มุมมองด้านนิติศาสตร์ เกี่ยวกับกรณีคลอดติดไหล่

จากกระทู้
http://pantip.com/topic/32401914/
คลอดติดไหล่ พยาบาลจงตามแพทย์อย่างไวและปล่อยให้ติดอยู่อย่างนั้น เป็นอันถูกต้อง งั้นหรือ? กรณีศึกษา รพ.น้ำพอง

ขออนุญาตแท็ก
ห้อง ชานเรือน เพราะ เกี่ยวกับการคลอดลูก
ห้อง สวนลุม เพราะ เป็นเรื่องเกี่ยวกับแพทย์ หมอๆอยู่สวนลุมเยอะ
ห้อง ศาลาประชาคม เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับกฏหมาย
ห้อง สยาม เพราะ เป็นเรื่องในชีวิตประจำวันที่ควรรู้
ห้อง โต๊ะเครื่องแป้ง เพราะ เป็นเรื่องเกี่ยวกับผู้หญิง ผู้หญิงเยอะ


เราขออนุญาตนำความเห็นทางนิติศาสตร์มาอธิบายบ้าง
ขออนุญาตคุณ สมาชิกหมายเลข 772984
ความเห็นที่ 31 ในกระทู้นั้น ซึ่งสามารถอธิบายได้เข้าใจ

ผมในฐานะทนายขอวิเคราะห์ดังนี้
1. ประเด็นสำคัญที่จำเลยแพ้อยู่ที่ท่อนนี้ "เมื่อพิจารณาคำเบิกความของจำเลยที่ 1 ประกอบกับรายงานบทวิชาฟื้นฟูการคลอดติดไหล่ จึงฟังได้ว่า ...ต้องใช้แพทย์เป็นผู้ทำคลอดเท่านั้น" ท่อนนี้สำคัญมากเพราะพยานนี้ จำเลยเป็นคนเรียกมาเอง รายงานนั้นจำเลยก็เป็นคนส่ง แต่กลับมีข้อความผูกมัดตัวเองแบบนี้ ศาลไม่ใช่หมอครับ ไม่มีทางที่เค้าจะรู้เรื่องทางการแพทย์ เค้าก็ฟังตามที่พยานบุคคล พยานเอกสารบอกเค้าน่ะแหละ ถ้าจำเลยจะนำสืบข้อมูลที่มัดตัวเองแบบนี้ จำเลยต้องมีคำตอบต่อไปว่า เพราะอะไรจำเลยที่ไม่ใช่แพทย์ถึงต้องลงมือทำคลอดด้วยตนเอง
2. "แม้ภาวะคลอดติดไหล่จะต้องรีบแก้ไขเพื่อมิให้เกิดอันตรายต่อแม่และทารก แต่ก็หาจำต้องรีบจนกระทั่งขาดความระมัดระวังจนเป็นเหตุทำให้เกิดความเสียหายขึ้น" พออ่านคำพิพากษามาถึงท่อนนี้ยิ่งชัดเจนว่า จำเลยไม่ได้นำสืบว่ามีเหตุสุดวิสัยอะไรที่ทำให้จำเลยไม่สามารถตามแพทย์มารักษาได้จนต้องทำคลอดด้วยตนเอง จำเลยคงแค่นำสืบว่าการคลอดติดไหล่เป็นเหตุฉุกเฉินเท่านั้น

สรุปนะครับ ผมยังไม่เห็นศาลอ้างพยานหลักฐานของโจทก์เลย อ้างแต่พยานหลักฐานของจำเลย ซึ่งโดยทั่วไปพยานของฝ่ายไหนใครเอามามันก็มักจะเข้าข้างตัวเองทั้งนั้น แต่จำเลยกลับเอาพยานหลักฐานที่ส่งผลเสียกับตัวเองมานำสืบ มันยิ่งทำให้พยานหลักฐานชิ้นนี้มีน้ำหนัก ถ้าถามว่าแล้วจะให้พยาบาลยืนเฉยๆหรอ คำตอบคือคุณต้องตามแพทย์มาครับ ถ้ามีเหตุสุดวิสัยทำให้ไม่สามารถตามแพทย์มาได้ คุณต้องนำสืบให้ศาลเห็นครับว่าที่คุณทำนั้นคือดีที่สุดแล้ว จะบอกศาลแค่ว่าคลอดติดไหล่เป็นเหตุฉุกเฉิน เท่านี้บอกได้เลยครับว่าไม่พอ อีกทางหนึ่งคือคุณต้องหักล้างรายงานฉบับนั้นให้ได้ว่าการทำคลอดลักษณะนี้ไม่จำเป็นต้องให้แพทย์เท่านั้น พยาบาลก็ทำได้หากได้ทำอย่างถูกวิธี ต้องเข้าใจนะครับว่าจะให้ศาลมาเข้าข้างหมออย่างเดียวมันเป็นไปไม่ได้ คนมาศาลมันเดือดร้อนกันทั้งสองฝ่ายแหละครับ ฝ่ายนึงก็ลูกตายไปทั้งคน อีกฝ่ายหนึ่งก็มีความเสี่ยงที่จะต้องรับผิดทั้งทางแพ่งและทางอาญา ศาลเค้าก็ต้องฟังทั้งสองฝ่ายแหละครับ ศาลตัดสินไม่ดีมันก็มี นักวิชาการกับทนายก็เอาคำพิพากษามาด่ากันประจำ แต่เห็นคำพิพากษาคดีนี้แล้วบอกตรงๆว่าด่าเค้าไม่ได้หรอกครับ ถ้าให้ผมไปเป็นศาลแล้วจำเลยนำสืบมาแบบนี้ ผมก็คงตัดสินให้จำเลยผิดเหมือนกัน


ต่อไปนี้เป็นความเห็นส่วนตัวของเรานะคะ ซึ่งอยากให้เข้าใจวงการนิติศาสตร์บ้าง เนื่องจากอีกหน่อย มันจะเป็นวิชาชีพเรา
1 ศาลไม่ใช่ผู้รอบรู้ไปทุกเรื่อง ทุกวงการ ทุกวิชาชีพ ดังนั้นแล้วจึงได้ขอความรู้จากผู้เชี่ยวชาญแล้วนำมาประกอบการตัดสิน แต่โดยหลักแล้วจะตัดสินจากสำนวนที่คู่ความเขียนโต้แย้งกันมา
2 สาเหตุที่แพ้ ไม่ได้เกิดจากหมอทำไม่ถูกต้อง แต่การแพ้ชนะคดีในศาลนั้นเกิดจากทนายว่าความ การเขียนสำนวนของทั้งสองฝ่าย
3 ศาลไม่มีหน้าที่ตัดสินเกินกว่าที่คู่ความฟ้องมา แบบ คู่ความฟ้องมา 3 ข้อ ก็ตัดสินได้แค่ 3 ข้อ ไม่มีอำนาจตัดสินแบบ 4 5 6 เพิ่มเองนอกเหนือจากนั้น และศาลแต่ละชั้นไม่ได้ตัดสินคดีหนึ่งๆแค่คนเดียวนะ การตัดสินนั้นเกิดจาก "คณะผู้พิพากษา" และการตัดสินแต่ละชั้นก็ เกิดจากคนละคน
4 ศาลไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ ดังนั้นไม่สามารถบอกได้ว่าใครถูกผิด ดังนั้นแล้วจึงต้องตัดสินจากสำนวนที่ทั้งสองฝ่ายนำมาโต้แย้งกันอยู่แล้ว ใครมีข้อมูลอะไรก็โจมตีกันมา ศาลมีหน้าที่รับฟัง แล้วตัดสินตามข้อกฏหมาย พี่ที่ทำงานในศาลบอกว่า เอาจริงๆ ส่วนใหญ่คนมาศาลอ่ะต่างฝ่ายต่างแหลใส่กันสุดฤทธิ์อยู่แล้ว ดังนั้นความเป็นจริงเป็นไงไม่มีใครรู้หรอกนอกจากคนในเหตุการณ์ ศาลก็ตัดสินจากตัวหนังสือเท่านั้นแหละ (สมมติเกิดเหตุการณ์รถชนในตอนกลางคืน ไม่มีคนอื่นเห็น ต่างฝ่ายต่างมาฟ้องกัน ศาลก็ต้องยึดเอาตามสำนวนที่ส่งฟ้องจริงไหม ศาลไม่ได้มีตาทิพย์นะเว้ยถึงจะได้รู้ว่าในเหตุการณ์จริงๆเป็นยังไง)
5 เข้าใจว่าจากประเด็นดังกล่าวนั้นได้บั่นทอนกำลังใจและ ทำให้แพทย์หลายคนกังวล กลัวคดีความไปหมด กลัวขึ้นโรงขึ้นศาล ยังไงเราก็ขอให้กำลังใจแพทย์พยาบาลที่ได้ทำสุดความสามารถแล้ว เนื่องจากมี(อดีต)แฟนเป็นแพทย์และมีคนรู้จักในวงการนี้พอสมควรเลยเข้าใจว่าทุกวันนี่ ทุกเคสแทบจะโดนคนไข้เล็งจ้องจะฟ้องกันไปหมด วันนึงทุกเคสเสี่ยงหมด และก็ไม่เข้าสิน่า แพทย์ทำไมกลัวอะไรเรื่องฟ้องร้อง เรื่องศาล แบบกลัวหนัก เหมือน เด็กกลัวหมอฟัน แต่ เมื่อคุณทำงานที่เกี่ยวกับอันตรายถึงชีวิตคนต้องเข้าใจว่าคุณเสี่ยงเป็นพิเศษ ถ้าหากเกิดเหตุการณ์ฟ้องร้องจริงๆ ก็ปรึกษาทางโรงพยาบาล และเมื่อคุณรอบรู้ทางรักษาคน แต่คุณไม่รอบรู้เรื่องนิติ ก็เลือก ทนายที่เก่งๆอ่านสำนวนได้ขาด เค้าจะได้มีทางเลือกมากๆบอกได้ บางคนเก่งมากแค่ฟังเรื่องราวแปบเดียวสามารถบอกได้หมดว่าเป็นอะไรยังไงบ้างได้ทันที ปล่อยให้คนรุ้นิติ กับ คนรู้นิติ มาไฝว้กันเอา(บอกนี่ผิดป้ะ?)
6 อย่าด่าตามน้ำมากถ้าหากไม่ได้เข้าใจในวิชาชีพผู้อื่นเพียงพอ ควรฟังความทั้งสองฝ่าย และฟังเหตุผลจากทั้งสองทางนำมาประกอบการตัดสินใจ อยากแนะนำ จ่าพิชิต แห่งดราม่า เอาไปแชร์ด้วยก็ดีนะ คนจะได้ฟังความสองแง่ สามแง่ ก็ว่ากันไป (แต่จ่าคงไม่กล้าแชร์หรอก เพราะ ปกติจะไม่แชร์ข้อมูลที่ไม่เห็นด้วยกับตัวเองให้ลูกเพจ ถถถ)

ใครมีความคิดเห็นเพิ่มเติมก็เพิ่มได้ค่ะ
ฝากโหวตและแชร์ด้วยนะคะ จะได้มีมุมมองอันนี้ขึ้นกระทู้แนะนำ คนจะได้เห็นสองกระทู้แนะนำ ได้อ่านสองมุม

edit เพิ่ม ฝากโหวตฝากแชร์ด้วยค่ะ อยากได้มุมความเห็นจากหลายๆฝ่าย มาดีเบตกัน
พาพันขอบคุณ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่