คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 7
Tag ไปไกลบ้านด้วย แสดงว่าต้องการเรื่องจากต่างแดนหรือเปล่าครับ
BTS ผมไม่เคยนะ เพราะขึ้นมาตั้งแต่ยังเด็ก
แต่รถไฟเมืองนอกอะก็มีประมาณหนึ่ง ไม่ใช่เรื่องหน้าแตกหรอกแต่เป็นลักษณะทำอะไรไม่ถูกต้อง, หรือขึ้นผิดขบวนอะไรทำนองนี้มากกว่าครับ
ถึงตอนนี้ก็ยังจำไม่ได้ว่าเวลายื่นบัตรไปให้เครื่องคิดเงินบนขบวนรถไฟที่สวีเดนต้องกดปุ่มอันไหนก่อนหลังอย่างไร
อีกเหตุการณ์หนึ่งที่อยากเล่าคือ เรื่องนี้เป็นการขึ้นรถไฟที่สวีเดนจากเมืองหนึ่งไปอีกเมืองหนึ่งครับ
มีขั้นตอนคร่าวๆคือขึ้นรถ Bus 1 สาย แล้วต่อรถไฟอีก 1 สายก็จะถึงเมืองปลายทางครับ เรื่องมาเกิดขึ้นตอนที่ผมกำลังยืนรอเพื่อที่จะขึ้นรถไฟขบวนของผมนี่ล่ะครับ ตอนนั้นเวลาน่าจะสัก 8-9 โมงได้มั้ง(เวลาสมมตินะ จำเวลาจริงไม่ได้แล้วครับ)แต่รถไฟรอบของผมเนี่ยจะมาตอนแบบ 11:01 อะไรแบบนี้อะ(เวลาสมมติเช่นกัน) ที่ผมมาถึงสถานีรถไฟก่อนนานขนาดนี้ เพราะกลัวตกรถไฟครับ 555 แล้วก็มีเหตุผลอื่นๆด้วยที่ทำให้ต้องออกมาเร็วครับ
แล้วก็เป็นความโชคดีของผมน่ะ ที่ผมได้บังเอิญไปยืนคุยกับผู้โดยสารท่านหนึ่งตรงนั้นเข้า ที่เขาก็กำลังยืนรอรถไฟเหมือนกัน เขาก็ขอดูตั๋วผมแต่ก็ไม่ว่าอะไรนะครับ พอถึงเวลาที่รถไฟเขาจะมา คือเขาจะต้องขึ้นรถไฟก่อนผมนานเลยครับ รถไฟเขามารอบ 10:01 (เวลาสมมตินะครับ) เขาก็บอกว่าต้องขอตัวแล้ว แล้วก็ขึ้นรถไฟไป
ผมก็เลยยืนเท้งเต้งอยู่คนเดียวตรงนั้นที่ชานชาลาน่ะครับ เพราะคนอื่นบนชานชาลาเขาก็ขึ้นรถไฟรอบนี้กันหมด จะมีใครบ้ามารอรถไฟก่อนเวลานานขนาดผม ก็คงไม่มี
สักแปปเดียวต่อมา ประตูรถไฟยังไม่ได้ปิด ผมก็เห็นเขาคนเดิมเนี่ยแหละ โผล่หน้าออกมาทางประตู แล้วก็เรียกผมให้ขึ้นรถไฟไปด้วยกัน เขาก็บอกขึ้นมาเลยไม่เป็นไร ในวินาทีนั้นผมก็ไม่แน่ใจนะ แบบทำได้หรอแต่อีกแค่แปปเดียวแหละ ผมก็ตัดสินใจทำเนียนเดินขึ้นรถไฟไปครับ แล้วก็ค่อยมางงต่อบนขบวนรถไฟ 555 ว่าขึ้นได้หรอ ไม่ได้จองรถไฟรอบนี้และขบวนนี้นะ 555
เขาก็อธิบายให้ผมฟังว่า พอดีรถไฟขบวนนี้ต้องผ่านเส้นทางเดียวกันกับรถไฟที่ผมจะต้องขึ้นหลายจุดแต่แค่ไม่ถึงจุดหมายปลายทางของผมเท่านั้นเองครับ พูดง่ายๆคือเมื่อถึงสถานีหนึ่งผมก็ต้องลง เพื่อไปยืนรอรถไฟขบวนที่แท้จริงของผมที่ตอนนั้นก็คงตามมาสมทบใกล้ๆกันแล้วน่ะครับ ซึ่งเขาเองก็ต้องลงที่สถานีดังกล่าวนั้นด้วยเหมือนกัน จากทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็เลยคงเป็นเหตุผลที่ทำให้ในตอนนั้นเขาบอกกับผมว่าอยากให้ขึ้นรถไฟมาด้วยกันครับ คือเขาพูดประมาณว่าถ้าให้ผมยืนรอรถไฟขบวนที่แท้จริงของผมอยู่ตรงนั้น มันหนาวและกว่าจะมาถึงก็อีกนานประมาณเนี่ยครับ
ตอนที่เจ้าหน้าที่รถไฟมาเดิน Check ตั๋วเนี่ย บอกเลยว่าถ้าผมมาคนเดียว ผมคงอธิบายไม่ถูกอะว่าอะไรยังไง คือจะอธิบายยังไงดีล่ะฟะ
เจ้าหน้าที่เขาดูตั๋วแล้วก็งงๆนะครับ เพราะผมขึ้นรถไฟผิดขบวน ตั๋วผมไม่ตรงกับสิ่งที่ผมกระทำอยู่ครับ 555 ดีที่มากับคน Swedish คนนี้ เขาก็เลยอธิบายแทนผมว่าเรื่องมันเป็นแบบนี้ๆนะ เจ้าหน้าที่ก็เลยเข้าใจ = _ =' และยอมปล่อยผ่าน เนื่องจากไม่ได้เป็นการโกงอะไรน่ะครับ แค่เหมือนลัดเวลาที่จะต้องเดินทางขึ้นมาเฉยๆ ยังไงรถไฟก็ไม่ได้เต็มทุกที่นั่งอยู่แล้วแบบนี้ครับ
สรุปผมก็เลยต้องเดินทางโดยรถ Bus 1 สาย แล้วต่อรถไฟอีก 2 สายครับถึงจะถึงเมืองจุดหมายปลายทางของผมครับแต่ไม่ได้เสียเวลาเพิ่มอะไรเลยนะครับ สนุกดี ^ ^
BTS ผมไม่เคยนะ เพราะขึ้นมาตั้งแต่ยังเด็ก
แต่รถไฟเมืองนอกอะก็มีประมาณหนึ่ง ไม่ใช่เรื่องหน้าแตกหรอกแต่เป็นลักษณะทำอะไรไม่ถูกต้อง, หรือขึ้นผิดขบวนอะไรทำนองนี้มากกว่าครับ
ถึงตอนนี้ก็ยังจำไม่ได้ว่าเวลายื่นบัตรไปให้เครื่องคิดเงินบนขบวนรถไฟที่สวีเดนต้องกดปุ่มอันไหนก่อนหลังอย่างไร

อีกเหตุการณ์หนึ่งที่อยากเล่าคือ เรื่องนี้เป็นการขึ้นรถไฟที่สวีเดนจากเมืองหนึ่งไปอีกเมืองหนึ่งครับ
มีขั้นตอนคร่าวๆคือขึ้นรถ Bus 1 สาย แล้วต่อรถไฟอีก 1 สายก็จะถึงเมืองปลายทางครับ เรื่องมาเกิดขึ้นตอนที่ผมกำลังยืนรอเพื่อที่จะขึ้นรถไฟขบวนของผมนี่ล่ะครับ ตอนนั้นเวลาน่าจะสัก 8-9 โมงได้มั้ง(เวลาสมมตินะ จำเวลาจริงไม่ได้แล้วครับ)แต่รถไฟรอบของผมเนี่ยจะมาตอนแบบ 11:01 อะไรแบบนี้อะ(เวลาสมมติเช่นกัน) ที่ผมมาถึงสถานีรถไฟก่อนนานขนาดนี้ เพราะกลัวตกรถไฟครับ 555 แล้วก็มีเหตุผลอื่นๆด้วยที่ทำให้ต้องออกมาเร็วครับ
แล้วก็เป็นความโชคดีของผมน่ะ ที่ผมได้บังเอิญไปยืนคุยกับผู้โดยสารท่านหนึ่งตรงนั้นเข้า ที่เขาก็กำลังยืนรอรถไฟเหมือนกัน เขาก็ขอดูตั๋วผมแต่ก็ไม่ว่าอะไรนะครับ พอถึงเวลาที่รถไฟเขาจะมา คือเขาจะต้องขึ้นรถไฟก่อนผมนานเลยครับ รถไฟเขามารอบ 10:01 (เวลาสมมตินะครับ) เขาก็บอกว่าต้องขอตัวแล้ว แล้วก็ขึ้นรถไฟไป
ผมก็เลยยืนเท้งเต้งอยู่คนเดียวตรงนั้นที่ชานชาลาน่ะครับ เพราะคนอื่นบนชานชาลาเขาก็ขึ้นรถไฟรอบนี้กันหมด จะมีใครบ้ามารอรถไฟก่อนเวลานานขนาดผม ก็คงไม่มี
สักแปปเดียวต่อมา ประตูรถไฟยังไม่ได้ปิด ผมก็เห็นเขาคนเดิมเนี่ยแหละ โผล่หน้าออกมาทางประตู แล้วก็เรียกผมให้ขึ้นรถไฟไปด้วยกัน เขาก็บอกขึ้นมาเลยไม่เป็นไร ในวินาทีนั้นผมก็ไม่แน่ใจนะ แบบทำได้หรอแต่อีกแค่แปปเดียวแหละ ผมก็ตัดสินใจทำเนียนเดินขึ้นรถไฟไปครับ แล้วก็ค่อยมางงต่อบนขบวนรถไฟ 555 ว่าขึ้นได้หรอ ไม่ได้จองรถไฟรอบนี้และขบวนนี้นะ 555
เขาก็อธิบายให้ผมฟังว่า พอดีรถไฟขบวนนี้ต้องผ่านเส้นทางเดียวกันกับรถไฟที่ผมจะต้องขึ้นหลายจุดแต่แค่ไม่ถึงจุดหมายปลายทางของผมเท่านั้นเองครับ พูดง่ายๆคือเมื่อถึงสถานีหนึ่งผมก็ต้องลง เพื่อไปยืนรอรถไฟขบวนที่แท้จริงของผมที่ตอนนั้นก็คงตามมาสมทบใกล้ๆกันแล้วน่ะครับ ซึ่งเขาเองก็ต้องลงที่สถานีดังกล่าวนั้นด้วยเหมือนกัน จากทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็เลยคงเป็นเหตุผลที่ทำให้ในตอนนั้นเขาบอกกับผมว่าอยากให้ขึ้นรถไฟมาด้วยกันครับ คือเขาพูดประมาณว่าถ้าให้ผมยืนรอรถไฟขบวนที่แท้จริงของผมอยู่ตรงนั้น มันหนาวและกว่าจะมาถึงก็อีกนานประมาณเนี่ยครับ
ตอนที่เจ้าหน้าที่รถไฟมาเดิน Check ตั๋วเนี่ย บอกเลยว่าถ้าผมมาคนเดียว ผมคงอธิบายไม่ถูกอะว่าอะไรยังไง คือจะอธิบายยังไงดีล่ะฟะ
เจ้าหน้าที่เขาดูตั๋วแล้วก็งงๆนะครับ เพราะผมขึ้นรถไฟผิดขบวน ตั๋วผมไม่ตรงกับสิ่งที่ผมกระทำอยู่ครับ 555 ดีที่มากับคน Swedish คนนี้ เขาก็เลยอธิบายแทนผมว่าเรื่องมันเป็นแบบนี้ๆนะ เจ้าหน้าที่ก็เลยเข้าใจ = _ =' และยอมปล่อยผ่าน เนื่องจากไม่ได้เป็นการโกงอะไรน่ะครับ แค่เหมือนลัดเวลาที่จะต้องเดินทางขึ้นมาเฉยๆ ยังไงรถไฟก็ไม่ได้เต็มทุกที่นั่งอยู่แล้วแบบนี้ครับ
สรุปผมก็เลยต้องเดินทางโดยรถ Bus 1 สาย แล้วต่อรถไฟอีก 2 สายครับถึงจะถึงเมืองจุดหมายปลายทางของผมครับแต่ไม่ได้เสียเวลาเพิ่มอะไรเลยนะครับ สนุกดี ^ ^
แสดงความคิดเห็น
ขึ้นรถไฟฟ้าครั้งแรกคุณทำอะไร (หน้าแตก) บ้าง? ฮ่าๆๆๆ
พี่เลยพาเราไปเที่ยว พาไปเปิดหูเปิดตา อะไรงี้ ไอ้เราก้ดีใจที่จะได้ไปในที่ที่เราไม่เคยไป
ขึ้นรถไฟครั้งแรก พี่ก้แนะนำวิธีอะไรเราเสร็จสรรพ ผ่านไปได้ด้วยดีกับขาไป
แต่พอขากลับเท่านั้นแหละ ไอ้เราก็เบลอๆๆ ดันเสียบบัตรผิดที่ซะงั้น ฮ่าๆๆๆๆ.....
ป้าคนที่ต่อคิวข้างหลังก้ถามเราว่า "ได้มั๊ยหนู" ฮ่าๆๆๆ ไอ้เรานี่แบบอายมากอ่ะ คนเยอะแยะ
นี่แหละนะ "บ้านนอกเข้ากรุง" ......