@~ ณ ห้อง ICU ฉันจะไม่ยอมตายในนั้น vs เพื่อนใหม่ที่ตั้งใจจะเลิกคบถาวร

ถ้าใครได้อ่าน  http://pantip.com/topic/32351391 คงพอเดาได้ ว่าเรามีเวลาว่างมากแค่ไหนในแต่ละวัน วันนี้เราอยากมาเล่าประสบการณ์ความเป็นความตายใน ICU ค่ะ เชื่อว่า 100% ไม่มีใครอยากมีประสบการณ์แบบนี้ แต่มันเกิดขึ้นแล้ว (ไม่ได้อยากจำ แต่คงไม่สามารถลืมมันได้ชั่วชีวิต)

ประมาณห้าทุ่มครึ่ง เรากำลังนั่งรถส่วนตัวจากนครปฐมเข้ากรุงเทพ ระหว่างทางเราคุยกับแฟนที่เป็นคนขับรถไป เราเปิดมือถือเล่นไลน์ จำได้ว่ากำลังตอบไลน์กลุ่มเพื่อนๆ แล้วทุกอย่างก็ดับวูบ .......

หลังจากนั้น เหมือนเราเห็นแสงวิบๆวับๆ เสียงคนตะโกนอะไรฟังไม่ได้ศัพท์ มีเสียงรถวิ่งผ่านเราไปมา เราเป็นอะไร สติแรกเราพยายามคิด อะไร? มันอะไร?  ฝัน? เราทำอะไร? พยายามฝืนลืมตา แต่ทำไม่ได้ เหมือนเราหลับๆตื่นๆ ประโยคแรกที่เราจับใจความได้ เราได้ยินเสียงผู้ชายใกล้ๆเราตะโกนว่า "เขาบอกว่ามีหมา 2 ตัว ช่วยดูเร็ว"  หมาเหรอ? ลูกๆเราหรือเปล่า? เรายังคงเบลอๆหลับๆตื่นๆ แต่ตลอดเวลาที่เรามีสติจะคิดทุกครั้งว่า เกิดอะไร? เมื่อกี้เราไปทำอะไร? จนเราเริ่มจะจับใจความจากสิ่งที่ได้ยินมากขึ้น "นิดนึงนะครับพี่ ไม่ต้องกลัว " "มาทางนี้ก่อน เร็ว!!"

เวลาผ่านไปนานแค่ไหนเราก็ไม่รู้ มันเกิดอะไรเราก็นึกไม่ออก จนเรารู้สึกเราหายใจไม่ออก เราเหมือนเห็นรางๆว่าเรานอนบนเตียง มีคนเต็มเตียง เราพยายามพูด น่าจะเป็นครั้งแรกที่เราเริ่มมีสติ (เพราะเราจำเหตุการณ์ได้ไม่เคยลืม) เราพูดว่า "หายใจไม่ออก หนูหายใจไม่ออก หายใจไม่ออก" ตอนนั้นเรารู้สึกอึดอัด อยากเรอ เหมือนแน่นหน้าอก แน่นท้อง แน่นไปหมด เราคิดแต่เราอยากเรอ เราไม่รู้หรอกว่านั้นคือเรากำลังจะตาย หลังจากนั้นมีคนจับอะไรสักอย่างใส่ปากเรา เราพูดไม่ได้แล้วตอนนี้เพราะท่อช่วยหายใจ แต่เรายังพยายามเรอจนเราเรอออกมาได้ครั้งนึง เราได้ยินเสียงใครสักคนพูดว่า " เรอได้อย่างไงอ่ะ" แล้วสติเราก็ดับวูบอีกครั้ง ...

มาฟื้นอีกที เราเริ่มรู้แล้วว่าเราอยู่รพ. เราเห็นหมอ พยาบาล ผู้ช่วย เสียงคุยกันเสียงดัง พยาบาลเดินมาหาเราทุกๆ 10 นาทีก็ว่าได้ ตอนนั้นเราพูดไม่ได้แล้ว ขยับตัวไม่ได้ หันหน้าซ้ายขวาไม่ได้ ทำได้แค่กรอกตาไปมา และโชคดี มือสองข้างเราพอขยับยกได้ นาทีนี้ความคิดแรกของเราคือ "พี่ใหญ่อยู่ไหน" เราไม่รู้หรอกเราอาการหนักแค่ไหน เรารู้แต่ว่าตอนนี้เราไม่ตาย แล้วอีกคนล่ะ ลูกหมาเรา 2 ตัวล่ะ เราทำได้แค่คิดให้ทุกคนรอด

เวลาใน ICU ช้ามาก เราได้แต่นอนมองพยาบาล หมอ มาดูเรา เจาะเลือด แทงเข็ม ฉีดยา ตลอดเวลา ความเจ็บ ณ ตอนนั้นเป็นศูนย์ ทั้งๆที่เรารู้สึกตัวตลอด

คุณหมอ ::: " เดี๋ยวหมอขอเจาะตรงนี้นิดนึงนะคับ นิดเดียว " แล้วหมอก็เหมือนเจาะบริเวณข้างๆลำตัว ทั้งสองข้าง เสียบท่อเข้าไป เพิ่งรู้ว่ามันคือการเจาะปอด เอาเลือดที่คั่งออกจากปอด เพราะปอดฉีกทั้งสองข้าง

คุณหมอ ::: " เดี๋ยวหมอฉีดยาชานิดนึงนะคับ " แล้วหมอก็ฉีดยาชา พร้อมกับเหมือนพยายามกดอะไรลงไปในขาเรา มาเห็นอีกทีคือ คุณหมอแทงเหล็กยาวๆเข้าไปในกระดูกหน้าแข็งแล้วเอาถุงทราย 7 กิโลถ่วงไว้  

(แอบได้ยินเสียงจากปลายเตียงคุยกันว่า "เท้าผิดรูปด้วยค่ะหมอ)
คุณหมอ ::: " เดี๋ยวหมอเข้าเฝือกนิดนึงนะ นิดเดียว " ทราบทีหลังว่ากระดูกข้อเท้าแตก ต้นขาหัก เชิงกรานหัก แต่ยังผ่าตัดไม่ได้เพราะอาการโคม่า

พยาบาล ::: "เจาะเลือดนิดนึงน้า" เราไม่รู้ว่าเราโดนเจาะเลือดไปกี่สิบกี่ร้อยครั้งใน ICU เพราะมารู้ทีหลังว่าเราไม่มีบาดแผล แต่เราเสียเลือดเยอะจากการต้องถ่ายเลือดเสียออก เลือดจาง เราต้องให้เลือดไม่รู้กี่ถุง

เรานอนนิ่งๆแบบนั้น ไม่รู้นานแค่ไหนแล้ว จนเราก็ได้เห็นคนหนึ่งเดินมาหาเรา น้องชายแท้ๆเราเอง น้องตาแดงมาก ร้องไห้ เราพยายามยิ้มให้ แต่ไม่รู้หรอกนะว่าน้องจะมองเห็นรอยยิ้มนั้นมั๊ย น้องเรียกชื่อเรา เราพยายามส่งภาษามือขอเขียน น้องไปหากระดาษปากกา เราเขียนในกระดาษว่า "พี่ไม่เป็นไร ไม่ต้องห่วง" "พี่ใหญ่ล่ะ" "อย่าโกรธพี่ใหญ่ มันคืออุบัติเหตุ" "หมาล่ะ" น้องบอกพี่ใหญ่และหมาปลอดภัย ไม่โกรธเลย เรารู้ว่าน้องกลัวเราตาย สุดท้ายเราบอกว่า "อย่าบอกแม่นะ" น้องบอกไม่บอกหรอก (แต่จริงๆบอกไปแล้ว เราสงสารพ่อกับแม่ ไม่อยากเห็นเขาเสียใจ เลยคิดว่าเดี๋ยวเราก็หาย)

หลังจากนั้นทุกคนเข้ามาเยี่ยม เราดีใจมาก แต่ทุกคนร้องไห้ เราเขียนบอกทุกคนว่า "อย่าร้องไห้" "เราไม่เป็นไร" เราพยายามยิ้มให้ทุกคน อยากให้รู้ว่าเราสบายดี เราไม่รู้หรอกว่าทำไมทุกคนถึงร้องไห้ เราไม่รู้หรอกว่าอาการเราหนักแค่ไหนในตอนนั้น แต่เราคิดอย่างเดียวว่ารอวันออกจาก ICU เราไม่ยอมตาย ทุกคนที่มาเยี่ยมคือยาต่อชีวิต เราเข้มแข็งเพราะพวกเขาจริงๆ

แต่พอทุกคนกลับไป หลังจากนี้แหละคือความทุกทรมาน เราไม่หลับเหมือนเตียงอื่นๆ เราเฝ้ารอทุกคนมาเยี่ยม เราไม่รู้ว่าทำไมถึงไม่เข้ามากันสักที เราพยายามยกมือส่งสัญญาณเรียกพยาบาล แต่ทุกคนคงงานยุ่ง นาทีนี่แหละที่เรานอนน้ำตาไหล เราทรมาน อยากพบทุกๆคน อยากมีใครสักคนอยู่ข้างๆเตียง จนมีผู้ช่วยพยาบาลมาหา เราถึงขอกระดาษเขียน ถึงได้รู้ว่ามีช่วงเวลาในการเยี่ยม ตั้งแต่นั่นมา เราพยายามมองหานาฬิกา มองว่าเมื่อไหร่เวลานั้นจะมาถึง

ตลอดเวลาใน ICU เรานอนมองเพดาน มองไฟ มองสายยางที่ต่อออกมาจากจมูกเรา มองน้ำสีคล้ำๆเหลืองๆดำๆ ที่ไหลออกมา เรารู้ว่ามันคงเป็นเลือดที่ค้างอยู่ในตัวเราต้องเอาออกให้หมด เรามองจนเรารู้ได้ว่า ทำยังไงถึงจะเห็นมันวิ่งมาตามสาย เราต้องกลืนน้ำลาย เพราะทุกครั้งที่เรากลืนน้ำลาย มันจะไหลออกมาทันที แต่มันยากในการที่เราจะกลืนน้ำลาย เพราะท่อหายใจในปากเรา ทำให้เรากลืนน้ำลายลำบาก แต่ไม่ยากเกินกว่าที่เราจะทำ วันๆนึงของเราจึงหมดไปกับการพยายามกลืนน้ำลาย

แต่สิ่งที่เราทรมานมากที่สุด คือ การที่พยาบาลมาดูดเสลดออกจากเครื่องช่วยหายใจ มันเป็นอะไรที่ทรมานสุดชีวิต เราบรรยายไม่ได้ เหมือนเราจะตาย เมื่อไหร่ก็ตามที่เราเห็นพยาบาลมาตรงหัวเตียง แล้วหยิบอุปกรณ์ในการดูดเสลด เราน้ำตาไหลทุกครั้ง

ทุกเช้า พยาบาลจะต้องมาเช็ดตัว เพิ่งรู้ว่าก่อนเช็ดตัวเรา จะฉีดยาแก้ปวดแบบชนิดรุนแรงเพราะต้องมีการพลิกตัว เพื่อให้เราปวดน้อยที่สุดจากการพลิก เพราะกระดูกหักหลายแห่ง แต่สำหรับเรา เราไม่ได้รู้สึกถึงฤทธิ์ของยาแก้ปวดสักนิด เราปวดมาก มากก มากกกก

เราอยู่ใน ICU  5 วัน มันเป็น 5 วันที่แสนจะทรมาน 5 วันที่เราอ้างว้าง โดดเดี่ยว รอคอยให้ถึงวันที่เราได้เจอทุกๆคน รอวันที่จะเอาไอ้ท่อที่อยู่ในปากเราออกไป เรามีความคิดอย่างเดียวว่า เมื่อไหร่ถึงจะได้ออกไปเจอทุกๆคน รู้สึกดีมากๆที่เราไม่เคยคิดเลยว่าเราจะตายมั๊ย จะรอดมั๊ย ไม่เคยมีความคิดแบบนั้นเลย

และวันนี้ เราผ่านมันมาได้ ความเป็นความตายเราผ่านมาแล้ว
ขอเป็นกำลังใจให้เพื่อนๆทุกๆคนนะคะ



นี่คือภาพเพื่อนเราตอนนี้ค่ะ แต่อีกไม่นาน เราจะเลิกคบกันแล้ว เรามั่นใจว่าเราต้องทำให้ได้ เป็นกำลังใจให้เราเลิกคบเพื่อนทั้งสองนี่ทีนะตะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่