คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 6
ตรงๆนะคะ คนส่วนหนึ่งในตลาดงาน ไม่ได้จบตรงสาย บ้านไม่ใกล้ที่ทำงาน เขาเหล่านั้นเริ่มต้นทำงานด้วยเงินเดิอนไม่มากและไร้ประสบการณ์ค่ะ และงานทุกงาน มีปัญหาให้แก้ ไม่มีงานไหนสบาย 100% หรอกค่ะ
คนข้างบนนั้น เขาเริ่มต้นจากการเรียนรู้งาน ก่อนค่อยๆไต่เต้าขึ้นไปสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้น ภาระงานมากขึ้น พร้อมกับเงินเดือนที่มากขึ้นเพื่อแลกการสร้างชีวิตให้มั่นคงขึ้น
ถ้าคุณคิดจะเลิอกแต่สิ่งที่เหมาะกับคุณที่สุด โดยไม่ยอมตัดข้อจำกัดบางข้อทิ้งไปเลย คุณจะหางานไม่ได้ง่ายๆ และความก้าวหน้าในงานนั้น มันต้องใช้เวลาสะสม ยิ่งคุณเลือกมาก ก็เท่ากับคุณทิ้งเวลาของการเก็บประสบการณ์ทำงานไปมากเท่านั้น
โลกของความจริงคือโลกที่ไม่ได้ให้คุณทุกอย่าง มันจะเอาบางอย่างไปจากคุณ เพื่อให้คุณได้อะไรมาค่ะ
คนข้างบนนั้น เขาเริ่มต้นจากการเรียนรู้งาน ก่อนค่อยๆไต่เต้าขึ้นไปสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้น ภาระงานมากขึ้น พร้อมกับเงินเดือนที่มากขึ้นเพื่อแลกการสร้างชีวิตให้มั่นคงขึ้น
ถ้าคุณคิดจะเลิอกแต่สิ่งที่เหมาะกับคุณที่สุด โดยไม่ยอมตัดข้อจำกัดบางข้อทิ้งไปเลย คุณจะหางานไม่ได้ง่ายๆ และความก้าวหน้าในงานนั้น มันต้องใช้เวลาสะสม ยิ่งคุณเลือกมาก ก็เท่ากับคุณทิ้งเวลาของการเก็บประสบการณ์ทำงานไปมากเท่านั้น
โลกของความจริงคือโลกที่ไม่ได้ให้คุณทุกอย่าง มันจะเอาบางอย่างไปจากคุณ เพื่อให้คุณได้อะไรมาค่ะ
แสดงความคิดเห็น
เรียนจบมานานพอควรแล้ว แต่ยังหางานทำไม่ได้ เครียดมาก ทำยังไงดีครับ?
แต่ถึงบอกว่าเรียน เนฯ อยู่ก็เถอะ แต่ก็ไม่เคยไปเรียน เพราะเส้นทางไปมันไม่เอื้ออำนวยซักเท่าไรน่ะครับ เลยได้แต่รออ่านคำบรรยายที่สั่งจองอย่างเดียว
และนั่นล่ะครับคือปัญหา เมื่อผมไม่ได้ไปเรียนที่เนติสภาฯ ก็ทำให้ทางบ้านชักจะมองว่าผมไม่ทำการทำงานและวันๆ หมกตัวอยู่แต่ในห้อง และเริ่มต่อว่าหลายๆ อย่างจนชักจะเริ่มทนไม่ไหวแล้วล่ะครับ
พอโดนต่อว่าหนักเข้ามากๆ ก็เริ่มมีความคิดอยากจะหนีออกอาศัยอยู่คนเดียวแบบเมื่อก่อน แต่ว่าคุณแม่ผมก็อายุมากแล้ว และพี่น้องก็ไม่ค่อยจะอยู่บ้านซักเท่าไรด้วย กลัวว่าจะไม่มีใครดูแลแกเลยเลือกที่จะยอมทนแบบนี้ไปก่อนดีกว่า
ในระหว่างที่ทนอยู่นี่เอง ผมก็ตระเวนหางานไปเรื่อย แต่ไม่รู้ว่าโชคไม่ช่วยหรือเพราะเลือกงานมากเกินไป ทำให้ผมไม่สามารถหางานทำได้เลยมาเป็นปีแล้วครับ งานที่หาได้ก็ดันอยู่ไกลบ้านบ้าง วุฒิไม่ตรงกับงานบ้าง งานไม่ตรงสายบ้าง ไม่ก็ไม่มีประสบการณ์บ้าง ด้วยเหตุเช่นนี้เองทำให้ตอนนี้ผมเตะฝุ่นมานานกว่าปี โดยที่เพื่อนคนอื่นเขามีงานมีการทำกันหมดแล้วล่ะครับ
รุ่นพี่สมัยเรียนก็ไม่มีเลยขาดการอนุเคราะห์เสริมอย่างสิ้นเชิง ตั๋วทนายเองก็ยังสอบไม่ผ่านอีกต่างหาก เลยไม่รู้แล้วครับว่าจะต้องไปหางานยังไงบ้างดี ที่มันให้ประสบการณ์ต่อยอดไปทำงานอื่นได้
คราวก่อนผมไปมีมิตติ้ง และได้เจอเพื่อนเก่าสมัยเรียน ม.ปลาย ได้คุยกันแล้วยิ่งปวดใจ เพราะพวกเขาเล่าถึงประสบการณ์ทำงานกันทั้งนั้น ยิ่งฟังแล้วยิ่งน่าอิจฉาที่พวกเขามีความสุขกับงาน (ถึงบางคนจะมาบ่นให้ฟังบ้างก็เถอะ) ผิดกับผมที่ยังเป็นยามประจำบ้านอยู่เลย
ปัจจุบันผมนั่งเขียนหนังสือ เผื่อว่าฟล็คจะเดบิวตัวเองได้ แต่กลับกลายเป็นว่าทางบ้านยิ่งมองว่ามโนเพ้อพกซะงั้น Orz แถมยังชวนไปขายตรงอีกต่างหาก