"Chaos is order yet undeciphered."
"ความโกลาหลคือการจัดระเบียบที่ยังไม่ตีความ"
ประโยคเปรยตอนเปิดเรื่อง(ที่น่างุนงง)นี่เองที่น่าจะนิยามหนังเรื่องนี้ได้ทั้งหมด
Denis Villeneuve ผู้กำกับชาวแคนนาเดี้ยน ได้ฝากผลงานหนังสอบสวนจิตวิทยาที่เล่นกับศีลธรรมของคนดูบวกการคุมจังหวะหนังที่เข้มข้นใน Prisoners เมื่อปีที่ผ่านมา จนเป็นหนึ่งในหนังสอบสวนชั้นเยี่ยมในรอบหลายปี
ปีนี้ Enemy กลายเป็นหนัง "ปล่อยของ" ไปอีกขั้นของเขา แสดงให้เห็นความพิเศษของ "ภาพยนตร์" ในฐานะงานศิลป์ที่หากอยู่ในมือคนพิเศษ มันก็กลายเป็น "สิ่งพิเศษ" ที่ทดสอบผู้เสพมากกว่าการรับเรื่องเล่าเพื่อความบันเทิงหรือเนื้อหา
ในอดีตผู้กำกับที่เคยใช้แนวทางนี้เท่าที่ผมเคยรู้จักคงเป็น David Lynch ที่หนังแต่ละเรื่องของเขายังคงถูกตีความและสร้างความค้างคาใจให้แฟน ๆ จนถึงทุกวันนี้
คงไม่ใช้เนื้อที่นี้เพื่อวิเคราะห์หรือเล่าเรื่องย่อ เพราะมันควรเก็บไว้ให้สัมผัสเองเหมือนของขวัญพิเศษที่ยังไม่ถูกแกะกล่อง เอาเป็นหากใครสามารถเข้าใจเรียบเรียงเรื่องราวและสารของหนังโดยการดูแค่รอบสองรอบด้วตัวเอง ผู้นั้นคงเป็นผู้บรรลุในการชมภาพยนตร์เป็นแน่
และที่สำคัญ หากจังหวะฉากจบของ Prisoners ทำให้คนดูต้องมนต์เหมือนการลุ้นโทเทมลูกข่างปิดเรื่องใน Inception (2010) ฉากจบของเรื่องนี้ก็คงเป็นการตบหน้าคนดูฉาดใหญ่และอึ้งที่สุดเรื่องหนึ่งในรอบหลายสิบปี
อาจไม่ยุติธรรมนัก แต่ฐานะแฟนทั้งคู่ผมอดเอา Denis Villeneuve ไปเทียบกับ Christopher Nolan ไม่ได้ หากประเด็นศีลธรรมและเรื่องราวของ Prisoners เทียบได้กับ Insomnia (2002), ความทะเยอทะยานของ Enemy ก็คงเทียบได้กับ Memento (2000) ในระดับที่สดใหม่ยิ่งขึ้นของยุคนี้
อัจฉริยะลูกใหม่เกิดขึ้นมาอีกคนหนึ่งแล้ว
8/10
Enemy (2014) เมื่อภาพยนตร์ถูกบิดเบี้ยว
"Chaos is order yet undeciphered."
"ความโกลาหลคือการจัดระเบียบที่ยังไม่ตีความ"
ประโยคเปรยตอนเปิดเรื่อง(ที่น่างุนงง)นี่เองที่น่าจะนิยามหนังเรื่องนี้ได้ทั้งหมด
Denis Villeneuve ผู้กำกับชาวแคนนาเดี้ยน ได้ฝากผลงานหนังสอบสวนจิตวิทยาที่เล่นกับศีลธรรมของคนดูบวกการคุมจังหวะหนังที่เข้มข้นใน Prisoners เมื่อปีที่ผ่านมา จนเป็นหนึ่งในหนังสอบสวนชั้นเยี่ยมในรอบหลายปี
ปีนี้ Enemy กลายเป็นหนัง "ปล่อยของ" ไปอีกขั้นของเขา แสดงให้เห็นความพิเศษของ "ภาพยนตร์" ในฐานะงานศิลป์ที่หากอยู่ในมือคนพิเศษ มันก็กลายเป็น "สิ่งพิเศษ" ที่ทดสอบผู้เสพมากกว่าการรับเรื่องเล่าเพื่อความบันเทิงหรือเนื้อหา
ในอดีตผู้กำกับที่เคยใช้แนวทางนี้เท่าที่ผมเคยรู้จักคงเป็น David Lynch ที่หนังแต่ละเรื่องของเขายังคงถูกตีความและสร้างความค้างคาใจให้แฟน ๆ จนถึงทุกวันนี้
คงไม่ใช้เนื้อที่นี้เพื่อวิเคราะห์หรือเล่าเรื่องย่อ เพราะมันควรเก็บไว้ให้สัมผัสเองเหมือนของขวัญพิเศษที่ยังไม่ถูกแกะกล่อง เอาเป็นหากใครสามารถเข้าใจเรียบเรียงเรื่องราวและสารของหนังโดยการดูแค่รอบสองรอบด้วตัวเอง ผู้นั้นคงเป็นผู้บรรลุในการชมภาพยนตร์เป็นแน่
และที่สำคัญ หากจังหวะฉากจบของ Prisoners ทำให้คนดูต้องมนต์เหมือนการลุ้นโทเทมลูกข่างปิดเรื่องใน Inception (2010) ฉากจบของเรื่องนี้ก็คงเป็นการตบหน้าคนดูฉาดใหญ่และอึ้งที่สุดเรื่องหนึ่งในรอบหลายสิบปี
อาจไม่ยุติธรรมนัก แต่ฐานะแฟนทั้งคู่ผมอดเอา Denis Villeneuve ไปเทียบกับ Christopher Nolan ไม่ได้ หากประเด็นศีลธรรมและเรื่องราวของ Prisoners เทียบได้กับ Insomnia (2002), ความทะเยอทะยานของ Enemy ก็คงเทียบได้กับ Memento (2000) ในระดับที่สดใหม่ยิ่งขึ้นของยุคนี้
อัจฉริยะลูกใหม่เกิดขึ้นมาอีกคนหนึ่งแล้ว
8/10