*** นี่คือสิ่งที่วิเคราะห์ในปี 2014 เดือนก.ค. เท่านั้น ****
สวัสดีค่าทุกคน เราเป็นแฟนคลับของศิลปินค่ายนี้มานานมากกกกก
และก็เป็นนักเรียนเรียนบริหารธุรกิจอยู่ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง
เนื่องจากเพิ่งจะสอบวิชาการตลาดเสร็จไป... และเรามีความสนใจเกี่ยวกับ BCG Matrix เลยอยากลองนำมันมาใช้เปรียบเทียบกับศิลปิน ซึ่งถือว่าเป็น "สินค้า" ในบริษัท หรือค่ายเพลงดู
"ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะคะ"
ทั้งนี้ทั้งนั้นตัดสินใจจากความรู้สึกที่เป็นติ่งมานานค่ะ
ก่อนอื่น
BCG Matrix คืออะไร?
- BCG MATRIX หมายถึง กลยุทธ์ที่ใช้ในการตัดสินใจจัดสรรทรัพยากรโดยถือเกณฑ์ส่วนครองตลาดเปรียบเทียบและอัตรา
การเจริญเติบโตของแต่ละหน่วยธุรกิจหรือแต่ละผลิตภัณฑ์
โดยสามารถแบ่งได้เป็น 4 กลุ่มดังนี้ ...

(รูปภาพจากหนังสือ MAKETING FOR WORK ของคุณ WIKRAN MONGKOLCHAN)
ที่หยิบยกค่าย SM ขึ้นมาทำนั้นเป็นเพราะ
1. SM Ent. เป็น 1 ในBIG3 ของอุตสาหกรรมการบันเทิงในประเทศเกาหลีใต้ และยังสามารถครอบความเป็นอันดับหนึ่งได้อย่างเหนียวแน่นตลอดมา
2. แม้ SM จะบอกว่าเป็นบริษัทบันเทิงที่ผลิตทั้ง นักร้อง นักแสดง นางแบบ หรืออื่นๆ แต่หลักๆ ที่เราสามารถเห็นได้จากบริษัทนี้คือ "ศิลปินไอดอล"
3. ศิลปินไอดอลล้วนเป็นที่รู้จักของคนจำนวนมาก
4. มีแนวทางการตลาดที่ชัดเจน
มาเริ่มกันเลย
เมื่อก่อนนั้น SM ได้ย่อมาจากชื่อของคุณ "Lee Soo Man" ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งบริษัท และเป็น CEO ปัจจุบันได้คุณคิมยองมิน เป็น CEO นั่งแท่นแทน และ SM ก็เปลี่ยนชื่อตัวเต็มเป็น Star Museum หรือพิพิธภัณฑ์รวมดาวค่ะ
ขอบอกว่าการตลาดบริษัทนี้ดีมาก ตั้งแต่ศิลปินเบอร์แรกของค่ายอย่าง H.O.T
คุณลีซูมาน ซึ่งเคยเป็นนักร้องรุ่นเก่ามาก่อน รู้จักเจ็บปวดที่เห็นคนในประเทศเกาหลีใต้ไปกรี๊ดกร๊าดดารานักร้องจากฝั่งต่างประเทศโดยเฉพาะอเมริกา
เช่น ไมเคิล แจ็คสัน, มารีลิน มอนโร, เจมส์ ดีน ฯลฯ
ทำให้ช่วงนั้นเป็นช่วงที่วงการบันเทิงของเกาหลีใต้ซบเซามาก คุณลีซูมานซึ่งเป็นนักร้องก็ไม่ได้สามารถดังเปรี้ยงดังปร้างในบ้านเกิดตัวเองเท่าศิลปินต่างประเทศพวกนั้น (เหตุการณ์นี้เหมือนจะเกิดกับประเทศไทยนิดนึง) พอหมดช่วงการเป็นนักร้อง ลีซูมานจึงได้ทำการสำรวจตลาดอย่างเข้มข้น
โดยการสอบถามจากกลุ่มวัยรุ่นจำนวนมาก
(คิดว่าน่าจะเป็นการสัมภาษณ์ตามท้องถนนเลยนะคะ สมัยก่อนอินเตอร์เน็ตก็ยังไม่แพร่หลายค่ะ)
ว่าพวกเขาต้องการศิลปินในอุดมคติที่พวกเขาจะชื่นชอบได้
ให้เป็นแบบไหน
คือสำรวจว่าตลาดต้องการอะไร โดยกำหนดธีมให้เป็นศิลปินผู้ชายค่ะ สอบถามทั้งวัยรุ่นหญิงชาย เพราะต้องการที่จะให้เป็นศิลปินที่ทั้งผู้ชายก็อยากจะเป็นแบบนั้น และผู้หญิงก็อยากจะได้เป็นแฟน
ซึ่งทุกคนก็ตอบแนวว่า หน้าตาดี ร้องเพลงเพราะ เต้นเก่ง เรียนเมืองนอกมา (คนเกาหลีไม่ชอบลูกครึ่งหรือคนต่างชาติ แต่ถ้าเด็กเกาหลีเองเคยไปเรียนเมืองนอก พูดภาษาต่างประเทศได้ คนเกาหลีจะเป็นปลื้มมาก สมัยก่อนนะคะ เดี๋ยวนี้เปิดใจมากขึ้น)
หลังจากนั้นสักพัก H.O.T ก็ถือกำเนิดขึ้นมา
โดยมีแนวคิดง่ายๆ ถ้าทั้งหมดนั้นไม่สามารถอยู่ในตัวคนๆ เดียวได้ เราก็เอามันมารวมกันสิ วงนี้ประกอบไปด้วยสมาชิก 5 คนซึ่งเป็นเด็กหนุ่มหน้าตาดีทุกคน มีเสียงร้องขั้นเทพ (คังตะ) เต้นเก่งมาก (จางอูฮยอกและมุนฮีจุน) และยังมี โทนี่ ที่เคยเรียนอยู่ที่อเมริกา (แร็พภาษาอังกฤษ โชว์พูดภาษาต่างประเทศ) แร็พเปอร์ (ลีแจวอน) ซึ่งผลก็เป็นอย่างที่เห็น ความดังยังมีอยู่จนถึงทุกวันนี้ คือเป็นกรุ๊ปไอดอลที่ผู้หญิงก็ชื่นชอบ พวกรุ่นน้องผู้ชายก็อยากจะเป็นแบบนั้น แล้วก็สำรวจตลาดอีกหน ทำ S.E.S วงไอดอลหญิงในตำนานตามมา ในยุคนั้นถือว่าเป็น H.O.T เวอร์ชั่นผู้หญิงเลยก็ว่าได้ ซึ่งก็ประสบความสำเร็จไม่แพ้กัน
"หลักการง่ายๆ ในตอนนั้นก็คือ ตอบสนองความต้องการของตลาดนั้นเอง"
โอเค จบกันไป มาเริ่มที่ไอดอลที่เราจะแบ่งหมวดหมู่พวกเขากันเลย ทั้งนี้ทั้งนั้นจะพูดถึงความเป็นไปได้ทางการเติบโตหรือดิ่งลงของวงด้วย แล้วก็จะเอาเท่าที่ยังอยู่ในบริษัทนะคะ
มาเริ่มกันเลย
TVXQ (Ho-Min)
วงดงบังชินกิ (ในที่นี้หมายถึงเฉพาะ 2 คน ไม่ใช่ตอนมีกัน 5 คน)
ถือว่าอยู่ในตำแหน่ง
Cash Cow คือ เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำเงินต่อเนื่อง แต่มีอัตราการเติบโตในตลาดค่อนข้างต่ำ...
ที่เป็นแบบนี้ไม่ได้หมายความว่าวงไร้พลังยิ่งใหญ่ที่จะเติบโตต่อได้ หากแต่เป็นเพราะว่า
ดงบังชินกิ ไม่สามารถที่จะดังไปได้มากกว่านี้อีกแล้ว เนื่องจากดังที่สุดโดยเฉพาะในประเทศเกาหลีใต้ (ทั้งนี้รวมถึงในเอเชียบางประเทศ)
และมีส่วนแบ่งการตลาดค่อนข้างสูงสมเป็นวัวตัวใหญ่ ไม่ว่าTVXQ หรือ JYJ จะปล่อยผลงานอะไรออกมา แน่นอนว่าต้องมีแฟนคลับติดตาม
ยอดขายทำได้ดี ถึงจะไม่พีคแต่ก็ต้องมีกระแสให้เห็น
พวกเขาดังที่สุดจนผ่านช่วงการเป็น Star มาเรียบร้อย
ที่เหลือทำได้ในตอนนี้ก็คือ (ในกรณีที่เอสเอ็มคิดจะทำ) ผลักดันไปสู่ตลาดโลก... เพื่อให้กลับไปเป็นเป็นผลิตภัณฑ์ดาวรุ่งอีกครั้ง [Star] แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอาจจะยากด้วยคอนเซ็ปต์ของวงที่ไม่คลิกชาวตะวันตกเท่าไหร่ รวมถึงเดบิวต์มานานแล้วทำให้ความสดใหม่หายไป
และการพรีเซนต์ภาพลักษณ์ตั้งแต่ตอนต้นว่าเป็นเทพเจ้าฝั่งโลกตะวันออก เพราะกะจะรุกหนักตลาดเอเชีย โดยเฉพาะตลาดใหญ่อย่างญี่ปุ่น
เอาเป็นว่าตอนนี้ทางที่ดีที่สุดก็คือรักษากระแสความเป็นเทพเจ้าแบบนี้ไปเรื่อยๆ
มาถึง 9 สาวขาสวยแห่งเกาหลีใต้
Girls' Generation หรือ SNSD, ซึ่งก็ถือเป็น Cash Cow วัวนมตัวใหญ่ยักษ์อีกตัวของ SM
ตัววงโซนยอชิแดนั้นแม้จะเริ่มจากติดลบ แต่ก็สามารถประสบความสำเร็จได้อย่างสูงในแง่ทั้งความนิยมและยอดขายแซงหน้าบอยแบนด์ไปหลายเบอร์
ถึงขนาดมีคำกล่าวที่ว่า
"ที่เกาหลีมีกิมจิ มีไวน์ข้าว มีแดจังกึม มีปาร์คจีซอง และมีโซนยอชิแด" คงสามารถการันตีตำแหน่ง เกิร์ลกรุ๊ปแห่งชาติ อย่างสมศักดิ์ศรี และการันตีได้ถึงความโด่งดังไปทั่วทุกผู้ทุกคนแน่นอน
สำหรับตัววง SNSD นั้นไม่สามารถจะดังไปได้มากกว่านี้อีกแล้วในเกาหลีใต้ เพราะตอนนี้กำลังดังที่สุดจนมันติดเพนดานไม่มีทางพุ่งขึ้นไปอีก

ดูจาก Rank girl group ของ Dispatch
(ขอบคุณคห. 98 คุณสมาชิกหมายเลข 1012853 สำหรับข้อมูลค่ะ แล้วก็ของฝ่ายชายเพื่อนๆ หาดูได้ที่คห. 98 เหมือนกันนะคะ
)
จะเห็นได้ว่า SNSD นั้นดังจนแทบจะไม่มีพื้นที่ให้เกิร์ลกรุ๊ปวงอื่นยืน ทิ้งห่างที่ 2 อย่าง Sistar มาแบบไม่ติดฝุ่น
ยกตัวอย่างเช่นการออกยูนิต TTS ออกมา
ซึ่งถึงแม้ยูนิตนั้นจะประสบความสำเร็จอย่างมาก
แต่ก็ไม่ได้เพิ่มความนิยมหรือกระแสให้กับวงSNSDแต่อย่างไร กล่าวคือ ทั้ง 9 สาวยังคงดังและได้รับความนิยมมากๆ เหมือนเดิมในตอนแรกที่ไม่เกิดยูนิตนี้...
เหตุเพราะมันสุดแล้วจริงๆ ทั้ง แทยอน ซอฮยอน และทิฟฟานี่ เป็นสมาชิกตัวท็อปของ SNSD อยู่แล้ว นอกจากยอดขายที่เพิ่มได้ ทุกคนยังคงรู้จักสามสาวว่ามาจากวงเกิร์ลกรุ๊ปแห่งชาติ มีฐานแฟนคลับเดิมคอยสนับสนุนผลงานให้เป็นได้ดี
แตกต่างกับยูนิต Orange Caramel จากวง After School ตัววงอาฟเตอร์สคูลนั้นไม่ได้โด่งดังอะไรมากมาย แต่ยูนิคออเร้นจ์ คาราเมล สามารถทำให้คนหันมาสนใจและเพิ่มความนิยมให้กับอาฟเตอร์สคูลได้ ถึงคนจะไม่รู้ว่า นานะ ลิซซี่ เรนะ อยู่อาฟเตอร์สคูล แต่ก็รู้ว่าอยู่ออเร้จน์ฯ แล้วก็สนใจไปหาข้อมูลเกี่ยวกับสามคนนี้เพิ่มทำให้รู้จักตัวงหลัก แบบนี้ถึงจะเรียกว่าออกยูนิตมาแล้วได้ผลค่ะ
ถ้าถามถึงในระดับโลก... คิดว่า SNSD นั้นประสบความสำเร็จในแง่ระดับโลกมากกว่าวงรุ่นพี่อย่าง TVXQ แม้พวกเธอจะเป็นผู้หญิง
ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะมีทิฟฟานี่ และเจสสิก้า ที่สามารถโต้ตอบภาษาอังกฤษได้อย่างฉะฉาน ไม่ต้องใช้ล่าม ซึ่งถึงแม้จะมีแค่ 2 ใน 9 ที่พูดอังกฤษได้
คุณอาจมองว่าน้อย แต่ที่จริงแล้วมันช่วยได้มาก
อย่างการไปออกรายการ David Letterman หรือรายการต่างๆ ในอเมริกา เราจะเห็นว่าสองคนนี้มีส่วนช่วยในวงอย่างถึงที่สุด
วง SNSD ยังสามารถประสบความสำเร็จหรือเป็น Star ในได้ระดับโลกได้อีก เพราะตอนนี้ยังถือว่าไม่ได้มีชื่อเสียงระดับโลก แต่ถ้าในเอเชียน่ะดังสุดแล้วๆ
ซึ่งเราก็มองว่าทางค่ายพยายามทำอะไรกับจุดนี้จริงๆ อย่างเช่นการออกเพลง The Boys ที่ทำร่วมกับ Teddy Riley โดยหวังให้มันเป็น One Hit Wonder แบบ Gangnam Style ของ PSY
แต่ด้วยอะไรหลายๆ อย่างเลยทำให้ SNSD ยังไปไม่ถึงจุดนั้น
(ขอบคุณข้อมูลจากคุณ rb_up ค่ะ)
สำหรับในญี่ปุ่นหรือจีน ตัวSNSD ไม่ได้ไปเจาะตลาดญี่ปุ่นในฐานะ "ศิลปินญี่ปุ่น" เหมือนที่ TVXQ และ โบอา เคยกระทำในอดีต หรือเจาะตลาดจีนในฐานะ "ศิลปินจีน" แบบที่ EXO กับ SJ-M ทำ
แต่พวกเธอไปในฐานะ "ไอดอลเกาหลีใต้ที่อยากจะขยายฐานแฟนคลับเพิ่ม"
จะมีการใช้ล่าม การยังคงศัพท์เกาหลีบางคำเอาไว้ในเพลงเวอร์ชั่นญี่ปุ่น (เช่นเพลง Oh! ที่จงใส่ใส่คำว่า โอป้า) การกระทำต่างๆ ที่บ่งบอกให้รู้ว่าพวกเธอเป็นคนต่างชาติที่มาขยายชื่อเสียงเพิ่มเติมนะ ไม่เหมือนวงรุ่นพี่ที่ต้องไปอยู่เก็บกดที่นั้น ทำตัวประหนึ่งเป็นคนญี่ปุ่นเพื่อเจาะตลาด แต่เราว่ากลยุทธิ์นี้ก็ดีค่ะ เพราะกระแสเคป็อบกำลังแรงไปทั่วโลก ทำให้คนญี่ปุ่นรับวัฒนธรรมเกาหลีเพิ่ม เก้าสาวจะได้ไม่เหนื่อยมาก
แม้ความดังในญี่ปุ่นจะสู้วงเจ้าบ้านอย่างเช่น AKB48 ไม่ได้ หรือวงเกาหลีที่ไปลุยตลาดด้วยกันอย่าง KARA แต่ก็ถือว่ากวาดความนิยมไปได้แบบไม่เสียลายโซชิ
แต่ข้อเสียก็คือว่า การที่ไม่ได้ไปอยู่ลงหลักปักฐานที่ญี่ปุ่นเลย ทำให้ตัวงไม่อาจจะมีกลุ่มแฟนคลับแบบ Loyalty เหมือนที่ดงบังชินกิ กับ โบอา มีได้
โบอา
จะไม่กล่าวถึงสาวน้อยมหัศจรรย์ ที่กลายมาเป็นสาวสวยแบบเต็มตัวของค่าย SM คงไม่ได้
โบอาเองก็เป็น Cash cow อีกวงของ SM เช่นกัน นั้นก็คือเธอไม่ได้อยู่ในช่วงขาขึ้นแล้ว แต่เธอทรงตัวกับการได้รับความนิยม
แม้จะห่างหายไปนาน แต่ถ้าออกผลงานเมื่อไหร่ก็มีแฟนคลับตามเก็บทุกสิ่งที่เป็นชื่อโบอา
เรื่องโอกาสทางเติบโตทางการตลาดนั้นน้อย เพราะในญี่ปุ่นโบอาเองก็เป็น Cash Cow เหมือนกัน
คือคนญี่ปุ่นรู้จักโบอาในฐานะศิลปินญี่ปุ่น ไม่ได้รู้จักในฐานะศิลปินเกาหลี
ถึงขนาดเมื่อหกเจ็ดปีที่แล้ว นางเคยติดโผคนมีอิทธิพลของเอเชีย
แต่ระบุว่ามาจากค่าย Avex และเป็นศิลปินญี่ปุ่น!
สำหรับโอกาสในการโกอินเตอร์ไปฝั่งอเมริกา แม้จะไปลองอยู่หลายปีแต่ผลตอบรับไม่เป็นที่หน้าพอใจ
อาจเป็นเพราะลุคแบบเอเชียของเธอ และภาษาอังกฤษที่ไม่ได้ดีเท่าไหร่เลยทำให้ไปได้ไม่สุด
แต่ถึงอย่างไรโบอาก็ได้รับความนิยมและความรักมากมายจากฝั่งเอเชียอยู่แล้ว
ไม่อยากจัดโบอาให้เป็น Dog ค่ะ เพราะว่าโบอายังไม่ได้ขาลงขนาดนั้นแม้ความนิยมจะตกลงไปบ้าง
แต่ก็ยังสามารถสร้างกระแสให้ตัวเองได้อย่างน่าพอใจอยู่กับเพลง Only one ที่มีศิลปินชายมา ft. อยู่เนื่องๆ
ปล. ถ้าวชอบโปรดเม้นท์โหวตเป็นกำลังใจ ยังไม่หมดแค่นี้ วงอื่นๆ อยู่ในเม้นท์ค่ะ
!!!!!!!!!! ปล2. ย้ำอีกทีว่าทั้งหมดเป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของจขกท. นะคะ ไม่ได้มีเจตนาไม่ดีอย่างไร คิดเห็นขัดแย้งก็บอกได้ แต่ไม่ต้องต่อว่ากันก็ได้นะคะ T_T
[เด็ด!] วิเคราะห์ศิลปิน SM Ent. แต่ละเบอร์กับ BCG Matrix ใครจะอยู่นาน ใครจะไปไว!
สวัสดีค่าทุกคน เราเป็นแฟนคลับของศิลปินค่ายนี้มานานมากกกกก
และก็เป็นนักเรียนเรียนบริหารธุรกิจอยู่ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง
เนื่องจากเพิ่งจะสอบวิชาการตลาดเสร็จไป... และเรามีความสนใจเกี่ยวกับ BCG Matrix เลยอยากลองนำมันมาใช้เปรียบเทียบกับศิลปิน ซึ่งถือว่าเป็น "สินค้า" ในบริษัท หรือค่ายเพลงดู
"ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะคะ"
ทั้งนี้ทั้งนั้นตัดสินใจจากความรู้สึกที่เป็นติ่งมานานค่ะ
ก่อนอื่น
BCG Matrix คืออะไร?
- BCG MATRIX หมายถึง กลยุทธ์ที่ใช้ในการตัดสินใจจัดสรรทรัพยากรโดยถือเกณฑ์ส่วนครองตลาดเปรียบเทียบและอัตรา
การเจริญเติบโตของแต่ละหน่วยธุรกิจหรือแต่ละผลิตภัณฑ์
โดยสามารถแบ่งได้เป็น 4 กลุ่มดังนี้ ...
(รูปภาพจากหนังสือ MAKETING FOR WORK ของคุณ WIKRAN MONGKOLCHAN)
ที่หยิบยกค่าย SM ขึ้นมาทำนั้นเป็นเพราะ
1. SM Ent. เป็น 1 ในBIG3 ของอุตสาหกรรมการบันเทิงในประเทศเกาหลีใต้ และยังสามารถครอบความเป็นอันดับหนึ่งได้อย่างเหนียวแน่นตลอดมา
2. แม้ SM จะบอกว่าเป็นบริษัทบันเทิงที่ผลิตทั้ง นักร้อง นักแสดง นางแบบ หรืออื่นๆ แต่หลักๆ ที่เราสามารถเห็นได้จากบริษัทนี้คือ "ศิลปินไอดอล"
3. ศิลปินไอดอลล้วนเป็นที่รู้จักของคนจำนวนมาก
4. มีแนวทางการตลาดที่ชัดเจน
มาเริ่มกันเลย
เมื่อก่อนนั้น SM ได้ย่อมาจากชื่อของคุณ "Lee Soo Man" ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งบริษัท และเป็น CEO ปัจจุบันได้คุณคิมยองมิน เป็น CEO นั่งแท่นแทน และ SM ก็เปลี่ยนชื่อตัวเต็มเป็น Star Museum หรือพิพิธภัณฑ์รวมดาวค่ะ
ขอบอกว่าการตลาดบริษัทนี้ดีมาก ตั้งแต่ศิลปินเบอร์แรกของค่ายอย่าง H.O.T
คุณลีซูมาน ซึ่งเคยเป็นนักร้องรุ่นเก่ามาก่อน รู้จักเจ็บปวดที่เห็นคนในประเทศเกาหลีใต้ไปกรี๊ดกร๊าดดารานักร้องจากฝั่งต่างประเทศโดยเฉพาะอเมริกา
เช่น ไมเคิล แจ็คสัน, มารีลิน มอนโร, เจมส์ ดีน ฯลฯ
ทำให้ช่วงนั้นเป็นช่วงที่วงการบันเทิงของเกาหลีใต้ซบเซามาก คุณลีซูมานซึ่งเป็นนักร้องก็ไม่ได้สามารถดังเปรี้ยงดังปร้างในบ้านเกิดตัวเองเท่าศิลปินต่างประเทศพวกนั้น (เหตุการณ์นี้เหมือนจะเกิดกับประเทศไทยนิดนึง) พอหมดช่วงการเป็นนักร้อง ลีซูมานจึงได้ทำการสำรวจตลาดอย่างเข้มข้น
โดยการสอบถามจากกลุ่มวัยรุ่นจำนวนมาก
(คิดว่าน่าจะเป็นการสัมภาษณ์ตามท้องถนนเลยนะคะ สมัยก่อนอินเตอร์เน็ตก็ยังไม่แพร่หลายค่ะ)
ว่าพวกเขาต้องการศิลปินในอุดมคติที่พวกเขาจะชื่นชอบได้ ให้เป็นแบบไหน
คือสำรวจว่าตลาดต้องการอะไร โดยกำหนดธีมให้เป็นศิลปินผู้ชายค่ะ สอบถามทั้งวัยรุ่นหญิงชาย เพราะต้องการที่จะให้เป็นศิลปินที่ทั้งผู้ชายก็อยากจะเป็นแบบนั้น และผู้หญิงก็อยากจะได้เป็นแฟน
ซึ่งทุกคนก็ตอบแนวว่า หน้าตาดี ร้องเพลงเพราะ เต้นเก่ง เรียนเมืองนอกมา (คนเกาหลีไม่ชอบลูกครึ่งหรือคนต่างชาติ แต่ถ้าเด็กเกาหลีเองเคยไปเรียนเมืองนอก พูดภาษาต่างประเทศได้ คนเกาหลีจะเป็นปลื้มมาก สมัยก่อนนะคะ เดี๋ยวนี้เปิดใจมากขึ้น)
หลังจากนั้นสักพัก H.O.T ก็ถือกำเนิดขึ้นมา
โดยมีแนวคิดง่ายๆ ถ้าทั้งหมดนั้นไม่สามารถอยู่ในตัวคนๆ เดียวได้ เราก็เอามันมารวมกันสิ วงนี้ประกอบไปด้วยสมาชิก 5 คนซึ่งเป็นเด็กหนุ่มหน้าตาดีทุกคน มีเสียงร้องขั้นเทพ (คังตะ) เต้นเก่งมาก (จางอูฮยอกและมุนฮีจุน) และยังมี โทนี่ ที่เคยเรียนอยู่ที่อเมริกา (แร็พภาษาอังกฤษ โชว์พูดภาษาต่างประเทศ) แร็พเปอร์ (ลีแจวอน) ซึ่งผลก็เป็นอย่างที่เห็น ความดังยังมีอยู่จนถึงทุกวันนี้ คือเป็นกรุ๊ปไอดอลที่ผู้หญิงก็ชื่นชอบ พวกรุ่นน้องผู้ชายก็อยากจะเป็นแบบนั้น แล้วก็สำรวจตลาดอีกหน ทำ S.E.S วงไอดอลหญิงในตำนานตามมา ในยุคนั้นถือว่าเป็น H.O.T เวอร์ชั่นผู้หญิงเลยก็ว่าได้ ซึ่งก็ประสบความสำเร็จไม่แพ้กัน
"หลักการง่ายๆ ในตอนนั้นก็คือ ตอบสนองความต้องการของตลาดนั้นเอง"
โอเค จบกันไป มาเริ่มที่ไอดอลที่เราจะแบ่งหมวดหมู่พวกเขากันเลย ทั้งนี้ทั้งนั้นจะพูดถึงความเป็นไปได้ทางการเติบโตหรือดิ่งลงของวงด้วย แล้วก็จะเอาเท่าที่ยังอยู่ในบริษัทนะคะ
มาเริ่มกันเลย
TVXQ (Ho-Min)
วงดงบังชินกิ (ในที่นี้หมายถึงเฉพาะ 2 คน ไม่ใช่ตอนมีกัน 5 คน)
ถือว่าอยู่ในตำแหน่ง Cash Cow คือ เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำเงินต่อเนื่อง แต่มีอัตราการเติบโตในตลาดค่อนข้างต่ำ...
ที่เป็นแบบนี้ไม่ได้หมายความว่าวงไร้พลังยิ่งใหญ่ที่จะเติบโตต่อได้ หากแต่เป็นเพราะว่า
ดงบังชินกิ ไม่สามารถที่จะดังไปได้มากกว่านี้อีกแล้ว เนื่องจากดังที่สุดโดยเฉพาะในประเทศเกาหลีใต้ (ทั้งนี้รวมถึงในเอเชียบางประเทศ)
และมีส่วนแบ่งการตลาดค่อนข้างสูงสมเป็นวัวตัวใหญ่ ไม่ว่าTVXQ หรือ JYJ จะปล่อยผลงานอะไรออกมา แน่นอนว่าต้องมีแฟนคลับติดตาม
ยอดขายทำได้ดี ถึงจะไม่พีคแต่ก็ต้องมีกระแสให้เห็น
พวกเขาดังที่สุดจนผ่านช่วงการเป็น Star มาเรียบร้อย
ที่เหลือทำได้ในตอนนี้ก็คือ (ในกรณีที่เอสเอ็มคิดจะทำ) ผลักดันไปสู่ตลาดโลก... เพื่อให้กลับไปเป็นเป็นผลิตภัณฑ์ดาวรุ่งอีกครั้ง [Star] แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอาจจะยากด้วยคอนเซ็ปต์ของวงที่ไม่คลิกชาวตะวันตกเท่าไหร่ รวมถึงเดบิวต์มานานแล้วทำให้ความสดใหม่หายไป
และการพรีเซนต์ภาพลักษณ์ตั้งแต่ตอนต้นว่าเป็นเทพเจ้าฝั่งโลกตะวันออก เพราะกะจะรุกหนักตลาดเอเชีย โดยเฉพาะตลาดใหญ่อย่างญี่ปุ่น
เอาเป็นว่าตอนนี้ทางที่ดีที่สุดก็คือรักษากระแสความเป็นเทพเจ้าแบบนี้ไปเรื่อยๆ
มาถึง 9 สาวขาสวยแห่งเกาหลีใต้
Girls' Generation หรือ SNSD, ซึ่งก็ถือเป็น Cash Cow วัวนมตัวใหญ่ยักษ์อีกตัวของ SM
ตัววงโซนยอชิแดนั้นแม้จะเริ่มจากติดลบ แต่ก็สามารถประสบความสำเร็จได้อย่างสูงในแง่ทั้งความนิยมและยอดขายแซงหน้าบอยแบนด์ไปหลายเบอร์
ถึงขนาดมีคำกล่าวที่ว่า "ที่เกาหลีมีกิมจิ มีไวน์ข้าว มีแดจังกึม มีปาร์คจีซอง และมีโซนยอชิแด" คงสามารถการันตีตำแหน่ง เกิร์ลกรุ๊ปแห่งชาติ อย่างสมศักดิ์ศรี และการันตีได้ถึงความโด่งดังไปทั่วทุกผู้ทุกคนแน่นอน
สำหรับตัววง SNSD นั้นไม่สามารถจะดังไปได้มากกว่านี้อีกแล้วในเกาหลีใต้ เพราะตอนนี้กำลังดังที่สุดจนมันติดเพนดานไม่มีทางพุ่งขึ้นไปอีก
ดูจาก Rank girl group ของ Dispatch (ขอบคุณคห. 98 คุณสมาชิกหมายเลข 1012853 สำหรับข้อมูลค่ะ แล้วก็ของฝ่ายชายเพื่อนๆ หาดูได้ที่คห. 98 เหมือนกันนะคะ
จะเห็นได้ว่า SNSD นั้นดังจนแทบจะไม่มีพื้นที่ให้เกิร์ลกรุ๊ปวงอื่นยืน ทิ้งห่างที่ 2 อย่าง Sistar มาแบบไม่ติดฝุ่น
ยกตัวอย่างเช่นการออกยูนิต TTS ออกมา
ซึ่งถึงแม้ยูนิตนั้นจะประสบความสำเร็จอย่างมาก แต่ก็ไม่ได้เพิ่มความนิยมหรือกระแสให้กับวงSNSDแต่อย่างไร กล่าวคือ ทั้ง 9 สาวยังคงดังและได้รับความนิยมมากๆ เหมือนเดิมในตอนแรกที่ไม่เกิดยูนิตนี้...
เหตุเพราะมันสุดแล้วจริงๆ ทั้ง แทยอน ซอฮยอน และทิฟฟานี่ เป็นสมาชิกตัวท็อปของ SNSD อยู่แล้ว นอกจากยอดขายที่เพิ่มได้ ทุกคนยังคงรู้จักสามสาวว่ามาจากวงเกิร์ลกรุ๊ปแห่งชาติ มีฐานแฟนคลับเดิมคอยสนับสนุนผลงานให้เป็นได้ดี
แตกต่างกับยูนิต Orange Caramel จากวง After School ตัววงอาฟเตอร์สคูลนั้นไม่ได้โด่งดังอะไรมากมาย แต่ยูนิคออเร้นจ์ คาราเมล สามารถทำให้คนหันมาสนใจและเพิ่มความนิยมให้กับอาฟเตอร์สคูลได้ ถึงคนจะไม่รู้ว่า นานะ ลิซซี่ เรนะ อยู่อาฟเตอร์สคูล แต่ก็รู้ว่าอยู่ออเร้จน์ฯ แล้วก็สนใจไปหาข้อมูลเกี่ยวกับสามคนนี้เพิ่มทำให้รู้จักตัวงหลัก แบบนี้ถึงจะเรียกว่าออกยูนิตมาแล้วได้ผลค่ะ
ถ้าถามถึงในระดับโลก... คิดว่า SNSD นั้นประสบความสำเร็จในแง่ระดับโลกมากกว่าวงรุ่นพี่อย่าง TVXQ แม้พวกเธอจะเป็นผู้หญิง
ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะมีทิฟฟานี่ และเจสสิก้า ที่สามารถโต้ตอบภาษาอังกฤษได้อย่างฉะฉาน ไม่ต้องใช้ล่าม ซึ่งถึงแม้จะมีแค่ 2 ใน 9 ที่พูดอังกฤษได้
คุณอาจมองว่าน้อย แต่ที่จริงแล้วมันช่วยได้มาก
อย่างการไปออกรายการ David Letterman หรือรายการต่างๆ ในอเมริกา เราจะเห็นว่าสองคนนี้มีส่วนช่วยในวงอย่างถึงที่สุด
วง SNSD ยังสามารถประสบความสำเร็จหรือเป็น Star ในได้ระดับโลกได้อีก เพราะตอนนี้ยังถือว่าไม่ได้มีชื่อเสียงระดับโลก แต่ถ้าในเอเชียน่ะดังสุดแล้วๆ
ซึ่งเราก็มองว่าทางค่ายพยายามทำอะไรกับจุดนี้จริงๆ อย่างเช่นการออกเพลง The Boys ที่ทำร่วมกับ Teddy Riley โดยหวังให้มันเป็น One Hit Wonder แบบ Gangnam Style ของ PSY
แต่ด้วยอะไรหลายๆ อย่างเลยทำให้ SNSD ยังไปไม่ถึงจุดนั้น (ขอบคุณข้อมูลจากคุณ rb_up ค่ะ)
สำหรับในญี่ปุ่นหรือจีน ตัวSNSD ไม่ได้ไปเจาะตลาดญี่ปุ่นในฐานะ "ศิลปินญี่ปุ่น" เหมือนที่ TVXQ และ โบอา เคยกระทำในอดีต หรือเจาะตลาดจีนในฐานะ "ศิลปินจีน" แบบที่ EXO กับ SJ-M ทำ
แต่พวกเธอไปในฐานะ "ไอดอลเกาหลีใต้ที่อยากจะขยายฐานแฟนคลับเพิ่ม"
จะมีการใช้ล่าม การยังคงศัพท์เกาหลีบางคำเอาไว้ในเพลงเวอร์ชั่นญี่ปุ่น (เช่นเพลง Oh! ที่จงใส่ใส่คำว่า โอป้า) การกระทำต่างๆ ที่บ่งบอกให้รู้ว่าพวกเธอเป็นคนต่างชาติที่มาขยายชื่อเสียงเพิ่มเติมนะ ไม่เหมือนวงรุ่นพี่ที่ต้องไปอยู่เก็บกดที่นั้น ทำตัวประหนึ่งเป็นคนญี่ปุ่นเพื่อเจาะตลาด แต่เราว่ากลยุทธิ์นี้ก็ดีค่ะ เพราะกระแสเคป็อบกำลังแรงไปทั่วโลก ทำให้คนญี่ปุ่นรับวัฒนธรรมเกาหลีเพิ่ม เก้าสาวจะได้ไม่เหนื่อยมาก
แม้ความดังในญี่ปุ่นจะสู้วงเจ้าบ้านอย่างเช่น AKB48 ไม่ได้ หรือวงเกาหลีที่ไปลุยตลาดด้วยกันอย่าง KARA แต่ก็ถือว่ากวาดความนิยมไปได้แบบไม่เสียลายโซชิ
แต่ข้อเสียก็คือว่า การที่ไม่ได้ไปอยู่ลงหลักปักฐานที่ญี่ปุ่นเลย ทำให้ตัวงไม่อาจจะมีกลุ่มแฟนคลับแบบ Loyalty เหมือนที่ดงบังชินกิ กับ โบอา มีได้
โบอา
จะไม่กล่าวถึงสาวน้อยมหัศจรรย์ ที่กลายมาเป็นสาวสวยแบบเต็มตัวของค่าย SM คงไม่ได้
โบอาเองก็เป็น Cash cow อีกวงของ SM เช่นกัน นั้นก็คือเธอไม่ได้อยู่ในช่วงขาขึ้นแล้ว แต่เธอทรงตัวกับการได้รับความนิยม
แม้จะห่างหายไปนาน แต่ถ้าออกผลงานเมื่อไหร่ก็มีแฟนคลับตามเก็บทุกสิ่งที่เป็นชื่อโบอา
เรื่องโอกาสทางเติบโตทางการตลาดนั้นน้อย เพราะในญี่ปุ่นโบอาเองก็เป็น Cash Cow เหมือนกัน
คือคนญี่ปุ่นรู้จักโบอาในฐานะศิลปินญี่ปุ่น ไม่ได้รู้จักในฐานะศิลปินเกาหลี
ถึงขนาดเมื่อหกเจ็ดปีที่แล้ว นางเคยติดโผคนมีอิทธิพลของเอเชีย แต่ระบุว่ามาจากค่าย Avex และเป็นศิลปินญี่ปุ่น!
สำหรับโอกาสในการโกอินเตอร์ไปฝั่งอเมริกา แม้จะไปลองอยู่หลายปีแต่ผลตอบรับไม่เป็นที่หน้าพอใจ
อาจเป็นเพราะลุคแบบเอเชียของเธอ และภาษาอังกฤษที่ไม่ได้ดีเท่าไหร่เลยทำให้ไปได้ไม่สุด
แต่ถึงอย่างไรโบอาก็ได้รับความนิยมและความรักมากมายจากฝั่งเอเชียอยู่แล้ว
ไม่อยากจัดโบอาให้เป็น Dog ค่ะ เพราะว่าโบอายังไม่ได้ขาลงขนาดนั้นแม้ความนิยมจะตกลงไปบ้าง
แต่ก็ยังสามารถสร้างกระแสให้ตัวเองได้อย่างน่าพอใจอยู่กับเพลง Only one ที่มีศิลปินชายมา ft. อยู่เนื่องๆ
ปล. ถ้าวชอบโปรดเม้นท์โหวตเป็นกำลังใจ ยังไม่หมดแค่นี้ วงอื่นๆ อยู่ในเม้นท์ค่ะ
!!!!!!!!!! ปล2. ย้ำอีกทีว่าทั้งหมดเป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของจขกท. นะคะ ไม่ได้มีเจตนาไม่ดีอย่างไร คิดเห็นขัดแย้งก็บอกได้ แต่ไม่ต้องต่อว่ากันก็ได้นะคะ T_T