เหตุสู้รบในฉนวนกาซ่า ทำให้แรงงานไทยในอิสราเอลเสียชีวิตแล้ว 1 คน และยังมีแรงงานไทยอีกประมาณ 4,000 คน ที่ต้องเสี่ยงภัยท่ามกลางการสู้รบ ขณะที่ญาติของผู้เสียชีวิตรู้สึกเศร้าใจ เนื่องจากผู้ตายเพิ่งเดินทางไปทำงานต่างแดนได้เพียง 1 เดือน เพื่อหวังจะส่งเงินกลับมาเลี้ยงดูพ่อที่พิการทางสายตา โดยที่ผู้เป็นพ่อก็ไม่คิดว่า ลูกจะกลับมาในสภาพร่างที่ไร้วิญญาณ จรวจลูกแล้วลูกเล่านับไม่ถ้วนที่ถล่มลงสู่พื้นที่สู้รบของคู่ขัดแย้งในอิสราเอล แรงงานไทยต้องหวั่นคิดในเรื่องความปลอดภัย เมื่อ นายนรากร กิตติยังกุล สังเวยชีวิตจากการถูกสะเก็ดระเบิด จึงทำให้แรงงานไทยในอิสราเอลอีกเกือบ 40 คน ประสานสถานทูตไทย ณ กรุงเทลอาวีฟ ขอย้ายออกนอกพื้นที่ แต่ก็ยังมีแรงงานไทยอีกราว 4,000 คน ที่ยังคงปักหลักทำงานท่ามกลางอันตรายเพราะหวังเก็บเงินส่งเลี้ยงดูครอบครัว เรื่องราวชีวิตของ นายนรากร สร้างความรู้สึกสะเทือนใจกับทุกคนที่รับรู้ ตลอดชีวิต 36 ปี เขาตรากตรำทำงานด้วยการขับรถแท็กซี่ในเมืองหลวง ส่งเงินเลี้ยงดูพ่อที่พิการทางสายตา ในเขตอำเภอปัว จังหวัดน่าน แต่ประสบปัญหาการชุมนุมทางการเมือง จึงตัดสินใจกู้ยืมเงินกว่า 200,000 บาท ยืนความประสงค์ต่อกรมจัดหางาน เหินฟ้าผันชีวิตไปทำงานในต่างแดน
เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน ที่ผ่านมา จึงไม่มีใครในครอบครัวคาดคิดว่า เงินเดือนก้อนแรกที่ลูกจะได้รับจำต้องแลกมาด้วยชีวิต และนี่คือคลิปวีดีโอที่นายนรากร ส่งมาให้ครอบครัวได้ดูต่างหน้า พร้อมรับรู้ถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนออกไปทำงานในไร่องุ่น โดยบรรยายภาพรถถังจำนวนมากที่เดินหน้าเปิดฉากตอบโต้ฝ่ายตรงข้าม ขณะที่ สถานทูตไทยได้ประสานงานกับกระทรวงการต่างประเทศอิสราเอล และนายจ้างในนิคมการเกษตร 96 แห่ง ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ฉนวนกาซา ให้ย้ายคนไทยออกมาอยู่ในที่ปลอดภัย พร้อมขอให้ยุติการทำงานชั่วคราว แต่ยังไม่มีการสั่งอพยพ ส่วนศพของนายนรากร กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน จะประสานรับศพกลับประเทศไทย ถึงสนามบินสุวรรณภูมิในวันที่ 25 กรกฎาคม เวลา 16.00 น. เพื่อพากลับบ้านเกิดจังหวัดน่าน มอบให้ญาติประกอบพิธีทางศาสนา พร้อมช่วยเหลือเยียวยาในฐานะผู้สูญเสีย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://news.bugaboo.tv/watch/133894/
สุดเศร้า! คลิปสุดท้ายของ นรากร กิตติยังกุล แรงงานไทยที่เสียชีวิตในอิสราเอล
เหตุสู้รบในฉนวนกาซ่า ทำให้แรงงานไทยในอิสราเอลเสียชีวิตแล้ว 1 คน และยังมีแรงงานไทยอีกประมาณ 4,000 คน ที่ต้องเสี่ยงภัยท่ามกลางการสู้รบ ขณะที่ญาติของผู้เสียชีวิตรู้สึกเศร้าใจ เนื่องจากผู้ตายเพิ่งเดินทางไปทำงานต่างแดนได้เพียง 1 เดือน เพื่อหวังจะส่งเงินกลับมาเลี้ยงดูพ่อที่พิการทางสายตา โดยที่ผู้เป็นพ่อก็ไม่คิดว่า ลูกจะกลับมาในสภาพร่างที่ไร้วิญญาณ จรวจลูกแล้วลูกเล่านับไม่ถ้วนที่ถล่มลงสู่พื้นที่สู้รบของคู่ขัดแย้งในอิสราเอล แรงงานไทยต้องหวั่นคิดในเรื่องความปลอดภัย เมื่อ นายนรากร กิตติยังกุล สังเวยชีวิตจากการถูกสะเก็ดระเบิด จึงทำให้แรงงานไทยในอิสราเอลอีกเกือบ 40 คน ประสานสถานทูตไทย ณ กรุงเทลอาวีฟ ขอย้ายออกนอกพื้นที่ แต่ก็ยังมีแรงงานไทยอีกราว 4,000 คน ที่ยังคงปักหลักทำงานท่ามกลางอันตรายเพราะหวังเก็บเงินส่งเลี้ยงดูครอบครัว เรื่องราวชีวิตของ นายนรากร สร้างความรู้สึกสะเทือนใจกับทุกคนที่รับรู้ ตลอดชีวิต 36 ปี เขาตรากตรำทำงานด้วยการขับรถแท็กซี่ในเมืองหลวง ส่งเงินเลี้ยงดูพ่อที่พิการทางสายตา ในเขตอำเภอปัว จังหวัดน่าน แต่ประสบปัญหาการชุมนุมทางการเมือง จึงตัดสินใจกู้ยืมเงินกว่า 200,000 บาท ยืนความประสงค์ต่อกรมจัดหางาน เหินฟ้าผันชีวิตไปทำงานในต่างแดน
เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน ที่ผ่านมา จึงไม่มีใครในครอบครัวคาดคิดว่า เงินเดือนก้อนแรกที่ลูกจะได้รับจำต้องแลกมาด้วยชีวิต และนี่คือคลิปวีดีโอที่นายนรากร ส่งมาให้ครอบครัวได้ดูต่างหน้า พร้อมรับรู้ถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนออกไปทำงานในไร่องุ่น โดยบรรยายภาพรถถังจำนวนมากที่เดินหน้าเปิดฉากตอบโต้ฝ่ายตรงข้าม ขณะที่ สถานทูตไทยได้ประสานงานกับกระทรวงการต่างประเทศอิสราเอล และนายจ้างในนิคมการเกษตร 96 แห่ง ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ฉนวนกาซา ให้ย้ายคนไทยออกมาอยู่ในที่ปลอดภัย พร้อมขอให้ยุติการทำงานชั่วคราว แต่ยังไม่มีการสั่งอพยพ ส่วนศพของนายนรากร กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน จะประสานรับศพกลับประเทศไทย ถึงสนามบินสุวรรณภูมิในวันที่ 25 กรกฎาคม เวลา 16.00 น. เพื่อพากลับบ้านเกิดจังหวัดน่าน มอบให้ญาติประกอบพิธีทางศาสนา พร้อมช่วยเหลือเยียวยาในฐานะผู้สูญเสีย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้