สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
คนหล่อ สวย ทำอะไรก็ไม่ผิด อันนี้เรื่องจริงนะ สังคมไทยยังคงมองคนที่หน้าตาอยู่
เช่น พฤติกรรมของดาราบางคนไงคะ บางทีมันแย่มากๆ ชนิดที่ว่ายิ่งกว่าตัวร้ายในละครอีกมั้ง
แต่ด้วยความที่เขาหล่อ/สวย ทำให้ยังมีที่ยืนในสังคมอยู่ ยังมีคนรักลงอยู่
แต่ลองเป็นคนหน้าปรุประ ขี้เหร่ แล้วยังทำตัวแย่ๆดูสิ โดนด่ายันแก่ตายแน่ๆเลย
หน้าตาไม่ได้การันตีนิสัยค่ะ
แต่เรื่องโอกาสทางสังคม คนที่หน้าตาดีย่อมได้รับมากกว่าคนหน้าตาไม่ดีอยู่แล้ว
เช่น พฤติกรรมของดาราบางคนไงคะ บางทีมันแย่มากๆ ชนิดที่ว่ายิ่งกว่าตัวร้ายในละครอีกมั้ง
แต่ด้วยความที่เขาหล่อ/สวย ทำให้ยังมีที่ยืนในสังคมอยู่ ยังมีคนรักลงอยู่
แต่ลองเป็นคนหน้าปรุประ ขี้เหร่ แล้วยังทำตัวแย่ๆดูสิ โดนด่ายันแก่ตายแน่ๆเลย
หน้าตาไม่ได้การันตีนิสัยค่ะ
แต่เรื่องโอกาสทางสังคม คนที่หน้าตาดีย่อมได้รับมากกว่าคนหน้าตาไม่ดีอยู่แล้ว
สมาชิกหมายเลข 1479388 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1939919 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1143489 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 777980 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1282098 ถูกใจ, herehong ถูกใจ, มงกุฎกระดาษ ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 940762 ถูกใจ, OrangeJessamine ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1078409 ถูกใจรวมถึงอีก 17 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
นักจิตวิทยาชี้ ... คนที่มี "หน้าตาดี" ไม่ได้แปลว่าจะต้องมี "นิสัยดีๆ" เสมอไป
เมื่อรับชมละครทั่วไป ผู้จัดมักให้ "คนหน้าตาดี" ได้รับเล่นบทดีๆ เมื่อคนรับสื่อเห็นทุกวันๆ นานเข้าๆ ก็จะเกิดการซึมซับกลายเป็นชุดความคิดที่เชื่อมโยงระหว่าง "รูปลักษณ์หน้าตาที่ดี" เข้าด้วยกันกับ "พฤติกรรมดีๆ" ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ไม่อาจเป็นไปอย่างที่ละคร "แสดง"
ช่วงหลังสงครามเย็น นักวิชาการ American หันมาเน้นศึกษาเรื่อง PREJUDICE & STEREOTYPE (อคติและการเหมารวม) ว่ากระบวนการนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร
ผู้วิจัยคณะหนึ่งดำเนินการทดลองโดยให้คนอ่านพล็อตเรื่องเกี่ยวกับชายที่ช่วยเหลือหญิงชราแปลกหน้า เสร็จแล้วให้จินตนาการและบอกว่าหน้าตาของคนที่ช่วย (พระเอก) ในเรื่องนี้ควรจะมีหน้าตาเป็นยังไง ... ผลการทดลองปรากฏว่าผู้เข้าร่วมทดลองส่วนใหญ่คาดเดาว่าคนที่มีพฤติกรรมตามเรื่องนี้หน้าตาดี หลังการทดลองจึงมีการเฉลยว่า ความจริงแล้วพล็อตที่เขาอ่านเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงๆ โดยคนที่ช่วยนั้นเป็นคนที่รูปลักษณ์แย่มาก จึงเป็นที่น่าแปลกใจว่าคนคิดว่าการช่วยเหลือคนอื่นอาจเป็น "หน้าที่" ของคนหน้าตาดี
นอกจากนี้ยังมีการทดลองที่ให้คนรับชมภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาชี้นำว่าตัวละครหน้าตาดีจะได้รับสิ่งดีๆ และอีกกลุ่มได้รับชมภาพยนตร์คนหน้าตารูปลักษณ์ไม่ดี แล้วกระทำพฤติกรรมดีๆ ได้รับสื่งดีๆ เมื่อชมจบแล้วให้มาประเมินรูปภาพใบหน้าของคนที่มีหน้าตาต่างๆ กัน หลายๆ แบบ โดยระบุว่าหน้าตาแบบไหนคือ "มีความสุข" ฯลฯ ผลปรากฏว่าคนกลุ่มแรกคิดว่าคนหน้าตาดี มักจะได้รับสิ่งดีๆ ตามอย่างในหนัง ในขณะที่กลุ่มที่สองให้คะแนนรูปภาพของคนหน้าตาไม่ดีว่าจะได้รับความสุขและมีพฤติกรรมที่ดีพอๆ กันกับคนหน้าตาดี *
สื่อมีอิทธิพลในการชี้นำให้เกิดบรรทัดฐานความคิดต่อสังคมได้จริง การสร้างสื่อ “สะท้อนสังคม” อาจไม่จำเป็น เนื่องจากเราคงเห็นๆ กันดีอยู่แล้ว ฉะนั้นเราควรใช้สื่อ “นำสังคม” ดีกว่า เพื่อให้เกิดการปรับเปลี่ยนทัศนคติและจูงใจพฤติกรรมใหม่ๆ
ภาพยนตร์ animation เรื่องเชร็ค เป็นตัวอย่างที่ดีในการบอกเป็นนัยๆว่า สุดท้ายแล้วคนหน้าตาไม่ดี หรือมีรูปร่างอัปลักษณ์ ก็สามารถมีชีวิต happy ending ได้นะ ... ขึ้นอยู่ที่การกระทำของตัวเอง ไม่ใช่ให้สื่อมากำหนดว่าหน้าตาแบบเราควรจะทำอะไร หรือจะได้รับอะไร . . .
ก็ตามที่ตัวละครหลักในหนังเรื่องนี้ได้กล่าวไว้
“ผู้คนตัดสินข้า ก่อนที่จะรู้จักข้าจริงๆ เสียอีก” —เชร็ค
ป.ล. บทความนี้ จขกท. ไม่ได้เขียนเองนะจ๊ะ ขออนุญาตคัดลอกจาก เว็บ ตามหลักจิตวิทยาแล้ว มาจ้า
credit [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ขอขอบคุณต้นฉบับบทความและขอนำมาเผยแพร่ให้เป็นประโยชน์ในบอร์ดสุขภาพจิตจ้ะ
เข้ามา edit : เพิ่มเติม Clip Video การทดลองพฤติกรรมมนุษย์ในสังคม เรื่อง "รูปลักษณ์หน้าตา" มีผลต่อการช่วยเหลือ ซะงั้น....