...อย่านับขั้นสมาธิ พระราชสังวรญาณ (หลวงพ่อพุธ ฐานิโย)...
...สมาธิมีขั้นเดียว คือสมาธิ มันจะก้าวไประดับไหน
ก็คือสมาธิอันเดียว อย่าไปนับขั้นนับตอนอะไร
ขอให้มันเป็นสมาธิ เมื่อจิตเป็นสมาธิแล้วเราละบาปได้หรือเปล่า
ศีล ๕ เราบริสุทธิ์หรือเปล่า.. เอากันที่ตรงนี้เป็นเครื่องตัดสิน
เรื่องของสมาธิใครจะไปถึงขั้นใดตอนใด ถ้าจิตไม่บริสุทธิ์ไม่มีทาง
ในสังคมของพุทธบริษัทที่เราต้องวุ่นวายกันอยู่นี่ เพราะศีลมันไม่เสมอกัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระเจ้าพระสงฆ์นี่ องค์หนึ่งกินนมตอนเย็นได้
แต่อีกองค์หนึ่งกินไม่ได้ พอมาเจอกันเข้าท่านก็เถียงกัน องค์หนึ่งจับ
จ่ายใช้สอยด้วยมือตนเองไม่ได้แต่อีกองค์หนึ่งทำได้ มาเจอกันเข้าท่านก็เถียงกัน
เพราะฉะนั้นไม่ว่าการปกครองบ้านเมืองปกครองศาสนา บ้านเมืองกฎหมายรัฐธรรมนูญนั่นแหละเป็นหลักสำคัญ
ทางศาสนาศีลคือวินัยเป็นหลักสำคัญ กฎหมายก็ดี ศีลคือวินัยก็ดี เป็นหลักที่เราจะปรับความ
ประพฤติให้มีพื้นฐานเท่าเทียมกัน ถ้าเราไปยิ่งหย่อนกว่ากันแล้วก็มีการปรักปรำกัน
แต่ทางกฎหมายปกครองบ้านเมือง ในเมื่อมีคดีเกิดขึ้นก็ต้องมีโจทก์มีจำเลย มีหลักฐานพยาน
แต่ศีลคือวินัยที่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัตินี่ ตัวเองเป็นโจทก์ตัวเอง
ตัวเองเป็นจำเลยตัวเอง ตัวเองเป็นหลักฐานพยานตัวเอง
คือตัวเองต้องพิจารณาตัวเองว่ามีความบริสุทธิ์หรือไม่บริสุทธิ์
เพราะฉะนั้นเราปฏิบัติสมาธิ จิตของเราจะไปถึงสมาธิขั้นใดตอนใดกี่ขั้นกี่ตอนก็ตาม
ผลลัพธ์ก็คือว่าเราละความชั่ว นี่มันอยู่ที่ตรงนี้
ทีนี้หลักการพิสูจน์ว่า เราละความชั่วได้หรือเปล่า
ถ้าสมมติว่าเรามีครอบครัวเราไม่แอบไปหากำไรนอกบ้าน
นั่นแสดงว่าเราบริสุทธิ์แล้ว ดูกันง่ายๆ อย่างนี้ อย่าไปดูให้มันลึกนัก สำคัญที่ปัจจุบัน...
.....................................................
...อาทิ สีลํ ปติฏฺฐา จ กลฺยาณานญฺจ มาตุกํปมุขํ สพฺพธมฺมานํ ตสฺมา สีลํ วิโสธเย
ศีลเป็นที่พึ่งเบื้องต้นเป็นมารดาของกัลยาณธรรมทั้งหลาย
เป็นประมุขของธรรมทั้งปวงเพราะฉะนั้นควรชำระศีลให้บริสุทธิ์...
...อย่านับขั้นสมาธิ พระราชสังวรญาณ (หลวงพ่อพุธ ฐานิโย)...!!!
...อย่านับขั้นสมาธิ พระราชสังวรญาณ (หลวงพ่อพุธ ฐานิโย)...
...สมาธิมีขั้นเดียว คือสมาธิ มันจะก้าวไประดับไหน
ก็คือสมาธิอันเดียว อย่าไปนับขั้นนับตอนอะไร
ขอให้มันเป็นสมาธิ เมื่อจิตเป็นสมาธิแล้วเราละบาปได้หรือเปล่า
ศีล ๕ เราบริสุทธิ์หรือเปล่า.. เอากันที่ตรงนี้เป็นเครื่องตัดสิน
เรื่องของสมาธิใครจะไปถึงขั้นใดตอนใด ถ้าจิตไม่บริสุทธิ์ไม่มีทาง
ในสังคมของพุทธบริษัทที่เราต้องวุ่นวายกันอยู่นี่ เพราะศีลมันไม่เสมอกัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระเจ้าพระสงฆ์นี่ องค์หนึ่งกินนมตอนเย็นได้
แต่อีกองค์หนึ่งกินไม่ได้ พอมาเจอกันเข้าท่านก็เถียงกัน องค์หนึ่งจับ
จ่ายใช้สอยด้วยมือตนเองไม่ได้แต่อีกองค์หนึ่งทำได้ มาเจอกันเข้าท่านก็เถียงกัน
เพราะฉะนั้นไม่ว่าการปกครองบ้านเมืองปกครองศาสนา บ้านเมืองกฎหมายรัฐธรรมนูญนั่นแหละเป็นหลักสำคัญ
ทางศาสนาศีลคือวินัยเป็นหลักสำคัญ กฎหมายก็ดี ศีลคือวินัยก็ดี เป็นหลักที่เราจะปรับความ
ประพฤติให้มีพื้นฐานเท่าเทียมกัน ถ้าเราไปยิ่งหย่อนกว่ากันแล้วก็มีการปรักปรำกัน
แต่ทางกฎหมายปกครองบ้านเมือง ในเมื่อมีคดีเกิดขึ้นก็ต้องมีโจทก์มีจำเลย มีหลักฐานพยาน
แต่ศีลคือวินัยที่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัตินี่ ตัวเองเป็นโจทก์ตัวเอง
ตัวเองเป็นจำเลยตัวเอง ตัวเองเป็นหลักฐานพยานตัวเอง
คือตัวเองต้องพิจารณาตัวเองว่ามีความบริสุทธิ์หรือไม่บริสุทธิ์
เพราะฉะนั้นเราปฏิบัติสมาธิ จิตของเราจะไปถึงสมาธิขั้นใดตอนใดกี่ขั้นกี่ตอนก็ตาม
ผลลัพธ์ก็คือว่าเราละความชั่ว นี่มันอยู่ที่ตรงนี้
ทีนี้หลักการพิสูจน์ว่า เราละความชั่วได้หรือเปล่า
ถ้าสมมติว่าเรามีครอบครัวเราไม่แอบไปหากำไรนอกบ้าน
นั่นแสดงว่าเราบริสุทธิ์แล้ว ดูกันง่ายๆ อย่างนี้ อย่าไปดูให้มันลึกนัก สำคัญที่ปัจจุบัน...
.....................................................
...อาทิ สีลํ ปติฏฺฐา จ กลฺยาณานญฺจ มาตุกํปมุขํ สพฺพธมฺมานํ ตสฺมา สีลํ วิโสธเย
ศีลเป็นที่พึ่งเบื้องต้นเป็นมารดาของกัลยาณธรรมทั้งหลาย
เป็นประมุขของธรรมทั้งปวงเพราะฉะนั้นควรชำระศีลให้บริสุทธิ์...