ปัจจุบัน
"เรียนให้จบนะลูก"
"ค่ะ" รถแวนขาวสะอาดเคลื่อนที่ออกห่างไปจนลับสายตา
ตึกไม้ตั้งตะหง่านอยู่เบื้องหน้าราวประกาศศักดาถึงอายุและความเก่าแก่
สองขาก้าวพ้นขอบรั้วสีเข้มชีวิตใหม่กำลังรอคอยบนพื้นที่ ต่างจังหวัด
เฮ้อคุ้นชินกับคำนี้เสียแล้ว เมื่อเด็กทั้งพ่อและแม่ต้องย้ายที่ทำงานบ่อยๆ
ทำให้หญิงสาวกลายเป็นคนรักการเดินทาง ไม่ว่าภาคใดเหนือใต้ออกตก
ล้วนไปมาแล้วแทบทั้งสิ้น การที่ย้ายโรงเรียนบ่อยทำให้มีเพื่อนมากมาย
แต่ก็ไม่ถึงขั้นเคยสนิทสนม และจังหวัดล่าสุดที่ต้องมานี่สิเพราะคุณพ่อคุณแม่แท้ๆนะ
ฉันถึงยอมมาเนี้ย
"ไปไม่ได้นะลูก แม่ต้องไปทำงานหลายปีนะค่ะเพราะฉะนั้นหนูเป็นเด็กดีอยู่ที่โรงเรียนเก่าของเพื่อนแม่นะค่ะ "
เสียงบุพการีที่ทั้งอ้อดอ้อนและกำชับไปในตัว
"แต่ว่า" แค่จะค้านคำเดียว
"ไม่เอานะลูก งานครั้งนี้อันตรายมาก พ่อไม่อยากเอาลูกไปเสี่ยงด้วย"
"พี่หนึ่ง กับพี่สองยังไปได้เลยนี่ค่ะ" ความที่อยากไปจึงพยายามหาเหตุผลมาอ้าง
"ก็พี่ๆเขาป้องกันตัวเองได้นี่จ๊ะ"
"ใช่สาม น้องไม่มีพลังอย่าเสี่ยงดีกว่า" เสียงพี่ชายคนโตกล่าวสำทับ
"ค่ะ" แล้วฉันจะทำไงได้เล่านอกจากยอมรับชะตากรรมไป
มันผิดหรือไงหล่ะที่เกิดมาในตระกูลนักเวทย์แต่ไม่มีพลังเวทย์ น่าตลกนะทุกคนในตระกูลต่างมีพลังกันทั้งนั้นแล้ว
ทำไมมีฉันคนเดียวย้ำคนเดียวเท่านั้นที่ไม่มีเหมือนกับพวกนั้นสักกะติ๊ด
นี่ฉันเป็นลูกบ้านอื่นที่ถูกเก็บมาเลี้ยงหรือเปล่าเนี้ย
เฮ้อ ถอนหายใจเป็นรอบที่สองแล้ว ก็เพราะอย่างงี้ไงหล่ะ
ฉันถึงต้องมายังหอพักที่อยู่ตรงหน้าฉันเนี้ยไม้ทั้งหลัง น่าวังเวงซะไม่มี
สองเท้าก้าวเดินไปยังประตูบานใหญ่ ลวดลายสลักเป็นรูปเถาวัลย์เกี่ยวกระหวัดรัดแน่น
"สวัสดีจ๊ะ มาใหม่ใช่ไหมจ๊ะ วันนี้ไม่ค่อยคนเพราะช่วงปิดเทอมนะหนู"
ยังไม่ทันเอื้อมจับลูกบิด ประตูบานหน้าก็เปิดอ้าต้อนรับ !!!
หญิงสาวเสียเวลาลงทะเบียนอยู่ด้านล่างพักใหญ่จนได้เบอร์ห้องในที่สุด
"1529 ชั้นห้าห้องริมสุด" สายตากวาดไล่ตามเบอร์ห้อง
"1520 1521 1522 1523.......เจอแล้ว1529"
"อย่าเปิด อย่านะสาม" เสียงเตือนดังขึ้นจากภายในทำให้หญิงสาวหยุดซะงักครู่หนึ่งไม่รู้ทำไม
รู้สึกเหมือนกับว่าหากเปิดประตูบานนี้เข้าไป ทุกอย่างจะเปลี่ยนไป
"คิดไปเอง" พยายามปลอบใจตนเอง มือบางบิดลูกบิดลากกระเป๋าเป้บนหลังวางลงบนพื้นห้องก่อนค่อยๆสำรวจไปรอบๆ
เตียงขนาดคิงไซท์ปูด้วยผ้าสีขาวสะอาดตั้งอยู่ติดกับโต๊ะเขียนหนังสือ
ทางขวามือเป็นห้องน้ำแบบโถปิดเปิดติดผนังมีอ่างล่างหน้าปูด้วยหินอ่อนสีเขียวใส
อ่างจากุชชี่ตั้งเด่นข้างผนังฝั่งซ้ายมีทั้งน้ำเย็นและร้อนให้เลือกตามใจชอบ
"โหยังกะโรงแรม มีแอร์ซะด้วย คุณแม่ขา ขอบคุณที่สุดเลย"หญิงสาวรำพึงกับตัวเอง
มุมห้องด้านหนึ่งร่างในชุดดำซุ่มซ่อนอย่างเงียบเชียบ ไร้สัมผัส ไร้ตัวตน มาแล้วสินะ คลี่รอยยิ้มอย่างมาดหมาย
......................................................................................
หลับซักงีบดีกว่า
ทันความคิดเจ้าตัวจึงล้มนอนลงบนเตียงหนานุ่ม นิทราเข้าครอบครอง
ท้องฟ้าด้านนอกเปลี่ยนสีจากสดใสเข้าสู้ความมืดมนราตรีเริ่มแผ่กระจายทั่วทุกอณู
แววตาสีมรกตยังคงจับจ้องเป้าหมายอย่างไม่ให้คลายสาดตา
"นากิม" เสียงหวานไพเราะลอยเรื่อยตามสายลมหากไม่ตั้งใจฟังคงไม่ได้ยินเป็นแน่ซึ่งแตกต่างจากอสูรหนุ่มชุดดำ
หูของเขาสามารถรับเสียงได้ดีกว่าคนปกติ
"เวร่า เงียบ"
"ทำไมต้องดุข้า" ร่างขาวสกาวค่อยๆสว่างขึ้นข้างกายชายหนุ่ม แววตาตัดพ้อต่อว่า
"มานี่ มา" ริมฝีปากแลกจุมพิตกันอย่างดุเดือด กิจกรรมในห้องไม่เป็นการรบกวนสำหรับสามเลยแม้แต่น้อยเธอยังคงหลับได้อย่างปกติสุข
.......................................................................................
ปีศาจแค่ชื่อก็น่าสยองขวัญแล้ว
และถ้าคุณต้องใช้ชีวิตร่วมกับปีศาจ
คุณจะทำยังไง
ฮึฮึฮึ
.....................................................
ร่างเปลือยเปล่าก่ายกอดกันบนพื้นพรม ไม่อายฟ้าอายดิน
"อืม นากิมข้าต้องไปแล้วนะ" ร่างงามจางหายทิ้งเพียงคราบคาวบนพื้น
มือหนาโบกเพียงครั้งเดียวเสื้อผ้าบนพื้นก็กลับขึ้นมาอยู่บนร่างหนาดังเดิมราวกับ
กิจกรรมเมื่อครู่ไม่ได้เกิดขึ้น เนื้อรสของนางยังคงหอมหวานน่าเย้ายวนดังเดิม
มือโบกสะบัดอีกครั้ง คราบจางบนพื้นพรมจางหายราวไม่เคยเกิดขึ้น
"อืม" คนบนเตียงเริ่มรู้สึกตัว มือกวาดหานาฟิกาด้านหัวเตียงตามความเคยชิน
"ไปไหนนะ" ยังคงเข้าใจว่านี่เป็นบ้านตัวเอง ความรู้สึกยังตื่นไม่เต็มที่
อึบๆ หญิงสาวผุดลุกนั่งบนเตียงสติเริ่มเข้ามาเรื่อยๆ มือบางควานหาวัตถุที่ใช้บอกเวลาในกระเป๋าเป้
"20.30 โห หลับไปนานขนาดนั้นเชียว" บ่นพึมพำ
เงามืดยังคงจับจ้องไม่วางตา
"ไร้สมอง" คำปรามาสที่หญิงสาวไม่ได้ยิน
ร่างบางตรงดิ่งเข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตาเตรียมลงไปหาอะไรกิน
แต่เมื่อก้าวออกจากห้องน้ำหญิงสาวกลับพบคนแปลกหน้า
"ผู้ชาย มีผู้ชายอยู่ได้ไง" หญิงสาวเริ่มแหกปากมีเสียงสบทจากร่างตรงหน้าและสิ่งเดียวที่จะทำให้เงียบ
ปากประกบปาก ความไม่เคยชินทำให้หญิงสาวเสียท่า
"เงียบได้รึยัง ข้ามาดีไม่ได้มาร้าย"ว่าพลางยิ้มประกอบ
"เพี้ย" หญิงสาวตบออกไปตามสัญชาตญาณ
เต็มๆชายหนุ่มโดนเต็มๆแต่รอยยิ้มกลับไม่จางหายไปจากใบหน้า
(สามอย่ายุ่งกับเขา อย่ายุ่งกับปีศาจ)สำนึกภายในแว่วเตือนมาอีกครา
.........................................................................................................
ตอนที่ 3 รูมเมท
หญิงสาวเริ่มสำรวจร่างตรงหน้าอีกครั้ง ใบหน้างดงามราวรูปสลักและผิวขาวนวลทุกระเบียดนิ้วแต่ส่วนที่ถูกทำร้าย
ไปเมื่อสักครู่มีสีแดงทาบทับเด่นชัดทุกอย่างล้วนงดงามเว้น ดวงตาสีมรกตที่หญิงสาวรู้สึกว่าน่าสะพรึงกลัวแม้ปากจะยิ้มแต่
ดวงตาไม่ยิ้มแม้สักนิด
"ต้องการอะไร" เว้นระยะห่างจากอีกฝ่ายพอสมควร
รู้ดีว่าสิ่งตรงหน้าไม่ใช่คนแน่นอนใบหูที่เรียวยาว ผมยาวจรดแผ่นหลังชุดสีดำยิ่งเพิ่มความน่าสะพรึงกลัวเข้าไปอีก
"ตอนนี้ คงต้องพาเจ้าไปกินข้าว"ยิ้มเชิญชวน
"ไม่เป็นไร ฉันไปเองได้" หญิงสาวรีบวิ่งไปที่ประตู
(ออกไปจากห้องนี้ก่อน อย่างอื่นค่อยคิดทีหลัง)วางเป้าหมายไว้ในใจ
รวมรวมความกลัวกดลงให้ต่ำที่สุดดันความกล้าขึ้นมาเผชิญหน้า
อากาศด้านนอกค่อนข้างเย็นทีเดียว พยายามห่อตัวบรรเทาความหนาว
ร้านอาหารตั้งเรียงรายใต้หอ แม้จะเป็นช่วงปิดเทอมแต่ทุกร้านยังคงเปิดตามปกติ
หญิงสาวเลือกข้าวคลุกกะปิเป็นอาหารมื้อแรก รสชาติไม่เลวทีเดียว
"ว้า ใจร้ายจังใจคอจะกินคนเดียวไม่เรียกผมเลยนะ" สำเนียงที่ฟังดูสนิทสนมแว่วมาเคลียข้างหู
"นาย" สภาพของสิ่งตรงหน้าทำให้หญิงสาวเผลอมองอย่างจดจ้อง หูเรียวยาวถูกปรับสภาพให้เป็นหูคนปกติ ตาสีมรกตกลับเป็นสีน้ำตาลเข้ม
เสื้อเชิ้ตสีขาวกาวเกงขายาวสีเทาและรองเท้าแตะโดยรวมแล้วชายหนุ่มกลับเป็นหนุ่มอ่อนโยนขึ้นทันตา
"อย่าจ้องแบบนั้นสิ ผมเขินเป็นนะ" ยิ้มกรุมกริ่มหากสาวใดมาเห็นต้องหลงไหลเป็นแน่แท้
"ป้าครับ เย็นตาโฟชาม" หันไปสั่งอาหารอย่างคุ้นเคย
"นายเป็นอะไรกันแน่ ตามฉันมาทำไม"
"แหม เจอกันไม่กี่วัน ซักซะยาวเชียว" น้ำเสียงขี้เล่น
"ตอบฉันมา" แววตารอคอย
"ผมชื่อนากิม ไม่ใช่...คน"
"นายเป็นปีศาจ" หญิงสาวถามเสียงตะกุกตะกัก
.............................
อะไรกันมันห่างไปนานแล้วไม่ใช่เรอะการมองเห็นปีศาจเมื่อสมัยเด็กทำไมจะต้องตามมา
หลอกหลอนกันตอนโตด้วย
"นายต้องการอะไร" รวบรวมสติ
"ป่าวครับ แค่มาแนะนำตัวในฐานะรูมเมทเท่านั้นเอง"รอยยิ้มยังคงปรากฎบนริมฝีปากเช่นเคย
"รูมเมท" หญิงสาวพึมพำอีกครั้ง ย้ำให้แน่ชัดว่าฟังไม่ผิด
"ครับ ยินดีที่รู้จักครับคุณสาม"
"รู้จักชื่อฉัน"
จะบ้าตาย คุณแม่ขา คุณแม่รู้ไหมว่าสามต้องอยู่ร่วมห้องกับปีศาจแถมเป็นผู้ชาย
เอ๋.......
หรือต้องเรียกว่าตัวผู้ดี ช่างเถอะ โอ๊ย คุณแม่ขา
"ฉันจะย้ายออกแล้วกัน" หญิงสาวเริ่มวางแผนอย่างเงียบเชียบ
เรื่องอะไรจะอยู่กันสองต่อสองกับ...ปีศาจ
"อย่าแม้แต่จะคิด" แววตาสีน้ำตาลไม่มีวี่แววล้อเล่นแม้แต่น้อย อากาศรอบข้างแปรสภาพเป็นกระจกบอบบางครอบคลุมร่างทั้งสอง
ส่วนวงจรชีวิตด้านนอกยังคงดำเนินไปอย่างปกติ
"เจ้ารู้ว่าข้าเป็นอะไร คิดรึว่าข้าจะปล่อยเจ้าไปง่ายๆ " น้ำเสียงข่มขู่ขึ้นเรื่อยๆ
"เป็นรูมเมทข้ากับ" ยิ้มเหี้ยมเกรียมปรากฎขึ้น
"ตาย เจ้าเลือกเอา" ไม่มีแล้วชายหนุ่มคนเมื่อครู่ รังสีอำมหิตแผ่กระจาย
"เลือก" ตะคอก
"รูมเมท" หญิงสาวเพิ่งหาเสียงตัวเองเจอ
น้ำตาเจ้ากรรมซึมออกจากเบ้าตา (เกิดมายังไม่เคยถูกข่มขู่แม้ซักครั้ง)
แรงกดดันทำให้ความอ่อนแอที่พยายามซ่อนไว้ปริแยกเป็นเผาเต่ากันเลยทีเดียว
"ก็แค่นั้น" รอยยิ้มกลับมาอีกครั้งส่งผลให้ใบหน้าชายหนุ่มดูอ่อนโยนยิ่ง
"โอ๋ ใครทำร้ายคุณเหรอครับ" ใบหน้าหญิงสาวถูกจับกดลงบนอกกว้างแม้เจ้าตัวพยายามหลีกหนีเพียงไรก็ไม่เป็นผล
กระจกรอบกายแตกสลาย สองร่างกลับมาสู่วงจรชีวิตปัจจุบันอีกครั้ง
"หนู ใครรังแกจ๊ะ" แม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยวถามด้วยความเป็นห่วง
"คุณพ่อเขาป่วยนะครับ" หญิงสาวมองหน้าชายหนุ่มปากเม้มขัดใจพยายามกระชากตัวหนีแต่คราวนี้ชายหนุ่มกลับปล่อยอย่างง่ายดาย
ฝ่ายหญิงสาวรีบคว้ากระเป๋าควักเงินจ่ายค่าอาหาร และรีบหนีให้เร็วที่สุด
"ไม่เข้าหอเรอะคุณ" ชายหนุ่มเดินมาเคียงข้างหญิงสาวเริ่มท้อเสียแล้ว ทำยังไงถึงจะหนีพ้น
"ต่อให้ตายเจ้าก็หนีข้าไม่พ้น สาม" ขนกายตั้งชันคำประกาศดังคำมั่นสัญญา
...........................................................3
ขอบคุณสำหรับการถูกใจนะ ทำให้ลายหมึกมีแรงอัพตอนต่อไป ขอบใจนะจ๊า
ตะวันบนพื้นน้ำ 2-3 เพิ่งเห็นว่าตอนทีสองมันขาดหายไปเอาไปเพิ่มนะ
"เรียนให้จบนะลูก"
"ค่ะ" รถแวนขาวสะอาดเคลื่อนที่ออกห่างไปจนลับสายตา
ตึกไม้ตั้งตะหง่านอยู่เบื้องหน้าราวประกาศศักดาถึงอายุและความเก่าแก่
สองขาก้าวพ้นขอบรั้วสีเข้มชีวิตใหม่กำลังรอคอยบนพื้นที่ ต่างจังหวัด
เฮ้อคุ้นชินกับคำนี้เสียแล้ว เมื่อเด็กทั้งพ่อและแม่ต้องย้ายที่ทำงานบ่อยๆ
ทำให้หญิงสาวกลายเป็นคนรักการเดินทาง ไม่ว่าภาคใดเหนือใต้ออกตก
ล้วนไปมาแล้วแทบทั้งสิ้น การที่ย้ายโรงเรียนบ่อยทำให้มีเพื่อนมากมาย
แต่ก็ไม่ถึงขั้นเคยสนิทสนม และจังหวัดล่าสุดที่ต้องมานี่สิเพราะคุณพ่อคุณแม่แท้ๆนะ
ฉันถึงยอมมาเนี้ย
"ไปไม่ได้นะลูก แม่ต้องไปทำงานหลายปีนะค่ะเพราะฉะนั้นหนูเป็นเด็กดีอยู่ที่โรงเรียนเก่าของเพื่อนแม่นะค่ะ "
เสียงบุพการีที่ทั้งอ้อดอ้อนและกำชับไปในตัว
"แต่ว่า" แค่จะค้านคำเดียว
"ไม่เอานะลูก งานครั้งนี้อันตรายมาก พ่อไม่อยากเอาลูกไปเสี่ยงด้วย"
"พี่หนึ่ง กับพี่สองยังไปได้เลยนี่ค่ะ" ความที่อยากไปจึงพยายามหาเหตุผลมาอ้าง
"ก็พี่ๆเขาป้องกันตัวเองได้นี่จ๊ะ"
"ใช่สาม น้องไม่มีพลังอย่าเสี่ยงดีกว่า" เสียงพี่ชายคนโตกล่าวสำทับ
"ค่ะ" แล้วฉันจะทำไงได้เล่านอกจากยอมรับชะตากรรมไป
มันผิดหรือไงหล่ะที่เกิดมาในตระกูลนักเวทย์แต่ไม่มีพลังเวทย์ น่าตลกนะทุกคนในตระกูลต่างมีพลังกันทั้งนั้นแล้ว
ทำไมมีฉันคนเดียวย้ำคนเดียวเท่านั้นที่ไม่มีเหมือนกับพวกนั้นสักกะติ๊ด
นี่ฉันเป็นลูกบ้านอื่นที่ถูกเก็บมาเลี้ยงหรือเปล่าเนี้ย
เฮ้อ ถอนหายใจเป็นรอบที่สองแล้ว ก็เพราะอย่างงี้ไงหล่ะ
ฉันถึงต้องมายังหอพักที่อยู่ตรงหน้าฉันเนี้ยไม้ทั้งหลัง น่าวังเวงซะไม่มี
สองเท้าก้าวเดินไปยังประตูบานใหญ่ ลวดลายสลักเป็นรูปเถาวัลย์เกี่ยวกระหวัดรัดแน่น
"สวัสดีจ๊ะ มาใหม่ใช่ไหมจ๊ะ วันนี้ไม่ค่อยคนเพราะช่วงปิดเทอมนะหนู"
ยังไม่ทันเอื้อมจับลูกบิด ประตูบานหน้าก็เปิดอ้าต้อนรับ !!!
หญิงสาวเสียเวลาลงทะเบียนอยู่ด้านล่างพักใหญ่จนได้เบอร์ห้องในที่สุด
"1529 ชั้นห้าห้องริมสุด" สายตากวาดไล่ตามเบอร์ห้อง
"1520 1521 1522 1523.......เจอแล้ว1529"
"อย่าเปิด อย่านะสาม" เสียงเตือนดังขึ้นจากภายในทำให้หญิงสาวหยุดซะงักครู่หนึ่งไม่รู้ทำไม
รู้สึกเหมือนกับว่าหากเปิดประตูบานนี้เข้าไป ทุกอย่างจะเปลี่ยนไป
"คิดไปเอง" พยายามปลอบใจตนเอง มือบางบิดลูกบิดลากกระเป๋าเป้บนหลังวางลงบนพื้นห้องก่อนค่อยๆสำรวจไปรอบๆ
เตียงขนาดคิงไซท์ปูด้วยผ้าสีขาวสะอาดตั้งอยู่ติดกับโต๊ะเขียนหนังสือ
ทางขวามือเป็นห้องน้ำแบบโถปิดเปิดติดผนังมีอ่างล่างหน้าปูด้วยหินอ่อนสีเขียวใส
อ่างจากุชชี่ตั้งเด่นข้างผนังฝั่งซ้ายมีทั้งน้ำเย็นและร้อนให้เลือกตามใจชอบ
"โหยังกะโรงแรม มีแอร์ซะด้วย คุณแม่ขา ขอบคุณที่สุดเลย"หญิงสาวรำพึงกับตัวเอง
มุมห้องด้านหนึ่งร่างในชุดดำซุ่มซ่อนอย่างเงียบเชียบ ไร้สัมผัส ไร้ตัวตน มาแล้วสินะ คลี่รอยยิ้มอย่างมาดหมาย
......................................................................................
หลับซักงีบดีกว่า
ทันความคิดเจ้าตัวจึงล้มนอนลงบนเตียงหนานุ่ม นิทราเข้าครอบครอง
ท้องฟ้าด้านนอกเปลี่ยนสีจากสดใสเข้าสู้ความมืดมนราตรีเริ่มแผ่กระจายทั่วทุกอณู
แววตาสีมรกตยังคงจับจ้องเป้าหมายอย่างไม่ให้คลายสาดตา
"นากิม" เสียงหวานไพเราะลอยเรื่อยตามสายลมหากไม่ตั้งใจฟังคงไม่ได้ยินเป็นแน่ซึ่งแตกต่างจากอสูรหนุ่มชุดดำ
หูของเขาสามารถรับเสียงได้ดีกว่าคนปกติ
"เวร่า เงียบ"
"ทำไมต้องดุข้า" ร่างขาวสกาวค่อยๆสว่างขึ้นข้างกายชายหนุ่ม แววตาตัดพ้อต่อว่า
"มานี่ มา" ริมฝีปากแลกจุมพิตกันอย่างดุเดือด กิจกรรมในห้องไม่เป็นการรบกวนสำหรับสามเลยแม้แต่น้อยเธอยังคงหลับได้อย่างปกติสุข
.......................................................................................
ปีศาจแค่ชื่อก็น่าสยองขวัญแล้ว
และถ้าคุณต้องใช้ชีวิตร่วมกับปีศาจ
คุณจะทำยังไง
ฮึฮึฮึ
.....................................................
ร่างเปลือยเปล่าก่ายกอดกันบนพื้นพรม ไม่อายฟ้าอายดิน
"อืม นากิมข้าต้องไปแล้วนะ" ร่างงามจางหายทิ้งเพียงคราบคาวบนพื้น
มือหนาโบกเพียงครั้งเดียวเสื้อผ้าบนพื้นก็กลับขึ้นมาอยู่บนร่างหนาดังเดิมราวกับ
กิจกรรมเมื่อครู่ไม่ได้เกิดขึ้น เนื้อรสของนางยังคงหอมหวานน่าเย้ายวนดังเดิม
มือโบกสะบัดอีกครั้ง คราบจางบนพื้นพรมจางหายราวไม่เคยเกิดขึ้น
"อืม" คนบนเตียงเริ่มรู้สึกตัว มือกวาดหานาฟิกาด้านหัวเตียงตามความเคยชิน
"ไปไหนนะ" ยังคงเข้าใจว่านี่เป็นบ้านตัวเอง ความรู้สึกยังตื่นไม่เต็มที่
อึบๆ หญิงสาวผุดลุกนั่งบนเตียงสติเริ่มเข้ามาเรื่อยๆ มือบางควานหาวัตถุที่ใช้บอกเวลาในกระเป๋าเป้
"20.30 โห หลับไปนานขนาดนั้นเชียว" บ่นพึมพำ
เงามืดยังคงจับจ้องไม่วางตา
"ไร้สมอง" คำปรามาสที่หญิงสาวไม่ได้ยิน
ร่างบางตรงดิ่งเข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตาเตรียมลงไปหาอะไรกิน
แต่เมื่อก้าวออกจากห้องน้ำหญิงสาวกลับพบคนแปลกหน้า
"ผู้ชาย มีผู้ชายอยู่ได้ไง" หญิงสาวเริ่มแหกปากมีเสียงสบทจากร่างตรงหน้าและสิ่งเดียวที่จะทำให้เงียบ
ปากประกบปาก ความไม่เคยชินทำให้หญิงสาวเสียท่า
"เงียบได้รึยัง ข้ามาดีไม่ได้มาร้าย"ว่าพลางยิ้มประกอบ
"เพี้ย" หญิงสาวตบออกไปตามสัญชาตญาณ
เต็มๆชายหนุ่มโดนเต็มๆแต่รอยยิ้มกลับไม่จางหายไปจากใบหน้า
(สามอย่ายุ่งกับเขา อย่ายุ่งกับปีศาจ)สำนึกภายในแว่วเตือนมาอีกครา
.........................................................................................................
ตอนที่ 3 รูมเมท
หญิงสาวเริ่มสำรวจร่างตรงหน้าอีกครั้ง ใบหน้างดงามราวรูปสลักและผิวขาวนวลทุกระเบียดนิ้วแต่ส่วนที่ถูกทำร้าย
ไปเมื่อสักครู่มีสีแดงทาบทับเด่นชัดทุกอย่างล้วนงดงามเว้น ดวงตาสีมรกตที่หญิงสาวรู้สึกว่าน่าสะพรึงกลัวแม้ปากจะยิ้มแต่
ดวงตาไม่ยิ้มแม้สักนิด
"ต้องการอะไร" เว้นระยะห่างจากอีกฝ่ายพอสมควร
รู้ดีว่าสิ่งตรงหน้าไม่ใช่คนแน่นอนใบหูที่เรียวยาว ผมยาวจรดแผ่นหลังชุดสีดำยิ่งเพิ่มความน่าสะพรึงกลัวเข้าไปอีก
"ตอนนี้ คงต้องพาเจ้าไปกินข้าว"ยิ้มเชิญชวน
"ไม่เป็นไร ฉันไปเองได้" หญิงสาวรีบวิ่งไปที่ประตู
(ออกไปจากห้องนี้ก่อน อย่างอื่นค่อยคิดทีหลัง)วางเป้าหมายไว้ในใจ
รวมรวมความกลัวกดลงให้ต่ำที่สุดดันความกล้าขึ้นมาเผชิญหน้า
อากาศด้านนอกค่อนข้างเย็นทีเดียว พยายามห่อตัวบรรเทาความหนาว
ร้านอาหารตั้งเรียงรายใต้หอ แม้จะเป็นช่วงปิดเทอมแต่ทุกร้านยังคงเปิดตามปกติ
หญิงสาวเลือกข้าวคลุกกะปิเป็นอาหารมื้อแรก รสชาติไม่เลวทีเดียว
"ว้า ใจร้ายจังใจคอจะกินคนเดียวไม่เรียกผมเลยนะ" สำเนียงที่ฟังดูสนิทสนมแว่วมาเคลียข้างหู
"นาย" สภาพของสิ่งตรงหน้าทำให้หญิงสาวเผลอมองอย่างจดจ้อง หูเรียวยาวถูกปรับสภาพให้เป็นหูคนปกติ ตาสีมรกตกลับเป็นสีน้ำตาลเข้ม
เสื้อเชิ้ตสีขาวกาวเกงขายาวสีเทาและรองเท้าแตะโดยรวมแล้วชายหนุ่มกลับเป็นหนุ่มอ่อนโยนขึ้นทันตา
"อย่าจ้องแบบนั้นสิ ผมเขินเป็นนะ" ยิ้มกรุมกริ่มหากสาวใดมาเห็นต้องหลงไหลเป็นแน่แท้
"ป้าครับ เย็นตาโฟชาม" หันไปสั่งอาหารอย่างคุ้นเคย
"นายเป็นอะไรกันแน่ ตามฉันมาทำไม"
"แหม เจอกันไม่กี่วัน ซักซะยาวเชียว" น้ำเสียงขี้เล่น
"ตอบฉันมา" แววตารอคอย
"ผมชื่อนากิม ไม่ใช่...คน"
"นายเป็นปีศาจ" หญิงสาวถามเสียงตะกุกตะกัก
.............................
อะไรกันมันห่างไปนานแล้วไม่ใช่เรอะการมองเห็นปีศาจเมื่อสมัยเด็กทำไมจะต้องตามมา
หลอกหลอนกันตอนโตด้วย
"นายต้องการอะไร" รวบรวมสติ
"ป่าวครับ แค่มาแนะนำตัวในฐานะรูมเมทเท่านั้นเอง"รอยยิ้มยังคงปรากฎบนริมฝีปากเช่นเคย
"รูมเมท" หญิงสาวพึมพำอีกครั้ง ย้ำให้แน่ชัดว่าฟังไม่ผิด
"ครับ ยินดีที่รู้จักครับคุณสาม"
"รู้จักชื่อฉัน"
จะบ้าตาย คุณแม่ขา คุณแม่รู้ไหมว่าสามต้องอยู่ร่วมห้องกับปีศาจแถมเป็นผู้ชาย
เอ๋.......
หรือต้องเรียกว่าตัวผู้ดี ช่างเถอะ โอ๊ย คุณแม่ขา
"ฉันจะย้ายออกแล้วกัน" หญิงสาวเริ่มวางแผนอย่างเงียบเชียบ
เรื่องอะไรจะอยู่กันสองต่อสองกับ...ปีศาจ
"อย่าแม้แต่จะคิด" แววตาสีน้ำตาลไม่มีวี่แววล้อเล่นแม้แต่น้อย อากาศรอบข้างแปรสภาพเป็นกระจกบอบบางครอบคลุมร่างทั้งสอง
ส่วนวงจรชีวิตด้านนอกยังคงดำเนินไปอย่างปกติ
"เจ้ารู้ว่าข้าเป็นอะไร คิดรึว่าข้าจะปล่อยเจ้าไปง่ายๆ " น้ำเสียงข่มขู่ขึ้นเรื่อยๆ
"เป็นรูมเมทข้ากับ" ยิ้มเหี้ยมเกรียมปรากฎขึ้น
"ตาย เจ้าเลือกเอา" ไม่มีแล้วชายหนุ่มคนเมื่อครู่ รังสีอำมหิตแผ่กระจาย
"เลือก" ตะคอก
"รูมเมท" หญิงสาวเพิ่งหาเสียงตัวเองเจอ
น้ำตาเจ้ากรรมซึมออกจากเบ้าตา (เกิดมายังไม่เคยถูกข่มขู่แม้ซักครั้ง)
แรงกดดันทำให้ความอ่อนแอที่พยายามซ่อนไว้ปริแยกเป็นเผาเต่ากันเลยทีเดียว
"ก็แค่นั้น" รอยยิ้มกลับมาอีกครั้งส่งผลให้ใบหน้าชายหนุ่มดูอ่อนโยนยิ่ง
"โอ๋ ใครทำร้ายคุณเหรอครับ" ใบหน้าหญิงสาวถูกจับกดลงบนอกกว้างแม้เจ้าตัวพยายามหลีกหนีเพียงไรก็ไม่เป็นผล
กระจกรอบกายแตกสลาย สองร่างกลับมาสู่วงจรชีวิตปัจจุบันอีกครั้ง
"หนู ใครรังแกจ๊ะ" แม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยวถามด้วยความเป็นห่วง
"คุณพ่อเขาป่วยนะครับ" หญิงสาวมองหน้าชายหนุ่มปากเม้มขัดใจพยายามกระชากตัวหนีแต่คราวนี้ชายหนุ่มกลับปล่อยอย่างง่ายดาย
ฝ่ายหญิงสาวรีบคว้ากระเป๋าควักเงินจ่ายค่าอาหาร และรีบหนีให้เร็วที่สุด
"ไม่เข้าหอเรอะคุณ" ชายหนุ่มเดินมาเคียงข้างหญิงสาวเริ่มท้อเสียแล้ว ทำยังไงถึงจะหนีพ้น
"ต่อให้ตายเจ้าก็หนีข้าไม่พ้น สาม" ขนกายตั้งชันคำประกาศดังคำมั่นสัญญา
...........................................................3
ขอบคุณสำหรับการถูกใจนะ ทำให้ลายหมึกมีแรงอัพตอนต่อไป ขอบใจนะจ๊า