มหากาพย์ โศกนาฎกรรม เราสองสามคน

สวัสดีค่ะ เพื่อนๆชาว Pantip วันนี้มีปัญหาจะมาขอคำปรึกษาหน่อยย เพราะกำลังสับสนกับความรักตัวเองมาก

เรื่องมีอยู่ว่าาาา แย่
หลังจากที่เราเลิกกับแฟนพร้อมกับลาออกจากงานประจำและกลับมาอยู่บ้านที่ต่างจังหวัด และคิดว่าจะโสดแบบยาวๆสักปี จ๊นนนเกิดเหตุเจ้ากรรม เกิดความรักขึ้นมาอีกจนได้แบบไม่ทันตั้งตัว โดยเรื่องมีอยู่ว่า เราได้รู้จักกับผู้ชายคนนึง โดยบังเอิญซึ่งเค้าเป็นเจ้าของร้านที่เพื่อนที่เคยเรียนรุ่นเดียวกันทำงานอยุ่ และมีอายุมากกว่าเราถึง 13 ปี ด้วยความที่เราไม่เคยมีแฟนห่างกันมากขนาดนี้ จึงเกิดคำถามต่างๆนาๆ ขึ้นมาว่า มันคงเป็นไปไม่ได้แน่ๆ เราเข้ากันไม่ไดัแน่ๆ เพราะด้วยนิสัย จขกท. เป็นคนเอาแต่ใจมากกๆ
หลังจากที่ได้เจอกันด้วยความบังเอิญครั้งนั้น และทางเราก็ได้กลับมากรุงเทพอีกครั้งเพื่อเคลียรตัวเองเรื่องงาน อยุ่เกือบเดือน และเค้าก็ได้ขอ Id line จากเพื่อนเรามา ซึ่งพอคุยกันไปสักพักในเรื่องทั่วๆไป เค้าก็ขอเบอร์และโทรคุยกัน แต่เค้าเป็นฝ่ายโทรมาหาเราเองตลอด เรา/ม่เคยโทรหาเค้าเลย

หลังจากที่เราย้ายกลับมาอยุ่ที่บ้าน เราก็เริ่มคุยกันมากขึ้น มารับ-มาส่งที่บ้าน พาไปทานข้าวบ้าง ขับรถเล่นบ้าง ด้วยความที่เค้าเอาใจเราตลอด เราจึงเริ่มมีใจให้เค้ามากขึ้น จนวันนึงเค้าก็บอกว่าชอบเรานะ เราคบกันนะ อะไรประมาณนี้ เราก็ตอบตกลงไป และเค้าก็พาเราไปรู้จักเพื่อนของเค้า สังคมของเค้า ซึ่งเป็นผู้ใหญ่มีหน้ามีตา ในจังหวัด พาเราเปิดตัวมากขึ้น
จนเกิดเหตุที่ว่า ครั้งนั้นเค้าพาเราไปเจอพวกเพื่อนๆเค้า และบังเอิญว่าเราเมา และเค้าก็เมา ทำให้เกิดความสัมพันธ์ที่เกินเลยกัน โดยที่ไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิด แต่เพราะความเมา และทำใหัหัามความรุ้สึกตัวเองไม่ได้ พออีกวันเค้าก็ได้โทรมาขอโทษเรา และความสัมพันธ์ก็พัฒนามาเรื่อยๆ เราติดเค้ามากๆ เพราะเราเจอกันทุกวัน
หลังจากเสร็จงานที่ร้านก็มารับเราที่บ้านตลอด
และเราก็มีคำถามในใจที่สงสัยก็คือ อายุ 38 แล้ว ทำไมถึงไม่มีเมีย หรือ ภรรยา ไม่คิดจะมีครอบครัว แต่งงาน คือมันแปลกในความคิดเรา และวันนึงเราก็ได้ถามคำถามเหล่านี้กับเค้าไป เค้าก็เล่าให้ฟังว่า เค้าเคยจะแต่งงานกับแฟนที่คบกันมา 10 กว่าปีแต่ด้วยเพราะ พ่อเค้าเสียและเกิดปัญหาต่างๆเข้ามาจนเค้าต้องย้ายจากกรุงเทพและกลับมาอยุ่บ้านที่นี่กับแม่ จึงมีเหตุให้ต้องเลื่อนงานแต่งออกไปเรื่อยๆ จนมีเหตุให้เลิกกันในที่สุด และเค้าก็ใช้ชีวิต อยุ่ที่นี่คนเดียวมาตลอด อาจมีใครเข้ามาบ้างแต่ก็ไม่นานก็เลิกกันไป เราก็เลยมีคำถามไปอีกว่าเพราะอะไร  "เค้าเลยตอบกลับมาว่า เค้ามีเรื่องจะบอกเราเหมือนกันแต่ยังไม่ใช่ตอนนี้" อ้าววว เงิบสิค่ะ เรื่องไรฟร่ะ ??!
แต่เค้าพุดว่าเค้าไม่มีเมีย แบบจดทะเบียน หรือ ลูกซ่อนไว้แน่นอน อ้าววววว งานงอกสิเว้ยเห้ย


*และแลัววันนึง ขณะที่เคัากำลังขับรถไปส่งเราที่บัาน เค้าก็ได้เล่าเรื่องปันหาที่เค้ามีให้ฟัง นั่นก็คือ เค้ามีปัญหาคาราคาซัง อยุ่ หลังจากที่พ่อเค้าเสีย งานแต่งงานยกเลิก ต้องลาออกจากงานและกลับมาอยุ่บ้านกับแม่ และก็เลิกกับแฟน ก็มีเพื่อนคนนี้เข้ามาช่วยตลอด เป็นเพื่อนที่ทำงานที่เดียวกัน ทั้งเค้า แฟนเค้า และคนนี้ ก็เป็นคนที่คอยช่วยเหลือเค้าในช่วงที่เค้าแย่ๆในชีวิต จนความเป็นเพื่อน และเกิดความบังเอิญสถานะเปลี่ยนไปลึกซึ้งมากขึ้น ด้วยเหตุผลอะไรก็ตามแต่ แต่เค้าทั้งคู่ก็ไม่เคยใช้ชีวิตคุ่ด้วยกันเลย เพราะเค้าก็อยุ่ที่นี่กับแม่แค่ 2 คนมาตลอด แต่แค่เวลาพาแม่เค้าไปหาหมอที่กรุงเทพ ก็ต้องไปพักบ้าน ผญ คนนั้น เพราะเค้าอาสา เป้นธุระให้ ซึ่งแม่ของ ผช ก็ไม่ได้ชอบ ผญ คนนี้เลย เพราะเกิดจากเค้าที่ทำให้ ลูกชายเค้าไม่ได้แต่งงาน ซึ่งทางมองในแง่ร้ายๆของผู้หญิงก็คือ เราว่า ผญ คนนี้คงแอบชอบ ผช อยุ่ลึกๆ แต่ด้วยอาจเพราะเป็นแฟนของเพื่อน จนเค้ามีปัญหากัน ด้วยสาเหตุนึงมาจาก ผญ คนนี้ด้วย พอเลิกกัน นางก็คงเสียบโดยเอาความดีเข้าแลก (แอบคิดในแง่ร้าย 555)
เมื่อความสัมพันที่มันเกินเลย แต่มันไม่พัฒนา อาจเป็นเพราะ ผช ไม่ได้ตั้งใจรัก ผญ คนนี้ตั้งแต่แรก แต่ก็ยอมใจอ่อนเพราะเค้าเคยช่วยเหลือกัน มีความเป็นเพื่อนกันมาก
และด้วยความที่เค้า อยุ่ที่นี่คนเดียว ใช้ชีวิตคนเดียว และเป็น ผช ที่น่าตาดูภูมิฐาน มีการงาน และมีความมั่นคงในชีวิต มีน่ามีตาในสังคมจึงทำให้มีคนเข้ามาหาตลอด และเมื่อ ผช มีคนอื่นเข้ามา เค้าก็จะบอก ผญ ทุกคนที่เข้ามาตลอด ว่าเค้ามีปัญหาคาราคาซังิแบบนี้อยุ่  พออีกฝ่ายที่อยุ่กรุงเทพรุ้ ก็จะแสดงตัวตลอด โดยการ inbox มาทาง facebok บ้างละ อะไรบ้างละ เพื่อแสดงตน ว่า ผช คนนนี้ไม่ได้อยุ่คนเดียวจริงๆ ยังมีเค้าอยุ่อีกคน อะไรประมานนั้น จน ผญ ทางฝั่งนี้ ทนไม่ได้บ้าง รับไม่ได้บ้าง หรือเข้ากันไม่ได้บ้างก็ต้องเลิกรากันไป โดยที่ฝ่ายชายก็พุดว่า เค้ายังไม่ทันได้ทำอะไรเลย จะให้เค้าบอก ผญ คนนั้นว่าเราเลิกยุ่งกันนะ ไม่ต้องโทรมาแล้วนะ เค้าบอกเค้าทำไม่ได้หรอก จะให้ตัดความสัมพันไปแบบดื้อๆแบบนั้น เค้าทำไม่ได้ในทันที เพราะเค้าบอกเค้าตัองใช้เวลา ? นานแค่ไหนอะเหรอ เค้าก็ตอบไม่ได้ (เราฟังดูแล้วคิดในใจ เห็นแก่ตัวจัง คือไม่เข้าใจอย่างนึงว่าทำไม ไม่เคลียรตัวเองก่อนที่จะปล่อยให้คนอื่นเข้ามา ? ) และเคัาก็เล่าๆ ทุกอย่างให้เราฟัง โดยให้เหตุผลว่า ไม่อยากโกหก โอเค ดูดีมาก สุภาพบุรุษ สึดๆ 55555
แรกกๆเราก็เข้าใจนะ เราเลยตอบไปว่า โอเค เราเข้าใจคุณนะ รุ้จักกันมาตั้ง 13 ปี จะให้มาเลิกคุยกันเพราะเราแค่ไม่กี่เดือน คงเป็นไปไม่ได้ จบไป 1 ครั้ง

และต่อมาเค้าก็พาแม่ไปหาหมอ ที่กรุงเทพ โดยบอกว่า พักกับพี่ชายที่คอนโด และพี่ไม่ว่างคุยโทสับกับเราตลอดนะ เพราะอาจจะยุ่งเรื่องแม่ และตอนกลางคืนคงคุยด้วยไม่ได้เพราะต้องนอนกับแม่ โอเค เข้าใจค่ะ ด้วยความเชื่อใจก็ ผ่านไปด้วยดี

และหลังจากนั้นเค้าก็ขึ้นไปกรุงเทพ เป็นครั้งที่ 2 ที่ริจักกันมา โดยให้เหตุผลที่ว่า ต้องไปทำฟัน ไอเราก็เห้ยยย !!!! ทำฟันต้องแหกตาไปถึง กรุงเทพเลยเหรอวะ รพ.เอกชนดีๆที่นี่ก็มีงง สิ งง เอาวะ ทำฟันก็ทำฟัน ตังเยอะก็ไปละกัน บินไปบินมา และในช่วงเวลานั้น เราก็ไปเที่ยวกับเพื่อนที่ ตจว ซึ่งรอบนี้ที่เค้าขึ้นไปบังเอิญตรงกับวันเกิดเค้าพอดิบพอดี และเค้าก็ได้บอกเราว่า ไปพักกับพี่ชายอีกตามเคย และหลังจากคืนนั้นเรากลับจากไปเที่ยวกับเพื่อนมาประมานตี 2 เราก็ลองทักเค้าทางไลน์ ไปดู ซึ่งปกติเค้าไม่เคยอ่านเลย จะมาอ่านอีกทีตอนเช้าเวลาตื่น แต่นี่เห้ยยยยยย อมยิ้ม35 เปิดอ่าน คือไรฟร่ะ เราก็พิมไปอีก ก็อ่านอีกๆ และก็ไม่ตอบ ซึ่งปกติถ้าเค้าอ่านก็จะตอบตลอด และประโยคสุดท้ายที่ส่งไปคือ ด้วยความโมโห เลยพิมไปว่า อ่านแล้วทำไมไม่ตอบ ? ตอบดิ พิมไปตั้งเยอะ ก็อ่านนะ แต่ไม่ตอบอีก และก็ตอบมาอีกที ตอน 9 โมงเช้า ว่าตีนมา ฉี่ เลยไมีได้ตอบ เห้ยยยย ! ตอบง่ายไปปะวะ ?
และพอตกค่ำๆ เค้าก็โทรมาหาเรา ตามปกติ ก็บอกว่าอย่คอนโดพี่ชายิวันนี้ไม่ได้ออกไปไหน ก็คุยกันไปสักพัก จุ่ๆก็บอกว่า แค่นี้ก่อนนะ ละวางสายไปดื้อๆ คือไรหว๊าา ?
เราก็รีบโทรกลับไปทันที เค้าก็ยังไม่รับนะ ประมาน 3-4 สาย และก็โทรกลับมา ด้วยประโยคแรกที่ถามเราคือ ฝนตกไหม ?? เห้ยยยยยย จุ่ๆมาถามฝนตกไหม คือไร พู๊ด !!?
แล้วเมื่อกี้วางไปทำไม ก็ตอบว่า น้ำล้น ไปปิดน้ำ 555555 คือตลกมาก ตอบมาได้ไง เราก็เรีมใจไม่ดีละ ก็เริ่มคิดว่าเค้าต้องไปอยุ่กับ ผญ คนนั้นแน่ๆ และเหมือนว่าการสนทนาครั้งนี้เค้าก็เริ่มพูดเบาๆเหมือนกระซิบ หรือไม่ก็เดินมาคุยอีกห้อง 55555 จินตนาการฉันบรรเจิดมาก 55555 ต้องใช่แน่ๆ ละก็ได้วาง สายไป เราไม่พอใจมาก และคืนนั้นเราก็ไม่ได้รับโทรสับเค้า จนอีกวันเค้ากลับ และแล้ว ความจริงก็ปรากฏ ขณะนั่งทานข้าวกัน
เค้าก็พุดขึ้นมาว่า เค้าบอก ผญ คนนั้นเรื่องของเราแล้วนะ
เราคิดในใจ โกหก ขัดๆ ผญ จับได้ตอนฉันไลน์ไปกลางดึกคืนนั้นแน่ๆ คิดในใจนะเค้าไม่มีทางจุ่ๆละเดินไปบอกแน่ๆ
เค้าก็ยืนยัน ว่าเค้าเป็นฝ่ายบอกเอง และเราก็ยิงคำถาม จนเค้าจนมุม และก็ยอมรับว่า ไปนอนที่บ้าน ผญ คนนั้น รวมถึงครั้งที่พาแม่ไปหาหมอด้วย เอาละโว้ยยยยย น้ำตาแตก !!
เกิดคำถามในใจคือ โกหกไมฟร่ะ ! เราก็เหวี่ยงเลยจ้า คุมตัวเองไม่อยุ่ ร้องไห้เหมือนคนบ้า !! 5555
และเคัาก็เล่าอีกว่า ผญ คนนั้นโทรมาว่าใครจะเคลียร จะให้ ฝ่าย ผญ. เคลียร หรือ ฝ่าย ชาย จะ เคลียรเอง และมีประโยคเด็ด ที่ ฝ่ายนุ้น พุดว่า ต้องมีคนพังกันไปข้างนึง

พาเรารุ้ก็เลยไปโพสใน Fb โดยที่เปิด Public ไว้และก็พิมประโยคนี้ไปว่า อยากรุ้เหมือนกันว่าใครจะพัง ! และ ฝั่งทางนุ้นไปหา fb เรามาจากไหนไม่รุ้ ก็เข้ามาส่อง และก็ไปบอก ผช ว่าเราด่าเค้า เอ้าาาาาา งง สิ งง ผช ก็โทรมาหาเราใหญ่เลยว่าทำไมต้องไปโพสแบบนั้นนนเค้าอุตส่าเล่าให้ฟัง เอ้าาา กรูผิด ใช่ไหมเนี่ย ??
หลังจากเรืองนี้จบไป เราถามว่า จะเคลียรปัญหานี้จบเมื่อไหร่ เค้าบอกตอบไม่ได้  เห้ยยยย กรูต้องรอพวกเมิง 2 คน ใช่มะ ? และเค้าก็ให้คำตอบไม่ได้ว่าจะ เคลียรได้ไหม และใช้เวลานานแค่ไหน เอ้าเวน !!! แล้วคือ ร่ะ ?? การที่คุณโกหกเรา ไปอยุ่ด้วนกัน นอนด้วยคือ คือเราต้องรับได้ใช่ไหม เนี่ย ????????? WTF !
โอเค รับได้ แบบ งง ๆ จบไป จนวันนึง เราแอบ check โทสับด้วยความบังเอิญ ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ โทสับอยุ่ในมือ มันห้ามไม่ได้ ก็เข้าไปดูใน Line เค้าก็คุยกัน
โดยที่ ฝ่าย ญ พิมมาว่า ที่เหนเค้าคุยกับเราในห้อง ไม่ได้ตั้งใแอบฟังจริงๆ ละก็ประมานว่าขอโทษที่แอบดูโทรสับ ละก็เป็นพวกรุปที่ ผญ ถ่ายในจากในห้องเค้าและส่งมาให้ ผช ยิ่งทำให้คิดว่านอนห้องเดียวกัน ของเคยค้า ม้าเคยขี่ ต้องใช้แน่ๆเลย และมาสะดุด ด้วยประโยคที่ว่า เรารุ้จักกันมา 13 ปี ยังไงเราก็ขาดกันไม่ได้หรอก !

อกอีแป้นจะแตก !!!
แบทจะหมดแล้ว เล่ามายาวมาก น้ำล้วนๆ แต่อึดอัดใจจริงๆ อยากขอความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ หน่อยค่ะ
ยังไม่จบนะค่ะ เด่วมาต่ออีก มหากาพย์ จริงๆ เรื่องความรักนี่ ขอไม่มีได้ไหม !!!

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่