คือชีวิตเราช่วงนี้ เจอบ่อยมาก ทั้ง
- เพื่อนๆที่แบบไม่มีเงินเก็บเลย แม้ปัจจุบันจะอายุอานามใกล้เลข 3 แล้ว มีเงินเก็บไม่ถึงหมื่น บางคนมีไม่ถึง 5 พันบาทด้วย แล้วก็ชอบมาพูดว่า คนเราเงินมันไม่ใช่ทุกสิ่ง ( แต่เกือบทุกสิ่งที่ต้องกิน ต้องใช้มันใช้เงินซื้อเปล่าวะ --" )
- เห็นๆอยู่ตะกี้บอกเงินไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่าง อ้าว แต่พอตัวเองเดือดร้อนไม่มีเงิน มาขอยืมคนอื่น ไหนว่าเงินไม่ใช่ทุกสิ่ง คือ เมื่อไหร่จะยอมรับความเป็นจริงบนโลกนี้บ้าง แบบโลกไม่สวย ว่ายุคสมัยนี้แล้ว จะกินจะใช้อะไรมันต้องมีเงิน อันนี้พูดถึงแค่กินใช้ ไม่รวมว่าเผื่อต้องหาเงินไปขอสาว ซื้อบ้าน ซื้อรถอะไรนะคะ
- แล้วก็ชอบพูดว่า ก็เศรษฐกิจมันไม่ดี / ก็เรียนมาทางนี้หางานยาก / ก็ไม่อยากเป็นมนุษย์เงินเดือน / ก็ไม่เจองานที่ถูกใจ บลาๆ พอเราแนะนำไปว่าควรจะทำอย่างโน้นอย่างนี้นะ เช่น ลองทำนี่ไปก่อน เก็บเงินให้ได้สักก้อนแล้วเอาไปลงทุนขายของโน่นนี่ พวกนี้ก็จะมาไม่เอาอ่ะ ไม่ชอบบ้าง / ไม่อ่ะ เอาไว้ก่อน / เดี๋ยวรอสักพักละกัน ทำอันนี้ไปก่อน บลาๆ
หรือเราแนะนำให้ไปเรียนภาษาเพิ่ม หรือไปเรียนอื่นๆใดๆเพิ่มเพื่อพัฒนาความรู้ศักยภาพตัวเอง นี่ก็เอาอีกละ ไม่อ่ะ เรียนไปก็ไม่รู้ได้เอามาใช้ไหม / เสียดายค่าเรียน / เก็บเงินค่าเรียนไว้ทำอย่างอื่นดีกว่า / ไม่อยากเรียนละ / ขี้เกียจ บลาๆๆๆ
- ถามกลับ แล้วเงินเดือนที่มีอยู่พอกินเหรอ ก็นะ มันไม่พอ ทำไมก็ไม่เลิกโลกสวย ทีแบบนี้ก็บอกมีเท่าไหร่ก็ใช้เท่านั้น พอเพียง คือบางคนทำไมแยกแยะยากจัง รู้ทั้งรู้ เงินตัวเองเลี้ยงตัวเองยังจะไม่ไหว เริ่มโตๆแล้ว แทนที่จะพยายามสร้างเนื้อสร้างตัว เลี้ยงดูพ่อแม่ หรือในอนาคตถ้ามีครอบครัวก็ลูกเมียไม่เดือดร้อน หรือไม่ต้องรบกวนทางบ้านฝ่ายหญิงฝ่ายชายมากนัก แต่นี่ก็ไม่เลย โทษโชคชะตาฟ้าดิน พอใครได้ดี ก็เอาละ มักคิดว่า รวยแล้วไง เงินไม่ใช่ทุกอย่าง ถึงคราวตัวเองจน ไม่มีเงิน ก็วนเวียนมาลูปเดิม ยืมคนอื่น
- เงินเดือนอาจจะไม่ใช่ตัววัดทุกอย่าง แต่ถ้าอายุจะ 30 แล้ว ไม่สามารถหาเงินได้เดือนละ 6 พันบาทเป็นอย่างน้อย นี่มันเข้าขั้นแย่เลยนะ ซึ่งเราเจอ และคนพวกนี้ไม่รู้ตัวด้วย ยังคงของเงินพ่อแม่ต่อไป
- ทำไมไม่เลิกบ่น แล้วหันมาพัฒนาตัวเอง
เลิกโทษดวง โทษโชคชะตาฟ้าดิน
จะให้ตัวคุณรวยได้ไง ในเมื่อสมมุติภาษาอังกฤษพูดไม่ได้ ภาษาอื่นๆไม่ได้ โทอิคไม่มี พิมพ์สัมผัสไม่ได้ คอมพิวเตอร์ก็ไม่ค่อยเป็น พิมพ์ไทยก็ไม่ถูกต้อง รายงานทำไม่เรียบร้อย คณิตไม่ถนัด แนววิชาการไม่มีอะไรได้ ให้ทำงานโรงงานก็ไม่เอา ต้องห้องแอร์ แต่ไม่มีศักยภาพอะไร
- พอลองแนวอื่นๆ เอ้า เต้นรำ ร้องเพลง การแสดง นาฏศิลป์ อาหารทำไม่เป็น ดนตรีก็เล่นไม่ได้ วาดรูป ออกแบบ ตกแต่งอะไรไม่มีในหัว ขายของไม่เป็น คือไม่มีอะไรพอจะดึงดูดคนให้จ้างงาน แต่ให้ทำงานที่ไม่เก๋ๆ ก็ไม่เอา อีโก้สูงอีก --"
เลิกโทษโน่นนี่ หันมาพัฒนาตัวเอง และยอมรับเถอะค่ะ ว่าตัวคุณเอง "ไม่เอาไหน" ไม่สู้ ไม่คิดพัฒนาตัวเอง เลือกที่จะย่ำอยู่กับที่ (หรืออาจเรียกได้ว่าถอยหลังเลยด้วยซ้ำ)
แบบนี้แล้ว มันคือจน เพราะ ห่วย
จริงๆนะ
ไม่ไม่เข้าใจคนจนหลายๆคน ทำตัวเองจนเองแท้ๆทำไมถึงได้โทษโชคชะตา ถึงคิดว่าคนอื่นดูถูก ทั้งๆที่เค้าอาจจะแนะนำด้วยความหวังดี
- เพื่อนๆที่แบบไม่มีเงินเก็บเลย แม้ปัจจุบันจะอายุอานามใกล้เลข 3 แล้ว มีเงินเก็บไม่ถึงหมื่น บางคนมีไม่ถึง 5 พันบาทด้วย แล้วก็ชอบมาพูดว่า คนเราเงินมันไม่ใช่ทุกสิ่ง ( แต่เกือบทุกสิ่งที่ต้องกิน ต้องใช้มันใช้เงินซื้อเปล่าวะ --" )
- เห็นๆอยู่ตะกี้บอกเงินไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่าง อ้าว แต่พอตัวเองเดือดร้อนไม่มีเงิน มาขอยืมคนอื่น ไหนว่าเงินไม่ใช่ทุกสิ่ง คือ เมื่อไหร่จะยอมรับความเป็นจริงบนโลกนี้บ้าง แบบโลกไม่สวย ว่ายุคสมัยนี้แล้ว จะกินจะใช้อะไรมันต้องมีเงิน อันนี้พูดถึงแค่กินใช้ ไม่รวมว่าเผื่อต้องหาเงินไปขอสาว ซื้อบ้าน ซื้อรถอะไรนะคะ
- แล้วก็ชอบพูดว่า ก็เศรษฐกิจมันไม่ดี / ก็เรียนมาทางนี้หางานยาก / ก็ไม่อยากเป็นมนุษย์เงินเดือน / ก็ไม่เจองานที่ถูกใจ บลาๆ พอเราแนะนำไปว่าควรจะทำอย่างโน้นอย่างนี้นะ เช่น ลองทำนี่ไปก่อน เก็บเงินให้ได้สักก้อนแล้วเอาไปลงทุนขายของโน่นนี่ พวกนี้ก็จะมาไม่เอาอ่ะ ไม่ชอบบ้าง / ไม่อ่ะ เอาไว้ก่อน / เดี๋ยวรอสักพักละกัน ทำอันนี้ไปก่อน บลาๆ
หรือเราแนะนำให้ไปเรียนภาษาเพิ่ม หรือไปเรียนอื่นๆใดๆเพิ่มเพื่อพัฒนาความรู้ศักยภาพตัวเอง นี่ก็เอาอีกละ ไม่อ่ะ เรียนไปก็ไม่รู้ได้เอามาใช้ไหม / เสียดายค่าเรียน / เก็บเงินค่าเรียนไว้ทำอย่างอื่นดีกว่า / ไม่อยากเรียนละ / ขี้เกียจ บลาๆๆๆ
- ถามกลับ แล้วเงินเดือนที่มีอยู่พอกินเหรอ ก็นะ มันไม่พอ ทำไมก็ไม่เลิกโลกสวย ทีแบบนี้ก็บอกมีเท่าไหร่ก็ใช้เท่านั้น พอเพียง คือบางคนทำไมแยกแยะยากจัง รู้ทั้งรู้ เงินตัวเองเลี้ยงตัวเองยังจะไม่ไหว เริ่มโตๆแล้ว แทนที่จะพยายามสร้างเนื้อสร้างตัว เลี้ยงดูพ่อแม่ หรือในอนาคตถ้ามีครอบครัวก็ลูกเมียไม่เดือดร้อน หรือไม่ต้องรบกวนทางบ้านฝ่ายหญิงฝ่ายชายมากนัก แต่นี่ก็ไม่เลย โทษโชคชะตาฟ้าดิน พอใครได้ดี ก็เอาละ มักคิดว่า รวยแล้วไง เงินไม่ใช่ทุกอย่าง ถึงคราวตัวเองจน ไม่มีเงิน ก็วนเวียนมาลูปเดิม ยืมคนอื่น
- เงินเดือนอาจจะไม่ใช่ตัววัดทุกอย่าง แต่ถ้าอายุจะ 30 แล้ว ไม่สามารถหาเงินได้เดือนละ 6 พันบาทเป็นอย่างน้อย นี่มันเข้าขั้นแย่เลยนะ ซึ่งเราเจอ และคนพวกนี้ไม่รู้ตัวด้วย ยังคงของเงินพ่อแม่ต่อไป
- ทำไมไม่เลิกบ่น แล้วหันมาพัฒนาตัวเอง
เลิกโทษดวง โทษโชคชะตาฟ้าดิน
จะให้ตัวคุณรวยได้ไง ในเมื่อสมมุติภาษาอังกฤษพูดไม่ได้ ภาษาอื่นๆไม่ได้ โทอิคไม่มี พิมพ์สัมผัสไม่ได้ คอมพิวเตอร์ก็ไม่ค่อยเป็น พิมพ์ไทยก็ไม่ถูกต้อง รายงานทำไม่เรียบร้อย คณิตไม่ถนัด แนววิชาการไม่มีอะไรได้ ให้ทำงานโรงงานก็ไม่เอา ต้องห้องแอร์ แต่ไม่มีศักยภาพอะไร
- พอลองแนวอื่นๆ เอ้า เต้นรำ ร้องเพลง การแสดง นาฏศิลป์ อาหารทำไม่เป็น ดนตรีก็เล่นไม่ได้ วาดรูป ออกแบบ ตกแต่งอะไรไม่มีในหัว ขายของไม่เป็น คือไม่มีอะไรพอจะดึงดูดคนให้จ้างงาน แต่ให้ทำงานที่ไม่เก๋ๆ ก็ไม่เอา อีโก้สูงอีก --"
เลิกโทษโน่นนี่ หันมาพัฒนาตัวเอง และยอมรับเถอะค่ะ ว่าตัวคุณเอง "ไม่เอาไหน" ไม่สู้ ไม่คิดพัฒนาตัวเอง เลือกที่จะย่ำอยู่กับที่ (หรืออาจเรียกได้ว่าถอยหลังเลยด้วยซ้ำ)
แบบนี้แล้ว มันคือจน เพราะ ห่วย
จริงๆนะ