"5 ข้อที่เราได้เรียนรู้จากความพ่ายแพ้ต่อจิ้งจอกสีน้ำเงิน"
...บทความนี้เขียนโดย โจ ริมเมอร์ แห่ง ลิเวอร์พูลเอ็คโค่
...เรียบเรียงในภาษาไทยโดย เอฟตั้ม
เมื่อเย็นวานนี้ เอฟเวอร์ตันพลาดท่าเสียที พ่ายแพ้ต่อเลสเตอร์ซิตี้ ทีมน้องใหม่พรีเมียร์ลีก ไป 0 ประตูต่อ 1 ในเกมอุ่นเครื่องนัดพิเศษเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์และขยายฐานแฟนบอลในไทยของเลสเตอร์ซิตี้ แต่กระนั้นก็ดี ในความเสียใจก็ยังมีด้านดีๆให้เราได้รับรู้อยู่บ้าง เราจะไปดูกันถึง 5 ข้อที่เราได้เรียนรู้จากความพ่ายแพ้ในครั้งนี้ ในเกมแห่งคืนที่ร้อนอบอ้าว ณ ใจกลางเมืองหลวงของประเทศ
1. ลุค การ์บัตต์ เล่นได้ดีทีเดียว
...แข้งดาวรุ่งรายนี้ เล่นแบ๊คซ้ายได้หวือหวามากในครึ่งแรก หลายต่อหลายคนบอกว่าทดแทน เลห์ตัน เบนส์ ได้ยอดเยี่ยมทีเดียว จังหวะที่การ์บัตต์และพีนาร์ยืนอยู่ ณ จุดตั้งเตะนอกกรอบเขตโทษ เตรียมจะเปิดฟรีคิก ถ้าใครที่คุ้นเคยกับฟุตบอลต่างประเทศเป็นอย่างดีก็ต้องคิดว่า จังหวะสำคัญๆแบบนี้ ต้องให้พีนาร์ที่เป็นแข้งประสบการณ์สูงลองซัดแน่นอน แต่กลายเป็นว่า เป็นการ์บัตต์ที่วิ่งเข้ามาปั่นบอลข้ามกำแพงกำลังจะเสียบเสาสอง แต่นายด่านทายาทปีเตอร์ ชไมเคิล - แคสเปอร์ ชไมเคิล ปัดบอลออกหลังไปได้อย่างน่าเสียดาย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นหลายคนมองว่า เฮ้ย นี่มันลักษณะการยิงฟรีคิกที่ถอดแบบมาจากเบนส์ชัดๆ
...การจ่ายบอลของการ์บัตต์นั้นถือว่าคมเลยทีเดียว เขายังเล่นเกมรุกด้วยฝีเท้าที่คล่องแคล่วและมันสมองล้วนๆ คอยหาโอกาสวิ่งทำทางตลอดเวลา และยังเล่นบอลชิ่งหนึ่งสองกับพีนาร์ได้อย่างเนียนตาน่าอัศจรรย์ดีแท้ ด้วยวัย (21 ปี )และความสูงเพียงเท่านี้ (178 ซ.ม.) ต้องชมว่าการ์บัตต์เล่นได้แข็งแกร่งน่าประทับใจมาก การ์บัตต์ไม่ได้กลับลงมาเล่นต่อในครึ่งหลังด้วยอาการบาดเจ็บเล็กน้อย แต่เขาสามารถวางใจได้เลยว่ามาร์ตี้ประทับใจในตัวเขาแน่นอน จากฝีเท้าอันโดดเด่นที่แสดงออกมาในครึ่งแรก
...มาร์ติเนซยกย่องว่า ลุค การ์บัตต์ เป็นผู้เล่นที่ทำผลงานในช่วงพรีซีซั่นได้ดีที่สุด จากการเล่นที่เราได้รับชมกันไปเมื่อวานคงยืนยันแล้วว่ามาร์ตี้ไม่ได้พูดเกินจริงแต่อย่างใด ถึงแม้ว่าในตำแหน่งนี้จะมีทั้งเบนส์และโอเบียโด้ขวางทางอยู่ แต่จากฝีเท้าของเขานั้นทำให้เราเชื่อได้ว่า ไม่เกินปีหน้า 'การ์บส์' จะแจ้งเกิดกับทีมชุดใหญ่ได้แน่นอน
2. เอฟเวอร์ตันกำลังต้องการกองหน้ามาเสริมแบบด่วนๆ
...เห็นได้ชัดว่าเราขาดความเฉียบคมในแดนหน้า และจากเกมเมื่อวานนี้ กับสิ่งที่ได้เห็นก็ยิ่งทำให้ประเด็นนั้นนั้นเด่นชัดขึ้นไปอีก แต่อย่าคิดว่านี่เป็นการต่อว่าการเล่นของเนย์สมิธ ไม่ใช่เลย เนย์ซี่ขยันมากกับเกมเมื่อวานนี้ เขาเล่นบอลอย่างชาญฉลาดและวิ่งพล่านตลอดทั้งเกม หรือจะเป็นการโดยความผิดให้พีนาร์หรือแม็คเกียดี้ ก็ไม่ใช่อีก แม็คเกียดี้เล่นได้น่าตื่นตาตื่นใจ ขณะที่พีนาร์ก็เล่นได้เฉียบคม
...ผมกำลังจะบอกว่าเราต้องหากองหน้าคมๆซักคนมาเพิ่มอีก และถ้าเป็นไปได้ ถ้าไม่มีอะไรผิดความคาดหมาย โรเมลู ลูคาคู คือตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด เขามีความเข้าใจและเล่นเข้ากับระบบการเล่นของมาร์ตี้ได้เป็นอย่างดี ในรูปแบบการเล่นเช่นเมื่อคืนนี้ที่มีปีกสองข้างคอยซัพพอร์ตเกมรุก แบบนั้นแหละ ที่จะทำให้เขาระเบิดฟอร์มยิงประตูได้เป็นกอบเป็นกำ
...และนั่นคือสิ่งที่สโมสรต้องเร่งเดินหน้า หากองหน้าดีๆซักคนสองคนเข้ามาเพิ่ม ก่อนที่ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษจะเปิดฉากขึ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
3.สภาพอากาศที่กรุงเทพเป็นอุปสรรคต่อการเล่นอย่างมาก
...หากจะบอกว่าอากาศที่กรุงเทพนั้นอบอ้าว ก็คงจะน้อยไป สำหรับนักเตะต้องบอกว่าร้อนมาก ทั้งร้อนทั้งอบอ้าวสุดจะทน ฉะนั้นจึงมีการอนุญาตให้มี คูลลิ่งดาวน์เบรค ซึ่งเป็นการพักในเวลาแต่ละครึ่งเพื่อคลายความเหนื่อยล้าจากสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวอย่างที่ใช้ในหลายเกมของฟุตบอลโลกที่บราซิลที่ผ่านมา เมื่อถึงช่วงคูลลิ่งดาวเบรคนี้ เห็นได้ชัดว่านักเตะทั้งสองทีมดูเหนื่อยหอบจากการลงเล่นในสภาพอากาศที่ไม่คุ้นเคยเป็นอย่างมาก แต่ก็ถือเป็นเรื่องที่ดีสำหรับผู้เล่นอายุน้อยสำหรับประสบการณ์ในการเล่นท่ามกลางสภาพอากาศและภูมิประเทศที่ไม่คุ้นเคย มาร์ตี้ให้สัมภาษณ์หลังเกมว่า ส่วนตัวเขาพอใจกับการลงเล่นที่เสมือนเป็นการซ้อมใหญ่ในครั้งนี้
4.Evertonians are born, not manufactured !!
กองเชียร์เอฟเวอร์ตัน ต้องเกิดมาเพื่อเชียร์เอฟเวอร์ตัน .. ไม่สามารถสร้าง หรือปั้นขึ้น เพื่อให้เชียร์ตามแฟชั่นได้
...เมื่อคืนนี้บรรยากาศของแฟนๆในสนามค่อนข้างเงียบทีเดียว นอกจากการส่งเสียง "เลสเตอร์! - ซิตี้!" ของเหล่าพนักงานคิงพาวเวอร์ เอ้ย ขออภัย ของเหล่าแฟนบอลเลสเตอร์ (อิอิ) ก็แทบไม่ได้ยินเสียงอื่นใดเลย ยกเว้นจังหวะที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทำเกมขึ้นมาที่หน้ากรอบเขตโทษของคู่แข่ง ถึงจะมีเสียงฮือฮาจากผู้ชมออกมาบ้าง
...ถึงแม้ว่านี่จะเหมือนเป็นถิ่นของเลสเตอร์ ที่เต็มไปด้วยผู้ชมที่สวมเสื้อเลสเตอร์ แต่โค้ช นักเตะ และทีมงานเอฟเวอร์ตันก็คงได้เห็นแล้วว่า ที่นี่มีแฟนบอลชาวเอฟเวอร์โตเนี่ยนคอยหนุนหลังอยู่มากมายเพียงใด แฟนบอลเอฟเวอร์ตันชาวไทย รู้จักสโมสรอย่างถึงแก่นแท้ แสดงความเป็นแฟนบอลตัวจริง พวกเขาร้องเพลงเชียร์ได้หลายเพลง รู้จักนักเตะแทบทุกคน ตั้งแต่ผู้เล่นดังๆยันดาวรุ่ง หรือแม้แต่ทีมงานสต๊าฟของสโมสร หรือแม้แต่ผู้เล่นใหม่ที่เพิ่งเซ็นสัญญาเมื่อสามวันที่แล้วอย่าง โมฮัมเหม็ด เบซิช แฟนๆที่นี่ก็รู้จัก! พวกเขารู้ซึ้งถึงความเป็นมาอันยาวนานของสโมสรอย่างถ่องแท้
...ก่อนเกมจะเริ่มขึ้น มีข่าวว่า คิงพาวเวอร์ที่เป็นสปอนเซอร์รายหลักของเลสเตอร์ซิตี้ ได้ทำการแจกเสื้อทีมและบัตรเข้าชมฟรีให้กับพนักงานทุกคนในบริษัทของตัวเอง เพื่อทำให้บรรยากาศแฟนบอลเลสเตอร์ดูหนาตากว่าความเป็นจริง
...แต่สิ่งเหล่านั้น! การกระทำเช่นนั้น! วิถีทางเช่นนั้น! ไม่จำเป็นเลยสำหรับเอฟเวอร์ตัน! เหล่าแฟนบอลเดอะทอฟฟี่บลูส์ ตามมาเชียร์ทีมรักถึงขอบสนามด้วยใจมุ่งมั่นอย่างแท้จริง
...ในขณะที่แฟนบอลเลสเตอร์แทบจะเรียกได้ว่าสวมเสื้อเหย้าของฤดูกาลใหม่ล่าสุดกันแทบทุกคน แต่เห็นได้ชัดว่า ฝั่งแฟนบอลเอฟเวอร์ตัน แฟนๆต่างสวมเสื้อทีมรูปแบบต่างกันออกไป เสื้อทีมฤดูกาลใหม่แทบไม่มีให้เห็น แต่เสื้อของฤดูกาลก่อนๆนั้นใส่มากันให้พรึ่บ ป้ายแบรนด์ผู้ผลิตเสื้อแข่งในอดีตมากันให้พรึ่บ ทั้งพูม่า เลอค็อค ไนกี้ และอัมโบร หลากรุ่นหลายรูปแบบกันออกไปแสดงถึงความเป็นธรรมชาติ ความผูกพันที่มีต่อสโมสรมาอย่างยาวนาน ที่สำคัญพวกเขายังสามารถร้องเพลงประจำสโมสรได้ ถึงแม้จะไม่เยอะอะไรมากมาย แต่ก็น่าภาคภูมิใจกว่าการตะโกนเรียกชื่อสโมสรอย่างเดียวเป็นไหนๆ (อุ๊บส์)
...ผมมีความสุขมากและรู้สึกดีมาก ที่ได้เห็นภาพอะไรเช่นนี้ แน่นอนว่าเหล่าแฟนบอลเอฟเวอร์ตันชาวไทยนั้นต่างคาดหวังว่าจะได้เห็นทีมรักของพวกเขากลับมาเล่นที่ประเทศไทยอีกครั้งในเร็วๆนี้
5. เกมประเดิมเปิดสนามพรีเมียร์ลีกจะเป็นอะไรที่แตกต่างไปจากนี้
...จริงๆฟุตบอลนัดนี้จะเรียกว่าเป็นเกมซ้อมใหญ่ก่อนหวดกันจริงๆในวันเสาร์ที่ 16 สิงหาคมก็ว่าได้ แต่ในวันนั้นน่าจะได้เห็นรูปเกมที่แตกต่างออกไปจากนี้แน่นอน คุณวางใจได้เลย เพราะนักเตะจะมีความฟิตสมบูรณ์มากกว่านี้ และการจัดตัวผู้เล่นลงสนามก็จะมีการเปลี่ยนแปลงจากนี้พอสมควร
...ทั้งรอสส์ บาร์คลีย์ ที่วันนี้ได้พัก ทิม โฮเวิร์ด , ฟิล จากีลก้า , เควิน มิราลญาส จะกลับมาจากพักร้อนเรียบร้อย รวมทั้ง เซมุส โคลแมน ที่ถึงตอนนั้นก็จะน่าจะหายจากอาการบาดเจ็บแล้ว นอกจากนี้ก็อาจจะมีผู้เล่นหน้าใหม่เพิ่มเข้ามาอีกรายสองรายก่อนฤดูกาลใหม่จะเปิดฉากขึ้น
...ส่วนทางฝั่งเลสเตอร์ ก็อย่าเพิ่งตายใจไป และก็ไม่ควรทำเช่นนั้นอย่างยิ่ง เพราะพวกเขาจะพบกับเกมการแข่งขันที่ต่างออกไปจากนี้ที่คิงพาวเวอร์สเตเดียม ไนเจล เพียร์สัน กุนซือเลสเตอร์รู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี และมาร์ติเนซก็รู้เช่นกัน (จะได้เห็นการล้างแค้นมั้ยน้อ)
...ลืมการซ้อมใหญ่ในครั้งนี้ไปซะ นี่ถือเป็นการฝึกซ้อมที่ดีและมีประโยชน์ ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น ไม่ต้องไปซีเรียส
6. (ผมเติมให้) อย่าเพิ่งตัดสินโรเบลสเพียงเพราะฟอร์มในนัดนี้นัดเดียว
...ข้อนี้เอามาจากทวิตเตอร์ The Toffee Blues - Everton News Feed บอกว่า อย่าเพิ่งไปตัดสินชี้ขาดความสามารถของนายทวารสำรอง โจเอล โรเบลส ด้วยการซ้อมใหญ่นัดนี้เพียงนัดเดียว เขาอาจจะเล่นได้ไม่สมบูรณ์แบบนักในวันนี้ แต่อย่าลืมว่า โจเอล เพิ่งอายุแค่ 24 เท่านั้น ซึ่งถือว่ายังน้อยสำหรับตำแหน่งผู้รักษาประตู และได้ลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่ไปเพียง 8 นัดเท่านั้น หากเขาลงเล่นด้วยจำนวนนัดๆพอกับทีโฮ แล้วยังมีฝีมือเท่าที่เห็นในวันนี้ ถึงค่อยสมควรตำหนิ แต่นี่โจเอลยังสามารถพัฒนาฝีมือได้อีกเยอะ
...ที่สำคัญมาร์ตี้ต้องเห็นแววอะไรบางอย่างในตัวโรเบลสแน่นอน ถึงตัดสินใจไม่ต่อสัญญากับจอมเก๋าอย่าง ยาน มูช่า และหันไปคว้าลูกน้องเก่ารายนี้ที่เคยร่วมงานกันสมัยอยู่วีแกนมาจากแอตเลติโกมาดริดแทน แถมเซ็นสัญญายาวถึง 5 ปี
...นั่นอาจจะเป็นการบอกเป็นนัยๆก็เป็นได้ ว่า มาร์ตี้ได้เตรียมวางแผนในระยะยาวไว้แล้ว หากถึงวันใดวันหนึ่งที่ทีโฮแขวนถุงมือ เขาจะดันโรเบลสขึ้นมารับบทมือหนึ่งของทีมแน่นอน
#ไม่มีอะไรน่าหวาดหวั่นขอให้ทำดีที่สุดก็พอแล้ว
ที่มา :
https://www.facebook.com/Everton.Thailand/photos/a.158498680849447.31718.153850444647604/813334508699191/?type=1&theater
หลังเกมส์ เลสเตอร์ 1-0 เอฟเวอร์ตัน .. 5 ข้อที่เอฟฯ ได้เรียนรู้จากความพ่ายแพ้ต่อจิ้งจอกสีน้ำเงิน โดย โจ ริมเมอร์
...บทความนี้เขียนโดย โจ ริมเมอร์ แห่ง ลิเวอร์พูลเอ็คโค่
...เรียบเรียงในภาษาไทยโดย เอฟตั้ม
เมื่อเย็นวานนี้ เอฟเวอร์ตันพลาดท่าเสียที พ่ายแพ้ต่อเลสเตอร์ซิตี้ ทีมน้องใหม่พรีเมียร์ลีก ไป 0 ประตูต่อ 1 ในเกมอุ่นเครื่องนัดพิเศษเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์และขยายฐานแฟนบอลในไทยของเลสเตอร์ซิตี้ แต่กระนั้นก็ดี ในความเสียใจก็ยังมีด้านดีๆให้เราได้รับรู้อยู่บ้าง เราจะไปดูกันถึง 5 ข้อที่เราได้เรียนรู้จากความพ่ายแพ้ในครั้งนี้ ในเกมแห่งคืนที่ร้อนอบอ้าว ณ ใจกลางเมืองหลวงของประเทศ
1. ลุค การ์บัตต์ เล่นได้ดีทีเดียว
...แข้งดาวรุ่งรายนี้ เล่นแบ๊คซ้ายได้หวือหวามากในครึ่งแรก หลายต่อหลายคนบอกว่าทดแทน เลห์ตัน เบนส์ ได้ยอดเยี่ยมทีเดียว จังหวะที่การ์บัตต์และพีนาร์ยืนอยู่ ณ จุดตั้งเตะนอกกรอบเขตโทษ เตรียมจะเปิดฟรีคิก ถ้าใครที่คุ้นเคยกับฟุตบอลต่างประเทศเป็นอย่างดีก็ต้องคิดว่า จังหวะสำคัญๆแบบนี้ ต้องให้พีนาร์ที่เป็นแข้งประสบการณ์สูงลองซัดแน่นอน แต่กลายเป็นว่า เป็นการ์บัตต์ที่วิ่งเข้ามาปั่นบอลข้ามกำแพงกำลังจะเสียบเสาสอง แต่นายด่านทายาทปีเตอร์ ชไมเคิล - แคสเปอร์ ชไมเคิล ปัดบอลออกหลังไปได้อย่างน่าเสียดาย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นหลายคนมองว่า เฮ้ย นี่มันลักษณะการยิงฟรีคิกที่ถอดแบบมาจากเบนส์ชัดๆ
...การจ่ายบอลของการ์บัตต์นั้นถือว่าคมเลยทีเดียว เขายังเล่นเกมรุกด้วยฝีเท้าที่คล่องแคล่วและมันสมองล้วนๆ คอยหาโอกาสวิ่งทำทางตลอดเวลา และยังเล่นบอลชิ่งหนึ่งสองกับพีนาร์ได้อย่างเนียนตาน่าอัศจรรย์ดีแท้ ด้วยวัย (21 ปี )และความสูงเพียงเท่านี้ (178 ซ.ม.) ต้องชมว่าการ์บัตต์เล่นได้แข็งแกร่งน่าประทับใจมาก การ์บัตต์ไม่ได้กลับลงมาเล่นต่อในครึ่งหลังด้วยอาการบาดเจ็บเล็กน้อย แต่เขาสามารถวางใจได้เลยว่ามาร์ตี้ประทับใจในตัวเขาแน่นอน จากฝีเท้าอันโดดเด่นที่แสดงออกมาในครึ่งแรก
...มาร์ติเนซยกย่องว่า ลุค การ์บัตต์ เป็นผู้เล่นที่ทำผลงานในช่วงพรีซีซั่นได้ดีที่สุด จากการเล่นที่เราได้รับชมกันไปเมื่อวานคงยืนยันแล้วว่ามาร์ตี้ไม่ได้พูดเกินจริงแต่อย่างใด ถึงแม้ว่าในตำแหน่งนี้จะมีทั้งเบนส์และโอเบียโด้ขวางทางอยู่ แต่จากฝีเท้าของเขานั้นทำให้เราเชื่อได้ว่า ไม่เกินปีหน้า 'การ์บส์' จะแจ้งเกิดกับทีมชุดใหญ่ได้แน่นอน
2. เอฟเวอร์ตันกำลังต้องการกองหน้ามาเสริมแบบด่วนๆ
...เห็นได้ชัดว่าเราขาดความเฉียบคมในแดนหน้า และจากเกมเมื่อวานนี้ กับสิ่งที่ได้เห็นก็ยิ่งทำให้ประเด็นนั้นนั้นเด่นชัดขึ้นไปอีก แต่อย่าคิดว่านี่เป็นการต่อว่าการเล่นของเนย์สมิธ ไม่ใช่เลย เนย์ซี่ขยันมากกับเกมเมื่อวานนี้ เขาเล่นบอลอย่างชาญฉลาดและวิ่งพล่านตลอดทั้งเกม หรือจะเป็นการโดยความผิดให้พีนาร์หรือแม็คเกียดี้ ก็ไม่ใช่อีก แม็คเกียดี้เล่นได้น่าตื่นตาตื่นใจ ขณะที่พีนาร์ก็เล่นได้เฉียบคม
...ผมกำลังจะบอกว่าเราต้องหากองหน้าคมๆซักคนมาเพิ่มอีก และถ้าเป็นไปได้ ถ้าไม่มีอะไรผิดความคาดหมาย โรเมลู ลูคาคู คือตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด เขามีความเข้าใจและเล่นเข้ากับระบบการเล่นของมาร์ตี้ได้เป็นอย่างดี ในรูปแบบการเล่นเช่นเมื่อคืนนี้ที่มีปีกสองข้างคอยซัพพอร์ตเกมรุก แบบนั้นแหละ ที่จะทำให้เขาระเบิดฟอร์มยิงประตูได้เป็นกอบเป็นกำ
...และนั่นคือสิ่งที่สโมสรต้องเร่งเดินหน้า หากองหน้าดีๆซักคนสองคนเข้ามาเพิ่ม ก่อนที่ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษจะเปิดฉากขึ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
3.สภาพอากาศที่กรุงเทพเป็นอุปสรรคต่อการเล่นอย่างมาก
...หากจะบอกว่าอากาศที่กรุงเทพนั้นอบอ้าว ก็คงจะน้อยไป สำหรับนักเตะต้องบอกว่าร้อนมาก ทั้งร้อนทั้งอบอ้าวสุดจะทน ฉะนั้นจึงมีการอนุญาตให้มี คูลลิ่งดาวน์เบรค ซึ่งเป็นการพักในเวลาแต่ละครึ่งเพื่อคลายความเหนื่อยล้าจากสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวอย่างที่ใช้ในหลายเกมของฟุตบอลโลกที่บราซิลที่ผ่านมา เมื่อถึงช่วงคูลลิ่งดาวเบรคนี้ เห็นได้ชัดว่านักเตะทั้งสองทีมดูเหนื่อยหอบจากการลงเล่นในสภาพอากาศที่ไม่คุ้นเคยเป็นอย่างมาก แต่ก็ถือเป็นเรื่องที่ดีสำหรับผู้เล่นอายุน้อยสำหรับประสบการณ์ในการเล่นท่ามกลางสภาพอากาศและภูมิประเทศที่ไม่คุ้นเคย มาร์ตี้ให้สัมภาษณ์หลังเกมว่า ส่วนตัวเขาพอใจกับการลงเล่นที่เสมือนเป็นการซ้อมใหญ่ในครั้งนี้
4.Evertonians are born, not manufactured !!
กองเชียร์เอฟเวอร์ตัน ต้องเกิดมาเพื่อเชียร์เอฟเวอร์ตัน .. ไม่สามารถสร้าง หรือปั้นขึ้น เพื่อให้เชียร์ตามแฟชั่นได้
...เมื่อคืนนี้บรรยากาศของแฟนๆในสนามค่อนข้างเงียบทีเดียว นอกจากการส่งเสียง "เลสเตอร์! - ซิตี้!" ของเหล่าพนักงานคิงพาวเวอร์ เอ้ย ขออภัย ของเหล่าแฟนบอลเลสเตอร์ (อิอิ) ก็แทบไม่ได้ยินเสียงอื่นใดเลย ยกเว้นจังหวะที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทำเกมขึ้นมาที่หน้ากรอบเขตโทษของคู่แข่ง ถึงจะมีเสียงฮือฮาจากผู้ชมออกมาบ้าง
...ถึงแม้ว่านี่จะเหมือนเป็นถิ่นของเลสเตอร์ ที่เต็มไปด้วยผู้ชมที่สวมเสื้อเลสเตอร์ แต่โค้ช นักเตะ และทีมงานเอฟเวอร์ตันก็คงได้เห็นแล้วว่า ที่นี่มีแฟนบอลชาวเอฟเวอร์โตเนี่ยนคอยหนุนหลังอยู่มากมายเพียงใด แฟนบอลเอฟเวอร์ตันชาวไทย รู้จักสโมสรอย่างถึงแก่นแท้ แสดงความเป็นแฟนบอลตัวจริง พวกเขาร้องเพลงเชียร์ได้หลายเพลง รู้จักนักเตะแทบทุกคน ตั้งแต่ผู้เล่นดังๆยันดาวรุ่ง หรือแม้แต่ทีมงานสต๊าฟของสโมสร หรือแม้แต่ผู้เล่นใหม่ที่เพิ่งเซ็นสัญญาเมื่อสามวันที่แล้วอย่าง โมฮัมเหม็ด เบซิช แฟนๆที่นี่ก็รู้จัก! พวกเขารู้ซึ้งถึงความเป็นมาอันยาวนานของสโมสรอย่างถ่องแท้
...ก่อนเกมจะเริ่มขึ้น มีข่าวว่า คิงพาวเวอร์ที่เป็นสปอนเซอร์รายหลักของเลสเตอร์ซิตี้ ได้ทำการแจกเสื้อทีมและบัตรเข้าชมฟรีให้กับพนักงานทุกคนในบริษัทของตัวเอง เพื่อทำให้บรรยากาศแฟนบอลเลสเตอร์ดูหนาตากว่าความเป็นจริง
...แต่สิ่งเหล่านั้น! การกระทำเช่นนั้น! วิถีทางเช่นนั้น! ไม่จำเป็นเลยสำหรับเอฟเวอร์ตัน! เหล่าแฟนบอลเดอะทอฟฟี่บลูส์ ตามมาเชียร์ทีมรักถึงขอบสนามด้วยใจมุ่งมั่นอย่างแท้จริง
...ในขณะที่แฟนบอลเลสเตอร์แทบจะเรียกได้ว่าสวมเสื้อเหย้าของฤดูกาลใหม่ล่าสุดกันแทบทุกคน แต่เห็นได้ชัดว่า ฝั่งแฟนบอลเอฟเวอร์ตัน แฟนๆต่างสวมเสื้อทีมรูปแบบต่างกันออกไป เสื้อทีมฤดูกาลใหม่แทบไม่มีให้เห็น แต่เสื้อของฤดูกาลก่อนๆนั้นใส่มากันให้พรึ่บ ป้ายแบรนด์ผู้ผลิตเสื้อแข่งในอดีตมากันให้พรึ่บ ทั้งพูม่า เลอค็อค ไนกี้ และอัมโบร หลากรุ่นหลายรูปแบบกันออกไปแสดงถึงความเป็นธรรมชาติ ความผูกพันที่มีต่อสโมสรมาอย่างยาวนาน ที่สำคัญพวกเขายังสามารถร้องเพลงประจำสโมสรได้ ถึงแม้จะไม่เยอะอะไรมากมาย แต่ก็น่าภาคภูมิใจกว่าการตะโกนเรียกชื่อสโมสรอย่างเดียวเป็นไหนๆ (อุ๊บส์)
...ผมมีความสุขมากและรู้สึกดีมาก ที่ได้เห็นภาพอะไรเช่นนี้ แน่นอนว่าเหล่าแฟนบอลเอฟเวอร์ตันชาวไทยนั้นต่างคาดหวังว่าจะได้เห็นทีมรักของพวกเขากลับมาเล่นที่ประเทศไทยอีกครั้งในเร็วๆนี้
5. เกมประเดิมเปิดสนามพรีเมียร์ลีกจะเป็นอะไรที่แตกต่างไปจากนี้
...จริงๆฟุตบอลนัดนี้จะเรียกว่าเป็นเกมซ้อมใหญ่ก่อนหวดกันจริงๆในวันเสาร์ที่ 16 สิงหาคมก็ว่าได้ แต่ในวันนั้นน่าจะได้เห็นรูปเกมที่แตกต่างออกไปจากนี้แน่นอน คุณวางใจได้เลย เพราะนักเตะจะมีความฟิตสมบูรณ์มากกว่านี้ และการจัดตัวผู้เล่นลงสนามก็จะมีการเปลี่ยนแปลงจากนี้พอสมควร
...ทั้งรอสส์ บาร์คลีย์ ที่วันนี้ได้พัก ทิม โฮเวิร์ด , ฟิล จากีลก้า , เควิน มิราลญาส จะกลับมาจากพักร้อนเรียบร้อย รวมทั้ง เซมุส โคลแมน ที่ถึงตอนนั้นก็จะน่าจะหายจากอาการบาดเจ็บแล้ว นอกจากนี้ก็อาจจะมีผู้เล่นหน้าใหม่เพิ่มเข้ามาอีกรายสองรายก่อนฤดูกาลใหม่จะเปิดฉากขึ้น
...ส่วนทางฝั่งเลสเตอร์ ก็อย่าเพิ่งตายใจไป และก็ไม่ควรทำเช่นนั้นอย่างยิ่ง เพราะพวกเขาจะพบกับเกมการแข่งขันที่ต่างออกไปจากนี้ที่คิงพาวเวอร์สเตเดียม ไนเจล เพียร์สัน กุนซือเลสเตอร์รู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี และมาร์ติเนซก็รู้เช่นกัน (จะได้เห็นการล้างแค้นมั้ยน้อ)
...ลืมการซ้อมใหญ่ในครั้งนี้ไปซะ นี่ถือเป็นการฝึกซ้อมที่ดีและมีประโยชน์ ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น ไม่ต้องไปซีเรียส
6. (ผมเติมให้) อย่าเพิ่งตัดสินโรเบลสเพียงเพราะฟอร์มในนัดนี้นัดเดียว
...ข้อนี้เอามาจากทวิตเตอร์ The Toffee Blues - Everton News Feed บอกว่า อย่าเพิ่งไปตัดสินชี้ขาดความสามารถของนายทวารสำรอง โจเอล โรเบลส ด้วยการซ้อมใหญ่นัดนี้เพียงนัดเดียว เขาอาจจะเล่นได้ไม่สมบูรณ์แบบนักในวันนี้ แต่อย่าลืมว่า โจเอล เพิ่งอายุแค่ 24 เท่านั้น ซึ่งถือว่ายังน้อยสำหรับตำแหน่งผู้รักษาประตู และได้ลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่ไปเพียง 8 นัดเท่านั้น หากเขาลงเล่นด้วยจำนวนนัดๆพอกับทีโฮ แล้วยังมีฝีมือเท่าที่เห็นในวันนี้ ถึงค่อยสมควรตำหนิ แต่นี่โจเอลยังสามารถพัฒนาฝีมือได้อีกเยอะ
...ที่สำคัญมาร์ตี้ต้องเห็นแววอะไรบางอย่างในตัวโรเบลสแน่นอน ถึงตัดสินใจไม่ต่อสัญญากับจอมเก๋าอย่าง ยาน มูช่า และหันไปคว้าลูกน้องเก่ารายนี้ที่เคยร่วมงานกันสมัยอยู่วีแกนมาจากแอตเลติโกมาดริดแทน แถมเซ็นสัญญายาวถึง 5 ปี
...นั่นอาจจะเป็นการบอกเป็นนัยๆก็เป็นได้ ว่า มาร์ตี้ได้เตรียมวางแผนในระยะยาวไว้แล้ว หากถึงวันใดวันหนึ่งที่ทีโฮแขวนถุงมือ เขาจะดันโรเบลสขึ้นมารับบทมือหนึ่งของทีมแน่นอน
#ไม่มีอะไรน่าหวาดหวั่นขอให้ทำดีที่สุดก็พอแล้ว
ที่มา : https://www.facebook.com/Everton.Thailand/photos/a.158498680849447.31718.153850444647604/813334508699191/?type=1&theater