งานวิจัยจิตวิทยาหลายฉบับชี้ให้เห็นว่า "หน้าตาไม่สัมพันธ์กับนิสัย" โดยถือเป็นคนละเรื่องกัน แต่เหตุที่มนุษย์คิด (ไปเอง) ว่ามันเกี่ยวกันก็เพราะสื่อมีส่วนชี้นำ
เมื่อรับชมละครทั่วไป ผู้จัดมักให้ "คนหน้าตาดี" ได้รับเล่นบทดีๆ เมื่อคนรับสื่อเห็นทุกวันๆ นานเข้าๆ ก็จะเกิดการซึมซับกลายเป็นชุดความคิดที่เชื่อมโยงระหว่าง "รูปลักษณ์หน้าตาที่ดี" เข้าด้วยกันกับ "พฤติกรรมดีๆ" ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ไม่อาจเป็นไปอย่างที่ละคร "แสดง"
ช่วงหลังสงครามเย็น นักวิชาการ American หันมาเน้นศึกษาเรื่อง PREJUDICE & STEREOTYPE (อคติและการเหมารวม) ว่ากระบวนการนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร
ผู้วิจัยคณะหนึ่งดำเนินการทดลองโดยให้คนอ่านพล็อตเรื่องเกี่ยวกับชายที่ช่วยเหลือหญิงชราแปลกหน้า เสร็จแล้วให้จินตนาการและบอกว่าหน้าตาของคนที่ช่วย (พระเอก) ในเรื่องนี้ควรจะมีหน้าตาเป็นยังไง ... ผลการทดลองปรากฏว่าผู้เข้าร่วมทดลองส่วนใหญ่คาดเดาว่าคนที่มีพฤติกรรมตามเรื่องนี้หน้าตาดี หลังการทดลองจึงมีการเฉลยว่า ความจริงแล้วพล็อตที่เขาอ่านเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงๆ โดยคนที่ช่วยนั้นเป็นคนที่รูปลักษณ์แย่มาก จึงเป็นที่น่าแปลกใจว่าคนคิดว่าการช่วยเหลือคนอื่นอาจเป็น "หน้าที่" ของคนหน้าตาดี
นอกจากนี้ยังมีการทดลองที่ให้คนรับชมภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาชี้นำว่าตัวละครหน้าตาดีจะได้รับสิ่งดีๆ และอีกกลุ่มได้รับชมภาพยนตร์คนหน้าตารูปลักษณ์ไม่ดี แล้วกระทำพฤติกรรมดีๆ ได้รับสื่งดีๆ เมื่อชมจบแล้วให้มาประเมินรูปภาพใบหน้าของคนที่มีหน้าตาต่างๆ กัน หลายๆ แบบ โดยระบุว่าหน้าตาแบบไหนคือ "มีความสุข" ฯลฯ ผลปรากฏว่าคนกลุ่มแรกคิดว่าคนหน้าตาดี มักจะได้รับสิ่งดีๆ ตามอย่างในหนัง ในขณะที่กลุ่มที่สองให้คะแนนรูปภาพของคนหน้าตาไม่ดีว่าจะได้รับความสุขและมีพฤติกรรมที่ดีพอๆ กันกับคนหน้าตาดี *
สื่อมีอิทธิพลในการชี้นำให้เกิดบรรทัดฐานความคิดต่อสังคมได้จริง การสร้างสื่อ “สะท้อนสังคม” อาจไม่จำเป็น เนื่องจากเราคงเห็นๆ กันดีอยู่แล้ว ฉะนั้นเราควรใช้สื่อ “นำสังคม” ดีกว่า เพื่อให้เกิดการปรับเปลี่ยนทัศนคติและจูงใจพฤติกรรมใหม่ๆ
ภาพยนตร์ animation เรื่องเชร็ค เป็นตัวอย่างที่ดีในการบอกเป็นนัยๆว่า สุดท้ายแล้วคนหน้าตาไม่ดี หรือมีรูปร่างอัปลักษณ์ ก็สามารถมีชีวิต happy ending ได้นะ ... ขึ้นอยู่ที่การกระทำของตัวเอง ไม่ใช่ให้สื่อมากำหนดว่าหน้าตาแบบเราควรจะทำอะไร หรือจะได้รับอะไร . . .
ก็ตามที่ตัวละครหลักในหนังเรื่องนี้ได้กล่าวไว้
“ผู้คนตัดสินข้า ก่อนที่จะรู้จักข้าจริงๆ เสียอีก” —เชร็ค
ป.ล. บทความนี้ จขกท. ไม่ได้เขียนเองนะจ๊ะ ขออนุญาตคัดลอกจาก เว็บ
ตามหลักจิตวิทยาแล้ว มาจ้า
credit
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/220036768134715/photos/a.400527623418961.1073741827.220036768134715/435413389930384/?type=1&theater
ขอขอบคุณต้นฉบับบทความและขอนำมาเผยแพร่ให้เป็นประโยชน์ในบอร์ดสุขภาพจิตจ้ะ
เข้ามา edit : เพิ่มเติม Clip Video การทดลองพฤติกรรมมนุษย์ในสังคม เรื่อง "รูปลักษณ์หน้าตา" มีผลต่อการช่วยเหลือ ซะงั้น....
นักจิตวิทยาชี้ ... คนที่มี "หน้าตาดี" ไม่ได้แปลว่าจะต้องมี "นิสัยดีๆ" เสมอไป
เมื่อรับชมละครทั่วไป ผู้จัดมักให้ "คนหน้าตาดี" ได้รับเล่นบทดีๆ เมื่อคนรับสื่อเห็นทุกวันๆ นานเข้าๆ ก็จะเกิดการซึมซับกลายเป็นชุดความคิดที่เชื่อมโยงระหว่าง "รูปลักษณ์หน้าตาที่ดี" เข้าด้วยกันกับ "พฤติกรรมดีๆ" ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ไม่อาจเป็นไปอย่างที่ละคร "แสดง"
ช่วงหลังสงครามเย็น นักวิชาการ American หันมาเน้นศึกษาเรื่อง PREJUDICE & STEREOTYPE (อคติและการเหมารวม) ว่ากระบวนการนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร
ผู้วิจัยคณะหนึ่งดำเนินการทดลองโดยให้คนอ่านพล็อตเรื่องเกี่ยวกับชายที่ช่วยเหลือหญิงชราแปลกหน้า เสร็จแล้วให้จินตนาการและบอกว่าหน้าตาของคนที่ช่วย (พระเอก) ในเรื่องนี้ควรจะมีหน้าตาเป็นยังไง ... ผลการทดลองปรากฏว่าผู้เข้าร่วมทดลองส่วนใหญ่คาดเดาว่าคนที่มีพฤติกรรมตามเรื่องนี้หน้าตาดี หลังการทดลองจึงมีการเฉลยว่า ความจริงแล้วพล็อตที่เขาอ่านเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงๆ โดยคนที่ช่วยนั้นเป็นคนที่รูปลักษณ์แย่มาก จึงเป็นที่น่าแปลกใจว่าคนคิดว่าการช่วยเหลือคนอื่นอาจเป็น "หน้าที่" ของคนหน้าตาดี
นอกจากนี้ยังมีการทดลองที่ให้คนรับชมภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาชี้นำว่าตัวละครหน้าตาดีจะได้รับสิ่งดีๆ และอีกกลุ่มได้รับชมภาพยนตร์คนหน้าตารูปลักษณ์ไม่ดี แล้วกระทำพฤติกรรมดีๆ ได้รับสื่งดีๆ เมื่อชมจบแล้วให้มาประเมินรูปภาพใบหน้าของคนที่มีหน้าตาต่างๆ กัน หลายๆ แบบ โดยระบุว่าหน้าตาแบบไหนคือ "มีความสุข" ฯลฯ ผลปรากฏว่าคนกลุ่มแรกคิดว่าคนหน้าตาดี มักจะได้รับสิ่งดีๆ ตามอย่างในหนัง ในขณะที่กลุ่มที่สองให้คะแนนรูปภาพของคนหน้าตาไม่ดีว่าจะได้รับความสุขและมีพฤติกรรมที่ดีพอๆ กันกับคนหน้าตาดี *
สื่อมีอิทธิพลในการชี้นำให้เกิดบรรทัดฐานความคิดต่อสังคมได้จริง การสร้างสื่อ “สะท้อนสังคม” อาจไม่จำเป็น เนื่องจากเราคงเห็นๆ กันดีอยู่แล้ว ฉะนั้นเราควรใช้สื่อ “นำสังคม” ดีกว่า เพื่อให้เกิดการปรับเปลี่ยนทัศนคติและจูงใจพฤติกรรมใหม่ๆ
ภาพยนตร์ animation เรื่องเชร็ค เป็นตัวอย่างที่ดีในการบอกเป็นนัยๆว่า สุดท้ายแล้วคนหน้าตาไม่ดี หรือมีรูปร่างอัปลักษณ์ ก็สามารถมีชีวิต happy ending ได้นะ ... ขึ้นอยู่ที่การกระทำของตัวเอง ไม่ใช่ให้สื่อมากำหนดว่าหน้าตาแบบเราควรจะทำอะไร หรือจะได้รับอะไร . . .
ก็ตามที่ตัวละครหลักในหนังเรื่องนี้ได้กล่าวไว้
“ผู้คนตัดสินข้า ก่อนที่จะรู้จักข้าจริงๆ เสียอีก” —เชร็ค
ป.ล. บทความนี้ จขกท. ไม่ได้เขียนเองนะจ๊ะ ขออนุญาตคัดลอกจาก เว็บ ตามหลักจิตวิทยาแล้ว มาจ้า
credit [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ขอขอบคุณต้นฉบับบทความและขอนำมาเผยแพร่ให้เป็นประโยชน์ในบอร์ดสุขภาพจิตจ้ะ
เข้ามา edit : เพิ่มเติม Clip Video การทดลองพฤติกรรมมนุษย์ในสังคม เรื่อง "รูปลักษณ์หน้าตา" มีผลต่อการช่วยเหลือ ซะงั้น....