สวัสดีค่ะ เราชื่อเกมส์ ชื่ออาจจะเหมือนผู้ชายแต่เราเป็นผู้หญิงค่ะ (บอกเพื่อ? ><)
วันนี้เรามีเรื่องราวความรักของเรา ที่มันผ่านมาได้ 3 ปีแล้วแต่มันก็ยังคงวนเวียนอยู่ในใจและความทรงจำของเราอยู่ตลอด
ไม่เคยหายไปไหนเลยค่ะ...(เน่าสะ 55)
เท้าความก่อนว่าเราเป็นเด็กไทยที่ย้ายมาอยู่ต่างประเทศเมื่อปี 2009 ค่ะ ตอนนั้นเราอายุ 17 จะ 18 ปี ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่จะมีแฟน
เรากับแฟนเป็นเพื่อนกันมาก่อนค่ะ เราเล่นดนตรีมาด้วยกัน อยู่วงโรงเรียนค่ะ เค้าเป็นคนอัธยาศัยดี มีคนคุยด้วยเยอะ
ก่อนที่เขาจะมาคบกับเรา เขามีแฟนมาสามถึงสี่คนประมานนี้ค่ะ ซึ่งตอนนั้นเราก็ไม่ซีเรียส เรากับเขาตกลงคบกันสามเดือน
ก่อนที่เราจะย้ายมาสวีเดนค่ะ ตอนแรกก่อนที่เขาจะตกลงคบกับเรา เขาก็ชั่งใจนะคะว่าควรคบกับเราดีไหม
ในเมื่ออีกไม่กี่เดือนเราก็ต้องย้ายไปแล้ว แต่เขาก็ตกลงคบค่ะ (ขอบคุณเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ที่ช่วยทำให้เขาใจอ่อน)
เราใช้เวลาสามเดือนนั้นอย่างคุ้มค่าค่ะ เราไปไหนมาไหนด้วยกัน คุยกันเยอะขึ้น มันทำให้เราสองคนมีความรู้สึกผูกพันธ์กันมาก
จนไม่อยากจากกันเลยค่ะ แต่เอาเข้าจริง ๆ เราคิดอยู่แล้วว่าอนาคตเราต้องมาก่อนเสมอและเราจะไม่ทิ้งโอกาสดี ๆ แบบนี้ไปแน่นอน
เรามาถึงสวีเดนตอนปลายฤดูหนาวค่ะ มาวันแรกเราร้องไห้อยากกลับบ้านเลยค่ะ มันรู้สึกเหงา แปลกที่ ไม่คุ้น คิดถึงเพื่อนตามประสาวัยรุ่น
ที่เคยอยู่แต่กับเพื่อน แต่เอาเข้าจริง ๆ เราก็อยู่ที่นี่มาได้ห้าปีแล้วค่ะ
ย้อนกลับไปตอนแรกเลย ตอนที่เรากับแฟนติดต่อกันได้ครั้งแรกหลังจากเราย้ายมาสวีเดน เราคุยกันผ่านทาง MSN ค่ะ
ครั้งแรกที่ได้ติดต่อกันคำแรกที่เขาพูดคือ 'ถึงไม่ได้เห็นหน้าได้ยินแค่เสียงก็ดีใจแล้ว' เราร้องไห้ค่ะ คือความคิดถึง ความเศร้า
มันปนกันไปหมด มันเป็นความรู้สึกที่บรรยายไม่ถูกจริง ๆ ค่ะ ความห่างไกลนี่มันช่างโหดร้ายจริง ๆ นะคะ TT หลังจากนั้นเค้าก็พยายาม
ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เห็นหน้ากันค่ะ เขาก็ลงทุนไปซื้อกล้องเว็บเคม ซึ่ง MSN ในตอนนั้นมันเปิดกล้องกันได้ใช่ไหมคะ ครั้งแรกที่เห็นหน้ากัน
คือดีใจอ่ะค่ะ เราคุยกับแทบทุกวัน คือตอนนั้นมีความสุขจนบรรยายไม่ถูกเลยค่ะ มีครั้งนึงเขาร้องไห้กับเราค่ะ TT
เขาบอกว่าเขากลัวว่าเราจะไม่รักกันเหมือนเดิม เขาไม่น่ามาคบกับเรา เราก็บ่อน้ำตาแตกสิคะ เราก็เห้ย! ถ้าเรารักกันมันก็ต้องผ่านไปได้สิ
เขาก็ใจเย็นลงแล้วก็คุยกันเหมือนเดิมค่ะ
แต่หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ได้งานทำค่ะ เล่นดนตรีในร้านอาหารแห่งหนึ่งค่ะ แล้วความงี่เง่าของเราก็เริ่มออกลายค่ะ
มันมาจากหลายสาเหตุค่ะ เช่น เขากลับบ้านผิดเวลา กลับมาแล้วออกไปใหม่
พอมาตอนนี้เรารู้เลยตอนนั้นเรางี่เง่าจริง ๆ ค่ะ คือทำแทบทุกอย่างที่ผู้หญิงงี่เง่าคนนึงจะทำได้อ่ะค่ะ อย่าง โทรจิก เช็ค HI5 เช็คเอ็ม
ถามเพื่อน เป็นต้นค่ะ จนมีครั้งนึงแจ็คพ็อตแตกค่ะ มีน้องคนนึงมาบอกเราว่า แฟนเราไปมีอะไรกับผู้หญิงมาสองคนแล้วนะ
ตอนนั้นเหมือนโลกหยุดหมุด ไม่มีอากาศหายใจ ไฟดับ ฟ้าผ่า แผ่นดินไหวไปพร้อม ๆ กันค่ะ
โอ้ยย ! ระเบิดลงสิคะ ตู้มใหญ่ด้วยค่ะ เราโทรไปถามแฟนเราเลยค่ะ บอกเลิกเลย เสียงเราสั่น และเหมือนเขาจะรู้เลยบอกให้เราใจเย็นค่ะ
เหตุการ์ณนั้นเลยเป็นเหตุการ์ณแห่งการทำลายความเชื่อใจของเราไปเลยค่ะ หมดเลยค่ะ หมดเกลึ้ยง แต่เราก็ให้อภัยเขาค่ะ
เราอาจจะดูโง่นะคะ แต่ความรักมันทำได้ทุกอย่างจริง ๆ ค่ะ...
ปี 2010 เรากลับไทยค่ะ กลับไปเซอร์ไพร์สเขา วินาทีแรกที่เจอกันเขาวิ่งมากอดเรา เรายังจำความรู้สึกนั้นได้จนถึงตอนนี้เลยค่ะ
ลองไม่เจอคนที่คุณรักหนึ่งปีสิคะ แล้วคุณจะรู้ว่าการได้เจอกันมันมีความสุขมากแค่ไหน ^^ แต่มันก็ไม่ได้มีความสุขเสมอไปหรอกค่ะ...
มีครั้งนึงเราเคยขอไปนั่งดูเขาเล่นดนตรีแต่เขาไม่ให้ไปค่ะ งอนสิคะ นางผู้หญิงงี่เง่าเข้าสิงอีกแล้วค่าาาาาาา~
เขาจะไปส่งที่บ้านแต่เราบอกว่าไม่ต้องเดี๋ยวให้เพื่อนมารับ! เขาก็ทิ้งเราไว้หน้าบ้านเขาแล้วขับรถออกไปเลย
ตอนนั้นยุงแทบหามค่ะ TT ตอนนั้นพูดไม่ออกบอกไม่ถูกเลยค่ะ แต่ก็ไม่ได้ทะเลาะมีปากเสียงอะไรกัน
เราก็ปล่อยเลยไป จนเรากลับมาสวีเดนเรากับเขาก็คบกันมาเรื่อย ๆ มีทะเลาะกันบ้าง รักกันดีบ้างแล้วแต่อารมย์เลยค่ะ
จำได้ว่าเลิกเรียนเราต้องกลับบ้านเลย ห้ามเถลไถลไม่งั้นมีทะเลาะค่ะ จนเพื่อน ๆ ไม่อยากชวนไปไหนเลย TT
จนมาถึงปี 2011 ค่ะ ปีนั้นเป็นปีครบรอบ 2 ปีค่ะ ดิฉันก็ทำ anniversary video แบบอลังการดาวล้านแปดเพื่อเซอร์ไพร์ส
หวังว่าอะไร ๆ มันจะดีขั้น มันก็ดีขึ้นนะคะแต่ก็แค่แปปเดียว ด้วยเพราะความที่แก้วมันร้าวจนยากจะซ่อม เราก็ยังคงทะเลาะกัน
ตลอดเรื่อยมา จนมาถึงวันเกิดเราเดือนพฤษภาค่ะ เราไม่คิดว่าเค้าจะทำอะไรให้เรา จนมาเห็นของขวัญวันเกิดเป็นวิดิโอรูปเรา
บวกกับเขาเล่นกีต้าร์และร้องเพลงให้เรา เราก็ดีใจสิคะ คิดว่าต้องกลับมาดีกันแน่ ๆ แต่หลังจากนั้นหนึ่งเดือนก็เลิกกันค่ะ
ยอมรับด้วยว่าเป็นความงี่เง่าของเราด้วย เราก็เฮิร์ทสิคะ ร้องไห้จะเป็นจะตาย แต่เขากลับมาความสุขดีค่ะ กลายเป็นเราที่เจ็บอยู่คนเดียว
ด้วยความโง่ของเราเราเลยกลับไทยค่ะ (เอาจริง ๆ ตอนนั้นเจอตั๋วถูกค่ะเลยกลับ จะมีใครเชื่อไหม? ฮ่า ๆ) เราได้ไปเจอเขาค่ะ
วันแรกที่เจอ เขาคุยกับเราดีจนเราคิดว่าเราอาจจะดีกัน แต่วันถัดไปเขาทำเหมือนไม่รู้จัก ทำเหมือนเราไม่มีตัวตนเลยค่ะ
เราง้อเขาแต่เขาไม่สนใจเราสักนิดเลยค่ะ เจ็บปรี๊ดดดดดดดดดดเข้าไปอีกสิคะทีนี้ และเป็นอีกครั้งที่ต้องขอบคุณพี่ ๆ เพื่อน ๆ น้อง ๆ
ที่ปลอบใจ ขอบคุณจากใจเลยค่ะ ^^
เราไม่ได้ติดต่อเขาเลยตลอดหกเดือน จนถึงวันเกิดเขา เขาบอกว่าเขาผิดเขาขอโทษ ด้วยความที่อิฉันเป็นคนใจอ่อน
ก็ให้อภัยสิคะ(นางแม่พระ! ) ด้วยความที่เขาเป็นรักแรกด้วยมั้งค่ะ ความโกรธมันเลยหายไปหมด เราคุยกันเป็นเพื่อนเรื่อย ๆ ตลอดจนถึง
ทุกวันนี้ค่ะ มีหลาย ๆ ครั้งที่เขาพูดเหมือนว่าให้รอเขานะ รอให้เขาพร้อมแล้วเขาจะกลับมา ซึ่งก็มีหลาย ๆ ครั้งที่เราขอเขาคืนดี
แต่เขาก็ปฏิเสธ ดูเหมือนเราโง่ใช่ไหมคะ เอาจริง ๆ เราแค่อยากรู้ว่าเรายังรักเขาอยู่ไหม มีคนเคยถามว่าอยู่เมืองนอกมาห้าปี
ไม่มีใครมาจีบหรอ? บอกเลยค่ะว่าไม่มี ผู้ชายฝรั่งที่นี่หยิ่งค่ะบอกเลย ผู้หญิงต้องเป็นฝ่ายเข้าหาแล้วคิดหรอคะว่าหญิงไทยอย่างเรา
จะเข้าหา?
ตอนนี้เรายังเชื่อในความรักนะคะ แต่เราไม่เชื่อความรักที่ห่างไกลอีกแล้วค่ะ เรากลายเป็นคนกลัวความรักไปเลยค่ะ
เรากลัวการอกหัก เรากลัวความไม่ซื่อสัตย์ของอีกฝ่าย เรากลัวไปหมดทุกสิ่งอย่าง แต่แปลกไหมคะ เรายังรอผู้ชายคนนั้นอยู่
เรารอทั้ง ๆ ที่ไม่รู้ว่าเขาจะกลับมาไหม เขาเป็นคนดีในระดับนึงนะคะ เป็นคนรับผิดชอบในงานที่ได้รับมอบหมาย เรียนเก่ง
ที่เราเอาเรื่องราวของเรามาแชร์ไม่ใช่จะบอกว่าเราถูก เขาผิด มันผิดตรงเวลาของเราสองคนมากกว่าค่ะ
แต่ก็ไม่ใช่ว่าเราจะไม่เปิดใจนะคะ เราเปิดใจให้คนใหม่ตลอด แต่แค่ไม่มีใครหลงผิดเข้ามาเลยนี่สิคะ
โอ้ย! คิดแล้วเศร้าค่ะ TT
ใครเคยมีประสบการ์ณอะไรแบบนี้ไม่คะ มาแชร์กันได้นะคะ ^^
ปล.นี้เป็นกระทู้แรกของเราหลังจากที่ไม่ค่อยได้เขียนอะไรยาว ๆ หลังจากย้ายมาที่นี่ ถ้ามีอะไรผิดพลาดก็ขออภัยด้วยนะคะ ^^
ปล.2 edit คำผิดค่ะ
*~ รักแท้แพ้ความห่างไกลจริง ๆ สินะ... ~*
วันนี้เรามีเรื่องราวความรักของเรา ที่มันผ่านมาได้ 3 ปีแล้วแต่มันก็ยังคงวนเวียนอยู่ในใจและความทรงจำของเราอยู่ตลอด
ไม่เคยหายไปไหนเลยค่ะ...(เน่าสะ 55)
เท้าความก่อนว่าเราเป็นเด็กไทยที่ย้ายมาอยู่ต่างประเทศเมื่อปี 2009 ค่ะ ตอนนั้นเราอายุ 17 จะ 18 ปี ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่จะมีแฟน
เรากับแฟนเป็นเพื่อนกันมาก่อนค่ะ เราเล่นดนตรีมาด้วยกัน อยู่วงโรงเรียนค่ะ เค้าเป็นคนอัธยาศัยดี มีคนคุยด้วยเยอะ
ก่อนที่เขาจะมาคบกับเรา เขามีแฟนมาสามถึงสี่คนประมานนี้ค่ะ ซึ่งตอนนั้นเราก็ไม่ซีเรียส เรากับเขาตกลงคบกันสามเดือน
ก่อนที่เราจะย้ายมาสวีเดนค่ะ ตอนแรกก่อนที่เขาจะตกลงคบกับเรา เขาก็ชั่งใจนะคะว่าควรคบกับเราดีไหม
ในเมื่ออีกไม่กี่เดือนเราก็ต้องย้ายไปแล้ว แต่เขาก็ตกลงคบค่ะ (ขอบคุณเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ที่ช่วยทำให้เขาใจอ่อน)
เราใช้เวลาสามเดือนนั้นอย่างคุ้มค่าค่ะ เราไปไหนมาไหนด้วยกัน คุยกันเยอะขึ้น มันทำให้เราสองคนมีความรู้สึกผูกพันธ์กันมาก
จนไม่อยากจากกันเลยค่ะ แต่เอาเข้าจริง ๆ เราคิดอยู่แล้วว่าอนาคตเราต้องมาก่อนเสมอและเราจะไม่ทิ้งโอกาสดี ๆ แบบนี้ไปแน่นอน
เรามาถึงสวีเดนตอนปลายฤดูหนาวค่ะ มาวันแรกเราร้องไห้อยากกลับบ้านเลยค่ะ มันรู้สึกเหงา แปลกที่ ไม่คุ้น คิดถึงเพื่อนตามประสาวัยรุ่น
ที่เคยอยู่แต่กับเพื่อน แต่เอาเข้าจริง ๆ เราก็อยู่ที่นี่มาได้ห้าปีแล้วค่ะ
ย้อนกลับไปตอนแรกเลย ตอนที่เรากับแฟนติดต่อกันได้ครั้งแรกหลังจากเราย้ายมาสวีเดน เราคุยกันผ่านทาง MSN ค่ะ
ครั้งแรกที่ได้ติดต่อกันคำแรกที่เขาพูดคือ 'ถึงไม่ได้เห็นหน้าได้ยินแค่เสียงก็ดีใจแล้ว' เราร้องไห้ค่ะ คือความคิดถึง ความเศร้า
มันปนกันไปหมด มันเป็นความรู้สึกที่บรรยายไม่ถูกจริง ๆ ค่ะ ความห่างไกลนี่มันช่างโหดร้ายจริง ๆ นะคะ TT หลังจากนั้นเค้าก็พยายาม
ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เห็นหน้ากันค่ะ เขาก็ลงทุนไปซื้อกล้องเว็บเคม ซึ่ง MSN ในตอนนั้นมันเปิดกล้องกันได้ใช่ไหมคะ ครั้งแรกที่เห็นหน้ากัน
คือดีใจอ่ะค่ะ เราคุยกับแทบทุกวัน คือตอนนั้นมีความสุขจนบรรยายไม่ถูกเลยค่ะ มีครั้งนึงเขาร้องไห้กับเราค่ะ TT
เขาบอกว่าเขากลัวว่าเราจะไม่รักกันเหมือนเดิม เขาไม่น่ามาคบกับเรา เราก็บ่อน้ำตาแตกสิคะ เราก็เห้ย! ถ้าเรารักกันมันก็ต้องผ่านไปได้สิ
เขาก็ใจเย็นลงแล้วก็คุยกันเหมือนเดิมค่ะ
แต่หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ได้งานทำค่ะ เล่นดนตรีในร้านอาหารแห่งหนึ่งค่ะ แล้วความงี่เง่าของเราก็เริ่มออกลายค่ะ
มันมาจากหลายสาเหตุค่ะ เช่น เขากลับบ้านผิดเวลา กลับมาแล้วออกไปใหม่
พอมาตอนนี้เรารู้เลยตอนนั้นเรางี่เง่าจริง ๆ ค่ะ คือทำแทบทุกอย่างที่ผู้หญิงงี่เง่าคนนึงจะทำได้อ่ะค่ะ อย่าง โทรจิก เช็ค HI5 เช็คเอ็ม
ถามเพื่อน เป็นต้นค่ะ จนมีครั้งนึงแจ็คพ็อตแตกค่ะ มีน้องคนนึงมาบอกเราว่า แฟนเราไปมีอะไรกับผู้หญิงมาสองคนแล้วนะ
ตอนนั้นเหมือนโลกหยุดหมุด ไม่มีอากาศหายใจ ไฟดับ ฟ้าผ่า แผ่นดินไหวไปพร้อม ๆ กันค่ะ
โอ้ยย ! ระเบิดลงสิคะ ตู้มใหญ่ด้วยค่ะ เราโทรไปถามแฟนเราเลยค่ะ บอกเลิกเลย เสียงเราสั่น และเหมือนเขาจะรู้เลยบอกให้เราใจเย็นค่ะ
เหตุการ์ณนั้นเลยเป็นเหตุการ์ณแห่งการทำลายความเชื่อใจของเราไปเลยค่ะ หมดเลยค่ะ หมดเกลึ้ยง แต่เราก็ให้อภัยเขาค่ะ
เราอาจจะดูโง่นะคะ แต่ความรักมันทำได้ทุกอย่างจริง ๆ ค่ะ...
ปี 2010 เรากลับไทยค่ะ กลับไปเซอร์ไพร์สเขา วินาทีแรกที่เจอกันเขาวิ่งมากอดเรา เรายังจำความรู้สึกนั้นได้จนถึงตอนนี้เลยค่ะ
ลองไม่เจอคนที่คุณรักหนึ่งปีสิคะ แล้วคุณจะรู้ว่าการได้เจอกันมันมีความสุขมากแค่ไหน ^^ แต่มันก็ไม่ได้มีความสุขเสมอไปหรอกค่ะ...
มีครั้งนึงเราเคยขอไปนั่งดูเขาเล่นดนตรีแต่เขาไม่ให้ไปค่ะ งอนสิคะ นางผู้หญิงงี่เง่าเข้าสิงอีกแล้วค่าาาาาาา~
เขาจะไปส่งที่บ้านแต่เราบอกว่าไม่ต้องเดี๋ยวให้เพื่อนมารับ! เขาก็ทิ้งเราไว้หน้าบ้านเขาแล้วขับรถออกไปเลย
ตอนนั้นยุงแทบหามค่ะ TT ตอนนั้นพูดไม่ออกบอกไม่ถูกเลยค่ะ แต่ก็ไม่ได้ทะเลาะมีปากเสียงอะไรกัน
เราก็ปล่อยเลยไป จนเรากลับมาสวีเดนเรากับเขาก็คบกันมาเรื่อย ๆ มีทะเลาะกันบ้าง รักกันดีบ้างแล้วแต่อารมย์เลยค่ะ
จำได้ว่าเลิกเรียนเราต้องกลับบ้านเลย ห้ามเถลไถลไม่งั้นมีทะเลาะค่ะ จนเพื่อน ๆ ไม่อยากชวนไปไหนเลย TT
จนมาถึงปี 2011 ค่ะ ปีนั้นเป็นปีครบรอบ 2 ปีค่ะ ดิฉันก็ทำ anniversary video แบบอลังการดาวล้านแปดเพื่อเซอร์ไพร์ส
หวังว่าอะไร ๆ มันจะดีขั้น มันก็ดีขึ้นนะคะแต่ก็แค่แปปเดียว ด้วยเพราะความที่แก้วมันร้าวจนยากจะซ่อม เราก็ยังคงทะเลาะกัน
ตลอดเรื่อยมา จนมาถึงวันเกิดเราเดือนพฤษภาค่ะ เราไม่คิดว่าเค้าจะทำอะไรให้เรา จนมาเห็นของขวัญวันเกิดเป็นวิดิโอรูปเรา
บวกกับเขาเล่นกีต้าร์และร้องเพลงให้เรา เราก็ดีใจสิคะ คิดว่าต้องกลับมาดีกันแน่ ๆ แต่หลังจากนั้นหนึ่งเดือนก็เลิกกันค่ะ
ยอมรับด้วยว่าเป็นความงี่เง่าของเราด้วย เราก็เฮิร์ทสิคะ ร้องไห้จะเป็นจะตาย แต่เขากลับมาความสุขดีค่ะ กลายเป็นเราที่เจ็บอยู่คนเดียว
ด้วยความโง่ของเราเราเลยกลับไทยค่ะ (เอาจริง ๆ ตอนนั้นเจอตั๋วถูกค่ะเลยกลับ จะมีใครเชื่อไหม? ฮ่า ๆ) เราได้ไปเจอเขาค่ะ
วันแรกที่เจอ เขาคุยกับเราดีจนเราคิดว่าเราอาจจะดีกัน แต่วันถัดไปเขาทำเหมือนไม่รู้จัก ทำเหมือนเราไม่มีตัวตนเลยค่ะ
เราง้อเขาแต่เขาไม่สนใจเราสักนิดเลยค่ะ เจ็บปรี๊ดดดดดดดดดดเข้าไปอีกสิคะทีนี้ และเป็นอีกครั้งที่ต้องขอบคุณพี่ ๆ เพื่อน ๆ น้อง ๆ
ที่ปลอบใจ ขอบคุณจากใจเลยค่ะ ^^
เราไม่ได้ติดต่อเขาเลยตลอดหกเดือน จนถึงวันเกิดเขา เขาบอกว่าเขาผิดเขาขอโทษ ด้วยความที่อิฉันเป็นคนใจอ่อน
ก็ให้อภัยสิคะ(นางแม่พระ! ) ด้วยความที่เขาเป็นรักแรกด้วยมั้งค่ะ ความโกรธมันเลยหายไปหมด เราคุยกันเป็นเพื่อนเรื่อย ๆ ตลอดจนถึง
ทุกวันนี้ค่ะ มีหลาย ๆ ครั้งที่เขาพูดเหมือนว่าให้รอเขานะ รอให้เขาพร้อมแล้วเขาจะกลับมา ซึ่งก็มีหลาย ๆ ครั้งที่เราขอเขาคืนดี
แต่เขาก็ปฏิเสธ ดูเหมือนเราโง่ใช่ไหมคะ เอาจริง ๆ เราแค่อยากรู้ว่าเรายังรักเขาอยู่ไหม มีคนเคยถามว่าอยู่เมืองนอกมาห้าปี
ไม่มีใครมาจีบหรอ? บอกเลยค่ะว่าไม่มี ผู้ชายฝรั่งที่นี่หยิ่งค่ะบอกเลย ผู้หญิงต้องเป็นฝ่ายเข้าหาแล้วคิดหรอคะว่าหญิงไทยอย่างเรา
จะเข้าหา?
ตอนนี้เรายังเชื่อในความรักนะคะ แต่เราไม่เชื่อความรักที่ห่างไกลอีกแล้วค่ะ เรากลายเป็นคนกลัวความรักไปเลยค่ะ
เรากลัวการอกหัก เรากลัวความไม่ซื่อสัตย์ของอีกฝ่าย เรากลัวไปหมดทุกสิ่งอย่าง แต่แปลกไหมคะ เรายังรอผู้ชายคนนั้นอยู่
เรารอทั้ง ๆ ที่ไม่รู้ว่าเขาจะกลับมาไหม เขาเป็นคนดีในระดับนึงนะคะ เป็นคนรับผิดชอบในงานที่ได้รับมอบหมาย เรียนเก่ง
ที่เราเอาเรื่องราวของเรามาแชร์ไม่ใช่จะบอกว่าเราถูก เขาผิด มันผิดตรงเวลาของเราสองคนมากกว่าค่ะ
แต่ก็ไม่ใช่ว่าเราจะไม่เปิดใจนะคะ เราเปิดใจให้คนใหม่ตลอด แต่แค่ไม่มีใครหลงผิดเข้ามาเลยนี่สิคะ
โอ้ย! คิดแล้วเศร้าค่ะ TT
ใครเคยมีประสบการ์ณอะไรแบบนี้ไม่คะ มาแชร์กันได้นะคะ ^^
ปล.นี้เป็นกระทู้แรกของเราหลังจากที่ไม่ค่อยได้เขียนอะไรยาว ๆ หลังจากย้ายมาที่นี่ ถ้ามีอะไรผิดพลาดก็ขออภัยด้วยนะคะ ^^
ปล.2 edit คำผิดค่ะ