เท่าที่ดูท่าทีของ คสช คงต้องมีการปฎิรูป การเมืองแน่นอน
แต่ก่อนที่จะ มีการเมืองระดับชาติ การเมืองระดับท้องถี่น
น่าจะเป็น โจทย์ ที่จะทำการทดลอง ให้ มีการ เลือกตั้ง ที่
ได้รับการ ปฎิรูปก่อน การเมืองระดับชาติ
ที่ผ่านมา เรามีนักการเมืองท้องถี่น หรือระดับชาติ ที่ อาศัย
เงินถุง เงินถัง เป็นผู้รับเหมา หรือแม้แต่ ข้าราชการ ระดับ อดีต ผู้ว่า ฯ
เข้ามาสมัคร และได้รับการเลือกตั้งกัน อย่างคับตั่ง
ที่ผ่านมา จาก ที่ผมเฝ้ามอง การเลือกตั้งท้องถี่น จะมีการใช้เงิน กันอย่างมากมาย
มีการปูพื้นฐานในการ เข้ามาเป็น นายกท้องถี่น ตั้งแต่ พาราษฎร์ไปเที่ยว
แจก นี่ ที่เห็นในจังหวัดเดียว ประชาชนที่ไม่ได้ติดตามการ เข้ามาเป็นผู้บริหาร
ท้องถี่นเหล่านั้น เพราะในท้องถี่น มีงบ ที่จัดลงไปให้ มากถึงขนาดว่า อบต
เล็ก ๆ นี่ ว่าไปที่ 18 ไปถึง กว่า 30 ล้านบาท อบจ บางที่ กว่า 600 ล้านบาท
เทศบาล กว่า 600 ล้านบาท
งบประมาณเหล่านี้ ถ้าได้คึน ที่เข้ามาบริหาร ที่ดี จะสามารถสร้าง ความสุข ความเจริญให้กับ
ท้องถี่น เป็นอย่างมาก แต่ทุกปี ก็ยังมีข่าว น้ำท่วม ทางขาด หรือ แห้งแล้ง จนข้าวตาย
ในเทศบาล ก็ สร้างแล้วรื้อ รื้อ แล้วสร้าง น้ำท่วมถนน ก็รื้อถนน สร้างใหม่ แต่ไม่ ไปสำรวจ
สาเหตุว่า มันท่วมเพราะเหตุใด
ผมไม่สงสัย เลยว่า ทำไม นักวิชาการบางคน ถึง ได้ร้องอยู่เสมอ ว่า การเลือกตั้ง มีการซื้อเสียงกัน
หลายคน เถียงว่า ชาวบ้านเขา รู้จักประชาธิปไตย รู้จักเลือกคน รู้จักว่าใครให้ความสุข กับเขา
ผมไม่เถียงในแง่นั้น แต่ลองมาดูท้องถี่น ซีครับ เอากันแบบจริง ๆ ขนาด มาฟังหาเสียง ยังต้องจ้างกันมาหัวละ
200 บาท ถึงตอนลงคะแนน มันจะเป็นอย่างไร นี่เป็นสาเหตุให้ นักวิชาการ บางคนกล่าวหา มา
ซึ่งหลายคนใน ฝ่าย ที่ปกป้อง ก็ พยายามเถียง ผมฟังแล้ว ก็ได้แต่สมเพช คราวที่แล้วที่มีการบอยคอต จ่ายอีกครับ
ผมไม่ทราบว่าเป็นการเพาะเชื้อ ด้วยหรือเปล่า
ที่ีบอกว่า การเลือกตั้งท้องถี่นน่าจะเป็นการสาธิตวิธีการ เลือกตั้ง ที่ สะอาด ปราศจากการซื้อเสียง น่าจะเป็น
การพัฒนาระบบพรรคการเมือง ตามแบบของประเทศ ที่เขามีการเลือกตั้งที่ สมบูรณ์ ข้อกำหนดหยุมหยิม
ตัดออกไป มีศาลเลือกตั้งโดยเฉพาะ ที่ราษฎร์ สามารถไปร้องเรียนได้ มีบทลงโทษ ที่รุนแรง ถึงขนาด ตัดสิทธิ ทางการเมืองการเลือกตั้ง
ตลอดไป
พรรคการเมืองคัดคนที่มีคุณภาพ ไม่ใช่ผู้รับเหมา หรือนายทุนพรรค เข้ามา หัวหน้าพรรคการเมือง ต้องผ่านการเลือกตั้งในพรรคเข้ามา
จากสมาชิกพรรค ทั่วประเทศ หรือ ผู้แทนจาก ภาคต่าง ๆของประเทศ ที่ได้รับการเลือกจากราษฎร์ เข้ามา
องค์กร ที่จัดการเลือกตั้ง และ องค์กรตรวจสอบ ต้องมาจากประชาชนทั่วประเทศ ที่คัดเลือกกันเข้ามา มิใช่ ให้ บางพวกบางเหล่า
คัดกันเข้ามาเอง
ที่สำคัญ อย่างยี่ง การ ปราศจากคอรัปชั่น ที่มันกัดกร่อนประเทศของเรา จาก ทั้ง ระบบพ่อค้า ข้าราชการ และนักการเมือง
แม้แต่ ในส่วนของราษฎร์เอง ก็ตามเช่น โครงการ SML ตามชุมชน ก็มีอีก อย่าว่า แต่ข้าราชการเลย
นามธรรมของคำว่าความดี มันอยู่ที่จิตสำนึก ของคนในชาติ ที่จะต้องสร้างให้เขามีความสำนึกในการเป็น รู้จักสิทธิของตนเอง
รู้จักหน้าที่ ก็ต้องว่า กันตั้งแต่เยาชนขึ้นมาเลยทีเดียว ไม่ให้วัฒนธรรม ก้มหน้าเข้ามา แทนที่ วัฒนธรรมดั่งเดิม ของเรา
เห็นไหมครับ ว่ามันยากเพียงใด กับ สังคมปัจจุบัน
หลังการปฎิรูป
แต่ก่อนที่จะ มีการเมืองระดับชาติ การเมืองระดับท้องถี่น
น่าจะเป็น โจทย์ ที่จะทำการทดลอง ให้ มีการ เลือกตั้ง ที่
ได้รับการ ปฎิรูปก่อน การเมืองระดับชาติ
ที่ผ่านมา เรามีนักการเมืองท้องถี่น หรือระดับชาติ ที่ อาศัย
เงินถุง เงินถัง เป็นผู้รับเหมา หรือแม้แต่ ข้าราชการ ระดับ อดีต ผู้ว่า ฯ
เข้ามาสมัคร และได้รับการเลือกตั้งกัน อย่างคับตั่ง
ที่ผ่านมา จาก ที่ผมเฝ้ามอง การเลือกตั้งท้องถี่น จะมีการใช้เงิน กันอย่างมากมาย
มีการปูพื้นฐานในการ เข้ามาเป็น นายกท้องถี่น ตั้งแต่ พาราษฎร์ไปเที่ยว
แจก นี่ ที่เห็นในจังหวัดเดียว ประชาชนที่ไม่ได้ติดตามการ เข้ามาเป็นผู้บริหาร
ท้องถี่นเหล่านั้น เพราะในท้องถี่น มีงบ ที่จัดลงไปให้ มากถึงขนาดว่า อบต
เล็ก ๆ นี่ ว่าไปที่ 18 ไปถึง กว่า 30 ล้านบาท อบจ บางที่ กว่า 600 ล้านบาท
เทศบาล กว่า 600 ล้านบาท
งบประมาณเหล่านี้ ถ้าได้คึน ที่เข้ามาบริหาร ที่ดี จะสามารถสร้าง ความสุข ความเจริญให้กับ
ท้องถี่น เป็นอย่างมาก แต่ทุกปี ก็ยังมีข่าว น้ำท่วม ทางขาด หรือ แห้งแล้ง จนข้าวตาย
ในเทศบาล ก็ สร้างแล้วรื้อ รื้อ แล้วสร้าง น้ำท่วมถนน ก็รื้อถนน สร้างใหม่ แต่ไม่ ไปสำรวจ
สาเหตุว่า มันท่วมเพราะเหตุใด
ผมไม่สงสัย เลยว่า ทำไม นักวิชาการบางคน ถึง ได้ร้องอยู่เสมอ ว่า การเลือกตั้ง มีการซื้อเสียงกัน
หลายคน เถียงว่า ชาวบ้านเขา รู้จักประชาธิปไตย รู้จักเลือกคน รู้จักว่าใครให้ความสุข กับเขา
ผมไม่เถียงในแง่นั้น แต่ลองมาดูท้องถี่น ซีครับ เอากันแบบจริง ๆ ขนาด มาฟังหาเสียง ยังต้องจ้างกันมาหัวละ
200 บาท ถึงตอนลงคะแนน มันจะเป็นอย่างไร นี่เป็นสาเหตุให้ นักวิชาการ บางคนกล่าวหา มา
ซึ่งหลายคนใน ฝ่าย ที่ปกป้อง ก็ พยายามเถียง ผมฟังแล้ว ก็ได้แต่สมเพช คราวที่แล้วที่มีการบอยคอต จ่ายอีกครับ
ผมไม่ทราบว่าเป็นการเพาะเชื้อ ด้วยหรือเปล่า
ที่ีบอกว่า การเลือกตั้งท้องถี่นน่าจะเป็นการสาธิตวิธีการ เลือกตั้ง ที่ สะอาด ปราศจากการซื้อเสียง น่าจะเป็น
การพัฒนาระบบพรรคการเมือง ตามแบบของประเทศ ที่เขามีการเลือกตั้งที่ สมบูรณ์ ข้อกำหนดหยุมหยิม
ตัดออกไป มีศาลเลือกตั้งโดยเฉพาะ ที่ราษฎร์ สามารถไปร้องเรียนได้ มีบทลงโทษ ที่รุนแรง ถึงขนาด ตัดสิทธิ ทางการเมืองการเลือกตั้ง
ตลอดไป
พรรคการเมืองคัดคนที่มีคุณภาพ ไม่ใช่ผู้รับเหมา หรือนายทุนพรรค เข้ามา หัวหน้าพรรคการเมือง ต้องผ่านการเลือกตั้งในพรรคเข้ามา
จากสมาชิกพรรค ทั่วประเทศ หรือ ผู้แทนจาก ภาคต่าง ๆของประเทศ ที่ได้รับการเลือกจากราษฎร์ เข้ามา
องค์กร ที่จัดการเลือกตั้ง และ องค์กรตรวจสอบ ต้องมาจากประชาชนทั่วประเทศ ที่คัดเลือกกันเข้ามา มิใช่ ให้ บางพวกบางเหล่า
คัดกันเข้ามาเอง
ที่สำคัญ อย่างยี่ง การ ปราศจากคอรัปชั่น ที่มันกัดกร่อนประเทศของเรา จาก ทั้ง ระบบพ่อค้า ข้าราชการ และนักการเมือง
แม้แต่ ในส่วนของราษฎร์เอง ก็ตามเช่น โครงการ SML ตามชุมชน ก็มีอีก อย่าว่า แต่ข้าราชการเลย
นามธรรมของคำว่าความดี มันอยู่ที่จิตสำนึก ของคนในชาติ ที่จะต้องสร้างให้เขามีความสำนึกในการเป็น รู้จักสิทธิของตนเอง
รู้จักหน้าที่ ก็ต้องว่า กันตั้งแต่เยาชนขึ้นมาเลยทีเดียว ไม่ให้วัฒนธรรม ก้มหน้าเข้ามา แทนที่ วัฒนธรรมดั่งเดิม ของเรา
เห็นไหมครับ ว่ามันยากเพียงใด กับ สังคมปัจจุบัน