สวัสดีค่ะ ..
เมื่อหลายปีก่อน ดิฉันได้มีโอกาสได้ทำงานในบริษัทกลางกรุงแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นงานแรกหลังเรียนจบได้ 1 อาทิตย์
ตอนเริ่มงานก็อย่างว่าหละค่ะ ไม่มีประสบการณ์อะไรเลย แต่เดชะบุญหัวหน้างานคนแรกท่านน่ารักค่ะ
ท่านเป็นคนสอนงานตั้งแต่แรกเริ่มไปได้ระยะหนึ่ง แต่ไม่นาน .. หัวหน้างานท่านนั้นก็ลาออกไปด้วยเหตุผลของ"เบื้องบน"
หลังจากนั้นก็มีหัวหน้าคนใหม่เข้ามา พอท่านทราบว่าเราเป็นเด็กใหม่และไม่มีประสบการณ์เลย
ท่านก็คอยสอนงานต่อจากหัวหน้าคนเก่า จะว่าไป ท่านก็ใหม่เหมือนกัน
เลยเรียกได้ว่า "ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน" โดยที่ดูแล้วท่านจะช่วยเรามากกว่าค่ะ
เพราะเราช่วยท่านได้แค่ตอนแรกๆ แนะนำคร่าวๆว่าก่อนหน้านี้เป็นยังไง อะไรประมาณนี้
หัวหน้าท่านนี้ท่านเป็นคนเก่งมากค่ะ ท่านวางระบบงาน ท่านทำงานหนัก บลาๆๆ
แต่ท่านก็เสียสละเวลาหลังเลิกงาน ในการสอนงานเพิ่มเติมเกือบทุกวันในช่วงปีแรกๆ
นอกจากนี้ท่านยังให้โอกาสเราในการทำงานหลากหลาย อันไหนทำไม่ได้ ทำผิด ท่านก็ไม่เคยว่าเลยค่ะ
พูดง่ายๆว่า คงหาหัวหน้างานแบบนี้ได้ยากในสังคมที่แก่งแย่งชิงดี มีแต่คนคอยจับผิด คอยติกันแบบทุกวันนี้
เนื่องจากที่ท่านเป็นคนสอนงาน และ แนะนำทุกสิ่งอย่างมาตลอด
เราก็สามารถพูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่าเราคงเป็นมือข้างใดข้างหนึ่งของท่านแล้วหละค่ะ
เวลาผ่านไป งานก็มากขึ้น ดีเทลจุกจิก ซับซ้อนซ่อนเงื่อนในงานมันก็มากขึ้น
จนวันนึงเราก็คิดว่า ....... หรือมันจะไม่ใช่ทางของเรานะ ??
แต่แล้วเราก็อดทน พยายาม และ เรียนรู้ไปกับงานและท่านมาเรื่อยๆ
ด้วยเหตุผลหลายอย่างหลายประการ เราก็เริ่มจะรู้สึกว่ามันไม่ไหวแล้วมั้ย ?
จนถึงวันนี้เราก็คิดว่า ...... หรือมันจะถึงเวลาแล้วนะ ??
วินาทีที่ได้บอกกับหัวหน้าท่านว่า "ดิฉันขอลาออกได้ไหมคะ ดิฉันคิดว่าดิฉันไม่เหมาะสมกับงานที่นี่"
หัวหน้าได้แต่อึ้งไปซักพัก ... "อยู่ต่อเถอะ ช่วยพี่เถอะ ถ้าหนูออก พี่ก็ไม่มีใครที่ช่วยงานพี่ได้ดีอย่างหนู"
ดิฉันจึงตอบไปแค่ว่า "ขอโทษนะคะพี่ แต่หนูคิดมานานแล้ว แล้วหนูก็ตัดสินใจไปแล้วค่ะ หวังว่าพี่จะสนับสนุนการตัดสินใจของหนูนะคะ"
ใจนึงเราก็ไม่อยากออกนะคะ เพราะคิดว่าเราก็อยากจะทำงานช่วยท่านต่อไปเรื่อยๆ
อย่างน้อยท่านก็ถือว่าเป็นผู้มีพระคุณที่สอนเรามาตั้งแต่ 0 จนถึงทุกวันนี้
พูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่า "ท่านเสียสละ และ มีน้ำใจกับหนูมาก"
แต่พอดีก่อนหน้านี้ มีโอกาสได้รับการสัมภาษณ์จากบริษัทแห่งหนึ่ง
เป็นบริษัทต่างประเทศที่จะมาเปิดใหม่ในประเทศไทย
และเรา .... ได้รับโอกาสเป็นคนแรกของบริษัทในการมาทำงาน
และ ........ อาจเป็นพนักงานคนเดียวในบริษัทไปซักพัก
เราคิดว่าเราอาจมีโอกาสในการเรียนรู้งานใหม่ๆและหลากหลายมากในบริษัทใหม่นี้
ตอนแรกเริ่ม บริษัทนี้คงมีปัญหาติดๆขัดๆนู่นนี่บ้าง และยิ่งเป็นพนักงานคนเดียวแล้ว งานคงหนักนิดนึง(มั้ง)
แต่ก็อาจจะถือว่าเป็นโอกาสที่ดี ถ้าทำไปเรื่อยๆ อาจได้รับโอกาสในการเลื่อนตำแหน่งก็ได้ หากเราทำงานได้ดี
และเจ้านายคนใหม่ อาจเห็นว่าเราเริ่มต้นมากับเขา
บริษัทที่ทำงานปัจจุบันนี้ เงินเดือนน้อย งานมีแต่ปัญหาจุกจิก แต่สวัสดิการก็ถือว่าโอเคนะคะ
ส่วนที่ใหม่ที่เสนอมา ให้เงินเดือนดีกว่าที่เก่า งานยังไม่รู้ว่ายังไง ยังไม่มีสวัสดิการอะไร เพราะเป็นพนักงานคนเดียว
บริษัทที่ทำงานปัจจุบันนี้ เพื่อนๆในแผนกก็ถือว่าเข้าขากันได้ดี แม้บางทีเราจะมีการจิกกัดกันเบาๆตามประสา แต่สุดท้ายเราก็รักกันค่ะ
ส่วนที่ใหม่ ....... เบื้องต้นคือ ยังไม่มีเพื่อน ทำงานคนเดียวไปก่อน ซึ่งไม่รู้ว่าจะต้องทำคนเดียวไปนานแค่ไหน
ซึ่งก็แอบกังวลว่า เราจะทำได้ไหมกับงาน และ การต้องทำงานคนเดียว อยู่บริษัทคนเดียว(หากเจ้านายไม่อยู่)
บอกตรงๆค่ะว่าตอนนี้สับสนมาก ว่าเราควรจะเลือกที่ไหนกันแน่
สาเหตุที่ทำให้ลังเลตอนนี้คือ
บริษัทปัจจุบัน
1. งานที่เราเคยทำ หัวหน้าต้องเป็นคนรับภาระนั้นไป
2. ถ้าหัวหน้าขาดเราไป ท่านจะทำงานติดขัดไหม เพราะท่านเอ่ยปากแล้วว่าไม่มีเรา ท่านจะทำงานลำบาก(มาก)
3. เราจะทิ้งสวัสดิการดีๆ เพื่อนร่วมงานดีๆ ดีไหม
4. หัวหน้ามีพระคุณมาก อุตส่าห์สอนงานเราตั้งแต่แรก แต่เรากลับทิ้งท่านไปอย่างง่ายดาย
บริษัทใหม่
1. ทำงานคนเดียว อยู่คนเดียวได้ไหม แล้วมันฟังแล้วดูแปลกๆไหมที่บริษัทจะมีพนักงานแค่คนเดียว ?
2. มีความมั่นคง น่าเชื่อถือแค่ไหนกับบริษัทที่เพิ่งมาเปิดใหม่
3. ถึงเงินเดือนจะดี แต่ไม่มีสวัสดิการอะไรเลย มันจะโอเคไหม
ถ้าเป็นเพื่อนๆ จะเลือกที่ไหนดีคะ ?? เพราะอะไรคะ ??
หากมีคำแนะนำ ข้อติชมอย่างไร รบกวนแนะนำด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ
หากทุกท่านคิดว่ากระทู้นี้น่าจะมีประโยชน์ต่อผู้อื่น
ก็อยากให้เป็นกระทู้แนะนำค่ะ
การลาออกครั้งที่ 1
เมื่อหลายปีก่อน ดิฉันได้มีโอกาสได้ทำงานในบริษัทกลางกรุงแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นงานแรกหลังเรียนจบได้ 1 อาทิตย์
ตอนเริ่มงานก็อย่างว่าหละค่ะ ไม่มีประสบการณ์อะไรเลย แต่เดชะบุญหัวหน้างานคนแรกท่านน่ารักค่ะ
ท่านเป็นคนสอนงานตั้งแต่แรกเริ่มไปได้ระยะหนึ่ง แต่ไม่นาน .. หัวหน้างานท่านนั้นก็ลาออกไปด้วยเหตุผลของ"เบื้องบน"
หลังจากนั้นก็มีหัวหน้าคนใหม่เข้ามา พอท่านทราบว่าเราเป็นเด็กใหม่และไม่มีประสบการณ์เลย
ท่านก็คอยสอนงานต่อจากหัวหน้าคนเก่า จะว่าไป ท่านก็ใหม่เหมือนกัน
เลยเรียกได้ว่า "ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน" โดยที่ดูแล้วท่านจะช่วยเรามากกว่าค่ะ
เพราะเราช่วยท่านได้แค่ตอนแรกๆ แนะนำคร่าวๆว่าก่อนหน้านี้เป็นยังไง อะไรประมาณนี้
หัวหน้าท่านนี้ท่านเป็นคนเก่งมากค่ะ ท่านวางระบบงาน ท่านทำงานหนัก บลาๆๆ
แต่ท่านก็เสียสละเวลาหลังเลิกงาน ในการสอนงานเพิ่มเติมเกือบทุกวันในช่วงปีแรกๆ
นอกจากนี้ท่านยังให้โอกาสเราในการทำงานหลากหลาย อันไหนทำไม่ได้ ทำผิด ท่านก็ไม่เคยว่าเลยค่ะ
พูดง่ายๆว่า คงหาหัวหน้างานแบบนี้ได้ยากในสังคมที่แก่งแย่งชิงดี มีแต่คนคอยจับผิด คอยติกันแบบทุกวันนี้
เนื่องจากที่ท่านเป็นคนสอนงาน และ แนะนำทุกสิ่งอย่างมาตลอด
เราก็สามารถพูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่าเราคงเป็นมือข้างใดข้างหนึ่งของท่านแล้วหละค่ะ
เวลาผ่านไป งานก็มากขึ้น ดีเทลจุกจิก ซับซ้อนซ่อนเงื่อนในงานมันก็มากขึ้น
จนวันนึงเราก็คิดว่า ....... หรือมันจะไม่ใช่ทางของเรานะ ??
แต่แล้วเราก็อดทน พยายาม และ เรียนรู้ไปกับงานและท่านมาเรื่อยๆ
ด้วยเหตุผลหลายอย่างหลายประการ เราก็เริ่มจะรู้สึกว่ามันไม่ไหวแล้วมั้ย ?
จนถึงวันนี้เราก็คิดว่า ...... หรือมันจะถึงเวลาแล้วนะ ??
วินาทีที่ได้บอกกับหัวหน้าท่านว่า "ดิฉันขอลาออกได้ไหมคะ ดิฉันคิดว่าดิฉันไม่เหมาะสมกับงานที่นี่"
หัวหน้าได้แต่อึ้งไปซักพัก ... "อยู่ต่อเถอะ ช่วยพี่เถอะ ถ้าหนูออก พี่ก็ไม่มีใครที่ช่วยงานพี่ได้ดีอย่างหนู"
ดิฉันจึงตอบไปแค่ว่า "ขอโทษนะคะพี่ แต่หนูคิดมานานแล้ว แล้วหนูก็ตัดสินใจไปแล้วค่ะ หวังว่าพี่จะสนับสนุนการตัดสินใจของหนูนะคะ"
ใจนึงเราก็ไม่อยากออกนะคะ เพราะคิดว่าเราก็อยากจะทำงานช่วยท่านต่อไปเรื่อยๆ
อย่างน้อยท่านก็ถือว่าเป็นผู้มีพระคุณที่สอนเรามาตั้งแต่ 0 จนถึงทุกวันนี้
พูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่า "ท่านเสียสละ และ มีน้ำใจกับหนูมาก"
แต่พอดีก่อนหน้านี้ มีโอกาสได้รับการสัมภาษณ์จากบริษัทแห่งหนึ่ง
เป็นบริษัทต่างประเทศที่จะมาเปิดใหม่ในประเทศไทย
และเรา .... ได้รับโอกาสเป็นคนแรกของบริษัทในการมาทำงาน
และ ........ อาจเป็นพนักงานคนเดียวในบริษัทไปซักพัก
เราคิดว่าเราอาจมีโอกาสในการเรียนรู้งานใหม่ๆและหลากหลายมากในบริษัทใหม่นี้
ตอนแรกเริ่ม บริษัทนี้คงมีปัญหาติดๆขัดๆนู่นนี่บ้าง และยิ่งเป็นพนักงานคนเดียวแล้ว งานคงหนักนิดนึง(มั้ง)
แต่ก็อาจจะถือว่าเป็นโอกาสที่ดี ถ้าทำไปเรื่อยๆ อาจได้รับโอกาสในการเลื่อนตำแหน่งก็ได้ หากเราทำงานได้ดี
และเจ้านายคนใหม่ อาจเห็นว่าเราเริ่มต้นมากับเขา
บริษัทที่ทำงานปัจจุบันนี้ เงินเดือนน้อย งานมีแต่ปัญหาจุกจิก แต่สวัสดิการก็ถือว่าโอเคนะคะ
ส่วนที่ใหม่ที่เสนอมา ให้เงินเดือนดีกว่าที่เก่า งานยังไม่รู้ว่ายังไง ยังไม่มีสวัสดิการอะไร เพราะเป็นพนักงานคนเดียว
บริษัทที่ทำงานปัจจุบันนี้ เพื่อนๆในแผนกก็ถือว่าเข้าขากันได้ดี แม้บางทีเราจะมีการจิกกัดกันเบาๆตามประสา แต่สุดท้ายเราก็รักกันค่ะ
ส่วนที่ใหม่ ....... เบื้องต้นคือ ยังไม่มีเพื่อน ทำงานคนเดียวไปก่อน ซึ่งไม่รู้ว่าจะต้องทำคนเดียวไปนานแค่ไหน
ซึ่งก็แอบกังวลว่า เราจะทำได้ไหมกับงาน และ การต้องทำงานคนเดียว อยู่บริษัทคนเดียว(หากเจ้านายไม่อยู่)
บอกตรงๆค่ะว่าตอนนี้สับสนมาก ว่าเราควรจะเลือกที่ไหนกันแน่
สาเหตุที่ทำให้ลังเลตอนนี้คือ
บริษัทปัจจุบัน
1. งานที่เราเคยทำ หัวหน้าต้องเป็นคนรับภาระนั้นไป
2. ถ้าหัวหน้าขาดเราไป ท่านจะทำงานติดขัดไหม เพราะท่านเอ่ยปากแล้วว่าไม่มีเรา ท่านจะทำงานลำบาก(มาก)
3. เราจะทิ้งสวัสดิการดีๆ เพื่อนร่วมงานดีๆ ดีไหม
4. หัวหน้ามีพระคุณมาก อุตส่าห์สอนงานเราตั้งแต่แรก แต่เรากลับทิ้งท่านไปอย่างง่ายดาย
บริษัทใหม่
1. ทำงานคนเดียว อยู่คนเดียวได้ไหม แล้วมันฟังแล้วดูแปลกๆไหมที่บริษัทจะมีพนักงานแค่คนเดียว ?
2. มีความมั่นคง น่าเชื่อถือแค่ไหนกับบริษัทที่เพิ่งมาเปิดใหม่
3. ถึงเงินเดือนจะดี แต่ไม่มีสวัสดิการอะไรเลย มันจะโอเคไหม
ถ้าเป็นเพื่อนๆ จะเลือกที่ไหนดีคะ ?? เพราะอะไรคะ ??
หากมีคำแนะนำ ข้อติชมอย่างไร รบกวนแนะนำด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ
หากทุกท่านคิดว่ากระทู้นี้น่าจะมีประโยชน์ต่อผู้อื่น
ก็อยากให้เป็นกระทู้แนะนำค่ะ