหนึ่ง ที่อุทิศตนเพื่อลูก แม้ว่าลูกของตนจะพิการ แต่นางศศินาก็ได้ดูแลมาตลอดระยะเวลา 40 ปีที่ผ่านมา ไม่เคยทอดทิ้งให้อยู่โดดเดี่ยวแม้แต่วันเดียว จึงนับว่าเป็นแม่ที่อดทนและสู้กับปัญหาชีวิตของครอบครัว โพธิ์เขียว เป็นคุณแม่ที่อุทิศตนเพื่อลูกอย่างแท้จริง
บริจาคเงินเข้าบัญชีธนาคารกรุงเทพ สาขาถนนศรีสุริยวงศ์ บัญชีออมทรัพย์ หมายเลขบัญชี 5300463345 ชื่อบัญชีนางศศินา โพธิ์เขียว โทร.081-0104192