ขอเล่ารายละเอียดเลยนะคะ
พี่ต้า เป็นเจ้าของโครงการหมู่บ้าน และเป็นเจ้าของรีสอร์ทแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี อายุ 30 กว่าๆ มีแฟนชื่อสร้อย อายุ 20 ต้นๆ ฝ่ายหญิงไม่ได้ทำงานอะไร (มีเหตุผลที่จขกท.ต้องบอกเรื่องอาชีพและฐานะการเงิน เพราะมีคนด่าฝ่ายชายโดยที่ไม่ได้ทราบข้อเท็จจริงอะไรเลย) ทั้งคู่ยังไม่ได้แต่งงานกัน แต่อยู่ด้วยกันที่บ้านของพี่ต้า โดยที่พ่อแม่ของทั้งสองฝ่ายก็รับรู้มาตลอด
ก่อนหน้านี้สร้อยยังสุขภาพแข็งแรงดี ก่อนที่จะป่วยยังไปกินสเวนเซ่นกับเจ้าของกระทู้อยู่เลย แต่อีกอาทิตย์ต่อมาเรากลับทราบข่าวว่าสร้อยนอนอยู่ห้องไอซียู ต้องเปิดกะโหลกเพราะติดเชื้อจนเยื่อหุ้มสมองอักเสบ สมองบวมมาก พี่ต้าเป็นคนพาสร้อยไปรักษาตั้งแต่สร้อยเริ่มปวดหัวหนัก โดยเข้ารับการตรวจในรพ. ประจำจังหวัดก่อน แต่ระหว่างรอตรวจสร้อยปวดหัวหนักจนเริ่มไม่รู้สึกตัว จึงต้องส่งตัวด่วนเข้าไอซียูที่รพ. ในกรุงเทพ
พี่ต้าต้องขับรถไปกลับกรุงเทพ-กาญจนบุรี เกือบทุกวัน เพราะเป็นห่วงแฟนที่กำลังรักษาตัวอยู่ ส่วนตัวเองก็ต้องคุมการก่อสร้างหมู่บ้านของตัวเองไปด้วย พี่ต้าหมดเงินไปเป็นแสนๆ เพื่อรักษาสร้อยให้หาย จนตอนหลังเงินหมุนไม่พอ จึงต้องไปยืมเงิน 2 หมื่น และทอง 2 บาท จากแม่ของสร้อย เพื่อมารักษาสร้อย
เวลาผ่านมาเป็นเดือน สร้อยอาการดีขึ้นจนสามารถออกจากโรงพยาบาลได้ แต่ผลจากโรคทำให้สร้อยไม่สามารถทำชีวิตด้วยตัวเองได้ แม่ของสร้อยมาคอยช่วยเหลืออยู่ที่บ้านของพี่ต้า โดยที่พี่ต้าก็เทียวดูแลสร้อย - ดูแลโครงการหมู่บ้านไปด้วย แต่อยู่ๆ พ่อแม่ของสร้อยก็พาสร้อยไปรักษากับหมอปลา ที่เคยออกรายการเรื่องจริงผ่านจอ หมอปลาบอกพ่อแม่สร้อยว่า สร้อยป่วยเพราะโดนของจากแฟนเก่าพี่ต้า??? ซึ่งไม่มีทางเป็นไปได้เลย เพราะแฟนเก่าพี่ต้าอยู่ชลบุรี เลิกกันไปหลายปีแล้ว และไม่เคยมาระรานหรือวุ่นวายกับสร้อยเลยซักครั้ง
หมอปลาห้ามไม่ให้สร้อยกินยาแผนปัจจุบันใดๆ ทั้งสิ้น ให้กินและอาบน้ำมนต์ของเขาอย่างเดียว ทำให้อาการของสร้อยที่เริ่มดีขึ้นแล้วกลับทรุดลงอีก แต่พ่อแม่ของสร้อยเชื่อหมอปลาไม่ลืมหูลืมตา กลับดันทุรังรักษาต่อ!! พอพี่ต้าคัดค้านหนักเข้า พ่อแม่สร้อยจึงพาสร้อยออกไปจากบ้านพี่ต้าไปอยู่กับหมอปลา และบอกว่าพี่ต้าไม่มีสิทธิ์ใดๆ ในตัวสร้อยเพราะไม่ได้แต่งงานกัน ทั้งยังด่าว่าพี่ต้าหยาบคาย ทวงเงิน 2 หมื่นและทอง 2 บาทที่พี่ต้ายืมไปรักษาลูกสาวตัวเองคืน เราฟังแล้วอนาจใจมาก เงินรักษาลูกสาวตัวเองแท้ๆ ยังกล้าทวงคืน ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้พี่ต้าหมดเงินกับการรักษาสร้อยไปเป็นแสนๆ ด้วยความเต็มใจ
อ่านรายละเอียดได้จากภาพในกระทู้ที่เป็นคำบอกเล่าจากพี่ต้าได้เลยค่ะ A คือพี่ต้าเองค่ะ ตอนแรกไม่ได้ตั้งใจว่าจะเปิดเผยชื่อและอาชีพ แต่กลับโดนบางคอมเม้นท์ด่าว่าไปเกาะฝ่ายหญิงกิน?? ตอนนี้เพจ Ghost ฟักโกสต์ : สมาคมต่อต้านสิ่งงมงาย กำลังช่วยแชร์เรื่องราวอยู่ แต่อยากได้ความช่วยเหลือจากทุกคนในพันทิปด้วยค่ะ ว่าเราจะสามารถจัดการกับหมอปลายังไงได้บ้าง ตอนนี้พี่ต้าเป็นห่วงสร้อย อยากให้กลับมารักษาแผนปัจจุบันดังเดิม จะสามารถจัดการทางกฎหมายได้บ้างมั้ยคะ เราไม่อยากให้สายไปกว่านี้ ไม่อยากให้สร้อยอาการหนักกว่านี้ เพราะสร้อยก็เป็นเด็กดีและเป็นน้องที่น่ารักคนนึงของเรา รบกวนทุกคนช่วยให้คำแนะนำเพื่อช่วยชีวิตคนๆ นึงไว้ด้วยนะคะ
ช่วยด้วยค่ะ แฟนของพี่ชายเป็นโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ แต่ทางบ้านให้รักษาด้วยไสยศาสตร์!
พี่ต้า เป็นเจ้าของโครงการหมู่บ้าน และเป็นเจ้าของรีสอร์ทแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี อายุ 30 กว่าๆ มีแฟนชื่อสร้อย อายุ 20 ต้นๆ ฝ่ายหญิงไม่ได้ทำงานอะไร (มีเหตุผลที่จขกท.ต้องบอกเรื่องอาชีพและฐานะการเงิน เพราะมีคนด่าฝ่ายชายโดยที่ไม่ได้ทราบข้อเท็จจริงอะไรเลย) ทั้งคู่ยังไม่ได้แต่งงานกัน แต่อยู่ด้วยกันที่บ้านของพี่ต้า โดยที่พ่อแม่ของทั้งสองฝ่ายก็รับรู้มาตลอด
ก่อนหน้านี้สร้อยยังสุขภาพแข็งแรงดี ก่อนที่จะป่วยยังไปกินสเวนเซ่นกับเจ้าของกระทู้อยู่เลย แต่อีกอาทิตย์ต่อมาเรากลับทราบข่าวว่าสร้อยนอนอยู่ห้องไอซียู ต้องเปิดกะโหลกเพราะติดเชื้อจนเยื่อหุ้มสมองอักเสบ สมองบวมมาก พี่ต้าเป็นคนพาสร้อยไปรักษาตั้งแต่สร้อยเริ่มปวดหัวหนัก โดยเข้ารับการตรวจในรพ. ประจำจังหวัดก่อน แต่ระหว่างรอตรวจสร้อยปวดหัวหนักจนเริ่มไม่รู้สึกตัว จึงต้องส่งตัวด่วนเข้าไอซียูที่รพ. ในกรุงเทพ
พี่ต้าต้องขับรถไปกลับกรุงเทพ-กาญจนบุรี เกือบทุกวัน เพราะเป็นห่วงแฟนที่กำลังรักษาตัวอยู่ ส่วนตัวเองก็ต้องคุมการก่อสร้างหมู่บ้านของตัวเองไปด้วย พี่ต้าหมดเงินไปเป็นแสนๆ เพื่อรักษาสร้อยให้หาย จนตอนหลังเงินหมุนไม่พอ จึงต้องไปยืมเงิน 2 หมื่น และทอง 2 บาท จากแม่ของสร้อย เพื่อมารักษาสร้อย
เวลาผ่านมาเป็นเดือน สร้อยอาการดีขึ้นจนสามารถออกจากโรงพยาบาลได้ แต่ผลจากโรคทำให้สร้อยไม่สามารถทำชีวิตด้วยตัวเองได้ แม่ของสร้อยมาคอยช่วยเหลืออยู่ที่บ้านของพี่ต้า โดยที่พี่ต้าก็เทียวดูแลสร้อย - ดูแลโครงการหมู่บ้านไปด้วย แต่อยู่ๆ พ่อแม่ของสร้อยก็พาสร้อยไปรักษากับหมอปลา ที่เคยออกรายการเรื่องจริงผ่านจอ หมอปลาบอกพ่อแม่สร้อยว่า สร้อยป่วยเพราะโดนของจากแฟนเก่าพี่ต้า??? ซึ่งไม่มีทางเป็นไปได้เลย เพราะแฟนเก่าพี่ต้าอยู่ชลบุรี เลิกกันไปหลายปีแล้ว และไม่เคยมาระรานหรือวุ่นวายกับสร้อยเลยซักครั้ง
หมอปลาห้ามไม่ให้สร้อยกินยาแผนปัจจุบันใดๆ ทั้งสิ้น ให้กินและอาบน้ำมนต์ของเขาอย่างเดียว ทำให้อาการของสร้อยที่เริ่มดีขึ้นแล้วกลับทรุดลงอีก แต่พ่อแม่ของสร้อยเชื่อหมอปลาไม่ลืมหูลืมตา กลับดันทุรังรักษาต่อ!! พอพี่ต้าคัดค้านหนักเข้า พ่อแม่สร้อยจึงพาสร้อยออกไปจากบ้านพี่ต้าไปอยู่กับหมอปลา และบอกว่าพี่ต้าไม่มีสิทธิ์ใดๆ ในตัวสร้อยเพราะไม่ได้แต่งงานกัน ทั้งยังด่าว่าพี่ต้าหยาบคาย ทวงเงิน 2 หมื่นและทอง 2 บาทที่พี่ต้ายืมไปรักษาลูกสาวตัวเองคืน เราฟังแล้วอนาจใจมาก เงินรักษาลูกสาวตัวเองแท้ๆ ยังกล้าทวงคืน ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้พี่ต้าหมดเงินกับการรักษาสร้อยไปเป็นแสนๆ ด้วยความเต็มใจ
อ่านรายละเอียดได้จากภาพในกระทู้ที่เป็นคำบอกเล่าจากพี่ต้าได้เลยค่ะ A คือพี่ต้าเองค่ะ ตอนแรกไม่ได้ตั้งใจว่าจะเปิดเผยชื่อและอาชีพ แต่กลับโดนบางคอมเม้นท์ด่าว่าไปเกาะฝ่ายหญิงกิน?? ตอนนี้เพจ Ghost ฟักโกสต์ : สมาคมต่อต้านสิ่งงมงาย กำลังช่วยแชร์เรื่องราวอยู่ แต่อยากได้ความช่วยเหลือจากทุกคนในพันทิปด้วยค่ะ ว่าเราจะสามารถจัดการกับหมอปลายังไงได้บ้าง ตอนนี้พี่ต้าเป็นห่วงสร้อย อยากให้กลับมารักษาแผนปัจจุบันดังเดิม จะสามารถจัดการทางกฎหมายได้บ้างมั้ยคะ เราไม่อยากให้สายไปกว่านี้ ไม่อยากให้สร้อยอาการหนักกว่านี้ เพราะสร้อยก็เป็นเด็กดีและเป็นน้องที่น่ารักคนนึงของเรา รบกวนทุกคนช่วยให้คำแนะนำเพื่อช่วยชีวิตคนๆ นึงไว้ด้วยนะคะ