[แชร์ประสบการณ์สู้ชีวิต] เส้นทางของลูกชาวนา แม่เสียชีวิตตั้งแต่เด็ก สู้ชีวิต เรียนจบปริญญาด้วยเกียรตินิยมอันดับ 1

มาอ่านชีวิตผมกัน เพื่อจะได้มีกำลังใจ
มาดูซิว่า เส้นทางของลูกชาวนา ยากจน แม่เสียชีวิตตั้งแต่เด็ก
แต่กลับสู้ชีวิต เรียนจบปริญญาด้วยเกียรตินิยมอันดับ 1 วิศวะ ม.วิจัยแห่งชาติ ได้อย่างไร!

เนื่องจากค่อนข้างยาว ผมจึงขอเล่าเป็นฉากๆ แล้วกันนะครับ
ฉาก 1 จบ ป.6
.....................
เนื่องจากครอบครัวผมยากจน แม่เสียชีวิตตั้งแต่ผมยังเล็ก  ครอบครัวมีพี่น้องรวมผม 3 คน พี่ชายผม ผม และน้องสาว และพ่อ 1 คน
รวม 4 ชีวิต
ผมเป็นลูกคนกลาง ตอนนี้ผมอายุ 24 ปี
ตั้งแต่วัยเด็ก ชีวิตพวกผมลำบากมาก ต้องปั่นจักรยานคันเดียวซ้อนไปกับพี่ และน้อง โดยมีพี่ผมเป็นคนขับ
สรุป 1 คัน 3 คน บางวันรถจักรยานก็ล้มกัน 55++ ได้แผลมาหลายครั้ง
ตอนนั้นจำได้ดีเลยได้เงินไปโรงเรียน ได้ตังค์ไปโรงเรียน สามคนพี่น้อง 5 บาท! ผมกับน้องได้ 2 บาท พี่ได้ 1 บาท
คิดดูว่าจะเอาไปซื้ออะไรได้ บางวันไม่มีเงินซื้อขนมกิน ก็ไม่ซื้อ ขอเพื่อนกินบ้างตามประสาเด็กๆ ส่วนเพื่อนๆ คนอื่นๆ ก็อย่างต่ำคนละ 10 บาท
ผมเป็นคนที่สู้ชีวิตมาตั้งแต่เด็กๆ เลย รับจ้างสารพัด ดำนาบ้าง ถอนกล้าข้าวบ้าง เกี่ยวข้าวบ้าง คือทำทุกอย่างที่จะทำได้
เสื้อผ้าที่พวกผมสามพี่น้องใส่นี้ อย่าหวังจะได้ใส่เสื้อผ้าใหม่ๆ ครับ เพราะไม่มีตังค์ซื้อ
ก็มีเพื่อนบ้าน ญาติๆ เป็นคนเอามาให้ (เสื้อผ้าเก่าของลูกหลานเขาที่ใส่ไม่ได้) พวกผมก็รับเอาอย่างไม่รังเกียจเลย และไหว้ขอบคุณทุกครั้ง เพราะพ่อผมจะสอนเสมอว่าผู้ใหญ่ให้ของต้องไหว้ก่อนรับเสมอ
บางวันไปโรงเรียน เสื้อนักเรียนขาด เก่าๆ สีเหลืองๆ ครูก็บอกว่าทำไมไม่ซักเสื้อผ้า ตอนเด็กๆ พวกผมก็ซักเสื้อผ้าเอง
คงจะไม่สะอาดเท่าผู้ใหญ่ซัก  และทั้งชุด เสื้อ กางเกง รองเท้าก็ไม่ได้ซื้อใหม่เลย เป็นของเพื่อบ้านเอามาให้  
หลังๆ พอครูมาเยี่ยมบ้าน จึงรู้ว่าครอบครัวเป็นอย่างไร ก็เข้าใจ

พวกผมตั้งใจเรียนมาตลอด เพราะพ่อเคยบอกว่าไม่มีสมบัติจะให้ ให้ตั้งใจเรียน แล้วเอาวิชาความรู้ไปสร้างตัวเอา
พวกผมก็จำใส่ใจ และปฏิบัติมาโดยตลอด โดยผมกับน้อง มีอายุห่างกับ 1 ปี พี่ชาย ห่าง 6 ปี
ผมกับน้องสอบได้ที่ 1 และ ที่ 2 ของห้อง ในระดับประถมมาโดยตลอด ส่วนพี่ชายก็เก่งไม่แพ้กัน ได้ลำดับต้นๆ ของห้องเหมือนกัน
เวลามีคัดเลืกตัวแทนไปแข่งขันด้านวิชาการ ผมกับน้องมักจะได้เป็นตัวแทนเสมอ
จนพี่ชายผม จบ ป.6 ขึ้น ม.1 เรียนไปซักพัก ก็ต้องออกกลางครัน เพราะพ่อผมไม่มีตังค์ส่วเรียน วันนั้นผมจำได้เลย ตอนดึกพ่อผเรียกพี่ชาย
มาคุย พี่ชายผมร้องให้หนักเลย เพราะอยากเรียน แต่พ่อก็พูดว่า พ่อตัวคนเดียวส่งทั้งลูกสามคนเรียนไม่ไหว ให้ออกมาช่วยพ่อทำงาน ส่งน้องๆ เรียนได้ใหม
พี่ชายผมได้ฟังเหตุผลก็ตกลง ออกจากโรงเรียน สรุป ได้เรียนแค่ ป.6 เท่านั้น

เรื่องอาหารการกิน
ตอนเด็ก ผมเป็นคนที่ผอมมาก เพราะไม่ค่อยได้กินดีๆ เหมือนเพื่อนๆ ก็มีเก็บผัก ตามรั้วบ้าน มากินกับน้ำพริก
ทำกับข้าวง่ายๆ เช่น ไข่เจียว ไข่ทอด แต่ส่วนใหญ่เป็นผักเช่น ยอดตำลึง บวบ และทำสวนปลูกผักไว้
ผมเรียนรู้วิธีทำกับข้าว และหุงข้าวด้วยหม้อฟืนเป็นตั้งแต่ ป.2 เพราะทุกครั้งผมจะต้องตื่นเช้า มาหุงข้าวก่อน ทำกับข้าวก่อนไปโรงเรียน
หุงข้าวเพื่อเก็บไว้ให้พ่อกิน และห่อไปโรงเรียนกินกัน  กับข้าวที่ห่อ ทุกวันจะห่อไข้ต้ม วันละฟอง กับน้อง และพี่
และไปกินกับเพื่อนที่โรงเรียน ผมจะห่อกับข้าวแบบนี้ทุกวัน จนบางทีเพื่อนคนอื่นก็ไม่อยากกินด้วย บางทีผมก็กินกับพี่และน้องสามคน
บางทีก็นั้งกินในห้องคนเดียว

สมุดหนังสือ ตอนนั้นต้องซื้อเรียน แต่พ่อผมไม่มีตังค์ซื้อให้ ก็เลยอาศัยดูกับเพื่อนเอา เพราะโต๊ะเรียนจะให้นั้งเป็นคู่ วันใหนมีการบ้าน โจทย์ในหนังสือยาวๆ
ผมก็ต้องรีบจดลงสมุดเอามาทำที่บ้าน เดี่ยวไม่มีโจทย์ทำ ดีหน่อยที่สมุดผมไม่ต้องซื้อ เพระาผมจะได้รางวัลมาจากการสอบได้ที่ 1 หรือ ที่ 2 ของชั้นเรียน ทางโรงเรียนจะแจกสมุด ดินสอ ยางลบ ให้เป็นรางวัล
ผมสู้ชีวิตมาตลอด จนจบ ป.6
การต่อสู้ ชีวิต ตั้งแต่ ป.6 จนถึง ม.3 จะเป็นอย่างไร รอติดตามกันต่อนะครับ ในฉากที่ 2 นะครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่