เห็นคนแชร์กันเยอะมาก เค้าบอกว่ามีผลิตขึ้นมาแค่ 100 เหรียญเพื่อใช้จัดแสดงที่แคนาดา
ส่วนตัวคิดว่าเหตุผลที่รับซื้อด้วยราคาเป็นแสนนี่น่าจะมีอะไรมากกว่าแค่อยากสะสมเหรียญที่ผลิตขึ้นมาน้อย
เลยคิดทฤษฎีนี้ขึ้นมาครับ
เป็นไปได้มั้ยครับที่ ใน ปี 2533 นั้นจะมีขุดพบของขลังหรือว่าธาตุที่มันหายากและสูงค่ายิ่งกว่าทองคำขึ้นที่ประเทศไทย
ซึ่งถ้าเป็นของขลังก็คงเป็นของที่มีพลังอำนาจมาก หรือถ้าเป็นธาตุบางอย่างก็คงมีราคาแพงสุดๆ แล้วก็หายากสุดๆ
ซึ่งแน่นอนว่าทุกคนย่อมอยากได้เป็นเจ้าของ และเพื่อไม่ให้มีการแย่งชิงกันจนถึงแก่ชีวิต
ก็เลยมีคนนำสิ่งๆ นั้นมาหลอมหรืออาจจะโดยวิธีการใดการหนึ่งเพื่อแยกมันออกเป็น 100 ชิ้น
แล้วนำมันไปหลอมรวมซ่อนใส่ไว้ในเหรียญ 10 อีกที เท่านี้ก็จะไม่มีคนแย่งชิงมันมาได้ และเรื่องก็จะเงียบหายไป
จนกระทั่งวันนี้ คนที่กำลังตามหาอาจไปล่วงรู้ความลับนี้เข้า เค้าก็เลยพยายามตามหามาให้ครบเพื่อนำทั้ง 100 ส่วนนั้นมารวมกันอีกครั้ง
ซึ่งแน่นอนว่าถ้าเค้าทำได้ เงินสิบล้านที่ต้องเสียไปอาจกลายเป็นแค่เรื่องเล็กน้อย เพราะเค้าอาจจะได้ครอบครองสิ่งที่มีค่าและมีราคา
มากกว่าเงินที่เค้าเสียไปกี่ร้อยกี่พันเท่าก็ไม่รู้
เรื่องที่มีคนรับซื้อเหรียญสิบ ปี 2533 ให้ราคาเหรียญละแสน ถ้าเป็นตามทฤษฏีนี้จะเป็นไปได้มั้ยครับ
ส่วนตัวคิดว่าเหตุผลที่รับซื้อด้วยราคาเป็นแสนนี่น่าจะมีอะไรมากกว่าแค่อยากสะสมเหรียญที่ผลิตขึ้นมาน้อย
เลยคิดทฤษฎีนี้ขึ้นมาครับ
เป็นไปได้มั้ยครับที่ ใน ปี 2533 นั้นจะมีขุดพบของขลังหรือว่าธาตุที่มันหายากและสูงค่ายิ่งกว่าทองคำขึ้นที่ประเทศไทย
ซึ่งถ้าเป็นของขลังก็คงเป็นของที่มีพลังอำนาจมาก หรือถ้าเป็นธาตุบางอย่างก็คงมีราคาแพงสุดๆ แล้วก็หายากสุดๆ
ซึ่งแน่นอนว่าทุกคนย่อมอยากได้เป็นเจ้าของ และเพื่อไม่ให้มีการแย่งชิงกันจนถึงแก่ชีวิต
ก็เลยมีคนนำสิ่งๆ นั้นมาหลอมหรืออาจจะโดยวิธีการใดการหนึ่งเพื่อแยกมันออกเป็น 100 ชิ้น
แล้วนำมันไปหลอมรวมซ่อนใส่ไว้ในเหรียญ 10 อีกที เท่านี้ก็จะไม่มีคนแย่งชิงมันมาได้ และเรื่องก็จะเงียบหายไป
จนกระทั่งวันนี้ คนที่กำลังตามหาอาจไปล่วงรู้ความลับนี้เข้า เค้าก็เลยพยายามตามหามาให้ครบเพื่อนำทั้ง 100 ส่วนนั้นมารวมกันอีกครั้ง
ซึ่งแน่นอนว่าถ้าเค้าทำได้ เงินสิบล้านที่ต้องเสียไปอาจกลายเป็นแค่เรื่องเล็กน้อย เพราะเค้าอาจจะได้ครอบครองสิ่งที่มีค่าและมีราคา
มากกว่าเงินที่เค้าเสียไปกี่ร้อยกี่พันเท่าก็ไม่รู้