US BOX OFFICE July 25-27, 2014

(แปล/เรียบเรียง จาก
www.boxofficemojo.com)
เห็นบางๆ แบบนี้ สการ์เล็ทท์ โจแฮนสสัน ก็คว่ำเดอะ ร็อค - ดเวยน์ จอห์นสันได้แบบสบายๆ บนอันดับหนังทำเงินสัปดาห์สุดท้ายของเดือนที่ง่อยที่สุด ซึ่งถือว่าเป็นชัยชนะครั้งสำคัญของ ยูนิเวอร์แซล เมื่อ Lucy เปิดตัวในอันดับ 1 ด้วยรายได้กว่า 43.9 ล้านเหรียญ ขณะที่ Hercules กลายเป็นพระรอง เมื่อทำเงินได้แบบพออุ่นๆ 29.8 ล้านเหรียญ ขณะที่หนัง 12 อันดับแรกทำเงินรวมกันแค่ 136.8 ล้านเหรียญ ซึ่งต่ำกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 13%
รายได้เปิดตัวอันดับ 1 ของ Lucy นั้น ไม่ได้คล้ายคลึงหรือพอๆ กับที่หนังอย่าง Wanted และ Taken 2 ทำเอาไว้ 50.9 และ 49.5 ล้านเหรียญตามลำดับ แต่อย่างน้อยก็ถือว่า ไม่ได้ห่างจนน่าเกลียด และถือว่าเป็นรายได้ที่ดี สำหรับหนังแอ็คชันทุนปานกลางที่ไม่ใช่งานภาคต่อ และทำได้ดีกว่า หนังที่คล้ายๆ กันอย่าง The Bourne Legacy (38.1 ล้านเหรียญ) และ Salt (36 ล้านเหรียญ)
นอกจากนี้ Lucy ยังเป็นหนังยูนิเวอร์แซลเรื่องที่ 4 ที่เปิดตัวด้วยรายได้มากกว่า 35 ล้านเหรียญในปีนี้ อีกสามเรื่องก็คือ Lone Survivor, Ride Along และ Neighbors และยิ่งน่าพอใจเอามากๆ หากมองว่าหนังทั้ง 4 เรื่องนี้ ล้วนไม่ใช่หนังภาคต่อ, ภาคก่อน หรือตอนแยก แถม 3 ใน 4 เรื่องยังเป็นหนังเรท อาร์ อีกต่างหาก และถ้าเอากันจริงๆ นี่ก็เป็นหนังเรื่อง 5 ของยูนิเวอร์แซลที่ขึ้นอันดับ 1 ด้วย เพราะ ยังมี Non-Stop ที่ร่วมสร้างกับฟ็อกซ์อีกเรื่องหนึ่ง
ความสำเร็จของ Lucy มีองค์ประกอบหนุนอยู่ 2-3 อย่าง อย่างแรก หนังมีความน่าสนใจเป็นทุนตั้งตัว (เป็นยังไงถ้า เราสามารถใช้ศักยภาพของสมองได้มากกว่า 10%?) อย่างที่สองไม่ว่าจะดูหน้าไหนนี่ก็คืองานหนังแอ็คชันพันธุ์แท้, การโปรโมทใช้ภาพที่น่าสนใจ และหนังเรื่องนี้ ยังทำให้ได้เห็นมาดสาวบู๊ของสการ์เลทท์ โจแฮนส์สันในบทนำได้เต็มตามากกว่า บท แบล็ค วิโดว์ ใน The Avengers และ Captain America: The Winter Soldier และเพื่อย้ำให้คนดูต่อกันติดกับสิ่งต่างๆ เหล่านี้ ยูนิเวอร์แซล เลยตัดสินใจย้ายวันฉายของลูซี จากกลางเดือนสิงหาคม ที่จะมีหนังอย่าง Guardians/Turtles/Expendables ฉายประกบหน้า-หลังมาเป็นเดือนที่คู่แข่งไม่มากอย่างปลายเดือนกรกฎาฯ แทน
Lucy ได้คนดูชาย-หญิงพอๆ กัน และ 65% อายุมากกว่า 25 แต่หนังได้คะแนนซีนีมาสกอร์แค่ C+ ซึ่งทำให้ปากต่อปากไม่ดีนัก แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นหนังก็น่าจะทำเงินเกินร้อยล้านได้
เปิดตัวด้วย 3,595 โรง Hercules ทำได้แค่อันดับ 2 รายได้ 29.8 ล้านเหรียญ ซึ่งไม่ใช่การออกตัวที่ดีอะไรเลย เทียบกันแล้วยังน้อยกว่าหนังเดอะ ร็อค แสดงนำอย่าง The Scorpion King ที่เปิดตัว 36 ล้านเหรียญ เมื่อ 12 ปีก่อนอีกต่างหาก และต่ำกว่า Wrath of the Titans (33.5 ล้านเหรียญ) และ Immortals (32.2 ล้านเหรียญ) นิดหน่อย แต่นั่นก็ยังร้ายไม่พอ สำหรับหนังฟันดาบรองเท้าสาน หนักไปทางใช้ซีจีไอมาช่วยทำฉากแอ็คชัน เรื่องราวไม่มีอะไรแปลกใหม่ อย่างเรื่องนี้ ยังมีคนที่อยากดูว่า เรื่องราวที่ยังไม่ถูกเล่าของเฮร์คิวลีส เป็นยังไงอีกเหรอ? เพราะกับการที่หนังทำรายได้แค่แตะๆ 30 ล้านเหรียญ ถือเป็นการแสดงศักยภาพในการทำเงินของเดอะ ร็อค และฐานแฟนๆ ของเขาไปด้วยในตัว เมื่อเป็นหนังที่เขาพยายามโปรโมทอย่างหนักหน่วง ทุ่มตัวเองมากที่สุด มาตั้งแต่ตอนที่หนังเริ่มถ่ายทำ และสื่อสารกับคนมากถึงกว่า 37 ล้านสำหรับแฟนๆ ในเฟซบุ๊ค และอีก 7 ล้านที่ตามทวิตเตอร์ของเขา
คนดู Hercules 58% เป็นชาย และ 64% อายุมากกว่า 25 ปี หนังได้คะแนน B+ จากซีนีมาสกอร์ กับการที่ต้องเจอกับ Guardians of the Galaxy ในสัปดาห์ต่อมา Hercules น่าจะมีโอกาสเป็น 0 ที่จะทำเงินถึงร้อยล้าน แต่ก็น่าจะผ่าน 75 ล้านเหรียญไปได้ และหนังน่าจะได้เงินเป็นกอบเป็นกำจากตลาดนอกอเมริกา
หลังยืนอันดับ 1 ได้ในสัปดาห์ที่สอง สัปดาห์นี้ Dawn of the Planet of the Apes โดนสองหนังใหม่ทุบซะ รายได้ตก 54% ทำเงินได้อีก 16.8 ล้านเหรียญ รายได้รวมจาก 17 วันเป็น 172.5 ล้านเหรียญ และน่าจะผ่าน 176.8 ล้านเหรียญของ Rise of the Planet of the Apes ได้ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า โดยปิดโปรแกรมที่ตัวเลขราวๆ 210 ล้านเหรียญเป็นอย่างน้อย
The Purge: Anarchy ได้เงินมาอีก 10.5 ล้านเหรียญ แต่รายได้ตกฮวบจากสัปดาห์เปิดตัว 65% ขณะที่ภาคแรกตกกระหน่ำกว่าถึง 76% ตอนนี้หนังได้เงินไปแล้ว 51.9 ล้านเหรียญ และน่าจะทำได้ใกล้เคียงกับที่ภาคแรกทำไว้ 64.5 ล้านเหรียญ ส่วน Planes: Fire & Rescue ยังไม่หลุดจาก 5 อันดับแรก หนังได้เงินอีก 9.5 ล้านเหรียญ รายได้ตกแค่ 46% แต่ Sex Tape รายได้ตกไปถึง 59% ทำเงินมาเพิ่มแค่ 6.05 ล้านเหรียญ
หนังรอม-คอม ไมเคิล ดักลาสประกบไดแอน คีตัน And So It Goes เปิดตัว 1,762 โรง ทำรายได้ 4.6 ล้านเหรียญ ซึ่งไม่ใช่ตัวเลขที่สวยงามเลย แม้ว่าจะดีกว่าหนังเรื่องแรกของผู้จัดจำหน่ายหน้าใหม่ คลาริอุส เอนเตอร์เมนท์ Legends of Oz: Dorothy's Return ที่เปิดตัว 3.7 ล้านเหรียญ เมื่อเดือนพฤษภาคมก็ตามที
หนังสายลับระทึกขวัญ A Most Wanted Man เปิดตัว 361 โรง แต่ก็มากพอจะเข้าสิบอันดับแรกด้วยรายได้ 2.7 ล้านเหรียญ ถือเป็นหนังเปิดตัวมากสุดอันดับ 2 ของผู้จัดจำหน่าย โรดไซด์ แอทแทรคชันส มากกว่า Mud ทำไว้เมื่อปีกลาย 2.2 ล้านเหรียญ เสียงวิจารณ์ที่ดีและมีแรงกระตุ้นจากการเป็นงานชิ้นสุดท้ายในฐานะบทนำของฟิลิป ซีย์มัวร์ ฮอฟฟ์แมน หนังน่าจะยืนระยะได้ดีในสัปดาห์ต่อไป
งานของริชาร์ด ลิงค์เลเตอร์ Boyhood เพิ่มโรงเป็น 107 โรง ทำเงินมาอีก 1.73 ล้านเหรียญในสัปดาห์นี้ (เฉลี่ยโรงละ 16,121 เหรียญ) หนังได้เงินรวม 4.1 ล้านเหรียญ รั้งอันดับ 5 หนังทำเงินวูงสุดตลอดกาลของผู้จัดจำหน่าย ไอเอฟซี ฟิล์มส์ แน่นอนว่าจะมีการขยายโรงเพิ่มอีกในสัปดาห์ต่อๆ ไป พร้อมกับมีโฆษณาปล่อยทางโทรทัศน์เสริม แต่ก็ยังคาดไม่ได้ว่าหนังจะไปจบที่รายได้เท่าไหร่ แต่น่าจะเกิน 15 ล้านเหรียญแน่ๆ แต่หนังแซ็ค บราฟฟ์ Wish I Was Here ที่เพิ่มโรงเป็น 625 โรง กลับทำรายได้น่าผิดหวัง 1.1 ล้านเหรียญ โดยหนังเรื่องแรกของบราฟฟ์ Garden State ทำเงินไปถึง 3 ล้านเหรียญจากการเปิดตัวในวงกว้างเมื่อปี 2004 ดูแล้วหนังได้ทุนสร้างจากคิกสตาร์เตอร์เรื่องนี้ น่าจะทำได้แค่เสษเสี้ยวของ Garden State ที่ทำไป 26.8 ล้านเหรียญ
หนังเดี่ยวไมโครโฟนของ แกเบรียล อิเกลเซียส The Fluffy Movie เปิดตัว 1.3 ล้านเหรียญจาก 432 โรง ดูเหมือนจะพอๆ กับ Kevin Hart: Laugh at My Pain ที่เปิดตัว 1.9 ล้านเหรียญ แต่หนังเรื่องหลังเปิดตัวไม่ถึง 100 โรงด้วยซ้ำ ใครที่รอหนังลุงวูดี อัลเลนอยู่ Magic in the Moonlight เปิดฉายแล้ว 17 โรง ทำเงินไป 426,000 เหรียญในสัปดาห์นี้ ซึ่งน้อยกว่า Blue Jasmine และ Midnight in Paris ทำไว้ในตอนเปิดตัวด้วยโรงแค่ 6 โรง กับคำวิจารณ์แบบกำ้กึ่ง Magic in the Moonlight น่าจะเจองานยากที่จะทำได้พอๆ กับหนังอย่าง To Rome with Love ที่ทำรายได้ไว้ 16.7 ล้านเหรียญ เมื่อปี 2012
ที่ตลาดนอกอเมริกา Dawn of the Planet of the Apes ขยับมาเป็นที่หนึ่ง ด้วยรายได้ 54.1 ล้านเหรียญ หนังเปิดตัว 13.1 ล้านเหรียญ (รวมรายได้รอบพรีวิว) ที่เม็กซิโก และ 9.3 ล้านเหรียญที่บราซิล รายได้รวมของหนังตอนนี้เพิ่มเป็น 181.9 ล้านเหรียญ และจะขยายไปฉายอีกกว่า 11 ประเทศ ซึ่งก็มีฝรั่งเศส และอิตาลี รวมอยู่ด้วยในสัปดาห์หน้า
Transformers: Age of Extinction ได้เงินมาอีก 37.5 ล้านเหรียญ และกลายเป็นหนังเรื่องแรกที่ทำเงินเกิน 300 ล้านในจีนไปเรียบร้อยแล้ว หนังทำรายได้รวมนอกอเมริกาถึง 730 ล้านเหรียญ อยู่ในอันดับ 11 ของหนังทำเงินนอกอเมริกาตลอดกาล กับการที่ยังมีญี่ปุ่น กับสเปนรอฉาย หนัง Transformers เรื่องนี้ น่าจะทำเงินผ่าน 800 ล้านแบบชิลล์ๆ ส่วนรายได้รวมทั่วโลกของสัปดาห์นี้อยู่ที่ 966 ล้านเหรียญ และน่าจะผ่านพันล้านได้ในสัปดาห์หน้า
ในประเทศที่เปิดตัวพร้อมอเมริกา Hercules ทำรายได้ 28.7 ล้านเหรียญ โดยแหล่งหลักๆ ก็อย่าง รัสเซีย 12 ล้านเหรียญ แต่ในหลายๆ พื้นที่ทำได้ไม่ดีนัก เย่าง ออสเตรเลีย 3.5 ล้านเหรียญ และอังกฤษ 2.4 ล้านเหรียญ หนังยังมีตลาดใหญ่ๆ ให้เล่นอีกเยอะ และน่าจะทำรายได้นอกอเมริกาอย่างน้อย 200 ล้านเหรียญได้
How to Train Your Dragon 2 ได้เงินมาอีก 24 ล้านเหรียญ รายได้รวมเพิ่มเป็น 258.5 ล้านเหรียญ โดยที่เยอรมัน หนังเปิดตัวอันดับที่ 2 6.1 ล้านเหรียญเป็นรอง Transformers และยังมีตลาดเหลืออีกเพียบไม่ว่าจะเป็นที่ สเปน, อิตาลี, จีน และญี่ปุ่น ซึ่งน่าจะทำให้รายได้นอกอเมริกาขยับเป็น 400 ล้านเหรียญได้
ในที่สุด Godzilla ก็เปิดตัวในบ้านเกิด แต่ทำรายได้แค่ 7 ล้านเหรียญ จากการฉาย 3 วันแรก ซึ่งพอๆ กับ Transformers: Dark of the Moon แต่มากกว่า Pacific Rim 2 เท่า รายได้รวมตอนนี้ขาดอีกไม่เท่าไหร่ก็จะถึง 300 ล้านเหรียญนอกอเมริกา หรือ 500 ล้านจากรายได้รวมทั่วโลก
คลิกไลค์ให้กำลังใจได้ที่
www.facebook.com/Sadaos หรือติดตามข่าวสาร, บทความ, บทวิจารณ์ หนัง-เพลง และชมตัวอย่างกับมิวสิค วิดีโอได้เพิ่มเติมที่
www.sadaos.com
Lucy บี้ Hercules เยิน ในศึกประลองกำลังพลังหญิง กำลังชาย หนังทำเงินอเมริกาสัปดาห์นี้
(แปล/เรียบเรียง จาก www.boxofficemojo.com)
เห็นบางๆ แบบนี้ สการ์เล็ทท์ โจแฮนสสัน ก็คว่ำเดอะ ร็อค - ดเวยน์ จอห์นสันได้แบบสบายๆ บนอันดับหนังทำเงินสัปดาห์สุดท้ายของเดือนที่ง่อยที่สุด ซึ่งถือว่าเป็นชัยชนะครั้งสำคัญของ ยูนิเวอร์แซล เมื่อ Lucy เปิดตัวในอันดับ 1 ด้วยรายได้กว่า 43.9 ล้านเหรียญ ขณะที่ Hercules กลายเป็นพระรอง เมื่อทำเงินได้แบบพออุ่นๆ 29.8 ล้านเหรียญ ขณะที่หนัง 12 อันดับแรกทำเงินรวมกันแค่ 136.8 ล้านเหรียญ ซึ่งต่ำกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 13%
รายได้เปิดตัวอันดับ 1 ของ Lucy นั้น ไม่ได้คล้ายคลึงหรือพอๆ กับที่หนังอย่าง Wanted และ Taken 2 ทำเอาไว้ 50.9 และ 49.5 ล้านเหรียญตามลำดับ แต่อย่างน้อยก็ถือว่า ไม่ได้ห่างจนน่าเกลียด และถือว่าเป็นรายได้ที่ดี สำหรับหนังแอ็คชันทุนปานกลางที่ไม่ใช่งานภาคต่อ และทำได้ดีกว่า หนังที่คล้ายๆ กันอย่าง The Bourne Legacy (38.1 ล้านเหรียญ) และ Salt (36 ล้านเหรียญ)
นอกจากนี้ Lucy ยังเป็นหนังยูนิเวอร์แซลเรื่องที่ 4 ที่เปิดตัวด้วยรายได้มากกว่า 35 ล้านเหรียญในปีนี้ อีกสามเรื่องก็คือ Lone Survivor, Ride Along และ Neighbors และยิ่งน่าพอใจเอามากๆ หากมองว่าหนังทั้ง 4 เรื่องนี้ ล้วนไม่ใช่หนังภาคต่อ, ภาคก่อน หรือตอนแยก แถม 3 ใน 4 เรื่องยังเป็นหนังเรท อาร์ อีกต่างหาก และถ้าเอากันจริงๆ นี่ก็เป็นหนังเรื่อง 5 ของยูนิเวอร์แซลที่ขึ้นอันดับ 1 ด้วย เพราะ ยังมี Non-Stop ที่ร่วมสร้างกับฟ็อกซ์อีกเรื่องหนึ่ง
ความสำเร็จของ Lucy มีองค์ประกอบหนุนอยู่ 2-3 อย่าง อย่างแรก หนังมีความน่าสนใจเป็นทุนตั้งตัว (เป็นยังไงถ้า เราสามารถใช้ศักยภาพของสมองได้มากกว่า 10%?) อย่างที่สองไม่ว่าจะดูหน้าไหนนี่ก็คืองานหนังแอ็คชันพันธุ์แท้, การโปรโมทใช้ภาพที่น่าสนใจ และหนังเรื่องนี้ ยังทำให้ได้เห็นมาดสาวบู๊ของสการ์เลทท์ โจแฮนส์สันในบทนำได้เต็มตามากกว่า บท แบล็ค วิโดว์ ใน The Avengers และ Captain America: The Winter Soldier และเพื่อย้ำให้คนดูต่อกันติดกับสิ่งต่างๆ เหล่านี้ ยูนิเวอร์แซล เลยตัดสินใจย้ายวันฉายของลูซี จากกลางเดือนสิงหาคม ที่จะมีหนังอย่าง Guardians/Turtles/Expendables ฉายประกบหน้า-หลังมาเป็นเดือนที่คู่แข่งไม่มากอย่างปลายเดือนกรกฎาฯ แทน
Lucy ได้คนดูชาย-หญิงพอๆ กัน และ 65% อายุมากกว่า 25 แต่หนังได้คะแนนซีนีมาสกอร์แค่ C+ ซึ่งทำให้ปากต่อปากไม่ดีนัก แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นหนังก็น่าจะทำเงินเกินร้อยล้านได้
เปิดตัวด้วย 3,595 โรง Hercules ทำได้แค่อันดับ 2 รายได้ 29.8 ล้านเหรียญ ซึ่งไม่ใช่การออกตัวที่ดีอะไรเลย เทียบกันแล้วยังน้อยกว่าหนังเดอะ ร็อค แสดงนำอย่าง The Scorpion King ที่เปิดตัว 36 ล้านเหรียญ เมื่อ 12 ปีก่อนอีกต่างหาก และต่ำกว่า Wrath of the Titans (33.5 ล้านเหรียญ) และ Immortals (32.2 ล้านเหรียญ) นิดหน่อย แต่นั่นก็ยังร้ายไม่พอ สำหรับหนังฟันดาบรองเท้าสาน หนักไปทางใช้ซีจีไอมาช่วยทำฉากแอ็คชัน เรื่องราวไม่มีอะไรแปลกใหม่ อย่างเรื่องนี้ ยังมีคนที่อยากดูว่า เรื่องราวที่ยังไม่ถูกเล่าของเฮร์คิวลีส เป็นยังไงอีกเหรอ? เพราะกับการที่หนังทำรายได้แค่แตะๆ 30 ล้านเหรียญ ถือเป็นการแสดงศักยภาพในการทำเงินของเดอะ ร็อค และฐานแฟนๆ ของเขาไปด้วยในตัว เมื่อเป็นหนังที่เขาพยายามโปรโมทอย่างหนักหน่วง ทุ่มตัวเองมากที่สุด มาตั้งแต่ตอนที่หนังเริ่มถ่ายทำ และสื่อสารกับคนมากถึงกว่า 37 ล้านสำหรับแฟนๆ ในเฟซบุ๊ค และอีก 7 ล้านที่ตามทวิตเตอร์ของเขา
คนดู Hercules 58% เป็นชาย และ 64% อายุมากกว่า 25 ปี หนังได้คะแนน B+ จากซีนีมาสกอร์ กับการที่ต้องเจอกับ Guardians of the Galaxy ในสัปดาห์ต่อมา Hercules น่าจะมีโอกาสเป็น 0 ที่จะทำเงินถึงร้อยล้าน แต่ก็น่าจะผ่าน 75 ล้านเหรียญไปได้ และหนังน่าจะได้เงินเป็นกอบเป็นกำจากตลาดนอกอเมริกา
หลังยืนอันดับ 1 ได้ในสัปดาห์ที่สอง สัปดาห์นี้ Dawn of the Planet of the Apes โดนสองหนังใหม่ทุบซะ รายได้ตก 54% ทำเงินได้อีก 16.8 ล้านเหรียญ รายได้รวมจาก 17 วันเป็น 172.5 ล้านเหรียญ และน่าจะผ่าน 176.8 ล้านเหรียญของ Rise of the Planet of the Apes ได้ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า โดยปิดโปรแกรมที่ตัวเลขราวๆ 210 ล้านเหรียญเป็นอย่างน้อย
The Purge: Anarchy ได้เงินมาอีก 10.5 ล้านเหรียญ แต่รายได้ตกฮวบจากสัปดาห์เปิดตัว 65% ขณะที่ภาคแรกตกกระหน่ำกว่าถึง 76% ตอนนี้หนังได้เงินไปแล้ว 51.9 ล้านเหรียญ และน่าจะทำได้ใกล้เคียงกับที่ภาคแรกทำไว้ 64.5 ล้านเหรียญ ส่วน Planes: Fire & Rescue ยังไม่หลุดจาก 5 อันดับแรก หนังได้เงินอีก 9.5 ล้านเหรียญ รายได้ตกแค่ 46% แต่ Sex Tape รายได้ตกไปถึง 59% ทำเงินมาเพิ่มแค่ 6.05 ล้านเหรียญ
หนังรอม-คอม ไมเคิล ดักลาสประกบไดแอน คีตัน And So It Goes เปิดตัว 1,762 โรง ทำรายได้ 4.6 ล้านเหรียญ ซึ่งไม่ใช่ตัวเลขที่สวยงามเลย แม้ว่าจะดีกว่าหนังเรื่องแรกของผู้จัดจำหน่ายหน้าใหม่ คลาริอุส เอนเตอร์เมนท์ Legends of Oz: Dorothy's Return ที่เปิดตัว 3.7 ล้านเหรียญ เมื่อเดือนพฤษภาคมก็ตามที
หนังสายลับระทึกขวัญ A Most Wanted Man เปิดตัว 361 โรง แต่ก็มากพอจะเข้าสิบอันดับแรกด้วยรายได้ 2.7 ล้านเหรียญ ถือเป็นหนังเปิดตัวมากสุดอันดับ 2 ของผู้จัดจำหน่าย โรดไซด์ แอทแทรคชันส มากกว่า Mud ทำไว้เมื่อปีกลาย 2.2 ล้านเหรียญ เสียงวิจารณ์ที่ดีและมีแรงกระตุ้นจากการเป็นงานชิ้นสุดท้ายในฐานะบทนำของฟิลิป ซีย์มัวร์ ฮอฟฟ์แมน หนังน่าจะยืนระยะได้ดีในสัปดาห์ต่อไป
งานของริชาร์ด ลิงค์เลเตอร์ Boyhood เพิ่มโรงเป็น 107 โรง ทำเงินมาอีก 1.73 ล้านเหรียญในสัปดาห์นี้ (เฉลี่ยโรงละ 16,121 เหรียญ) หนังได้เงินรวม 4.1 ล้านเหรียญ รั้งอันดับ 5 หนังทำเงินวูงสุดตลอดกาลของผู้จัดจำหน่าย ไอเอฟซี ฟิล์มส์ แน่นอนว่าจะมีการขยายโรงเพิ่มอีกในสัปดาห์ต่อๆ ไป พร้อมกับมีโฆษณาปล่อยทางโทรทัศน์เสริม แต่ก็ยังคาดไม่ได้ว่าหนังจะไปจบที่รายได้เท่าไหร่ แต่น่าจะเกิน 15 ล้านเหรียญแน่ๆ แต่หนังแซ็ค บราฟฟ์ Wish I Was Here ที่เพิ่มโรงเป็น 625 โรง กลับทำรายได้น่าผิดหวัง 1.1 ล้านเหรียญ โดยหนังเรื่องแรกของบราฟฟ์ Garden State ทำเงินไปถึง 3 ล้านเหรียญจากการเปิดตัวในวงกว้างเมื่อปี 2004 ดูแล้วหนังได้ทุนสร้างจากคิกสตาร์เตอร์เรื่องนี้ น่าจะทำได้แค่เสษเสี้ยวของ Garden State ที่ทำไป 26.8 ล้านเหรียญ
หนังเดี่ยวไมโครโฟนของ แกเบรียล อิเกลเซียส The Fluffy Movie เปิดตัว 1.3 ล้านเหรียญจาก 432 โรง ดูเหมือนจะพอๆ กับ Kevin Hart: Laugh at My Pain ที่เปิดตัว 1.9 ล้านเหรียญ แต่หนังเรื่องหลังเปิดตัวไม่ถึง 100 โรงด้วยซ้ำ ใครที่รอหนังลุงวูดี อัลเลนอยู่ Magic in the Moonlight เปิดฉายแล้ว 17 โรง ทำเงินไป 426,000 เหรียญในสัปดาห์นี้ ซึ่งน้อยกว่า Blue Jasmine และ Midnight in Paris ทำไว้ในตอนเปิดตัวด้วยโรงแค่ 6 โรง กับคำวิจารณ์แบบกำ้กึ่ง Magic in the Moonlight น่าจะเจองานยากที่จะทำได้พอๆ กับหนังอย่าง To Rome with Love ที่ทำรายได้ไว้ 16.7 ล้านเหรียญ เมื่อปี 2012
ที่ตลาดนอกอเมริกา Dawn of the Planet of the Apes ขยับมาเป็นที่หนึ่ง ด้วยรายได้ 54.1 ล้านเหรียญ หนังเปิดตัว 13.1 ล้านเหรียญ (รวมรายได้รอบพรีวิว) ที่เม็กซิโก และ 9.3 ล้านเหรียญที่บราซิล รายได้รวมของหนังตอนนี้เพิ่มเป็น 181.9 ล้านเหรียญ และจะขยายไปฉายอีกกว่า 11 ประเทศ ซึ่งก็มีฝรั่งเศส และอิตาลี รวมอยู่ด้วยในสัปดาห์หน้า
Transformers: Age of Extinction ได้เงินมาอีก 37.5 ล้านเหรียญ และกลายเป็นหนังเรื่องแรกที่ทำเงินเกิน 300 ล้านในจีนไปเรียบร้อยแล้ว หนังทำรายได้รวมนอกอเมริกาถึง 730 ล้านเหรียญ อยู่ในอันดับ 11 ของหนังทำเงินนอกอเมริกาตลอดกาล กับการที่ยังมีญี่ปุ่น กับสเปนรอฉาย หนัง Transformers เรื่องนี้ น่าจะทำเงินผ่าน 800 ล้านแบบชิลล์ๆ ส่วนรายได้รวมทั่วโลกของสัปดาห์นี้อยู่ที่ 966 ล้านเหรียญ และน่าจะผ่านพันล้านได้ในสัปดาห์หน้า
ในประเทศที่เปิดตัวพร้อมอเมริกา Hercules ทำรายได้ 28.7 ล้านเหรียญ โดยแหล่งหลักๆ ก็อย่าง รัสเซีย 12 ล้านเหรียญ แต่ในหลายๆ พื้นที่ทำได้ไม่ดีนัก เย่าง ออสเตรเลีย 3.5 ล้านเหรียญ และอังกฤษ 2.4 ล้านเหรียญ หนังยังมีตลาดใหญ่ๆ ให้เล่นอีกเยอะ และน่าจะทำรายได้นอกอเมริกาอย่างน้อย 200 ล้านเหรียญได้
How to Train Your Dragon 2 ได้เงินมาอีก 24 ล้านเหรียญ รายได้รวมเพิ่มเป็น 258.5 ล้านเหรียญ โดยที่เยอรมัน หนังเปิดตัวอันดับที่ 2 6.1 ล้านเหรียญเป็นรอง Transformers และยังมีตลาดเหลืออีกเพียบไม่ว่าจะเป็นที่ สเปน, อิตาลี, จีน และญี่ปุ่น ซึ่งน่าจะทำให้รายได้นอกอเมริกาขยับเป็น 400 ล้านเหรียญได้
ในที่สุด Godzilla ก็เปิดตัวในบ้านเกิด แต่ทำรายได้แค่ 7 ล้านเหรียญ จากการฉาย 3 วันแรก ซึ่งพอๆ กับ Transformers: Dark of the Moon แต่มากกว่า Pacific Rim 2 เท่า รายได้รวมตอนนี้ขาดอีกไม่เท่าไหร่ก็จะถึง 300 ล้านเหรียญนอกอเมริกา หรือ 500 ล้านจากรายได้รวมทั่วโลก
คลิกไลค์ให้กำลังใจได้ที่ www.facebook.com/Sadaos หรือติดตามข่าวสาร, บทความ, บทวิจารณ์ หนัง-เพลง และชมตัวอย่างกับมิวสิค วิดีโอได้เพิ่มเติมที่ www.sadaos.com