ทริปยุโรปครั้งแรกช่างฉุกละหุก เมื่อเพื่อนสาวดาวโลกต้องไปอบรมที่อิตาลี มีเวลาเที่ยวด้วยกัน 3 วัน (แยกกันแล้วก็จะมีมนุษย์ป้ามาสมทบแทน 555)
ความรู้เรื่องเที่ยวอิตาลี = 0 ได้ข้อมูลจากพันทิปblue planetล้วนๆเลย ขอบคุณทุกๆข้อมูลจริงๆค่ะ รีวิวนี้ถือว่าเป็นการบ้านส่งให้ห้องบลูละกัน ^^
รวบรวมข้อมูลได้แล้ว สรุปว่า ครั้งแรกควรไปที่เที่ยวหลักๆ (อย่าเพิ่งเปรี้ยว) เพราะมันไม่น่าพลาด(จริงๆ) วางแผนแล้วก็จองตั๋วเครื่องบิน,จองที่พักจาก booking.com แล้วเตรียมเอกสารไปขอวีซ่าเล้ยยย (เราไปอิตาลีแล้วแถมปารีสหน่อยนึง)
การขอวีซ่าช่างง่ายดายเหมือนแกะปีโป้เข้าปาก ไปถึงสีลม คอมเพล็ก ชั้น 15 8.24น. ก็ทำตามขั้นตอนไป 1ชม.ครึ่ง เสร็จเรียบร้อยทุกอย่าง ให้ส่งEMSมาที่บ้าน 7วันก็ได้รับเล่มแล้วค่ะ ปล.ถ้าไปคนเดียวไม่ต้องยื่นทะเบียนบ้านก็ได้ แต่ถ้าอยากยื่น ต้องยื่นทะเบียนบ้านไทย+ฉบับแปลเป็นอังกฤษ
ออกเดินทางวันที่ 16 พ.ค. 2557 00.20น. เลือกการบินไทย (เพราะเค้ารักเราเท่าฟ้า) ไปถึงสนามบินฟิวมิซิโน่ 6.50น. จากข้อมูลมี
โจรล้วงกระเป๋าเยอะ เราต้องรอบคอบ แวะห้องน้ำประดับประดากระเป๋ากันก่อน 1. กระเป๋าคาดเอว ไว้ใส่พาสปอร์ต,แบงค์ใหญ่ (แนะนำsamsonite แบนดี)
2. กระเป๋าใส่เศษตังค์ (อันนี้เราเย็บเอง) 3. กระเป๋าเป้ไว้ใส่ของใหญ่ ตย.ตามรูปนะ
จากนั้นขึ้นรถรางน้อยๆ(เรียกไม่ถูก) ไปรับกระเป๋า และหาซื้อRoma pass ที่ Tourist information (เปิด 8.00น.) เลือกแบบ 48 ชม. 28ยูโร ซื้อของครั้งแรกลำบากหน่อย ต้องล้วงกระโปรงล้วงกระเป๋าวุ่นวายเชียว ยังบริหารทรัพย์สินไม่ชำนาญ จากนั้นไปหาทางออกจากสนามบินกันเหอะ
ตอนแรกว่าจะไปไอ่รถลีโอ เอ็กซเพลส แต่คุณจนท.ถามว่ารร.อยู่ตรงไหน ไปรถบัสน้อยมั้ย

แพงกว่า แต่ถึงหน้ารร.เลยนะ ก็โอเค อยากชมวิวด้วย
** รูปไม่ค่อยสวยนะคะ มาไกลจากนอกโลก ไม่มีกล้องจริงจัง มีแต่ไอโฟน มัวแต่ชื่นชมผ่านทางสายตา ลืมถ่ายรูปเยอะๆ เสียดายมาก
คุณคนขับน่ารักมาก พูดอังกฤษนิดหน่อย (พอๆกับเรา 555) พยายามอธิบายทุกสถานที่สำคัญ

มีอาชีพเช็ดกระจกตามสี่แยกเหมือนบ้านเราเลย

ข้างทางวิวสวย
รร.ที่พักชื่อ Hotel Fiorenza อยู่ชั้น2ของตึก คือ ตึกนี้มีหลายชั้น แต่ละชั้นก็เป็นแต่ละรร. คืนละ 35ยูโร/คน รวมcity tax อยู่ห่างจากtermini (สถานีรวมรถ มีรถไฟ เมโทร บัสจากสนามบิน) 400 ม. สะดวกดี ไปซื้อซิมโทสับที่นี่ได้ มีช็อปหลายยี่ห้อ เพื่อนซื้อของwind 20ยูโร
วันนี้จะไปวิหารเซนต์ปีเตอร์และวาติกัน มิวเซียม จองออนไลน์ไว้ 20ยูโร รอบค่ำ 19.30น. เมโทรมี 2 สาย AกับB นั่งสายA จาก termini ปลายทาง Batitstini ลงสถานี Ottaviano แล้วเดินต่อไปอีก 600 ม. ก็ถึง แต่ยังไม่ค่ำ ไปเซนต์ปีเตอร์ก่อน
ท่านนี้แหละ คือ นักบุญปีเตอร์

วิหารดูอ้างว้าง ร้างผู้คน แต่จริงๆคนเยอะมากๆๆๆๆๆๆๆ ผ้าแดงนี่เพื่อนชาวโลกของเราเอง

เดินเล่นไปเรื่อยๆ เจอแม่น้ำสวยๆ

แม่นางนี้อยู่บนหัวสะพานแถวนั้น สวยพลิ้วมาก ที่ดาวเคราะห์แคระไม่มีแบบนี้ (จริงๆ)
ฝนเริ่มปรอยๆ ไม่มีที่หลบฝน ไม่มีร่ม ไม่เป็นไร เรามีแทรม มีpass ขึ้นอะไรก็ได้นิ ไปหลบฝนในแทรมละกัน ไปเรื่อยๆ(เรื่อยเปื่อยมาก) อยากลงตรงไหนก็ลง ข้ามฟากขึ้นแทรมกลับมา ใกล้ถึงเวลาเข้ามิวเซียม ต้องไปยืนเข้าแถวด้านหน้า มี 2 แถว สำหรับคนที่จองตั๋วมาแล้ว กับคนที่ยังไม่ได้จอง
ข้างในมิวเซียมจัดไฟอึมครึม สมเป็นรอบค่ำ บรรยากาศแบบ..ไม่กล้านินทาหรือพูดคำหยาบเลยอ่ะ กลัวรูปปั้นหรือไม่ก็อดีตโป๊บมาทำโทษ

ชื่นชมความสวยงามไม่หวาดไม่ไหว เยอะมากจริงๆ ปิดท้ายด้วยบันไดก้นหอยมหัศจรรย์
เดินชมเมืองยามค่ำคืน อ้างว้างร้างผู้คนอีกแล้ว
จบวันที่ 1 แบบสบายๆ ไม่มีโจรผู้ร้ายมาเฉียดใกล้แม้แต่น้อย เดินผ่านแก๊งพี่มืดที่terminiตอนดึกๆ พี่มืดเดินหลบอ่ะ นี่เราคงดูเป็นเอเชียที่จนมากสินะ - -"
เช้าวันต่อมา (สำนวนนิยาย) ตอนเช้ารับคูปองจากทางรร.ไปทานอาหารเช้าที่ร้านข้างๆ เป็นเครื่องดื่ม 1 อย่างเลือกเอา กาแฟหรือน้ำผลไม้ +ครัวซอง/อื่นๆ 1 ชิ้น ปกติเราไม่ทานกาแฟ แต่มาเมืองนอกชีวิตต้องป๊อบสั่งอย่างมั่นใจ กาแฟเดียวที่รู้จัก 'ลาเต้'พลีส ปรากฎว่าได้นมสดร้อนตีฟองฟูมา 1 แก้ว งงๆ วันต่อมาถึงรู้ว่า ลาเต้ แปลว่านม ต้องสั่งว่า คอฟฟี่ลาเต้สิจ๊ะ ถึงจะได้แบบนี้
เอาล่ะ วันนี้เราจะไปตามหาสถานที่ยิ่งใหญ่บนดาวดวงนี้ ไปโคลอสเซียมกันเล้ยยยยย นั่งเมโทรจาก termini ปลายทาง Laurentina ลงสถานี Colosseo ถึงที่เลย
โคลอสเซียมในอดีตมันต้องยิ่งใหญ่สุดๆไปเลย ขนาดตอนนี้ไม่สมบูรณ์ ยังดูอลังการมาก

ทหารโรมันช่างโหดร้ายนัก

ประตูชัย ต่อสู้กับกาลเวลา สังขารไม่เที่ยง ประตูยังพัง เฮ้ออออ

เดินผ่านไปทางโรมัน ฟอรั่ม คนที่ไม่จ่ายตังค์ค่าเข้าก็ต้องชื่นชมลอดรั้วแบบนี้ อิอิ

รถม้าสวยๆระหว่างทาง แต่ไม่ขึ้นนะจ๊ะ จะกลับมาขึ้นที่ลำปาง 555

เดินไปเรื่อยๆ ผ่านเพียซซ่า วาเลนเซีย มีตึกใหญ่สีขาวคล้ายสถานที่ราชการ ตึกสวยและใหญ่มาก ไอโฟนเก็บไม่หมด ขอชื่นชมด้วยสายดา
จากนั้นเดินตามเสียงน้ำมาเรื่อยๆ ก็เจอน้ำพุเทรวี่ (เว่อไปหน่อย จริงๆเดินตามกูเกิ้ล) ผู้คนเยอะมาก ทั้งฝรั่ง เอเชีย แขกดำแขกขาวฯ และเขาว่าที่นี่โจรชุม และเรายังคงปลอดภัย ไม่มีใครสนใจเลย การระวังตัวลดระดับลงมากเหลือ4เต็ม10 คุณเพื่อนเดินถือไอแพดร่อน เป้ก็ไม่รูดซิป ข้อดีของเอเชียจนๆ 555

ุ
ร้านพิซซ่าใกล้ๆเทรวี่ อร่อยมาก อร่อยจนมัวแต่กิน ไม่ได้ถ่ายรูป ตอนนี้เริ่มรู้สึกอยากเข้าห้องน้ำแล้ว ห้องน้ำเสียตังค์ไม่ได้กินเงินชั้นร้อกกก จิ้มๆกูเกิ้ลแม็พหาเมโทรกลับไปเข้าที่รร.ค่ะ 555 แอบนอนแป๊บนึง ค่อยมาเดินเล่นต่อ
มาเพียซซ่า นาโวน่า

ประทับใจคุณลุงผ้าพลิ้วคนนี้ หินใช่ม้ายยย ทำไมพลิ้วได้ขนาดนี่ ตกตะลึงและตื้นตันมาก ไม่รู้จะแสดงออกยังไง ยกมือไหว้ไป1ที

บรรยากาศร้านรวงรอบๆ

แล้วก็เดินเล่นไปเรื่อยๆผ่านบันไดสเปน แต่ไม่ได้ถ่ายรูป(ไม่รู้ทำไม เอ๊อ) แล้วก็ไปเดินเล่นชมซูเปอร์มาเก็ต
แนะนำแฟนต้าเลมอน อร่อยดี ซื้อแบบไม่แช่เย็นนะ ถูกกว่า ส่วนแฟนต้าน้ำส้มจะขมนิดนึง คล้ายน้ำส้มจริง ไม่หวานเหนียวปากแบบที่ไทย
จบวันที่ 2 แบบเรื่อยเปื่อยเฉื่อยฉ่ำ เดินไปนั่งเล่นที่เทรวี่ตั้ง 3 รอบ เพื่ออะไร ไม่รู้ตัว 555
วันต่อมา วันนี้ไม่มีRoma passแล้ว เดินเล่นรอบๆแถวนั้น เจอโรงอาบน้ำโบราณ แต่ปิด ไม่ได้เข้าชม

บรรยากาศรอบๆ

ยังมีที่ที่อยากไปอีกเยอะเลย แค่เฉพาะในโรมคงต้องใช้เวลาหลายวัน(มัวแต่เรื่อยเปื่อย) เป็นเมืองที่เที่ยวสนุก สะดวกสบายดีนะ
ก่อนเที่ยงแยกกับคุณเพื่อน ส่งนางขึ้นรถบัสใหญ่ไปสนามบิน แค่5-6ยูโรเอง (คำถามคือ ทำไมกรูไม่นั่งไอ้แบบนี้ตอนมา) ส่วนตัวเราก็รอขึ้นรถไฟไปฟลอเรนซ์ จองตั๋วมาเรียบร้อยจากเว็บwww.trainitalia.com ปริ๊นตั๋วมาแล้วเรียบร้อย รถไฟสภาพดี มีวินัย ไม่มาสาย มีปลั๊กไฟด้วย มุ่งหน้าไปฟลอเรนซ์กันเถอะ ^^
[CR] เด็กสาวจากดาวเคราะห์แคระ...แวะไปอิตาลี (ตอนกรุงโรมมม..มมม)
ความรู้เรื่องเที่ยวอิตาลี = 0 ได้ข้อมูลจากพันทิปblue planetล้วนๆเลย ขอบคุณทุกๆข้อมูลจริงๆค่ะ รีวิวนี้ถือว่าเป็นการบ้านส่งให้ห้องบลูละกัน ^^
รวบรวมข้อมูลได้แล้ว สรุปว่า ครั้งแรกควรไปที่เที่ยวหลักๆ (อย่าเพิ่งเปรี้ยว) เพราะมันไม่น่าพลาด(จริงๆ) วางแผนแล้วก็จองตั๋วเครื่องบิน,จองที่พักจาก booking.com แล้วเตรียมเอกสารไปขอวีซ่าเล้ยยย (เราไปอิตาลีแล้วแถมปารีสหน่อยนึง)
การขอวีซ่าช่างง่ายดายเหมือนแกะปีโป้เข้าปาก ไปถึงสีลม คอมเพล็ก ชั้น 15 8.24น. ก็ทำตามขั้นตอนไป 1ชม.ครึ่ง เสร็จเรียบร้อยทุกอย่าง ให้ส่งEMSมาที่บ้าน 7วันก็ได้รับเล่มแล้วค่ะ ปล.ถ้าไปคนเดียวไม่ต้องยื่นทะเบียนบ้านก็ได้ แต่ถ้าอยากยื่น ต้องยื่นทะเบียนบ้านไทย+ฉบับแปลเป็นอังกฤษ
ออกเดินทางวันที่ 16 พ.ค. 2557 00.20น. เลือกการบินไทย (เพราะเค้ารักเราเท่าฟ้า) ไปถึงสนามบินฟิวมิซิโน่ 6.50น. จากข้อมูลมีโจรล้วงกระเป๋าเยอะ เราต้องรอบคอบ แวะห้องน้ำประดับประดากระเป๋ากันก่อน 1. กระเป๋าคาดเอว ไว้ใส่พาสปอร์ต,แบงค์ใหญ่ (แนะนำsamsonite แบนดี)
2. กระเป๋าใส่เศษตังค์ (อันนี้เราเย็บเอง) 3. กระเป๋าเป้ไว้ใส่ของใหญ่ ตย.ตามรูปนะ
จากนั้นขึ้นรถรางน้อยๆ(เรียกไม่ถูก) ไปรับกระเป๋า และหาซื้อRoma pass ที่ Tourist information (เปิด 8.00น.) เลือกแบบ 48 ชม. 28ยูโร ซื้อของครั้งแรกลำบากหน่อย ต้องล้วงกระโปรงล้วงกระเป๋าวุ่นวายเชียว ยังบริหารทรัพย์สินไม่ชำนาญ จากนั้นไปหาทางออกจากสนามบินกันเหอะ
ตอนแรกว่าจะไปไอ่รถลีโอ เอ็กซเพลส แต่คุณจนท.ถามว่ารร.อยู่ตรงไหน ไปรถบัสน้อยมั้ย
** รูปไม่ค่อยสวยนะคะ มาไกลจากนอกโลก ไม่มีกล้องจริงจัง มีแต่ไอโฟน มัวแต่ชื่นชมผ่านทางสายตา ลืมถ่ายรูปเยอะๆ เสียดายมาก
คุณคนขับน่ารักมาก พูดอังกฤษนิดหน่อย (พอๆกับเรา 555) พยายามอธิบายทุกสถานที่สำคัญ
มีอาชีพเช็ดกระจกตามสี่แยกเหมือนบ้านเราเลย
ข้างทางวิวสวย
รร.ที่พักชื่อ Hotel Fiorenza อยู่ชั้น2ของตึก คือ ตึกนี้มีหลายชั้น แต่ละชั้นก็เป็นแต่ละรร. คืนละ 35ยูโร/คน รวมcity tax อยู่ห่างจากtermini (สถานีรวมรถ มีรถไฟ เมโทร บัสจากสนามบิน) 400 ม. สะดวกดี ไปซื้อซิมโทสับที่นี่ได้ มีช็อปหลายยี่ห้อ เพื่อนซื้อของwind 20ยูโร
วันนี้จะไปวิหารเซนต์ปีเตอร์และวาติกัน มิวเซียม จองออนไลน์ไว้ 20ยูโร รอบค่ำ 19.30น. เมโทรมี 2 สาย AกับB นั่งสายA จาก termini ปลายทาง Batitstini ลงสถานี Ottaviano แล้วเดินต่อไปอีก 600 ม. ก็ถึง แต่ยังไม่ค่ำ ไปเซนต์ปีเตอร์ก่อน
ท่านนี้แหละ คือ นักบุญปีเตอร์
วิหารดูอ้างว้าง ร้างผู้คน แต่จริงๆคนเยอะมากๆๆๆๆๆๆๆ ผ้าแดงนี่เพื่อนชาวโลกของเราเอง
เดินเล่นไปเรื่อยๆ เจอแม่น้ำสวยๆ
แม่นางนี้อยู่บนหัวสะพานแถวนั้น สวยพลิ้วมาก ที่ดาวเคราะห์แคระไม่มีแบบนี้ (จริงๆ)
ฝนเริ่มปรอยๆ ไม่มีที่หลบฝน ไม่มีร่ม ไม่เป็นไร เรามีแทรม มีpass ขึ้นอะไรก็ได้นิ ไปหลบฝนในแทรมละกัน ไปเรื่อยๆ(เรื่อยเปื่อยมาก) อยากลงตรงไหนก็ลง ข้ามฟากขึ้นแทรมกลับมา ใกล้ถึงเวลาเข้ามิวเซียม ต้องไปยืนเข้าแถวด้านหน้า มี 2 แถว สำหรับคนที่จองตั๋วมาแล้ว กับคนที่ยังไม่ได้จอง
ข้างในมิวเซียมจัดไฟอึมครึม สมเป็นรอบค่ำ บรรยากาศแบบ..ไม่กล้านินทาหรือพูดคำหยาบเลยอ่ะ กลัวรูปปั้นหรือไม่ก็อดีตโป๊บมาทำโทษ
ชื่นชมความสวยงามไม่หวาดไม่ไหว เยอะมากจริงๆ ปิดท้ายด้วยบันไดก้นหอยมหัศจรรย์
เดินชมเมืองยามค่ำคืน อ้างว้างร้างผู้คนอีกแล้ว
จบวันที่ 1 แบบสบายๆ ไม่มีโจรผู้ร้ายมาเฉียดใกล้แม้แต่น้อย เดินผ่านแก๊งพี่มืดที่terminiตอนดึกๆ พี่มืดเดินหลบอ่ะ นี่เราคงดูเป็นเอเชียที่จนมากสินะ - -"
เช้าวันต่อมา (สำนวนนิยาย) ตอนเช้ารับคูปองจากทางรร.ไปทานอาหารเช้าที่ร้านข้างๆ เป็นเครื่องดื่ม 1 อย่างเลือกเอา กาแฟหรือน้ำผลไม้ +ครัวซอง/อื่นๆ 1 ชิ้น ปกติเราไม่ทานกาแฟ แต่มาเมืองนอกชีวิตต้องป๊อบสั่งอย่างมั่นใจ กาแฟเดียวที่รู้จัก 'ลาเต้'พลีส ปรากฎว่าได้นมสดร้อนตีฟองฟูมา 1 แก้ว งงๆ วันต่อมาถึงรู้ว่า ลาเต้ แปลว่านม ต้องสั่งว่า คอฟฟี่ลาเต้สิจ๊ะ ถึงจะได้แบบนี้
เอาล่ะ วันนี้เราจะไปตามหาสถานที่ยิ่งใหญ่บนดาวดวงนี้ ไปโคลอสเซียมกันเล้ยยยยย นั่งเมโทรจาก termini ปลายทาง Laurentina ลงสถานี Colosseo ถึงที่เลย
โคลอสเซียมในอดีตมันต้องยิ่งใหญ่สุดๆไปเลย ขนาดตอนนี้ไม่สมบูรณ์ ยังดูอลังการมาก
ทหารโรมันช่างโหดร้ายนัก
ประตูชัย ต่อสู้กับกาลเวลา สังขารไม่เที่ยง ประตูยังพัง เฮ้ออออ
เดินผ่านไปทางโรมัน ฟอรั่ม คนที่ไม่จ่ายตังค์ค่าเข้าก็ต้องชื่นชมลอดรั้วแบบนี้ อิอิ
รถม้าสวยๆระหว่างทาง แต่ไม่ขึ้นนะจ๊ะ จะกลับมาขึ้นที่ลำปาง 555
เดินไปเรื่อยๆ ผ่านเพียซซ่า วาเลนเซีย มีตึกใหญ่สีขาวคล้ายสถานที่ราชการ ตึกสวยและใหญ่มาก ไอโฟนเก็บไม่หมด ขอชื่นชมด้วยสายดา
จากนั้นเดินตามเสียงน้ำมาเรื่อยๆ ก็เจอน้ำพุเทรวี่ (เว่อไปหน่อย จริงๆเดินตามกูเกิ้ล) ผู้คนเยอะมาก ทั้งฝรั่ง เอเชีย แขกดำแขกขาวฯ และเขาว่าที่นี่โจรชุม และเรายังคงปลอดภัย ไม่มีใครสนใจเลย การระวังตัวลดระดับลงมากเหลือ4เต็ม10 คุณเพื่อนเดินถือไอแพดร่อน เป้ก็ไม่รูดซิป ข้อดีของเอเชียจนๆ 555
ร้านพิซซ่าใกล้ๆเทรวี่ อร่อยมาก อร่อยจนมัวแต่กิน ไม่ได้ถ่ายรูป ตอนนี้เริ่มรู้สึกอยากเข้าห้องน้ำแล้ว ห้องน้ำเสียตังค์ไม่ได้กินเงินชั้นร้อกกก จิ้มๆกูเกิ้ลแม็พหาเมโทรกลับไปเข้าที่รร.ค่ะ 555 แอบนอนแป๊บนึง ค่อยมาเดินเล่นต่อ
มาเพียซซ่า นาโวน่า
ประทับใจคุณลุงผ้าพลิ้วคนนี้ หินใช่ม้ายยย ทำไมพลิ้วได้ขนาดนี่ ตกตะลึงและตื้นตันมาก ไม่รู้จะแสดงออกยังไง ยกมือไหว้ไป1ที
บรรยากาศร้านรวงรอบๆ
แล้วก็เดินเล่นไปเรื่อยๆผ่านบันไดสเปน แต่ไม่ได้ถ่ายรูป(ไม่รู้ทำไม เอ๊อ) แล้วก็ไปเดินเล่นชมซูเปอร์มาเก็ต
แนะนำแฟนต้าเลมอน อร่อยดี ซื้อแบบไม่แช่เย็นนะ ถูกกว่า ส่วนแฟนต้าน้ำส้มจะขมนิดนึง คล้ายน้ำส้มจริง ไม่หวานเหนียวปากแบบที่ไทย
จบวันที่ 2 แบบเรื่อยเปื่อยเฉื่อยฉ่ำ เดินไปนั่งเล่นที่เทรวี่ตั้ง 3 รอบ เพื่ออะไร ไม่รู้ตัว 555
วันต่อมา วันนี้ไม่มีRoma passแล้ว เดินเล่นรอบๆแถวนั้น เจอโรงอาบน้ำโบราณ แต่ปิด ไม่ได้เข้าชม
บรรยากาศรอบๆ
ยังมีที่ที่อยากไปอีกเยอะเลย แค่เฉพาะในโรมคงต้องใช้เวลาหลายวัน(มัวแต่เรื่อยเปื่อย) เป็นเมืองที่เที่ยวสนุก สะดวกสบายดีนะ
ก่อนเที่ยงแยกกับคุณเพื่อน ส่งนางขึ้นรถบัสใหญ่ไปสนามบิน แค่5-6ยูโรเอง (คำถามคือ ทำไมกรูไม่นั่งไอ้แบบนี้ตอนมา) ส่วนตัวเราก็รอขึ้นรถไฟไปฟลอเรนซ์ จองตั๋วมาเรียบร้อยจากเว็บwww.trainitalia.com ปริ๊นตั๋วมาแล้วเรียบร้อย รถไฟสภาพดี มีวินัย ไม่มาสาย มีปลั๊กไฟด้วย มุ่งหน้าไปฟลอเรนซ์กันเถอะ ^^