ของผมที่ดูแล้วอินมากมี 2 เรื่องคือ
1. 2012
นี่คือหนังโลกแตกที่มีฉากหายนะมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา ทั้งแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด รวมไปถึงคลื่นยักษ์สึนามิ นอกจากนี้หนังยังมีส่วนประสมทั้งแอ็คชั่น ดราม่า และ ผจญภัย ที่ลงตัวในระดับดูแล้วเพลิดเพลินไปกับวันโลกแตก แม้หนังจะยาวถึง 158 นาที แต่ก็ดูไม่ยักจะเบื่อ
2.The Day After tomorrow วิกฤตวันสิ้นโลก (2004)

หนังหายนะภัยโดยฝีมือผู้กำกับ 2012 ซึ่งพูดถึงภาวะโลกร้อนที่จะนำไปสู่ยุคน้ำแข็งอย่างฉับพลัน หนังเรื่องนี้ดูจะเป็นเรื่องราวที่ใกล้ตัวเรามากที่สุดแล้ว หนังเป็นเรื่องราวของ แจ็ค ฮอลล์ นักวิทยาศาสตร์ที่พบว่าภาวะโลกร้อนทำให้น้ำแข็งขั้วโลกละลายและทำให้น้ำทะเลไม่สมดุลกัน เขาพยายามเตือนเพื่อให้ผู้คนเตรียมพร้อมรับสถานการณ์นี้แต่กลับไม่มีใครเชื่อเขา จนกระทั่งเกิดภาวะอากาศเปลี่ยนแปลงกะทันหันทั้ง ลูกเห็บขนาดใหญ่ตกที่โตเกียว พายุทอร์โนโดถล่มเมืองแอลเอ คลื่นยักษ์โถมเข้าใส่นิวยอคร์ และอากาศลดลงอย่างรวดเร็วทำให้เกิดยุคน้ำแข็งอีกครั้ง
แล้วเรื่องโปรดของคุณหล่ะคือเรื่องไหน



สุดยอดหนังภัยพิบัติที่น่าจดจำตลอดกาล Disaster Movies
1. 2012
นี่คือหนังโลกแตกที่มีฉากหายนะมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา ทั้งแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด รวมไปถึงคลื่นยักษ์สึนามิ นอกจากนี้หนังยังมีส่วนประสมทั้งแอ็คชั่น ดราม่า และ ผจญภัย ที่ลงตัวในระดับดูแล้วเพลิดเพลินไปกับวันโลกแตก แม้หนังจะยาวถึง 158 นาที แต่ก็ดูไม่ยักจะเบื่อ
2.The Day After tomorrow วิกฤตวันสิ้นโลก (2004)
หนังหายนะภัยโดยฝีมือผู้กำกับ 2012 ซึ่งพูดถึงภาวะโลกร้อนที่จะนำไปสู่ยุคน้ำแข็งอย่างฉับพลัน หนังเรื่องนี้ดูจะเป็นเรื่องราวที่ใกล้ตัวเรามากที่สุดแล้ว หนังเป็นเรื่องราวของ แจ็ค ฮอลล์ นักวิทยาศาสตร์ที่พบว่าภาวะโลกร้อนทำให้น้ำแข็งขั้วโลกละลายและทำให้น้ำทะเลไม่สมดุลกัน เขาพยายามเตือนเพื่อให้ผู้คนเตรียมพร้อมรับสถานการณ์นี้แต่กลับไม่มีใครเชื่อเขา จนกระทั่งเกิดภาวะอากาศเปลี่ยนแปลงกะทันหันทั้ง ลูกเห็บขนาดใหญ่ตกที่โตเกียว พายุทอร์โนโดถล่มเมืองแอลเอ คลื่นยักษ์โถมเข้าใส่นิวยอคร์ และอากาศลดลงอย่างรวดเร็วทำให้เกิดยุคน้ำแข็งอีกครั้ง
แล้วเรื่องโปรดของคุณหล่ะคือเรื่องไหน