Urban Legend เรื่องหลอนประจําถิ่น

Urban Legend นั้น ทางฝรั่งหมายถึง ตำนานพื้นบ้าน ประกอบด้วยเรื่องที่ผู้เล่าอาจเชื่อว่าจริงหรือไม่จริง บางทีก็เล่าซ้ำ ๆ กันในรูปแบบรายงานข่าว

ตัวอย่างของ Urban Legend ในต่างประเทศ ก็เช่น http://pantip.com/topic/31162906
http://pantip.com/topic/31630202

แต่ในกระทู้นี้จะมาว่าด้วย Urban Legend ของไทย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องเล่าในสถานศึกษา และตามมหาวิทยาลัยนั่นเองครับ
ซึ่งเรื่องเหล่านี้ ได้รวบรวมมาจาก แหล่งตามที่ต่างๆ ( ที่มา http://lonesomebabe.wordpress.com/2010/01/05/http://urban-legend-ตํานานพื้นบ้าน-episode-3-1 )

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

    ศิลปกรรมศาสตร์-ห้องล้างรูป ว่ากันว่าห้องล้างรูปรวมของศิล’กรรมน่ากลัวที่สุด นอกจากเรื่องเห็นขาแกว่งแล้ว ยังมีแสงลูกไฟสีต่างๆ แว๊บไปแว๊บมาในห้องล้างรูปอีกด้วย (ซึ่งห้องล้างรูปจะต้องมืดหรืออาจให้มีแสงสีแดงได้สีเดียว) บางทีก็มีเสียงเก้าอี้นั่งรอล้างรูปดังอี๊ดอ๊าด ทั้งๆ ที่ไม่มีคนนั่งรอ หรือนิสิตบางคนได้ยินเสียงคนตบแท็งค์น้ำในห้องล้างรูป ทั้งๆ ที่ไม่มีคนอื่นในห้อง ว่ากันว่านิสิตขอให้คณะย้ายห้องหลายครั้งแต่คณะไม่มีงบฯ อันนี้เป็นข้อมูลหลายปีแล้ว ไม่รู้ป่านนี้ย้ายห้องหรือยัง
    อักษรศาสตร์-ห้องสมุด ห้องสมุดที่ตึกเก่าของอักษร มีนิสิตชายคนหนึ่งไปอ่านหนังสือ เห็นนิสิตผู้หญิงที่นั่งตรงข้ามก้มหน้าอ่านหนังสือนานมากไม่เงยหน้าซะที เลยถามว่าเป็นอะไรรึเปล่า ผู้หญิงเลยเงยหน้าขึ้นมา ปรากฏว่า …ไม่มีหน้า
    วิทยาศาสตร์-ตึกชีววิทยาทางทะเล ชั้น 4 หรือชั้น 5 ไม่รู้ นิสิตที่อยู่ดึกบอกว่าเห็นเงาคน และแสงไฟวูบวาบบ่อยมากทั้งที่ไม่มีคน ลิฟต์ก็ชอบเปิดชั้นนี้ทั้งที่ไม่มีคนกดเรียก
    ห้องน้ำแถวภาควิชาเคมี อยู่ดีๆ บานประตูก็ปิดเอง (และล็อคด้วย) บ่อยมากๆ ทั้งๆ ที่ไม่มีลมและแน่นอนไม่มีคนเข้า พอนิสิตไปถามยาม ยามก็บอกว่าชินแล้ว บอกอย่างทำใจด้วยว่าถ้าเจอก็มาตามแล้วกัน จะไปช่วยไขกุญแจให้
    ประตูอังรีฯ เพื่อนเราอยู่คณะวิทยาศาสตร์ ขับรถมาทางประตูรัฐศาสตร์ อังรีฯ จะวกรถออกไปแยกสุรวงศ์ เลยต้องไปรอเลี้ยวรถกลางถนน พอไฟส่องไปที่ใต้สะพานลอยฝั่งโรงพยาบาลจุฬา ก็เห็นคนนั่งยองๆ อยู่ใต้สะพาน ทุกอย่างเหมือนคนทั่วไป นอกจากหน้าเหมือนปูนปลาสเตอร์ที่ยังไม่แห้งแล้วโดนสาดน้ำน่ะ คือขาวๆ ย้อยๆ ไฟหน้ารถเธอจับอยู่นานพอดูเพราะต้องรอกลับรถ เมื่อเธอหันไปดูเพื่อนผู้หญิงอีกคนที่นั่งมาด้วยกันก็ไม่มีทีท่าว่าเห็นอะไรเหมือนเธอเลย เธอก็เลยทำเฉยๆ กลัวว่าเพื่อนจะกลัว
    เศรษฐศาสตร์ ประตูชั้นล่างที่จะออกไปโรงอาหาร ด้านหลังถูกกั้นไม่ให้เข้า-ออกเพราะเป็นทางผีผ่าน มีคนเห็นอะไรแปลกประหลาดมามากมาย ชั้นที่มีห้องพักนิสิต ป.โท (ไม่รู้ชั้นไหน) …เพื่อนเราเพิ่งจบโทมาปีสองปีเล่าว่า วันหนึ่งค่ำแล้วฝนตกหนักทุกคนกำลังจะกลับบ้าน แต่เลอะเทอะกันมาก เลยกลับมาห้องพักนิสิตปริญญาโทเพื่อหลบฝนและล้างโคลน เพื่อนเราไปล้างโคลนคนเดียวในห้องน้ำซึ่งอยู่ไม่ไกลจากห้องพัก …พอดีไฟดับ เพื่อนเราเลยโผล่ออกมาดูคนอื่นๆ ว่าเป็นไงบ้าง เห็นเงาดำๆ อยู่ห่างออกไปตรงทางเดิน ทำท่าเหมือนกำลังเดินเข้ามาหา เธอดูรูปร่างแล้วเลยเรียกชื่อเพื่อนผู้ชายในกลุ่มที่หุ่นแบบนี้ แต่เงาดำไม่ตอบและเดินเท่าไหร่ก็ไม่ใกล้เข้ามาสักที แป๊บนึงอยู่ดีๆ เงาดำก็หายไป เพื่อนเราคนนี้ก็เหมือนคนที่แล้ว คือ ไม่ยอมบอกเพื่อน กลัวเพื่อนจะกลัว เดินกลับเข้าห้องไปรวมกลุ่มเฉยๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
    หอหญิง (ตึกดำ) เพื่อนเราเคยอยู่หอหญิง บอกว่าชั้น 10 เนี่ยดุสุดๆ คืนหนึ่งก่อนนอนกลัวว่าจะร้อน เลยเปิดประตูมุ้งลวดให้ลมเข้า คนที่นอนริมในสุดบังเอิญเป็นคนที่มีสัมผัสที่หกพอดี เล่าว่ากลางดึกอยู่ดีๆ เธอก็ตื่นมา เมื่อมองไปนอกมุ้งลวด เห็นคนคลุมหัวเดินอยู่ ตอนแรกเธอนึกว่าเป็นเพื่อนที่เป็นมุสลิมในชั้นเดียวกันนั้น แต่ร่างที่ว่าเดินเท่าไรก็ไม่พ้นหน้าห้องซักที เธอเลยรู้ว่าเจอดีเข้าแล้วก็เลยคลุมโปงนอนต่อ
    วิศวกรรมศาสตร์-ห้องสมุด เราไม่เคยเข้านะเลยไม่รู้ว่าห้องนี้ยังใช้อยู่หรือเปล่า แต่ที่ได้ยินมาคือ เป็นห้องที่ดัดแปลงจากอาคารที่เดิมเป็นตึกเรียนเก่า กลางวันแสกๆ วันหนึ่ง มีอาจารย์ท่านหนึ่งเข้าไปค้นหนังสือในส่วนที่ห้ามนิสิตเข้า คือ ยืมได้แต่ห้ามเดินเข้าไปเองน่ะ ทีนี้อาจารย์ท่านนั้นกำลังก้มหน้าส่องหาหนังสืออยู่ตามชั้นต่างๆ พอขยับหน้าผ่านไปตรงช่องว่างระหว่างหนังสือ ก็เห็นฝั่งตรงข้ามมีหน้าจ้องผ่านร่องหนังสือเข้ามา เห็นว่าใส่ชุดนิสิตอยู่ด้วย อาจารย์ตกใจและโกรธด้วยเลยเดินไปถามว่านิสิตเข้ามาได้ยังไง แต่พอเดินไปถึงช่องนั้นก็ไม่มีใครอยู่เลย ที่สำคัญพออาจารย์เดินหาจนทั่ว พบว่าแม้แต่เจ้าหน้าที่ห้องสมุดเองก็ไม่อยู่ด้วยซ้ำไม่มีทางที่ใครจะมาโผล่หน้าให้เห็นได้ แต่เมื่ออาจารย์เดินกลับไปหาหนังสือที่ชั้นเดิมก็ได้กลิ่นฉุนกลิ่นเหม็นไหม้ที่แรงมาก
    ห้อง Sound Lab ห้องไหนไม่รู้และไม่รู้ด้วยว่าตึกที่ถูกทุบไปหรือตึกที่ยังอยู่ปัจจุบัน เพราะอักษรมี Sound Lab เยอะมาก อาจารย์หญิงท่านหนึ่งรับฝากชั้นเรียนไว้ ได้รับคำฝากฝังให้เปิดเทปให้นิสิตฟังและคอยเช็คชื่อก็พอ ขณะกำลังเปิดเทป มีนิสิตหญิงคนหนึ่งนั่งอยู่หลังห้องไม่ยอมใส่หูฟัง อาจารย์เดินไปถามก็ตอบว่าเจ็บคอ พอตอนออกจากห้อง อาจารย์คอยเช็คชื่อ เห็นคนครบแต่ไม่มีชื่อเด็กคนที่ไปคุยด้วยและเด็กก็ไม่ยอมออกมาสักที เลยเดินกลับไปหา ไปดูที่โต๊ะก็ไม่เจอ แต่พอหันออกมาจะกลับ ก็เห็นเด็กยืนอยู่กลางห้องสายหูฟังพันคออยู่และโยงไปที่เพดาน อาจารย์หมดสติไปเลย มาทราบทีหลังว่ามีเด็กเพิ่งฆ่าตัวตายในห้องนั้น
    ห้องมืด (ห้องล้างฟิล์ม) ของคณะนิเทศศาสตร์ เรื่องมีอยู่ว่า …เมื่อก่อนมีรุ่นพี่คนหนึ่งได้เข้าไปล้างฟิล์มในห้องนี้ แล้วไม่ได้กลับออกมาอีกเลย มีคนเข้าไปหาตั้งหลายครั้งแล้ว แต่ก็ไม่มีใครพบ นิสิตรุ่นน้องต่อๆ มาเล่าให้ฟังว่า …ยังมี เรื่องแปลกๆ เกิดขึ้นอีก เช่น มีนิสิตได้เข้าไปล้างฟิลม์ในห้องนี้ ขณะที่เข้าไปนั้นก็คิดว่าตนนั้นเข้าไปกับเพื่อน ก็มีการพูดคุยกัน แต่ไม่ได้ยินเสียงตอบจากเพื่อน บอกให้หยิบของส่งให้ ก็มีคนหยิบส่งให้ แต่พอออกมาเห็นเพื่อนของตนอยู่นอกห้อง จึงได้รู้ว่า ตนเข้าคนเดียว แล้วใครล่ะที่เป็นคนหยิบของส่งให้ !!?
    ทางเดินระหว่างตึกของคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ทางเดินที่ว่านี้มีประวัติอยู่ว่า สมัยก่อนมีสามี-ภรรยานักการของคณะสถาปัตย์ได้ทะเลาะกัน ฝ่ายภรรยาได้เอาปืนยิงสามีจนเสียชีวิต เลือดสาดไปทั่วหน้าห้องทางเดินนี้ …ต่อมาเมื่อทางคณะได้มีการปรับปรุงพื้นชั้นหนึ่งได้มีการเทปูนไว้ แต่มีเฉพาะหน้าห้องนี้เท่านั้นที่ไม่ยอมแห้ง ทิ้งไว้นานสักเท่าไรก็ไม่ยอมแห้ง ทางคณะจึงต้องปูไม้กระดานทับไว้อย่างที่เห็นกันทุกวันนี้
    ห้อง 415 หอพักนิสิตหญิงจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เล่ากันว่าถ้าหากวันไหนตื่นขึ้นมาตอนดึกๆ คนที่ตื่นขึ้นมาจะเห็นผู้หญิงใส่ชุดไทยมายืนอยู่ที่ปลายเตียง
    ดาดฟ้าตึกพยาธิวิทยา ตอนดึกๆ หรือตอนเย็นๆ ใกล้ค่ำ ถ้าหากมีใครขึ้นไปบนดาดฟ้าจะเห็นคนยืนนุ่งชุดสไบสีขาว
    ล๊อกเกอร์ของคณะศิลปกรรมศาสตร์ ที่นั่นเคยมีคนเห็นคนนั่งห้อยขาอยู่บนล๊อกเกอร์ ทีแรกเห็นแต่ขา แต่ว่าเมื่อมองขึ้นไปกลับไม่มีตัวตนอยู่เลย
    สมัยยังใช้การตึก 2 นิเทศได้เต็มที่นั้น มีเรื่องเล่าว่า หลังสามทุ่มไปถ้าเดินลงบันไดเวียนจะลงมาเจอชั้นสามประมาณสี่ครั้ง (บรื๋อออ)

มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

    เรื่อง ลิฟท์แดงของธรรมศาสตร์นี้มีเรื่องเล่าว่า เมื่อตอนเหตุการณ์ 14 ตุลาฯ พวกทหารได้บุกเข้ามาในมหาวิทยาลัย พวกนักศึกษาต่างหลบหนีเข้ามาในลิฟท์ตัวหนึ่ง พอลิฟท์ตัวนี้เปิดพวกทหารก็กระหน่ำยิงทุกคนเสียชีวิตหมด เลือดสาดกระจายทั่วลิฟท์ ต่อมาทางมหาวิทยาลัยได้บูรณะทำความสะอาดกันทุกพื้นที่ ไม่เว้นแม้แต่ลิฟท์ตัวนั้น แต่ทำความสะอาดยังไงคราบเลือดที่เปรอะเปื้อนอยู่ก็่ล้างไม่ออก จึงได้ทำการทาสีลิฟท์ให้เป็นสีแดง – มีเรื่องเล่าตามมาว่า หลังจากที่ลิฟท์ได้นำกลับมาใช้ตามปกติ มีนักศึกษาหญิงคนหนึ่งมาขึ้นลิฟท์ตามลำพัง แต่เมื่อมองไปที่กระจกกลับพบว่าไม่ได้มีเธออยู่เพียงลำพัง หากแต่มีผู้โดยสารอยู่ด้วยมากมาย นอกจากนี้ยังมีอีกหลายครั้งหลายหนที่เหล่านักศึกษา-อาจารย์หรือแม้กระทั่ง เจ้าหน้าที่ต่างๆ ได้พบเจอกับอาถรรพ์ลิฟท์แดงตัวนี้เข้า ทำให้ทางมหาวิทยาลัยต้องเปลี่ยนตัวลิฟท์ใหม่ แต่ว่าประตูลิฟท์แดงที่ถูกถอดออกไปตอนนี้ยังตั้งอยู่ที่ชั้น 4 ตึกคณะศิลปศาสตร์มาจนถึงทุกวันนี้

มหาวิทยาลัยศิลปากร

    วิทยาเขตวังท่าพระ-กรุงเทพฯ อดีต เคยเป็นวังของพระราชโอรสของสมเด็จพระเจ้าตากสินและต่อมาทรงถูกสำเร็จโทษ ประหารชีวิต จากนั้นก็มีเชื้อพระวงศ์ระดับเจ้าฟ้าทรงประทับตลอดมา วังนี้มีอายุกว่า 226 ปี เท่ากับพระบรมมหาราชวัง (วังหลวง) มหาวิทยาลัยศิลปากร วังท่าพระ จึงประกอบด้วยวังร่วมคือ วังท่าพระ วังหน้าพระลาน – เรื่องลี้ลับในศิลปากรจึงมีมากมาย อาทิ ท้องพระโรงทรงงานในรัชกาลที่ 3 ที่ผูกด้วยผ้าสีแดง ใครที่อยู่ศิลปากร-วังท่าพระ จะทราบกันดีหรือแม้แต่พระตำหนักพรรณรายที่ประทับพระเจ้าลูกยาเธอในรัชกาลที่ 3 และพระพี่นางเธอในรัชกาลที่ 5 เล่ากันว่ายามค่ำคืน จะเห็นเงาและเสียงคนคุยกัน
    คณะจิตรกรรมฯ มีหุ่นโครงกระดูกอาจารย์ใหญ่ที่ชาวจิตรกรรมฯ ให้ความเคารพ ขณะที่สมัยก่อนในวังท่าพระมีโรงเก็บเครื่องประกอบพิธีพระศพเก่า แต่ปัจจุบันตึกจิดกได้สร้างทับไปแล้ว ด้านตึกโบราณคดีก็ยังมีข่าวลืมเรื่องวิญญาณสาวชาววังที่ยังวนเวียนอยู่
    ส่วนเรื่องลี้ลับที่ดังที่สุดในวังท่าพระ คงหนีไม่พ้นเรื่องเล่านี้ ที่คอนเฟิร์มจากหลายๆ ปาก หลายรุ่นของพี่ๆ ที่ว่าคนภายนอกคนไหนที่มาเข้าห้องน้ำของศิลปากรวังท่าพระยามค่ำคืน มักจะเห็นเป็นชายร่างใหญ่-หญิงผมยาวเดินสวนไปและหายไปในกำแพง ย้ำว่าเกิดกับคนภายนอกเท่านั้น
    วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ (ทับแก้ว)-นครปฐม เดิมเป็นพระราชวังในรัชกาลที่ 6 ต่อมาปล่อยทิ้งร้างไป ปัจจุบันในเขตมหาวิทยาลัยยังพบเห็นสิ่งปลูกสร้าง ทั้งคูน้ำ พระที่นั่ง พระตำหนัก ศาลาต่างๆ ทั่วมหาวิทยาลัย พระราชวังสนามจันทร์เห็นเล่าๆ กันว่า ผีดุ… แต่ในประวัติศาสตร์แล้ว ไม่ได้มีการสิ้นพระชนม์ของเจ้านายพระองค์ใดในพระราชวังแห่งนี้ แต่ข้าราชบริพารไม่ทราบ (คงมีบ้าง) – บริเวณลานทรงพล-คณะอักษรศาสตร์ เคยเป็นสถานที่จัดการประหารนักโทษแผ่นดิน ดังนั้นเหล่าวิญญาณนักโทษก็อาจจะมีและยังคงวนเวียนอยู่เป็นธรรมดา แต่แปลกอยู่เรื่องหนึ่งทั้งวังท่าพระและทับแก้ว อาจารย์-นักศึกษาและข้าราชการของศิลปากรจะไม่ค่อยเจออะไร จนหลายคนเชื่อว่ามีท่านเหล่านั้นคอยดูแลคุ้มครองอยู่
    เขาว่ากันว่าห้ามเด็ดหรือเก็บดอกไม้ใน ม. ไม่งั้นเจ้าของเขาจะมาทวงคืน
    หอเพชร 6 เป็นหอเดียวที่สร้างเป็นรูปตัว Z และห้องที่อยู่ตรงกับศาลพระภูมิเจอผีประจำ
    ว่ากันว่าภาควิชาจุลฯ วิด 1 ชั้น 7-8 ผีดุมากๆ เจอกันทุกรุ่น
    มีเรื่องเล่าขานของหอหญิง 3 และ 4 ว่า สร้างทับคุกเก่า เคยมีแม่บ้านหอ 4 เล่าว่า ตอนกลางคืนจะได้ยินเสียงคนเดินลากโซ่ตรวน
    หอเพชรรัตน์-หอเก่าแก่ในมหาวิทยาลัย ที่เล่าขานกันมาว่าครั้งหนึ่งมีนักศึกษานอนอยู่ในห้องพักคนเดียวได้ยินเสียง คนเดินมาช้าๆ จนเสียงนั้นเดินเข้ามาใกล้ๆ ห้องพัก นักศึกษาคนนั้นจึงมองลอดช่องตาข่ายมุ้งลวดออกไปดู ปรากฏว่าเห็นคนนุ่งโจงกระเบนสีแดงลากโซ่ตรวนเดินผ่านไป
    ว่ากันว่าที่ลานทรงพล เคยมีคนเห็นแบบว่ารำกันออกมาเลยทีเดียว
    หอทับแก้วหนึ่ง (หอชาย) มีคนได้ยินเสียงเหมือนคนเอาเหล็กมาลากประตูดังแกรกๆ แต่ว่ามันดังมาจากในตู้ !!!
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่