สวัสดีค่ะ จริงๆเราเป็นนักแบกเป้เที่ยวเองตัวยงเลยค่ะ แต่เพิ่งเคยเขียนกระทู้ที่พันทิปครั้งแรกนะคะ ปกติจะแอบมาส่องๆ กระทู้ของคนอื่นอยู่บ่อยๆ วันนี้มีโอกาสเลยอยากจะมาแบ่งปันประสบการณ์ไปเที่ยวเลห์เมื่อเดือนที่แล้วค่ะ
ต้องบอกก่อนเลยว่า ส่วนตัวเคยไปเที่ยวอินเดียมาหลายรอบแล้วเหมือนกัน ชอบประเทศนี้มาก มีเอกลักษณ์และวัฒนธรรมเป็นของตัวเองมาก เราเคยไปอินเดียทางใต้มาหมดแล้ว และทางเหนือเมื่อต้นปีก็ไป จัมมู-แคชเมียร์-เดลลี มาค่ะ แต่ต้องยองรับจริงๆ ว่า ถูกใจเลห์ที่สุด เพราะคนที่นี่ดีมาก บ้านเมืองไม่สกปรกเหมือนที่อื่น เพียงแต่ฝุ่นเยอะไปหน่อย ถ้าเพื่อนๆสนใจจะมาเที่ยว แนะนำให้นำหน้ากากปิดจมูกมาด้วยนะคะ
พอดีทริปครั้งนี้เราตัดสินใจก่อนเดินทางแค่ 3 วัน ค่อนข้างจะกระทันหันนิดๆ ค่าตั๋วเครื่องบินเลยแพงเกินกว่าที่ควรจะเป็น (แม้จะเช็คทุกสายการบินแล้วก็ตาม) บางสายการบินก็ที่นั่งเต็มหมดค่ะ ลำบากมากๆ แต่สุดท้ายก็ได้ไปค่ะ คุ้มค่ามากจริงๆ [เราเดินทางโดยเครื่องบินในประเทศด้วยนะคะ จากเดลลี - เลห์ เพราะดูแล้วนั่งรถไปไม่ไหวค่ะ หลายชั่วโมงมากๆ]
รายจ่ายทั้งหมดของเราไป 2 คน ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน ค่าใช้จ่ายต่อคนประมาณ 20,000 ค่ะ 8 วัน
สำหรับการเตรียมตัวไปที่นี่ ต้องกินยาไดอาม็อกซ์ นะคะ เพื่อป้องกันการแพ้ความสูง
*จุดนี้สำคัญมาก เพราะเราไปถึง ร่างการปรับสภาพไม่ทัน ทั้งเลือดกำเดาไหล ปวดหัว อ้วกแตก คิดไปแล้วว่า ตายละนี่แค่วันแรกเองนะ ยังทรมานขนาดนี้ นี่ชั้นมาเที่ยวหรือมาทรมานตัวเอง แต่สุดท้าย วันที่สองร่างกายดีขึ้นมากค่ะ เริ่มปรับสภาพจนชินแล้ว แต่ยังเดินไวๆ มากไม่ได้ ไม่งั้นจะหายใจไม่ทันค่ะ
ช่วงนี้เป็นหน้าร้อนของที่เลห์ค่ะ อากาศเลยไม่หนาวมาก ตอนกลางวัน ร้อน แต่มีลมพัดเย็นๆ ตลอด ตอนกลางคืนหนาวนิดๆค่ะ [คุยกับคนท้องถิ่น เค้าบอกมาว่า ฤดูหนาวที่นี่ เลห์จะกลายเป็นเมืองร้างเลยค่ะ ผู้คนออกมาทำงานไม่ได้ ต้องเก็บอาหารไว้ตุนในบ้าน หิมะสูงประมาณ 30-50 cm]
วันแรก เดินทางจากกรุงเทพไปเดลลี โดยสาบการบิน indigo [พยายามจะซื้อตั๋วจาก Jet ทีแรก เพราะตั๋วถูกกว่า แต่กดจองไม่ทัน เสียดายมากๆ] และต่อเครื่องจากเดลลีไปเลห์ โดยสายการบิน GoAir ค่ะ หมดเวลาไปครึ่งวันได้ พอไปถึงไม่ได้ไปเเที่ยวไหนหรอกค่ะ เพราะหมดแรง ร่างการอ่อนเพลียเฉียบพลัน รีบหาแท็กซี่ไปโรงแรมที่จองไว้ทาง Agoda โดยด่วน วันนี้หมดไปกับการนอนพักค่ะ พอเย็นๆ ก้ออกมาเดินเล่น หาเช่ารถเพื่อเตรีมเที่ยวในวันต่อไปค่ะ
วันที่ 2 ตามสเต็ป Shey Thiksey Hemis ต่อด้วย Leh Palace จ้า
ตอนเย็นกลับมาที่เลห์ แล้วนั่งรถเล่นรอบๆ เมืองค่ะ
**เดี๋ยวมาเล่าต่อนะคะ แปปนึงค่ะ
***รูปที่ลงเป็นของเพื่อนนะคะ บอกเค้าว่าจะมาเขียนกระทู้แนะนำคนไทยให้ไปเที่ยว เค้าเลยส่งรูปมาให้เยอะแยะเลยค่ะ ^^
แบกเป้ไม่ง้อทัวร์ สไตล์ สาว สาว สาว เที่ยวเมืองเลห์ ลาดักส์ จ้า
ต้องบอกก่อนเลยว่า ส่วนตัวเคยไปเที่ยวอินเดียมาหลายรอบแล้วเหมือนกัน ชอบประเทศนี้มาก มีเอกลักษณ์และวัฒนธรรมเป็นของตัวเองมาก เราเคยไปอินเดียทางใต้มาหมดแล้ว และทางเหนือเมื่อต้นปีก็ไป จัมมู-แคชเมียร์-เดลลี มาค่ะ แต่ต้องยองรับจริงๆ ว่า ถูกใจเลห์ที่สุด เพราะคนที่นี่ดีมาก บ้านเมืองไม่สกปรกเหมือนที่อื่น เพียงแต่ฝุ่นเยอะไปหน่อย ถ้าเพื่อนๆสนใจจะมาเที่ยว แนะนำให้นำหน้ากากปิดจมูกมาด้วยนะคะ
พอดีทริปครั้งนี้เราตัดสินใจก่อนเดินทางแค่ 3 วัน ค่อนข้างจะกระทันหันนิดๆ ค่าตั๋วเครื่องบินเลยแพงเกินกว่าที่ควรจะเป็น (แม้จะเช็คทุกสายการบินแล้วก็ตาม) บางสายการบินก็ที่นั่งเต็มหมดค่ะ ลำบากมากๆ แต่สุดท้ายก็ได้ไปค่ะ คุ้มค่ามากจริงๆ [เราเดินทางโดยเครื่องบินในประเทศด้วยนะคะ จากเดลลี - เลห์ เพราะดูแล้วนั่งรถไปไม่ไหวค่ะ หลายชั่วโมงมากๆ]
รายจ่ายทั้งหมดของเราไป 2 คน ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน ค่าใช้จ่ายต่อคนประมาณ 20,000 ค่ะ 8 วัน
สำหรับการเตรียมตัวไปที่นี่ ต้องกินยาไดอาม็อกซ์ นะคะ เพื่อป้องกันการแพ้ความสูง
*จุดนี้สำคัญมาก เพราะเราไปถึง ร่างการปรับสภาพไม่ทัน ทั้งเลือดกำเดาไหล ปวดหัว อ้วกแตก คิดไปแล้วว่า ตายละนี่แค่วันแรกเองนะ ยังทรมานขนาดนี้ นี่ชั้นมาเที่ยวหรือมาทรมานตัวเอง แต่สุดท้าย วันที่สองร่างกายดีขึ้นมากค่ะ เริ่มปรับสภาพจนชินแล้ว แต่ยังเดินไวๆ มากไม่ได้ ไม่งั้นจะหายใจไม่ทันค่ะ
ช่วงนี้เป็นหน้าร้อนของที่เลห์ค่ะ อากาศเลยไม่หนาวมาก ตอนกลางวัน ร้อน แต่มีลมพัดเย็นๆ ตลอด ตอนกลางคืนหนาวนิดๆค่ะ [คุยกับคนท้องถิ่น เค้าบอกมาว่า ฤดูหนาวที่นี่ เลห์จะกลายเป็นเมืองร้างเลยค่ะ ผู้คนออกมาทำงานไม่ได้ ต้องเก็บอาหารไว้ตุนในบ้าน หิมะสูงประมาณ 30-50 cm]
วันแรก เดินทางจากกรุงเทพไปเดลลี โดยสาบการบิน indigo [พยายามจะซื้อตั๋วจาก Jet ทีแรก เพราะตั๋วถูกกว่า แต่กดจองไม่ทัน เสียดายมากๆ] และต่อเครื่องจากเดลลีไปเลห์ โดยสายการบิน GoAir ค่ะ หมดเวลาไปครึ่งวันได้ พอไปถึงไม่ได้ไปเเที่ยวไหนหรอกค่ะ เพราะหมดแรง ร่างการอ่อนเพลียเฉียบพลัน รีบหาแท็กซี่ไปโรงแรมที่จองไว้ทาง Agoda โดยด่วน วันนี้หมดไปกับการนอนพักค่ะ พอเย็นๆ ก้ออกมาเดินเล่น หาเช่ารถเพื่อเตรีมเที่ยวในวันต่อไปค่ะ
วันที่ 2 ตามสเต็ป Shey Thiksey Hemis ต่อด้วย Leh Palace จ้า
ตอนเย็นกลับมาที่เลห์ แล้วนั่งรถเล่นรอบๆ เมืองค่ะ
**เดี๋ยวมาเล่าต่อนะคะ แปปนึงค่ะ
***รูปที่ลงเป็นของเพื่อนนะคะ บอกเค้าว่าจะมาเขียนกระทู้แนะนำคนไทยให้ไปเที่ยว เค้าเลยส่งรูปมาให้เยอะแยะเลยค่ะ ^^