ผมควรทำยังไงกับน้องสาวสุดที่รักของผมดีครับ

ผมมีน้องสาวอยู่หนึ่งคนครับเราห่างกัน 3 ปีครับเมื่อเทียบช่วงอายุเรา
จะห่างกัน 1 ช่วงวัยเรียนหน่ะครับ ถ้าผมเข้ามัธยมปลาย เธอจะขึ้นมัธยมต้นพอดี
คือ น้องผมคนนี้ แกเรียน ม.ปลายอยู่สายศิลป์ครับ แกเป็นคนขี้เกียจหน่ะครับ
ถือว่า มากเลยหล่ะ   เป็นปัญหาใหญ่ ในครอบครัวของผมเลยหล่ะครับ
เพราะตอนนี้ แกเรียนอยู่ ม.6 เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ

ปัญหาที่เกิดกับเรา คือเราสองคนถูกเปรียบเทียบกันหน่ะครับ คือประมานว่า
ผมเรียนค่อนข้างโอเค ส่วนน้องแกการเรียนไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ เพราะ ตามหลังกัน..
ตลอด จึงเกิดการรู้สึกอิจฉา เธอเคยคุยเรื่องนี้กับผมแล้ว ผมทำได้อย่างเดียวคือ
ปลอบใจเท่านั้นแหละครับ แต่ความคิดนี้ มันรุนแรง ขึ้นจากสภาพแวดล้อมหน่ะครับ อย่างเช่น
เวลาเพื่อนพ่อแม่มาเที่ยวบ้าน คำพูดเวลาถึงเราสองคนคือ "คนพี่นี่ดีเน้าะ....ไม่เหมือนกับน้องเลย"
แน่นอนว่าเราสองนั้นได้ยิน น้องผมได้แต่เก็บความรู้สึกนี้มาตลอด แกบ่นตลอดเวลาอยู่กับผมสองคน
จนกระทั่งขึ้น ม.ปลาย ผมเข้ามหาวิทยาลัยพอดี (ผมไม่ได้อยู่ติดบ้าน(อยู่โรงเรียนประจำ)ตั้งแต่ ม.1 แล้วครับ
บางทีเพื่อนแม่ถาม "เธอมีลูกสองคนเหรอ...นึกว่า มีลูกผู้หญิงคนเดียวซะอีก" ผมเจอจนชินแล้ว )
น้องผม ก็เริ่มเปลี่ยนไป จาก บวก ค่อยๆ ลบลงๆ จนเปลี่ยนเป็นอีกคน อาจเป็นเพราะ ผมไม่ได้อยู่ด้วย และ  
ผมเป็นคนเดียวที่ยอมรับฟังความคิดเห็นของแก จนกลายเป็นคนขี้เกียจ

  ที่ผมเครียดนะครับในความคิดของผม ผมเคยถามแกว่าอยากเรียนคณะอะไร "ไม่รู้"
เป็นคำตอบที่ผมได้แทบทุกครั้ง คือแบบว่า ม.6 แล้วนะยังไม่รู้อีกหรอว่า
อยากเรียนคณะไหน สนใจคณะไหน ผมถามมาตั้งแต่ ตอน ม.5 จนถึงตอนนี้
คำตอบที่ผมได้ยังคงเหมือนเดิม ผมเข้าใจเพราะผมก็เคยผ่านช่วงนี้มาว่า มันยากมากที่จะตัดสินใจ
แต่มันไม่ใช่แค่นั้นนะครับ เพราะ ความขี้เกียจ ของน้องผมนี่แหละ จึงเหตุทำให้ในครอบครัว
ทะเลาะกันบ่อยมาก ไม่ว่าจะเรื่อง ไปเที่ยวกลับดึก  ห้องนอนไม่ทำความสะอาด
( มีอีกเยอะครับแต่ขอแค่นี้พอ ) ขอให้ทำอะไรให้ ก็ไม่เคยได้เลย

ผมเคยคิดว่าน้องผมควรคิดได้เองว่า ช่วงนี้เด็กทุกคนควรคิดแล้ว ผมเข้าใจว่า
การถูกยัดเยียดความคิดต่างเข้าหัว มันเป็นยังไง ผมเลยทำได้แค่รอให้น้องผมคิดได้
จนล่าสุด แม่กับน้องผม ทะเลาะกันแรงมาก ถึงกับขนาดพ่อโทรมาหาผมว่าช่วยโทรมาหาแม่
เพื่อ ยับยั้งศึกนี้ ตกลง ไม่มี ปัญหา เพราะผมเจอแบบนี้ จนชินแล้ว ครั้งนี้ ร้องไห้ ทั้งสองฝ่าย
สงสัยครั้งนี้ จะรุนแรงมาก ผมเลยถามว่า เกิดอะไรขึ้น

เรื่องมันมีอยู่ว่า "น้องผมไปเรียน 10 โมงจากปกติแปดโมง " โอ้วโหวโคตรงามไส้เลย
คือ แม่ผม แกเป็นคนที่ค่อนข้างเข้มงวด แต่ผมนั้นเคยขอแม่แล้วว่า "ปล่อยเค้าบ้าง
เพราะเค้าอาจจะเครียดจากเรื่องต่างๆ " แม่ผมก็เข้าใจเพราะเราพูดกันด้วยเหตุผล  
แม่ผมก็ยอมรับเงื่อนไข แต่ครั้งนี้  น้องผมผิดจริงๆ เพราะ แม่ผมไม่เคยยุ่งวุ่นวายเกี่ยวกับน้องผมเลย
แม่ผมร้องไห้แล้วบอกกับ
  
  "แม่ยอมทุกอย่าง ปล่อยวางทุกอย่าง ไม่เคยบังคับ ขอเงินก็ให้ แม่ทำงานตลอด ไม่ค่อยได้อยู่บ้านเลย กลับมาก้เห็นแต่นั่งเล่นโทรศัพท์ สุขภาพแม่ก็ไม่ค่อยดี แม่ขออะไร น้องผมไม่ทำให้ แม่ก็ไม่ว่า แม่มีค่าแค่ ให้เงินตามที่ขอ แค่นั้นเองใช่มั๊ย".....

.........................  
   ประโยคสุดท้ายนี่ มันเจ็บจี้ดถึงหัวใจที่สุดเลย(น้ำตาผมครอเบ้าเลย) แต่ เราจะฟังความข้างเดียวก็ไม่ได้ ต้องฟังน้องด้วย
น้องผมบอกว่า "วันนี้คาบ 8 โมงไม่มีเรียน(จริงไม่จริงไม่รู้...แต่ที่แม่บอกผมมันเยอะกว่านั้น) " และน้องผมก็บอกต่อ
"เรื่องแค่นี้เองทำเป็นโกรธ ไปได้ (และร้องไห้)"ผมขึ้นมากตอนนั้น ผมด่าน้องผมแบบจัดหนักแบบที่ผมไม่เคยด่ามาก่อนเลย ( ถึงกับขึ้นกูเลยหล่ะครับ )
"รู้หรือเปล่าว่า แม่ยอมมาขนาดไหน แม่ปรึกษากูทุกรอบเวลากูโทรหา หรือ แม่โทรมาหากู เราเป็นห่วงอนาคต เกรดคิดว่า สวยเหรอ 2.50 ยังไม่ถึง อีกเทอมเดียว เพิ่มเกรดได้ยังไง ต่อให้เทอม ได้ 4 ก็เหอะ แม่โกรธกูเนี้ยเป็นคนขอโทษแม่แทนเกือบทุกครั้ง กูปกป้องมาตลอดทั้งๆ ที่รู้มันผิด กูออกหน้าให้ทุกรอบ ............. พี่ขอร้องหล่ะนะ ช่วยกันแบ่งเบาภาระ พ่อแม่ ไม่ใช่เพิ่มภาระ ให้พ่อแม่ คำขอร้องจากพี่ครั้งเดียวและครั้งสุดท้ายจะไม่ขออะไรจากน้อง ..ขอตามใจแม่เถอะนะ.." ผมรู้ว่าที่ผมทำอะไรไป 3 ปีมันเปลี่ยนคนได้ขนาดนี้เลยเหรอครับ     


##ผมควรทำยังไงดี ครับ ตอนนี้ ผมยังจะกล่อมเค้าได้อยู่หรือเปล่าครับ ผมอยากให้เธอขยันกว่า อยากให้มีแรงบันดาลใจ ไม่ใช่ใช้ชีวิตม.ปลาย ไปวันๆ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่