ได้มีโอกาสไปดูสี่แผ่นดินเวอร์ชั่น 2557 เมื่อรอบบ่ายวันที่ 3 สค. นี้ แม้ว่าจะได้ดูเวอร์ชั่น ปี 2554 มาแล้ว 3 รอบ ยอมรับเลยว่าการดูแต่ละครั้งให้อารมณ์แตกต่างกันไปในแต่ละรอบการแสดง พอดี ปี 54 ดู 3 รอบก็จริง แต่คนละตำแหน่ง คนละราคา ความบันเทิงที่ได้รับในแต่ละองค์จะไม่เท่ากัน และพอมาดูปี 57 แล้ว ยิ่งรู้สึกว่าเหมือนดูละครคนละเรื่องเลยละค่ะ....ใครที่เคยดูแล้ว ต้องมาลองดูอีก มันแตกต่างกันจริง...
จำได้ว่ามีคนเคยวิจารณ์ละครเรื่องนี้ในปี 2554 ว่า ยังไม่เป็นมิวสิเคิ่ล...เหมือนนักแสดงมาร้องเพลงคอนเสริต์...ตอนนั้นเราก็ไม่เข้าใจว่ามันเป็นอย่างไร เพิ่งถึงบางอ้อก็เมื่อดูละครจบเมื่อวานนี้เอง
ไม่แปลกใจว่าหลายคนวิจารณ์ว่า ครั้งที่แล้วเพลงมีความไพเราะมากกกกก ... เราก็เป็นหนึ่งในนั้น...หลงรักเพลงในองค์ 1 ทุกเพลงเลย มีความเป็นไทย ละเมียดละไม หวานนนน ซึ้งงงงง...ซื้อแผ่นไปฟังจนช้ำไปหมด...
ปี 57 เป็นสี่แผ่นดินเดอะมิวสิเคิ่ลแบบของแท้....เพราะเสียงดนตรีและเสียงร้องของนักแสดงถ่ายทอดอารมณ์ของตัวละครได้อย่างหมดจด...พลอยน้อย น้ำเสียงและพลังอาจสู้น้องพินต้าไม่ได้ แต่อินเนอร์หรือความเป็นตัวละคร ช่างน่ารัก น่าสงสาร น่าเอ็นดูจริงๆๆ การแสดงของเธอเราว่าเหนือกว่าน้องพินต้าด้วยซ้ำไป...
แม่พลอยสาว หลายคนว่าขาดความเป็นสาวชาววัง แต่เราชอบมาก คือความเป็นปุถุชนคนธรรมดาที่แสนเสียใจที่ชายหนุ่มที่เขาฝากชีวิตไว้มีความลับซ่อนอยู่...(ซึ่ง ปี 54 เราแสนจะรำคาญฉากนี้ของแม่พลอยมากๆๆที่เธอทำไมจึง ยืนทื่อ เป็นต้นไม้ไร้ชีวิต)...แต่ปี 57 มีการตอบโต้กันของอารมณ์ที่ดีมากกก การเสียใจ การให้อภัย และดูแลเด็กที่เขาเกิดมาโดยเขาไม่มีความผิดอะไรเลย...ทำให้เพลงอาจเคยเป็นคนไม่ดี มีความหมายที่กินใจ จนถึงบั้นปลายของชีวิตคุณเปรม...ซีนอารมณ์จึงมีความเชื่อมโยง แม้เปลี่ยนตัวเปลี่ยนวัยของนักแสดง...ความรักของเขาทั้งสอง จึงลึกซึ้ง จวบจนฉันสิ้นใจ...
แม่พลอยสินจัย...ไม่รู้จะเอาอะไรมาพรรณนาแล้ว...เทพ มหาเทพจริงๆๆ คนคนนี้...พลังการร้องของเธอนะไม่เท่าไร แต่ความเป็นตัวละครของเธอดึงใจฉันไปตลอดทั้งเรื่อง...เป็นเวอร์ชั่นที่ทำเอาทิชชู่หมดซอง...
เพลงภาพ...เป็นเพลงที่สื่อความหมาย...เป็นปรัชญาชีวิตก็ว่าได้...มันให้อารมณ์จริงๆๆ
การแสดงของทุกตัวละครยอดเยี่ยมมาก มันพาให้ละครเรื่องนี้มันงดงามจริงๆๆ
ใครที่เคยดูแล้วในปี 54 จะกี่รอบก็ตาม ขอให้มาดูปี 57 อีกสักครั้ง ....
สี่แผ่นดินเดอะมิวสิเคิ่ล ปี 57 การถ่ายทอดเรื่องราวผ่านบทเพลง...
จำได้ว่ามีคนเคยวิจารณ์ละครเรื่องนี้ในปี 2554 ว่า ยังไม่เป็นมิวสิเคิ่ล...เหมือนนักแสดงมาร้องเพลงคอนเสริต์...ตอนนั้นเราก็ไม่เข้าใจว่ามันเป็นอย่างไร เพิ่งถึงบางอ้อก็เมื่อดูละครจบเมื่อวานนี้เอง
ไม่แปลกใจว่าหลายคนวิจารณ์ว่า ครั้งที่แล้วเพลงมีความไพเราะมากกกกก ... เราก็เป็นหนึ่งในนั้น...หลงรักเพลงในองค์ 1 ทุกเพลงเลย มีความเป็นไทย ละเมียดละไม หวานนนน ซึ้งงงงง...ซื้อแผ่นไปฟังจนช้ำไปหมด...
ปี 57 เป็นสี่แผ่นดินเดอะมิวสิเคิ่ลแบบของแท้....เพราะเสียงดนตรีและเสียงร้องของนักแสดงถ่ายทอดอารมณ์ของตัวละครได้อย่างหมดจด...พลอยน้อย น้ำเสียงและพลังอาจสู้น้องพินต้าไม่ได้ แต่อินเนอร์หรือความเป็นตัวละคร ช่างน่ารัก น่าสงสาร น่าเอ็นดูจริงๆๆ การแสดงของเธอเราว่าเหนือกว่าน้องพินต้าด้วยซ้ำไป...
แม่พลอยสาว หลายคนว่าขาดความเป็นสาวชาววัง แต่เราชอบมาก คือความเป็นปุถุชนคนธรรมดาที่แสนเสียใจที่ชายหนุ่มที่เขาฝากชีวิตไว้มีความลับซ่อนอยู่...(ซึ่ง ปี 54 เราแสนจะรำคาญฉากนี้ของแม่พลอยมากๆๆที่เธอทำไมจึง ยืนทื่อ เป็นต้นไม้ไร้ชีวิต)...แต่ปี 57 มีการตอบโต้กันของอารมณ์ที่ดีมากกก การเสียใจ การให้อภัย และดูแลเด็กที่เขาเกิดมาโดยเขาไม่มีความผิดอะไรเลย...ทำให้เพลงอาจเคยเป็นคนไม่ดี มีความหมายที่กินใจ จนถึงบั้นปลายของชีวิตคุณเปรม...ซีนอารมณ์จึงมีความเชื่อมโยง แม้เปลี่ยนตัวเปลี่ยนวัยของนักแสดง...ความรักของเขาทั้งสอง จึงลึกซึ้ง จวบจนฉันสิ้นใจ...
แม่พลอยสินจัย...ไม่รู้จะเอาอะไรมาพรรณนาแล้ว...เทพ มหาเทพจริงๆๆ คนคนนี้...พลังการร้องของเธอนะไม่เท่าไร แต่ความเป็นตัวละครของเธอดึงใจฉันไปตลอดทั้งเรื่อง...เป็นเวอร์ชั่นที่ทำเอาทิชชู่หมดซอง...
เพลงภาพ...เป็นเพลงที่สื่อความหมาย...เป็นปรัชญาชีวิตก็ว่าได้...มันให้อารมณ์จริงๆๆ
การแสดงของทุกตัวละครยอดเยี่ยมมาก มันพาให้ละครเรื่องนี้มันงดงามจริงๆๆ
ใครที่เคยดูแล้วในปี 54 จะกี่รอบก็ตาม ขอให้มาดูปี 57 อีกสักครั้ง ....