*** ตามหาคนที่หล่นหายไประหว่างทาง....บนขบวนรถไฟสายหนึ่ง ***

สวัสดีครับ วันนี้ผมมีเรื่องราวอยากจะแชร์กับเพื่อนๆ pantip ทุกคนครับ
วันนี้หลังจากผมเลิกงานผมก็ได้ไปเดินเลือกหาเสื้อผ้าเพื่อซื้อไปฝากคุณพ่อ เพื่อใส่ไปงานรับปริญญาผมที่จะถึงนี้
           ในขณะที่ผมกำลังเดินเลือกซื้อเสื้อผ้าอยู่นั้น  เสียงเรียกชื่อผมดังมาแต่ไกล........
อ้าวเฮ้ยยยยยย ไอ้..........ไม่ทันที่ผมจะหันไปหาต้นเสียงนั้น เจ้าของเสียงพุ่งมาถึงตัวผมอย่างรวดเร็ว
โดยที่ผมไม่ทันมองว่า เจ้าของเสียงนั้นคือใคร ๆๆ ๆๆ เฮ้ยยยย ไงสบายดีไหม ????
ผมยังยืนงงๆกับถ้อยคำที่ทักทาย ผมยืนจ้องหน้าเจ้าของเสียงซักพักถึงร้อง เฮ้ยยย ดังแบบไม่สนใจสภาพแวดล้อมตรงนั้น ฮ๋า ฮ๋า
"สวัสดี จำกูได้ป่ะ กูชื่อ.....ห้อง ป.6/1 แลขที่ 32  เพื่อนสมัยประถมไง ที่โดนครูเอาไม้เรียวตีหัวบ่อยๆเพราะอ่านไม่ออกอ่ะ"

..............รายงานตัวยาวมาก..................
ต่อไปเป็นบทสนทนาระหว่างผมกับเพื่อนคร่าวๆนะครับ
ผม:: เฮ้ย !! เป็นไงมาไงเนี๊ยะ ?
เพื่อน :: ก็นั่งรถมาไง(พร้อมหัวเราะดังๆ)
ผม :: -''-
เพื่อน :: ขอบใจนะเว๊ยเพื่อนที่ยังอุตส่าห์จำกูได้ กูนึกว่าจะไม่คุยกับกูซะแล้ว
ผม:: อ้าว ทำไมว่ะ แล้วมีเหตุผลอะไรที่กูจะไม่คุยกับว่ะ
เพื่อน :: ก็อาทิตย์ที่แล้วกุไปเจอไอ้.....แล้วกูก็ไปทักมันมันน่าจะมากับแฟน ทำเป็นจำกูไม่ได้ ทำเอากูไปไม่เป็นเลย
ผม:: มันลืมจริงๆหรือเปล่าว่ะ ??
เพื่อน :: ไม่หรอก กูรายงานตัวแล้ว แต่มันทำท่างงๆ และขอโทษกู บอกว่าจำไม่ได้  สงสัยเห็นกูแต่งตัวโทรมๆเสื้อผ้าเปื้อนๆมั้ง
ผม :: อ้อ อย่างงี้นี่เอง แล้วนี่ทำงานอะไรว่ะ ??
เพื่อน :: เป็นหัวหน้างานอ่ะ เป็นผู้รับเหมา กูแต่งงานแล้วนะเว๊ยย มีลูกล่ะ 2 คน
ผม:: อื้อหือ เด็ดว่ะ เจ๋งๆ ประสบความสำเร็จในชีวิตแล้วดิ๊!
เพื่อน :: แน่น๊อนนนน ก็รีบๆหาแฟนละรีบๆแต่งนะ และถ้ามีไรให้กูช่วยบอกเลยนะ ขอบใจที่ไม่รังเกียจกู

"ขอบใจที่ไม่รังเกียจกู" ประโยคนี้ทำผมคิดอะไรได้หลายอย่างๆ
ผมกำลังจะเข้ารับพระราชทานปริญญา ป.โท แต่ผมยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
ผมยังคงอยู่ในตำราเรียน  ในขณะที่เพื่อนผมกำลังใช้ชีวิตแบบมีความรับผิดชอบครอบครัว สร้างครอบครัว
ผมยังคงดูแลตัวเอง ดูแลครอบครัวบ้างตามกำลัง แต่เรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็นหรอก ประเด็นมันอยู่ตรงที่ว่า

"ทำไมเพื่อนผมถึงพูดแบบนั้น เดี๋ยวนี้เขาเลือกคบเพื่อนที่วุฒิการศึกษาแล้วหรอ
ใบปริญญาสำคัญไฉน วัดค่าความเป็นคนได้ไหม เราเรียนสูงแต่ก็ใช่ว่าเราประสบความสำเร็จในชีวิต "
ผมเห็นเพื่อนผมหลายคนไม่กล้าทักผม เพียงเพราะเหตุผลที่ว่า "กูคนไม่มีการศึกษา คุยกับพวกไม่รู้เรื่องหรอก"

แต่เชื่อไหมครับ เวลาผมมีปัญหา คนเหล่านี้แหละครับ ที่หลายๆคนตรีตราว่าเป็นบุคคลไร้การศึกษาไม่น่าคบ
คือบุคคลที่ยืนมือเข้ามาช่วยผมตลอด เพื่อนที่เรียนสูงๆเหมือนกันหรอครับ ???
แข่งกันเรียน แข่งกันทำงาน แข่งกันอวดร่ำอวดรวย  ไม่ค่อยพูดคุยถามสาระทุกข์ สุกดิบอะไรกันหรอกครับ
พูดถึงเรื่องการแข่งขัน ผมรู้สึกเพื่อนผมหลายๆคนเริ่มแข่งกันตั้งแต่การสอบเข้ามหาลัยแล้วแหละ
ต้องเข้ามหาลัยดีๆดังๆ พอจบก็ต้องได้งานทำดีๆ

ผมอยู่ในสังคมในการแข่งขันตั้งแต่มัธยมปลาย ในสังคมที่แข่งกันเรียนพิเศษ แข่งกันสอบเข้า แข่งกันเรียน
แข่งแต่งตัว และต้องอยู่ในสังคมที่เพื่อนๆต้องอยู่ในระดับเดียวกัน
"ระดับเดียวกัน" คุณใช้อะไรในการวัด
- ใบปริญญา,ฐานะ,สถาบัน,หน้าตา,การศึกษา  นี่หรือเปล่า??? ที่ใช้ในการวัด

ผมกำลังหลงลืมอะไร....หลายๆอย่าง

ชีวิตคนเราก็ธรรมดาแหละครับจำเป็นต้องดิ้นรน เพื่อความอยู่รอด แม้ว่าการได้มา
จะต้องทำร้ายคนอื่น ...ชีวิตผมตั้งแต่เกิดจนตอนนี้ ก็เหมือนกับขบวนรถไฟ
"กาลเวลาเดินหน้า เหมือนขบวนรถไฟ..
ที่ไม่เคยหยุดแวะสถานีใดๆ และเดินสายรับผู้โดยสาร ทุกวัน ทุกวัน
ชีวิตของผมก็เหมือนกัน เดินไปข้างหน้าแข่งขันกับวันเวลา
ผมรู้จักคนใหม่เรื่อยๆ และขบวนรถไฟของผมก็เหมือนยาวขึ้น ทุกที..

มีหลายคน..ที่ผมรับเขาไว้ในโบกี้...
ผมจะไม่อ้างเวลา จะไม่โทษความยาว แต่จะโทษตัวเองที่ดูแลไม่ดี
ผมทำใครบางคนตกหล่นจากชีวิต...แบบไม่รู้ตัว

นึกๆย้อน..
ตั้งแต่ประถม-มัธยม-อุดมศึกษา-ตลอดจนทำงาน มีหลายคนที่เขาเข้ามา
และผมก็ปล่อยให้เขา ..จากไป..
ผมกำลัง...
ขอเดินกลับหลัง เพื่อทบทวนเรื่องราวใหม่..
ขอเดินไปเก็บหลายชีวิต ที่ผมทำตกหล่นอย่างไม่น่าให้อภัย..
รถไฟจะจะพิเสษได้ยังไง หากทุกวันเราต่อโบกี้ยาวๆ
แต่ข้างในว่างเปล่า ..เพราะเราลืมดูแล..

หากผม ทำใครตกหล่น..
จงมาทวงสิทธินั้น กับผม^^ .
จะเป็นเพื่อนอนุบาล ประถม มัธยม อุดมศึกษา
เพื่อนวัยทำงาน รวมไปถึงเพื่อนๆใน pantip
ผมขอรับทุกคนร่วมขบวนอีกครั้งได้ไหม ?
แล้วรถไฟนี้.. จะดูแลให้ดี เพื่อที่หมาย ..เดียวกัน..

ผมสัญญา..."..


// คือยาวมาก  @_@
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่