ถามคนเคย,และอายุ27-32ทำอะไรเป็นชิ้นแล้วบ้าง?

1. มีธุรกิจของตัวเองยังคะ(เล่าได้ไหมจะได้เป็นแรงบันดาลใจ ว่าเริ่มยังไง คิดอย่างไร ทำไม) ทำอะไรหรอบอกได้ไหมหรือทำงานกินเงินเดือนบ. ,ราชการ
2. มีแฟน แต่งงาน มีลูกยังคะ เป็นม่ายกันยัง แล้วจะแต่งอีกป่าว (เพื่อนฉันเป็นซิงเกิ้ลมัมแต่ชอบเป็นเมียน้อย 3วันอกหัก 4วันเพ้อรัก)
3. อายุมาถึงตอนนี้ คิดว่าน่าจะย้อนไปทำอะไรให้ดีที่สุด หรือน่าจะเริ่มทำแล้วบ้าง
4. เล่าชีวิตที่แย่ที่สุด กับ ดีที่สุด ช่วงเวลาไหน อะไรคือจุดเปลี่ยน.


ไม่มีไรล่ะค่ะ เอาเป็นว่าอยากเล่า บอก อะไร เล่าต่อเลย  จะฟัง อ่านทุกความเห็นตลอดเลยค่ะ พอดีตอนนี้ จขกท. ไร้ทิศทางเดิน งงว่าทำไรอยู่. อยากรุ้ความคิด เผื่อตัวเองจะเริ่มทำอะไรบ้าง.

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
เราอายุ 30 ปีนะ
ทำงานบัญชี เงินเดือนที่ได้รับ อยู่ที่ประมาณ 24,000 ต่อเดือน
เสาร์ -ทิตย์ ตอนเย็น เราจะขาย ร่มที่ตลาดนัด เป็นแผง ขายร่ม ทุกอย่าง มิ๊กกี้เม๊า /คิตตี้/แองกรี้เบริด ฯลฯ

วันไหนที่เราเลิกงานไว ดูทีวีตอน  2 ทุ่ม เราจะนั่งตัดถุงขาย ถึงการบินไทยอะคะ เราไปรับมาเป็นกล่องๆ
จากบริษัท ที่ผลิตถุงแบบนี้ แต่เค้ายังไม่ได้ ตัดเป็นหูหิ้ว เราจะเอามานั่งตัดเอง แล้วก็นับ 32 ใบ 25 บาท

นั่งตัดเป็นกล่องๆๆๆ เยอะมากก แล้วก็ตอนเย็นหลังเลิกงาน เอาไปส่งตามตามนัดที่เค้าต้องการถุงพวกการบินไทย
ไว้ใส่เสื้อผ้าขาย เดินส่งตามล๊อก หลังเลิกงานทุกวัน

เงินขายของ และส่งถุงเราจะได้กำไรประมาณ เดือนละ 6-7พันบาท เราใช้ผ่อนรถ จนทุกวันนี้เราผ่อนรถหมดละ
แล้วเราก็มาซื้อบ้าน 2หลัง ราคา 6 แสน ทั้งสองหลัง เราผ่อนบ้าน ทั้งสอง เดือนละ 3,500 บาท 2หลังก็ 7พัน

แต่เราปล่อยเค้าเช่า 1หลัง เราอยู่เองอีก 1หลัง
ส่วนเงินเดือนก็จะให้แม่ใช้เดือนละ 6,000 ทุกเดือน
เราไม่รู้นะเราขายของมา แบบนี้  7ปีละ

เพื่อนๆๆ ทุกคนจะบอกว่าเราขยัน แต่เราว่าเราทำมันจนเป็นนิสัย ไม่ค่อยมีเวลาว่าง ในวันทำงาน
แต่เวลาเที่ยวเราก็ไปเที่ยวนะ เชียงใหม่ /ภูเก็ต/กระบี่
เราไปมาหมดแล้วเหมือนกัน
ความคิดเห็นที่ 21
ขอเล่ามั่งนะคะ จะช่วยได้รึเปล่าไม่รู้ อายุ 28 ปี เริ่มต้นจากการเป็นพนักงานกราฟฟิกดีไซน์เนอร์ ออกแบบเสื้อผ้าและลายสกรีน เงินเดือน 9,000 บาท เมื่อ 4 ปีที่แล้ว  เงินเดือนเพิ่มปีละ 1,000 ถ้าอยู่แบบเดิมๆเงินเดือนตอนนี้น่าจะอยู่ที่ 13,000 บาท

รู้สึกตัวเองว่าไม่ได้รับโอกาสในการแสดงความสามารถ คนไม่เชื่อว่าเราทำงานสำคัญได้ แต่ตัวเราเชื่อมั่นในความสามารถตัวเองมาตลอด ไม่ใช่หลงตัวเองนะ แต่แค่มีไอเดียที่คิดอยากจะทำอยู่ในหัวตลอด จากตอนแรกรอโอกาสให้คนหยิบยื่นมาให้ รอให้เจ้านายเลื่อนตำแหน่งไปทำงานที่สำคัญๆ กลับกลายเป็นว่าที่นี่มองค่าของคนอยู่ที่คนของใคร เลื่อนตำแหน่งพนักงานจากการฟังลมปากของคนสนิท  เลยไม่อยากรอโอกาส ต้องสร้างโอกาสให้ตัวเอง

เริ่มสร้างธุรกิจด้วยการติดต่อโรงงานเล็กๆแต่ฝีมือดีแห่งหนึ่งให้ผลิตเสื้อยืดมาทำขาย ลงทุนไป 30,000 บาท ซึ่งเยอะมากสำหรับเราในตอนนั้น ผลก็คือ เจ๊งค่ะ ขายไม่ได้ เพราะไม่มีทุนในการทำการตลาด เอาเงินไปลงกับสินค้าหมด แถมเงินนั้นก็กดบัตรเฟิร์สช๊อยส์มาทำ จนถึงตอนนี้ สินค้าเหล่านั้นยังมีเหลือเป็นที่ระลึกอยู่เลย

แต่จากการเจ๊งในครั้งนั้น เราไม่เสียทั้งหมด เราได้ความรู้ ได้รู้จักซัพพลายเออร์เกี่ยวกับงานการ์เม้นท์ต่างๆ มีการแนะนำจากคู่ค้าให้รู้จักอีกหลายคน ได้ประสบการณ์ในการบริหารงาน บริหารเงิน เรียนรู้ขั้นตอนทุกอย่าง เราเริ่มคิดว่า ถ้าไม่มีเงินลงทุนเอง ก็ให้คนอื่นลงทุนสิ เรามีไอเดีย แต่ไม่มีเงิน ก็ขายไอเดีย ออกแบบแบรนด์ให้ชาวบ้าน รับจ้างออกแบบ ตั้งแต่แบบเสื้อผ้า ลายผ้า ป้ายทอ ยันโลโก้แบรนด์ ลายสกรีน เทคนิคการพิมพ์และตกแต่งเสื้อผ้า ป้าย hangtag จนตัดเย็บออกมาเป็นเสื้อผ้า 1 ชุด  บริการแบบครบวงจร one stop service คือประกาศง่ายๆเลยว่ารับทำแบรนด์เสื้อผ้าของคุณเอง

ก็ในเมื่อเรารู้จักซัพต่างๆแล้ว เหลือแค่แบบในหัวเราที่เราต้องคิดงานให้ลูกค้า  เลยเปิดเพจรับผลิตเสื้อผ้า ทำแบรนด์เสื้อผ้า เริ่มต้นจากการคุยงานกะลูกค้าถึงสิ่งที่ลูกค้าต้องการออกแบบงานเป็นภาพ drawing ให้ลูกค้าดู คุยรายละเอียดทุกอย่าง จัดทำใบเสนอราคา ขอรับเงินมัดจำ50% (ย้ำว่า 50% เพื่อป้องกันการเข้าเนื้อถ้าเกิดอะไรผิดพลาด) หลังจากลูกค้าโอนเงินก็เริ่มดำเนินการ เราออกแบบอย่างเดียว ที่เหลือติดต่อให้คู่ค้าทำทั้งหมด ต้องบริหารเงินดีๆ บริหารงานดีๆ พูดให้เป็น คุยให้ได้ รองรับอารมณ์เหวี่ยงของลูกค้า งานมีปัญหาต้องหาทางเอาตัวรอดให้ได้

ออเดอร์แรกได้งานรวมเป็นเงิน 130,000 บาท ตอนลูกค้ามัดจำมา 50% ดีใจมากๆ กรี๊ดกร๊าดกับแม่ กำไรประมาณ 40% ระยะเวลาในการดำเนินการประมาณ 2-3เดือน ทำให้รายได้เราเพิ่มขึ้นประมาณ 2หมื่นบาทต่อเดือน แรกๆเราทำงานออฟฟิศที่เดิม อาศัยให้แม่ช่วยขับรถวิ่งส่งของให้เวลาเราทำงาน เราเริ่มโพสต์เยอะขึ้นเรื่อยๆ ด้วยความเป็นกราฟฟิกอยู่แล้ว เลยทำภาพโฆษณาของตัวเองโพสต์ทุกวันๆๆๆๆ มันเลยดูน่าเชื่อถือ ทั้งที่เราไม่มีบริษัทเป็นของตัวเอง จนได้งานทั้งจากลูกค้าชาวลาว และ อังกฤษ ที่อยู่ในเมืองไทย เค้าสั่งผลิตกะเราแล้วเค้าก็ส่งไปขายต่างประเทศ  แต่พองานเข้ามาเยอะสติแตกเหมือนกัน รับมือลูกค้าไม่ไหว ลูกค้าต่อว่าแรงๆ ร้องไห้ไปหลายครั้ง อยากเลิกทำ สุดท้ายก็ได้แม่และน้องมาช่วยกันทำ เช่นช่วยเช็คของ ช่วยตอบเพจ ช่วยแพ็คของใส่ลัง ช่วยส่งของ จากเงินเดือนหมื่นนิดๆ เริ่มมีรายได้หลักแสนต่อเดือน เดือนไหนขายดีมีรายได้ถึง 4แสน มีรถขับ เปิดบริษัทเล็กๆเป็นของตัวเอง  

ตอนนี้เรายังไม่รวยนะคะ ยังต้องดิ้นรน หยุดไม่ได้ แต่เราอยากให้ข้อคิดว่า เราไม่ได้มีต้นทุนชีวิตสูงเหมือนคนอื่น และ คนเราโอกาสไม่เท่ากัน การรอแต่จะให้คนหยิบยื่นโอกาสให้ บางทีโอกาสมันก็มาช้าเหลือเกิน เราต้องสร้างโอกาสให้ตัวเองค่ะ เราอาจจะโชคดีด้วย แต่โชคมันส่วนนึงค่ะ อย่างน้อยเราก็ภูมิใจที่เราไม่ใช่ลูกคนรวย แม่เป็นแม่ค้าขายของ เรียนจบราชภัฎ ต้นทุนไม่มี เราเริ่มต้นจาก 0 จริงๆ แต่ก็ดิ้นรนจนมาถึงทุกวันนี้ได้

ปล. แต่ว่าก่อนเปิดบริษัทก็ต้องศึกษาเรื่องภาษีเยอะๆค่ะ เพราะไม่ได้เรียนมา เรียนศิลป์มา เป็นเด็กอาร์ต แรกๆปวดหัวมากค่ะ ต้องจ้างเค้าทำบัญชี เรียนรู้อยู่นานกว่าจะเข้าที่  ยังไงก็เอาใจช่วยทุกคนนะคะ
ความคิดเห็นที่ 43
1. มีธุรกิจของตัวเองยังคะ(เล่าได้ไหมจะได้เป็นแรงบันดาลใจ ว่าเริ่มยังไง คิดอย่างไร ทำไม) ทำอะไรหรอบอกได้ไหมหรือทำงานกินเงินเดือนบ. ,ราชการ

- มีกิจการส่วนตัว 2 บริษัทแล้วครับ สินค้าวางขายทั่วประเทศตามห้าง และเฟรนไซด์ กำลังเริ่มลุยด้านออนไลน์
เริ่มทำธุรกิจตอนอายุ 17 ครับ พิษต้มยำกุ้งทำให้ที่บ้าน อยู่ในวิกฤต จะล้มละลายครับ เลยต้องหยุดเรียนมาลุยงานเต็มตัว
ตอนเริ่มธุรกิจไม่มีแรงบันดาลใจเลยครับ มีแต่การดิ้นรน

2. มีแฟน แต่งงาน มีลูกยังคะ เป็นม่ายกันยัง แล้วจะแต่งอีกป่าว (เพื่อนฉันเป็นซิงเกิ้ลมัมแต่ชอบเป็นเมียน้อย 3วันอกหัก 4วันเพ้อรัก)

-โสดครับ ทำงาน 7/24/365 ครับ เพราะเคยชินตั้งแต่สมัยดิ้นรนแล้วครับ

3. อายุมาถึงตอนนี้ คิดว่าน่าจะย้อนไปทำอะไรให้ดีที่สุด หรือน่าจะเริ่มทำแล้วบ้าง

ย้อนกลับไปได้ผมจะไม่เบรกงานตอนที่ธุรกิจอยู่ตัวแล้วไปเรียนมหาลัยจนจบครับ
ทุกวันนี้รู้เลย 4-5 ปี ที่เสียไปในมหาลัยทำให้ผมตามคู่แข่งอยู่ 1 ก้าว จากที่เคยครองตลาด

4. เล่าชีวิตที่แย่ที่สุด กับ ดีที่สุด ช่วงเวลาไหน อะไรคือจุดเปลี่ยน.
ช่วงที่แย่ที่สุดจำได้ทุกวินาทีเลยครับสิบกว่าปีก่อน ขับรถไปหาลูกค้าขึ้นทางด่วนเป็นเงินก้อนสุดท้าย
หากวันนั้นปิดการขายไม่ได้ไม่มีแม้ข้าวกิน  สรุปปิดได้ครับได้เช็คมา สองล้านแปดแสนบาท
ตอนกลับรถน้ำมันหมดไม่มีเงินเติมน้ำมัน ต้องทิ้งรถไว้ที่จอดรถแล้วนั่งรถเมย์กลับบ้าน พอเช็คขึ้นเงินแล้ว
กลับมาเอารถครับ นึกถึงวินาทีนั้นทุกครั้ง น้ำตาไหลทุกครั้งครับ

ดีที่สุดเหรอ ทุกวันนี้ดีขึ้นทุกวันครับ และวันพรุ่งนี้จะดีกว่าวันนี้อีกครับ
สิ่งที่เป็นจุดเปลี่ยนคือแรงใจครับ ไม่ว่าลำบากแค่ไหน แย่แค่ไหนอย่ายอมแพ้ครับ
ถ้าเราผ่านเรื่องแย่มากๆๆๆ มาแล้วเรื่องแย่อื่นๆมันก็แค่เรื่องเล็กๆครับ
ความคิดเห็นที่ 8
.
ความคิดเห็นที่ 16
อายุ 27 ปี ทำงานเอกชน ไม่มีอะไรสักอย่างเป็นของตัวเอง ชอบดูกระทู้คนใน Pantip โพสเงินเดือนตัวเองที่สูงจนผมรู้สึกว่า ประเทศเราทำไมบอกมีคนจนเยอะ ไม่เข้าใจ เพี้ยนไฟลุก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่