ธรรมอันวิจิตร....อานิสงส์ของการทำสมาธิ

ถึงเพื่อนผู้ปฏิบัติธรรมทุกท่าน

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

บทความนี้ พิมพ์คัดมาจาก หนังสือฐิตวิริยาจารย์เทศนา
เรื่องอานิสงส์ของการทำสมาธิ (ถอดเนื้อความจากเทปบันทึกเสียง หลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย)



".....เราพูดกันแค่สามอันดับนี่ก็เหลือประมาณแล้ว สำหรับฆราวาส ดีที่สุดแล้ว อันนี้นะ ส่วนอานิสงส์อันนี้ แต่สำหรับ....ที่ท่านสมมุติเอาไว้เป็นดังนี้


ขั้นต้น ท่านเรียกว่า ขณิกะ ขณิกะตามตำราเราไม่พูด เราไม่เอา เอาขณิกะจริงๆมาพูด ถ้าขณิกะตามตำรานั้น ก็เหมือนคลื่นกระทบฝั่ง วูบวาบ ๆ ๆ ไม่จริง ขณิกะที่ถูกต้องนั้น ไม่มีคำว่าวูบวาบ ๆ นิ่งเงียบลงไป แต่เสียงกระทบยังมีอยู่ ได้ยินเสียงอยู่ไม่รำคาญ...........เอาเฉพาะตื้น ๆ ถ้าทำได้นั้นโอ้โห ประเสริฐเหลือประมาณ อันดับแรกเราจะมองเห็นกิริยาอาการสงบของจิตจะมีลักษณะวูบลงไปอันนี้หมายถึง หลักสมถะหรือภวังคตาจิต วูบลงไปอันดับแรก พอลงไปแล้วเขาจะได้ยินเสียงอยู่ เสียงเนี่ยได้ยินในหูแต่ไม่รำคาญ ไม่มีการรำคาญในเสียง ไม่รำคาญ อารมณ์กลมกล่อมสบาย อิ่มอกอิ่มใจ มันอิ่มมันสุขเหมือนได้ยาทิพย์ชโลมไปหมดทั้งตัว ซาบซ่านไปหมด

โอ้โฮย เหลือประมาณจริง ๆ นั่งชั่วโมงหนึ่งไม่รู้เรื่อง สองชั่วโมงไม่รู้เรื่องบางที ถึงสามสี่ชั่วโมง ไม่รู้จักเหนื่อยเพราะมันเสมือนหนึ่งยาทิพย์ชโลมหมดทั้งตัว มันดับเย็นมันหนักสบาย แต่ว่ามันไม่พ้นเสียง มีเสียงอะไรดัง ๆ โป้งเข้าไปเนี่ย เขาจะวูบออกมา แต่ประคองอยู่ค่อย ๆ วูบเข้าไปอีก เขามักจะเป็นอย่างนั้น แต่จุดเน้นนี้มีอานิสงส์ยิ่งใหญ่คือ ความเมตตาอารีสัตว์ ความสงสารสัตว์ ความเป็นห่วงสัตว์และบุคคล และตัวของเราเอง รู้จักอกเขารู้จักอกเรา อันนี้เป็นอานิสงส์

แต่ถ้าเสียงดัง ๆ โป้ง เขาจะวูบขึ้นมา นั่นน่ะยังวูบได้อยู่ คนก็เลยมาเขียนตำรามาในทางที่ไม่ถูกต้อง วูบวาบ ๆ คือ ขณิกะ


อันดับที่สองท่านเรียกว่า อุปจาระ อุปจาระนี้ว่าตามตำราเรียกว่าเฉียดลง ๆ มันหมายความว่ายังไง แต่ท่านที่ถึงอุปจาระนี้ มันไม่เฉียดลง คือเขาดิ่งลงไปสู่ฐานลึก เสียงไม่มีเลย เงียบ เสียงไม่มีรบกวน.......พอวูบเข้าไปถึงจุดนี้นะโอ้โห พ่อพระคุณ หาประมาณมิได้ มีความสุขเหลือเกิน มีความสบายเหลือเกิน เข้าไปอยู่จุดนี้นั้นสามารถทำให้เรามองจิตของเราได้ชัดขึ้น สามารถระลึกอะไรได้ดีขึ้น แถมไม่พอทำให้เราระลึกชาติหนหลังได้ซะด้วย


อันดับที่สามท่านเรียกว่า อัปนาสมาธิ ตามหลักทางภาคทฤษฎีหรือปริยัตินั้นท่านบอกว่า เงียบนิ่ง ไม่มีคำว่าเงียบนิ่ง เขาไม่เงียบ เขาไม่นิ่ง แต่ว่าเสียงภายนอกไม่กระเทือน และอารมณ์ภายนอกเข้าไปซาว เข้าไปรับรู้อารมณ์ของจิตได้อย่างชัดเจน สามารถคัดเลือกอารมณ์ได้ดี ห้ามจิตได้ดีพอสมควร........ สามารถอ่านและไล่ตามอันดับของจิตได้ดีพอสมควร อะไรควรไม่ควรนั้นเขาจะเก่ง การตัดบทนี่เข้าใจ เพราะมันต่ออารมณ์ฌาน พอเข้าไปถึงจุดนี้นั้น สามารถมองเห็นหมู่คณะที่ร่วมกันอยู่เกี่ยวข้องกันมายังไงบ้างเนี่ย ชัดเจนขึ้นมา


ส่วนอานิสงส์ที่สูงลึกขึ้นไปกว่านั้นอีก เราเลือกภพได้ตามปรารถนา เพราะก่อนเราตายนี้จะมีทุกขเวทนาท่วมท้น และจิตจะต้องระส่ำระสายสำหรับผู้ที่ไม่มีสัมมาทิฐิ จัดอารมณ์อะไรไม่ถูก วุ่นวาย อันนี้มันเป็นหลัก


ต่อจากนั้นไปสุดแท้แต่อารมณ์ อารมณ์อะไรเกิดขึ้นมาก็ก่ออารมณ์นั้นเป็นหลัก ถ้าเกิดอารมณ์ไม่ดีขึ้นมาเราก็เฟ้นไม่เป็น ถ้าไม่ได้ทำสมาธิ ก็ย่อมสามารถนำเราไปสู่ทุกคติภพคือนรกได้ ถ้าเกิดตอนนั้นระลึกได้ถึงความดี จิตเกาะอยู่ในความดี เช่น ให้ทาน รักษาศีล เจริญเมตตาภาวนาก็ตาม ในเมื่อเกาะอยู่เช่นนี้ สุขคติภพคือที่ไป อันนี้ไม่แน่นอน......
-----------------------------------------------------------

หากต้องการอ่านเทศนาเรื่องนี้ให้สมบูรณ์ กรุณาคลิกใน spoil ด้านล่างนี้ครับ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ขอน้อมใจเผยแพร่เป็นธรรมทาน แด่เพื่อนผู้ปฏิบัติธรรมทุกท่าน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่