อย่าเพิ่งด่าเราว่าเป็นผญ.ใจง่ายนะคะ เพราะทุกอย่างที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดขึ้นภายในเวลาอันรวดเร็ว ไม่ได้คุยไม่ได้รู้จักกันแค่เดือนสองเดือน แต่เราทำงานด้วยกันทุกวันๆจนเมื่อรู้ตัวอีกทีก็...
บอกก่อนว่าเรามีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้วค่ะ คบกันมา3-4ปี เราทำงานเป็นเซลล์บ.เอกชนแห่งนึง ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่าต้องไปติดต่อลูกค้านั่นโน่นนี่บ่อยๆและบางทีก็ต้องย้ายสาขาที่ทำงานอยู่บ่อยๆเช่นกัน เราก็ย้ายมาหลายสาขาและแต่ละสาขาที่เราย้ายไปก็ปกติไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนเมื่อเราย้ายมาอยู่สาขานึงในกรุงเทพฯ และได้พบกับเขาคนนี้ เขาชื่อ T.ค่ะ เป็นเซลล์เหมือนกับเรา ครั้งแรกที่เจอคือรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้ดูมีเสน่ห์จัง ทั้งๆที่ยังไม่เคยได้พูดคุย เขาอายุน้อยกว่าเราปีนึง ตอนแรกเขาเรียกเราพี่ แต่เราบอกเรียกชื่อเฉยๆก็ได้ห่างกันปีเดียว เราเลยคุยกันเหมือนเพื่อนร่วมงานทั่วไป เขาไม่ใช่คนหล่ออะไรมาก ผิวเข้ม ตัวสูง แต่เป็นคนมีเสน่ห์อย่างบอกไม่ถูก จะเรียกว่าดึงดูดคนรอบข้างก็ว่าได้ อัธยาศัยดี ยิ้มง่าย คุยเก่ง เทคแคร์คนเก่งค่ะ ด้วยความที่เราต้องทำงานกันใกล้ชิดกัน ต้องไปติดต่อลูกค้าด้วยกัน พาลูกค้าไปเลี้ยง ไปเสนองานด้วยกัน ทำให้เราเริ่มสนิทกันขึ้นเรื่อยๆ และเริ่มคุยแลกเปลี่ยนเรื่องส่วนตัวกัน
เขามีแฟนแล้วค่ะ คบกันมา 2ปี แฟนเขาแก่กว่าเขาถึง 5ปี เขาบอกจริงๆไม่ได้ตั้งใจจะคบจนเป็นแฟนกันขนาดนี้ แต่เพราะตอนนั้นเขาอกหักจากแฟนเก่า แฟนคนปัจจุบันก็เข้ามาพอดี เลยลองคุยดู และคิดว่าเอาล่ะต่อไปนี้จะอะไรก็ช่าง ก็จะลองคบคนนี้ดูละกัน.... บ่อยครั้งค่ะที่เราทำงานด้วยกันจนดึก ทั้งออฟฟิศเหลือแค่เรา2คน บางทีเขาก็มายอกแบบถึงเนื้อถึงตัวเราประจำ เวลามาดูงานที่หน้าคอมเราก็ชอบเอาหน้ามาใกล้ๆหน้าเรา แรกๆเราก็ไม่คิดอะไรค่ะเพราะเห็นว่าเขามีแฟนแล้วและเขาคงไม่ได้คิดอะไรเหมือนกัน แต่พอหลังๆเขาก็เริ่มเยอะขึ้นค่ะ พูดคะ จ๋า ที่รัก บางทีก็แกล้งมาจับหัวบ้างนั่งเกาอี้ใกล้กันก็เอามือมาโอบที่พะนักเก้าอี้เรา จนเพื่อนที่ทำงานคนอื่นๆก็แซวว่า ...
"ไปหาลูกค้าด้วยกันบ่อยๆนี่มุงสองคนพากันแวะเข้าโรงแรมก่อนป่าวเนี้ยไอ่T.ถึงเรียกที่รงที่รักตลอดช่วงนี้"
เราก็แกล้งพูดว่า "โอ้ยยยT.มีแฟนแล้ว"
แต่เขาก็ดันพูดว่า "ก็แค่แฟนครับยังไม่ได้แต่งงานไม่ได้จดทะเบียน อะไรก็ไม่แน่นอน อะไรก็เกิดขึ้นได้" แล้วก็หันมามองหน้าเราแล้วยิ้ม...
แล้วมันก็ผ่านไปค่ะเราก็ไม่อะไรคิดว่าเขาคงแกล้งพูดเฉยๆ ก็ต่างคนต่างมีแฟนแล้ว จนถึงวันที่มีงานเลี้ยงของบ. จัดที่โรงแรมค่ะ เขาชวนเราขึ้นรถไปกับเขาและเพื่อนอีกหลายคน เราก็ทิ้งรถเราและของไว้ที่ออฟฟิศ คิดว่าเลิกแล้วค่อยกลับมาเอาแล้วกัน งานเลี้ยงดำเนินไปเรื่อยๆเหมือนงานเลี้ยงบ.ทั่วไป จนเกือบดึกทุกคนกำลังสนุกเต็มที่ เขาย้ายมานั่งเก้าอี้ข้างเราและเอามือโอบพะนักเก้าอี้เช่นเคยพร้อมกับถามว่า "ทุกคนจะไปต่อกัน น้ำจะไปไหม" เราบอกยังไม่รู้อ่ะ เขาเลยหันไปบอกทุกคนว่า "ทุกคนครับที่นั่งรถผมมาเนี้ย ผมไม่ไปต่อนะถ้าน้ำไม่ไป" ทุกคนต่างหันมามองหน้าเราและเริ่มคะยั้นคะยอให้เราไป แกมแซวว่าอะไรยังไงเราไม่ไปทำไมT.ไม่ไป คือยังไง....สุดท้ายเราก็ตกลงไป
กิ๊กกันกับเพื่อนร่วมงาน ทั้งๆที่ต่างฝ่ายต่างมีแฟน
บอกก่อนว่าเรามีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้วค่ะ คบกันมา3-4ปี เราทำงานเป็นเซลล์บ.เอกชนแห่งนึง ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่าต้องไปติดต่อลูกค้านั่นโน่นนี่บ่อยๆและบางทีก็ต้องย้ายสาขาที่ทำงานอยู่บ่อยๆเช่นกัน เราก็ย้ายมาหลายสาขาและแต่ละสาขาที่เราย้ายไปก็ปกติไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนเมื่อเราย้ายมาอยู่สาขานึงในกรุงเทพฯ และได้พบกับเขาคนนี้ เขาชื่อ T.ค่ะ เป็นเซลล์เหมือนกับเรา ครั้งแรกที่เจอคือรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้ดูมีเสน่ห์จัง ทั้งๆที่ยังไม่เคยได้พูดคุย เขาอายุน้อยกว่าเราปีนึง ตอนแรกเขาเรียกเราพี่ แต่เราบอกเรียกชื่อเฉยๆก็ได้ห่างกันปีเดียว เราเลยคุยกันเหมือนเพื่อนร่วมงานทั่วไป เขาไม่ใช่คนหล่ออะไรมาก ผิวเข้ม ตัวสูง แต่เป็นคนมีเสน่ห์อย่างบอกไม่ถูก จะเรียกว่าดึงดูดคนรอบข้างก็ว่าได้ อัธยาศัยดี ยิ้มง่าย คุยเก่ง เทคแคร์คนเก่งค่ะ ด้วยความที่เราต้องทำงานกันใกล้ชิดกัน ต้องไปติดต่อลูกค้าด้วยกัน พาลูกค้าไปเลี้ยง ไปเสนองานด้วยกัน ทำให้เราเริ่มสนิทกันขึ้นเรื่อยๆ และเริ่มคุยแลกเปลี่ยนเรื่องส่วนตัวกัน
เขามีแฟนแล้วค่ะ คบกันมา 2ปี แฟนเขาแก่กว่าเขาถึง 5ปี เขาบอกจริงๆไม่ได้ตั้งใจจะคบจนเป็นแฟนกันขนาดนี้ แต่เพราะตอนนั้นเขาอกหักจากแฟนเก่า แฟนคนปัจจุบันก็เข้ามาพอดี เลยลองคุยดู และคิดว่าเอาล่ะต่อไปนี้จะอะไรก็ช่าง ก็จะลองคบคนนี้ดูละกัน.... บ่อยครั้งค่ะที่เราทำงานด้วยกันจนดึก ทั้งออฟฟิศเหลือแค่เรา2คน บางทีเขาก็มายอกแบบถึงเนื้อถึงตัวเราประจำ เวลามาดูงานที่หน้าคอมเราก็ชอบเอาหน้ามาใกล้ๆหน้าเรา แรกๆเราก็ไม่คิดอะไรค่ะเพราะเห็นว่าเขามีแฟนแล้วและเขาคงไม่ได้คิดอะไรเหมือนกัน แต่พอหลังๆเขาก็เริ่มเยอะขึ้นค่ะ พูดคะ จ๋า ที่รัก บางทีก็แกล้งมาจับหัวบ้างนั่งเกาอี้ใกล้กันก็เอามือมาโอบที่พะนักเก้าอี้เรา จนเพื่อนที่ทำงานคนอื่นๆก็แซวว่า ...
"ไปหาลูกค้าด้วยกันบ่อยๆนี่มุงสองคนพากันแวะเข้าโรงแรมก่อนป่าวเนี้ยไอ่T.ถึงเรียกที่รงที่รักตลอดช่วงนี้"
เราก็แกล้งพูดว่า "โอ้ยยยT.มีแฟนแล้ว"
แต่เขาก็ดันพูดว่า "ก็แค่แฟนครับยังไม่ได้แต่งงานไม่ได้จดทะเบียน อะไรก็ไม่แน่นอน อะไรก็เกิดขึ้นได้" แล้วก็หันมามองหน้าเราแล้วยิ้ม...
แล้วมันก็ผ่านไปค่ะเราก็ไม่อะไรคิดว่าเขาคงแกล้งพูดเฉยๆ ก็ต่างคนต่างมีแฟนแล้ว จนถึงวันที่มีงานเลี้ยงของบ. จัดที่โรงแรมค่ะ เขาชวนเราขึ้นรถไปกับเขาและเพื่อนอีกหลายคน เราก็ทิ้งรถเราและของไว้ที่ออฟฟิศ คิดว่าเลิกแล้วค่อยกลับมาเอาแล้วกัน งานเลี้ยงดำเนินไปเรื่อยๆเหมือนงานเลี้ยงบ.ทั่วไป จนเกือบดึกทุกคนกำลังสนุกเต็มที่ เขาย้ายมานั่งเก้าอี้ข้างเราและเอามือโอบพะนักเก้าอี้เช่นเคยพร้อมกับถามว่า "ทุกคนจะไปต่อกัน น้ำจะไปไหม" เราบอกยังไม่รู้อ่ะ เขาเลยหันไปบอกทุกคนว่า "ทุกคนครับที่นั่งรถผมมาเนี้ย ผมไม่ไปต่อนะถ้าน้ำไม่ไป" ทุกคนต่างหันมามองหน้าเราและเริ่มคะยั้นคะยอให้เราไป แกมแซวว่าอะไรยังไงเราไม่ไปทำไมT.ไม่ไป คือยังไง....สุดท้ายเราก็ตกลงไป