ใครรับผิดชอบ ปลัดศึกษาต้องออกอีกป่าว
ข่มขืนคาบ้านพักครู
นักเรียนหญิงรุ่นน้อง ม.1 บนบ้านพักครูในโรงเรียนที่ชัยนาท ระหว่างช่วงพักกลางวัน ก่อนข่มขู่เหยื่อไม่ให้แพร่ง พราย แต่เพื่อนร่วมโรงเรียนรู้ข่าวแซวกันกระหึ่ม จนเข้าหูครูผู้ปกครองเรื่องเลยแดงขึ้นมา ญาติเหยื่อให้ทหารช่วยพาเข้าแจ้งความตามรวบได้ยกแก๊ง เตรียมให้สหวิชาชีพสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง เผยเหยื่อเป็นเด็กหญิงกตัญญูเล่นดนตรีไทยหาเงินรักษาแม่ที่ถูกรถชน จนต้องหยุดเรียนเป็นประจำ
เมื่อวันที่ 26 ก.ค. พ.ต.อ.จักรกฤษณ์ งามสมโสตร์ ผกก.สภ.หันคา จ.ชัยนาท เผยว่า เมื่อวันที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่ทหารพา ผู้ปกครอง พร้อมนักเรียนหญิงวัย 13 ปี โรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.วัฒนา เกิดศิริ พงส. ว่านักเรียนหญิงคนดังกล่าวถูกนักเรียนชายรุ่นพี่โรงเรียนเดียวกันรวม 4 คน เป็นนักเรียนชั้น ม.3 อายุ 15 ปี 1 คน อายุ 14 ปี 3 คน ก่อเหตุรุมขืนใจภายในบ้านพักอาจารย์ภายในโรงเรียนดังกล่าว ขณะเหยื่อกำลังจะเดินไปเข้าห้องน้ำที่อาคารเรียน ระหว่างรอยต่อช่วงคาบเรียน เมื่อวันที่ 21 ก.ค.ที่ผ่านมา
พ.ต.อ.จักรกฤษณ์กล่าวว่า หลังรับแจ้งเหตุ พล.ต.ต.ภวัต พรหมมะกฤต ผบก.ภ.จว.ชัยนาท สั่งการให้ดำเนินการจับกุมผู้กระทำผิดและดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดแล้ว ซึ่งได้ควบคุมตัวเยาวชนที่กระทำผิด แจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุ 15 ปี และนำตัวไปฝากขังที่ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดชัยนาท โดยทั้งหมดได้ประกันตัวแล้วตามกฎหมายเยาวชน ก่อนที่จะดำเนินการนำตัวสอบปากคำผู้ต้องหาและเชิญผู้เสียหายร่วมกับสหวิชาชีพ ได้แก่ ตำรวจ อัยการ นักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์ เพื่อนัดสอบปากคำต่อไป
ด้านผู้อำนวยการโรงเรียนที่เกิดเหตุเผยว่า ไม่คิดว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้น เพราะโรงเรียนอบรมเรื่องทางเพศอยู่เสมอ ซึ่งไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นมาก่อน ยืนยันว่าไม่ได้ต้องการที่จะปิดข่าวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด ภายหลังจากทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากที่มีนักเรียนพูดถึงเหตุดังกล่าวแล้ว รีบให้อาจารย์ฝ่ายปกครองประสานอาจารย์ประจำชั้นติดต่อให้ผู้ปกครองเด็กนักเรียนผู้เสียหายและผู้ก่อเหตุมาพบ เพื่อสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นทันที พร้อมทั้งรายงานเรื่องให้สำนักงานเขตการศึกษารับทราบ และทำหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรภายในวันที่ 28 ก.ค.
ผู้อำนวยการโรงเรียนยังกล่าวอีกว่า ส่วนการคาดโทษนักเรียนที่ก่อเหตุนั้นจะรอให้การดำเนินคดีของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสิ้นสุดก่อน นอกจากนั้นยังประชุมคณะอาจารย์เพื่อแก้ไขปัญหาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว เพราะช่วงระหว่างที่ก่อเหตุเป็นช่วงเวลาที่ยังเรียนหนังสืออยู่ รวมทั้งประวัตินักเรียนชายที่ก่อเหตุเคยมีประวัติก่อเหตุมีเรื่องทะเลาะวิวาทมาก่อน และมักโดดเรียนอยู่เป็นประจำ รวมถึงเด็กนักเรียนผู้เสียหายเองก็ขาดเรียนอยู่บ่อยครั้ง แต่ผู้เสียหายมีความสามารถด้านดนตรี จึงยังคงให้เรียนต่อภายหลังจากที่เคยขอหยุดพักการเรียนมาแล้ว
ส่วนอาจารย์หัวหน้ากลุ่มบริหารทั่วไปและงานปกครองกล่าวว่า จากการสอบถามเด็กนักเรียนที่ก่อเหตุภายหลังจากทราบเรื่องเมื่อวันที่ 24 ก.ค. ทั้งหมดยอมรับว่าก่อเหตุดังกล่าวจริง โดยกลุ่มนักเรียนดังกล่าวอยู่ชมรมดุริยางค์ของโรงเรียน มักจะไปนั่งเล่นอยู่บริเวณหน้าบ้านพักของอาจารย์ที่สอนดนตรีดังกล่าว ระหว่างเกิดเหตุอาจารย์เจ้าของบ้านพักได้ไปรับประทานอาหารกลางวัน โดยเด็กนักเรียนก่อเหตุโดดเรียนมานั่งเล่นกันอยู่ กระทั่งเวลาประมาณ 12.40 น. ระหว่างที่ผู้เสียหายกำลังจะเดินไปเข้าห้องน้ำในอาคารโรงเรียนข้างสนามบาสเกตบอล ช่วงเรียนวิชาพลศึกษา กลุ่มนักเรียนก่อเหตุได้ลงมือเข้าฉุดกระชากเด็กนักเรียนผู้เสียหายและลากเข้าไปข่มขืนในบ้านพักที่เกิดเหตุทีละคน โดยลงมือก่อเหตุ 3 คน ส่วนคนที่เหลือคอยดูต้นทาง
วันเดียวกัน ญาติของนักเรียนหญิงผู้เสียหายเผยว่า ช่วงหลังเกิดเหตุใหม่ๆ หลานสาวไม่กล้ามาบอก เพราะถูกกลุ่มผู้ก่อเหตุข่มขู่ว่าจะทำร้าย กระทั่งอาจารย์ประจำชั้นซึ่งทราบเรื่องดังกล่าวโทรศัพท์มาสอบถามรายละเอียดหลานสาวจึงยอมเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น โดยเล่าว่าเด็กนักเรียนชายที่ก่อเหตุเข้ามาล็อกคอ แล้วลากตัวไปที่บ้านพักอาจารย์ภายในห้องน้ำ โดยใช้มือปิดปากและใช้มือชกเข้าที่บริเวณหน้าท้องก่อนลงมือข่มขืน ซึ่งหลังทราบเรื่องทั้งหมดผู้ปกครองนักเรียนชายที่ก่อเหตุบอกจะชดใช้ค่าเสียหายเฉลี่ยคนละ 5,000 บาท พอเรื่องแจ้งความถึงตำรวจได้ขอให้ถอนแจ้งความและจะให้คนละ 10,000 บาท
"แต่ฝ่ายฉันไม่ยอมความ ขอให้เรื่องตัดสินตามกฎหมายและขอให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการถึงที่สุด อยากขอความยุติธรรมให้หลานสาว และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาช่วยเหลือเยียวยา เพราะเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เด็ก ผู้หญิงคนหนึ่งเป็นปมด้อย ส่วนกรณีที่หลานขาดเรียนไปเมื่อปีที่แล้วนั้น เนื่องจากไปรับจ้างเล่นดนตรีไทยเพื่อหารายได้เสริม เพราะแม่ถูกรถชนเมื่อช่วงเดือนเมษายนปีที่แล้ว ยายจึงบอกให้ออกมาเล่นดนตรีกับคุณตาที่เป็นอาจารย์สอนดนตรี เพื่อหารายได้ให้ครอบครัวทำให้ต้องขาดเรียนเป็นประจำ" ญาติของเด็กนักเรียนหญิงกล่าว
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRRd05qTTNNemN3Tnc9PQ==
จับ 4 รุ่นพี่ม.3-รุมขืนใจ "ม.1" ในโรงเรียน ลงมือคาบ้านพักครูที่ชัยนาท ใครต้องรับผิดชอบ
ข่มขืนคาบ้านพักครู
นักเรียนหญิงรุ่นน้อง ม.1 บนบ้านพักครูในโรงเรียนที่ชัยนาท ระหว่างช่วงพักกลางวัน ก่อนข่มขู่เหยื่อไม่ให้แพร่ง พราย แต่เพื่อนร่วมโรงเรียนรู้ข่าวแซวกันกระหึ่ม จนเข้าหูครูผู้ปกครองเรื่องเลยแดงขึ้นมา ญาติเหยื่อให้ทหารช่วยพาเข้าแจ้งความตามรวบได้ยกแก๊ง เตรียมให้สหวิชาชีพสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง เผยเหยื่อเป็นเด็กหญิงกตัญญูเล่นดนตรีไทยหาเงินรักษาแม่ที่ถูกรถชน จนต้องหยุดเรียนเป็นประจำ
เมื่อวันที่ 26 ก.ค. พ.ต.อ.จักรกฤษณ์ งามสมโสตร์ ผกก.สภ.หันคา จ.ชัยนาท เผยว่า เมื่อวันที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่ทหารพา ผู้ปกครอง พร้อมนักเรียนหญิงวัย 13 ปี โรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.วัฒนา เกิดศิริ พงส. ว่านักเรียนหญิงคนดังกล่าวถูกนักเรียนชายรุ่นพี่โรงเรียนเดียวกันรวม 4 คน เป็นนักเรียนชั้น ม.3 อายุ 15 ปี 1 คน อายุ 14 ปี 3 คน ก่อเหตุรุมขืนใจภายในบ้านพักอาจารย์ภายในโรงเรียนดังกล่าว ขณะเหยื่อกำลังจะเดินไปเข้าห้องน้ำที่อาคารเรียน ระหว่างรอยต่อช่วงคาบเรียน เมื่อวันที่ 21 ก.ค.ที่ผ่านมา
พ.ต.อ.จักรกฤษณ์กล่าวว่า หลังรับแจ้งเหตุ พล.ต.ต.ภวัต พรหมมะกฤต ผบก.ภ.จว.ชัยนาท สั่งการให้ดำเนินการจับกุมผู้กระทำผิดและดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดแล้ว ซึ่งได้ควบคุมตัวเยาวชนที่กระทำผิด แจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุ 15 ปี และนำตัวไปฝากขังที่ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดชัยนาท โดยทั้งหมดได้ประกันตัวแล้วตามกฎหมายเยาวชน ก่อนที่จะดำเนินการนำตัวสอบปากคำผู้ต้องหาและเชิญผู้เสียหายร่วมกับสหวิชาชีพ ได้แก่ ตำรวจ อัยการ นักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์ เพื่อนัดสอบปากคำต่อไป
ด้านผู้อำนวยการโรงเรียนที่เกิดเหตุเผยว่า ไม่คิดว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้น เพราะโรงเรียนอบรมเรื่องทางเพศอยู่เสมอ ซึ่งไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นมาก่อน ยืนยันว่าไม่ได้ต้องการที่จะปิดข่าวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด ภายหลังจากทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากที่มีนักเรียนพูดถึงเหตุดังกล่าวแล้ว รีบให้อาจารย์ฝ่ายปกครองประสานอาจารย์ประจำชั้นติดต่อให้ผู้ปกครองเด็กนักเรียนผู้เสียหายและผู้ก่อเหตุมาพบ เพื่อสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นทันที พร้อมทั้งรายงานเรื่องให้สำนักงานเขตการศึกษารับทราบ และทำหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรภายในวันที่ 28 ก.ค.
ผู้อำนวยการโรงเรียนยังกล่าวอีกว่า ส่วนการคาดโทษนักเรียนที่ก่อเหตุนั้นจะรอให้การดำเนินคดีของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสิ้นสุดก่อน นอกจากนั้นยังประชุมคณะอาจารย์เพื่อแก้ไขปัญหาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว เพราะช่วงระหว่างที่ก่อเหตุเป็นช่วงเวลาที่ยังเรียนหนังสืออยู่ รวมทั้งประวัตินักเรียนชายที่ก่อเหตุเคยมีประวัติก่อเหตุมีเรื่องทะเลาะวิวาทมาก่อน และมักโดดเรียนอยู่เป็นประจำ รวมถึงเด็กนักเรียนผู้เสียหายเองก็ขาดเรียนอยู่บ่อยครั้ง แต่ผู้เสียหายมีความสามารถด้านดนตรี จึงยังคงให้เรียนต่อภายหลังจากที่เคยขอหยุดพักการเรียนมาแล้ว
ส่วนอาจารย์หัวหน้ากลุ่มบริหารทั่วไปและงานปกครองกล่าวว่า จากการสอบถามเด็กนักเรียนที่ก่อเหตุภายหลังจากทราบเรื่องเมื่อวันที่ 24 ก.ค. ทั้งหมดยอมรับว่าก่อเหตุดังกล่าวจริง โดยกลุ่มนักเรียนดังกล่าวอยู่ชมรมดุริยางค์ของโรงเรียน มักจะไปนั่งเล่นอยู่บริเวณหน้าบ้านพักของอาจารย์ที่สอนดนตรีดังกล่าว ระหว่างเกิดเหตุอาจารย์เจ้าของบ้านพักได้ไปรับประทานอาหารกลางวัน โดยเด็กนักเรียนก่อเหตุโดดเรียนมานั่งเล่นกันอยู่ กระทั่งเวลาประมาณ 12.40 น. ระหว่างที่ผู้เสียหายกำลังจะเดินไปเข้าห้องน้ำในอาคารโรงเรียนข้างสนามบาสเกตบอล ช่วงเรียนวิชาพลศึกษา กลุ่มนักเรียนก่อเหตุได้ลงมือเข้าฉุดกระชากเด็กนักเรียนผู้เสียหายและลากเข้าไปข่มขืนในบ้านพักที่เกิดเหตุทีละคน โดยลงมือก่อเหตุ 3 คน ส่วนคนที่เหลือคอยดูต้นทาง
วันเดียวกัน ญาติของนักเรียนหญิงผู้เสียหายเผยว่า ช่วงหลังเกิดเหตุใหม่ๆ หลานสาวไม่กล้ามาบอก เพราะถูกกลุ่มผู้ก่อเหตุข่มขู่ว่าจะทำร้าย กระทั่งอาจารย์ประจำชั้นซึ่งทราบเรื่องดังกล่าวโทรศัพท์มาสอบถามรายละเอียดหลานสาวจึงยอมเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น โดยเล่าว่าเด็กนักเรียนชายที่ก่อเหตุเข้ามาล็อกคอ แล้วลากตัวไปที่บ้านพักอาจารย์ภายในห้องน้ำ โดยใช้มือปิดปากและใช้มือชกเข้าที่บริเวณหน้าท้องก่อนลงมือข่มขืน ซึ่งหลังทราบเรื่องทั้งหมดผู้ปกครองนักเรียนชายที่ก่อเหตุบอกจะชดใช้ค่าเสียหายเฉลี่ยคนละ 5,000 บาท พอเรื่องแจ้งความถึงตำรวจได้ขอให้ถอนแจ้งความและจะให้คนละ 10,000 บาท
"แต่ฝ่ายฉันไม่ยอมความ ขอให้เรื่องตัดสินตามกฎหมายและขอให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการถึงที่สุด อยากขอความยุติธรรมให้หลานสาว และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาช่วยเหลือเยียวยา เพราะเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เด็ก ผู้หญิงคนหนึ่งเป็นปมด้อย ส่วนกรณีที่หลานขาดเรียนไปเมื่อปีที่แล้วนั้น เนื่องจากไปรับจ้างเล่นดนตรีไทยเพื่อหารายได้เสริม เพราะแม่ถูกรถชนเมื่อช่วงเดือนเมษายนปีที่แล้ว ยายจึงบอกให้ออกมาเล่นดนตรีกับคุณตาที่เป็นอาจารย์สอนดนตรี เพื่อหารายได้ให้ครอบครัวทำให้ต้องขาดเรียนเป็นประจำ" ญาติของเด็กนักเรียนหญิงกล่าว
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRRd05qTTNNemN3Tnc9PQ==