ทริปเที่ยว กทม. ของผมที่อยากบันทึก

อยากบันทึกไว้ครับ ทริปที่มีชื่อว่า "ผู้ชายขี้เหงา เที่ยวแบบเมาๆอย่างอิสระ"
ผมเป็นเด็กต่างจังหวัดคนนึงที่เข้ามาเรียนใน กทม. ตอนนี้อยู่ปี 2
เวลาที่ผ่านมา ผมไม่เคยเปิดโอกาสให้ตัวเองได้ไปไหนเลย อยู่กับตัวเอง อยู่กับงานและการเรียน
เพราะด้วยความที่ผมเข้ามาเรียนที่ กทม. คนเดียว ไม่มีเพื่อนสนิทที่พร้อมจะลุยไปด้วยกัน แบบไปไหนไปกันตามประสา

วันนี้ผมกลับจากสอนพิเศษวิชาฟิสิกส์ (ผมเรียนครูฟิสิกส์แล้วรับงานสอนด้วยครับ) ประมาณบ่าย 2 กว่าๆ ผมก็เคลียร์งานนิดๆหน่อยๆ
แล้วพักผ่อน ในระหว่างนี้เองครับ ผมเกิดคำถามกับตัวเองว่า
วันนี้วันพักผ่อนไม่ใช่เหรอวะ?
มาอยู่ กทม. ย่างเข้าปีที่ 2 เเล้วยังไม่ค่อยรู้จักที่ไหนเลยเหรอวะ?
อยู่แบบนี้มีความสุขเหรอวะ?
ไม่มีใครลุยไปด้วยก็ลุยคนเดียวได้ปะวะ?
ไม่ค่อยไปไหนแล้วจะพาแฟน พาเพื่อน พาพ่อแม่ ญาติพี่น้อง ไปเที่ยวได้เหรอวะ?
กูก็รักอิสระไม่ใช่เหรอวะ? (ขออภัยสำหรับคำว่ากู)

แล้วก็ลุยเลยครับท่าน จากตอนแรกใส่บ๊อกเซอร์ตัวเดียวก็หยิบเสื้อหยิบกางเกงยีนส์มาใส่เตรียมพร้อม
ออกไปรอที่ป้ายรถเมล์ ตอนนั้นก็ยังไม่รู้ว่าจะไปไหน พอดีเห็นรถตู้จัตุจักรก็เลยขึ้นเลยครับ จากนั้นก็ลงไปเดินที่สวนจัตุจักร
ถ่ายรูปไปเรื่อย เดินไปเรื่อย นั่งบ้างระหว่างทาง ตามประสาาคนเหงาๆครับ ขณะเดินไปก็มีสาวมาขอถ่ายรูป
ก็งงๆครับ 555 หลังจากนั้นก็เดินไปเรื่อยๆ แล้วนึกอยากจะไปนั่งเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา ผมยังไม่เคยนั่งเลยครับ (อายเล็กน้อย)
ผมก็ขึ้น BTS จากหมอชิตไปลงที่สะพานตากสิน พอดีเป็นช่วงหัวค่ำ คนเยอะมากครับ อึดอัดมาก พอถึงสะพานตากสิน
ก็เดินวนหาแผนที่อยู่พักนึงครับ ผมไม่รู้ว่าจะออกทางหมายเลขไหนจะไปถึงท่าเรือ ผมเจอเเล้วครับ! ทางออกหมายเลข 2
จากนั้นก็ลุยครับ พอเดินไปถึงท่าเรือผมก็ยืนงงกับแผนที่เรืออีก ในใจก็คิดกูจะไปไงต่อวะ เอาไงกับชีวิต ผมก็เลยลองถาม google เลยครับ
สรุปว่าผมจะไปท่าพระอาทิตย์เพราะว่าเดินไปถนนข้าวสารได้ อยากเจอฝรั่ง 555 พนักงานขายตั๋วก็บริการดีครับ แล้วเค้าก็พูดภาษาจีนได้ด้วยครับ

พนง. : ไปไหนจ๊ะ
ผม : เอ่อ.....ถนนข้าวสารนี่......ยังไงครับ
พนง.: พระอาทิตย์ 15 บาท รอเรือธงส้ม หรือจะไปลำนี้ที่จอดอยู่ไปลงที่โรงเเรม...(ฟังไม่ทัน 555)....
ผม: (ยืนทำหน้างงๆครับ) ผมไม่รู้จัก ไม่เคยมาน่ะครับ
พนง.: งั้นก็รอเรือธงส้มละกัน ง่ายๆ พอถึงเเล้วก็เดินไปทาง...(เลี้ยวนู่นนี่นั่น จำไม่ได้ครับ มีนๆ งงๆ)....ก็ถึงแล้ว
ผม:แล้วผมจะรู้ได้ยังไงครับว่าถึงท่าพระอาทิตย์แล้ว
พนง.: บอกคนตรวจตั๋วไว้เลย พร้อมกับชี้แผนที่ท่าเรือให้ผมดูว่าถึงพระปิ่นเกล้าเเล้วก็เตรียมตัวที่หลังเรือเลย
ผม: อ๋อครับ ขอบคุณมากครับ นั่งรอตรงนี้เลยนะครับ
ซักพักนึง มีเรือธงส้มมาซึ่งเป็นเรือที่กลับมาจากทางที่ผมจะไป ในใจก็คิด นี่ไงมาเเล้ว แต่ด้วยความรอบคอบผมก็เดินไปถาม
พนักงานขายตั๋วว่า ผมต้องขึ้นเรือไปทางไหนครับ ทางนี้หรือทางนู้น ปรากฏว่าต้องขึ้นเรือที่ไปอีกทางนึงครับ (เกือบเเล้วกู)
พอนั่งรอซักพักเรือก็มาครับ พนักงานเค้าก็รู้ครับว่านี่คือครั้งเเรกของผมเค้าก็เรียกผมซะดังเลยครับแล้วบอกว่า
พนง.: พระอาทิตย์ลำนี้เลยน้อง พร้อมกับยิ้มๆ
ผม: ครับ ขอบคุณครับ

จากนั้นผมก็ได้สัมผัสกับบรรยากาศของแม่น้ำเจ้าพระยายามค่ำ ผมรู้สึกดื่มด่ำไปกับบรรยากาศแบบนี้มากครับ ผมชอบอย่างบอกไม่ถูก
ฝรั่งกับคนจีนเยอะดีครับ เวลาเค้าพูดกันผมก็รู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง (รู้เรื่องนิดเดียวครับ 555) ขณะที่นั่งเรือผมก็อดไม่ได้ที่จะหยิบมือถือ
ขึ้นมาเก็บภาพบรยากาศทั้งสองข้างทางของเเม่น้ำเจ้าพระยา แต่ปัญหาคือ แบตก็จะหมด เรือมันไม่นิ่งเลยถ่ายภาพได้แบบเบลอๆ ผมชอบวัดมากครับ
เห็นเจดีย์ มีแสงไฟส่องสว่าง รู้สึกขลังอย่างบอกไม่ถูก

เอาล่ะครับหลังจากที่นั่งเรือมานานพอสมควรก็ถึงเเล้ว ท่าพระอาทิตย์ พอลงจากเรือ ผมก็เคว้งคว้างอีกแล้ว
ไม่รู้จะเดินไปทางไหน ในใจก็นึกครับว่าฝรั่งต้องไปเที่ยวแน่ๆ ตัดสินใจเดินตามฝรั่งเลยครับ (ทำไมไม่ถามคนไทยแถวนั้น 555)
พอเดินมาได้ซักพักผมเผลอครับ ยิ้ม! ฝรั่งหายไปไหน เอาเเล้วไง แต่ด้วยความที่มี google อยู่ในมือครับ ถามเลยครับ
จากนั้นก็เดินไประมาณ 650 เมตร ก็ถึงเเล้วครับถนนข้าวสาร แต่ช่วงที่ผมไปถึงดูยังไม่ค่อยคกคักเท่าไหร่ คงเป็นเพราะยังไม่ค่อยดึก
จากนั้นผมก็เดินมั่วๆไปเรื่อยๆครับ ไปเจอคนกำลังนั่งอยู่ข้างทางเยอะมาก แล้วก็มีคนเดิน (ตรงนั้นน่าจะเป็นสนามหลวงครับ ผมไม่แน่ใจ)
ผมเลยลองเดินเข้าไปตรงนั้น ผมก็เห็นของขายเต็มเลยครับ จะเป็นพระเครื่อง ร้องเท้า ของเก่า ของกิน ของใช้ โทรศัพท์ หนังโป๊ ของเล่น18+ ผมสนใจ 2 อย่างหลังนี่แหละครับ แต่ก็ได้แค่เดินๆมองๆ 555 อารมณ์แบบว่าเป็นตลาดเถื่อนๆดีครับ (ในความรู้สึกผมนะ)

จากนั้นผมก็เดินไปเรื่อยๆครับจนถึงวัดพระแก้ว ตอนกลางคืนดูเด่นเป็นสง่ามากครับ มีเเสงไฟส่องระยิบระยับ ประทับใจมากครับ
จากนั้นผมก็เดินมั่วๆไปคนเดียว แล้วไปโผล่ปากคลองตลาดครับ ผมก็เลยเดินไปสะพานพุทธซะเลย บอกเลยครับว่า
ยิ้มเหนื่อยยิ้ม เดินโคตรไกลเลย แถมเป็นตอนกลางคืนดึกๆด้วย แต่ก็เอาเถอะครับผมถึก ผมก็กะว่าจะไปหาของกินเติมพลังซักหน่อย
ก็เลยไปสะดุดเข้ากับหมึกย่างครับ ก็เลยจัดมา 3 ไม้ กะว่าจะเอาไปนั่งกินที่ร้านข้าว เดี๋ยวผมจะไปสั่งข้าวกิน พอถึงร้านข้าวเท่านั้นเเหละครับ
ฝนยิ้มยิ้มตก แล้วลมพัดแรงด้วย ผมก็เลยยังไม่สั่ง ตอนแรกจะไม่กินแล้วครับหมดอารมณ์ แต่พอฝนหยุดก็สั่งผัดซีอิ๊วครับ
จะไม่สั่งก็กระไรอยู่ ไปอาศัยร้านเค้าหลบฝน แต่คนที่เอาผัดซีอิ๊วมาเสิร์ฟผมนี่จัดว่าน่ารักเลยครับ เธอใส่เสื้อสีชมพู กางเกงขาสั้น ว้าวววว!
ผมก็ได้แต่มองๆ พอหลังจากกินเสร็จผมก็ไปเดินดูของนิดๆหน่อยๆครับ จากนั้นก็นั่งรถเมล์กลับ
ผมออกไปประมาณตอน 4 โมงครึ่งครับ กลับมาถึงห้องก็ 5 ทุ่มครึ่งครับ

สรุปรวบยอดค่าใช้จ่ายทริปที่มีชื่อว่า "ผู้ชายขี้เหงา เที่ยวแบบเมาๆอย่างอิสระ"
ค่ารถตู้+รถเมล์+ฺBTS+เรือด่วนเจ้าพระยา = 93 บาท
ค่าของกินประทังชีวิต = 100 บาทพอดีเป๊ะ
รวมเป็นเงินทั้งหมด 193 บาทไทย

ไม่น่าเชื่อคับ ออกไปเปิดหูเปิดตา หาความสุขใส่ตัว ดื่มด่ำกับบรรยากาศของแม่น้ำเจ้าพระยาในยามเย็นและยามค่ำคืนและเดินไปเรื่อยตามอารมณ์
ใช้เงินไม่ถึง 200 บาท แต่คงเป็นเพราะไม่ได้ซื้อของที่อยากได้และส่วนมากมีแต่เดิน ยิ้มเหนื่อย!

เป็นการเที่ยวในที่ไม่เคยไปมาก่อน ไม่คุ้นสถานที่ ไม่รู้ว่าต้องไปยังไง ผมว่ามันเร้าใจครับ มันเป็นเรื่องราวดีๆ ครั้งหนึ่งในชีวิตของผม
ที่เริ่มจากการไม่รู้ว่าจะไปไหนแล้วไปเรื่อยๆ ผมว่ามันเป็นอะไรที่ท้าทายมาก แต่ก็ทำเอามึนๆ งงๆ อยู่เหมือนกันครับ
บางคนอาจคิดว่า จะบ้าเดินอะไรขนาดนั้น 555 ก็ผมไม่รู้นี่ครับว่าจะต้องขึ้นรถอะไรยังไง แล้วไม่อยากขึ้นแท็กซี่ มันแพง
ผมก็แค่เด็กต่างจังหวัด โดยรวมแล้วผมประทับใจการออกไปข้างนอกครั้งนี้ของผมมากครับ ได้แต่หวังว่าซักวันนึง
ผมจะไม่ต้องเที่ยวคนเดียว มีคนคอยอยู่ข้างๆ ไปไหนไปด้วยกัน มีเวลาดีๆด้วยกัน

ถ้าใครเข้ามาอ่านเเล้ว ช่วยแนะนำสถานที่น่าไปใน กทม ให้ผมหน่อยครับ ผมอยากลุย แต่ขอเป็นที่ที่ไม่ต้องใช้เงินเยอะนะครับ
ผมทำงานเอง ใช้เงินตัวเอง ไม่ได้ขอที่บ้าน จริงๆที่บ้านก็พอมีให้แหละครับ แต่ผมอยากลองอยู่ด้วยตัวเองว่าจะรอดหรือเปล่า
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่