ฃีวิตที่มีกำไร

นิทานชาวสวน
ชีวิตที่มีกำไร
ไพฑูรย์ นิมิปาล (เล่าเซี่ยงชุน, เจียวต้าย)

ตอนที่ ๑

        ตามเอกสารของทางราชการ ผมเกิดเมื่อ ๑๙ มีนาคม ๒๔๗๔ แต่ผู้ให้กำเนิดผมได้บันทึกไว้ว่า ผมเกิดเมื่อ วันพฤหัสบดี ขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๕ ปีมะแม ร.ศ.๑๕๐ เวลาย่ำรุ่ง ๑๐ นาที ซึ่งเมื่อเปิดปฏิทินดูในตอนหลัง ปรากฏว่าตรงกับวันที่ ๑๙ มีนาคม ๒๔๗๓ ผมเกิดที่อำเภอปากน้ำ จังหวัดกระบี่ ทั้ง ๆ ที่ตระกูลของผมไม่ได้เป็นชาวใต้ ผมเพียงแต่ไปอาศัยเกิดที่บ้านพักครู ของโรงเรียนประจำจังหวัดกระบี่ “อำมาตย์พานิชยนุกูล” เนื่องจากพ่อของผม ไปรับราชการเป็นศึกษาธิการจังหวัด แม่ของผมมีลูกชายคนแรกคือผม ต่อมาเป็นน้องผู้หญิงอีกคน

        ชีวิตของผมมีอะไรแปลกประหลาดอยู่เสมอ ตั้งเกิดก็คลาดเคลื่อนไป ๑ ปีแล้ว พอผมจะมีอายุครบ ๙ ปีทางรชการก็เปลี่ยนการนับพุทธศักราชใหม่ จากการเริ่มต้นเดือน เมษายน เป็นเดือน มกราคม  ดังนั้นเดือนมีนาคมที่ผมเกิด ซึ่งจะเป็นเดือนสุดท้ายของปี พ.ศ.๒๔๘๓ จึงมีอันหายไปจากปฏิทินของประเทศไทยไปเสียเฉย ๆ  เพราะพอสิ้นเดือนธันวาคม ๒๔๗๓ ก็ขึ้นเดือนมกราคม ๒๔๗๔ เลย อายุของผมก็พลอยหายไปด้วยอีก ๑ ปี ไปครบ ๑๐ ปีบริบูรณ์เอาเมื่อ ๑๙ มีนาคม ๒๔๗๕ อันเป็นเหตุที่ทำให้ผมมามีอายุครบ ๖๐ ปี ใน ๑๙ มีนาคม ๒๕๓๕ ไปด้วย

        ตอนเป็นเด็กเล็ก ๆ ผมอยู่บ้านในตรอกข้างโรงเรียนนายร้อย ถนนราชดำเนินนอก ตรงข้ามสนามมวยราชดำเนิน ซึ่งตอนนั้นยังเป็นบ้านเล็กบ้านน้อย มีโรงเรียนชั้นประถมอยู่โรงเดียว ที่ปากซอยเข้าบ้านผมคือ โรงเรียนดำเนินศึกษา ตั้งชื่อตามถนนซึ่งปัจจุบันเป็นโรงเรียนแผนที่ทหาร ผมเข้าเรียนชั้นประถมปีที่ ๑ ที่โรงเรียนนี้เมื่อ พ.ศ.๒๔๗๙ ได้เลขประจำตัว ๔๙๙ พอเรียนมาถึง พ.ศ.๒๔๘๒ ได้ชั้นประถมปีที่ ๔ โรงเรียนกำลังจะถูกไล่ที่เพื่อก่อสร้างอาคารสมัยใหม่ยุคมาลานำไทยเป็นมหาอำนาจ อย่างที่กำลังก่อสร้างกันอยู่ตึง ๆ ในช่วงถนนราชดำเนินกลางตั้งแต่สะพานผ่านฟ้าลีลาศ ถึงสะพานผ่านภิภพลีลา ตอนนั้นอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเพิ่งจะลงหลักปักเสาเข็มอยู่  โรงเรียนดำเนินศึกษาของผมก็เลยย้ายตัวเอง ถอยลึกเข้าไปอีกหน่อย  หันหน้าออกทางถนนวิสุทธิกษัตริย์ ที่เขาใช้เป็นสถานที่จัดงานสงกรานต์ประจำปี แต่ก็ยังคงใช้ชื่อ โรงเรียนดำเนินศึกษาต่อไปตามเดิม

        ตอนนี้เวลาจะไปโรงเรียน ผมจะต้องเดินออกไปถึงปากตรอกถนราชดำเนิน แล้วเลี้ยวเข้าประตูโรงัรียนทางถนนวิสุทธิกษัตริย์ อ้อมไปอีกเยอะเลย

        ถึง พ.ศ.๒๔๘๔ ขึ้นปีใหม่เดือนมกราคมแล้ว ได้ชั้นมัธยมปีที่ ๑ ต้องย้ายบ้านมาอยู่ที่สวนอ้อย ตรงข้ามวชิรพยาบาล ถนนสามเสน เพราะทางราชการไล่ที่เข้าไปถึงบ้านคุณตาเหมือนกัน เราออกมาก่อนได้เลือกก่อน ก็เลยต้องเข้ามาเรียนต่อชั้นมัธยมปีที่ ๒ ที่โรงเรียนมัธยมวัดราชาธิวาส โชคยังดีอยู่มากที่มาเจอคุณครู ท่านที่เคยเป็นครูใหญ่โรงเรียนประจำจังหวัดกระบี่ ที่เคยอยู่บ้านพักติดกันและภรรยาของท่านเป็นคนทำคลอดผมเอง ท่านก็เลยดูแลให้เป็นอย่างดี  จนแม่ผมไม่ต้องทำอะไรเลย ทั้ง ๆ ที่เวลานั้น พ่อผมก็ไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว

        เรียนอยู่ได้ ๑๒ เดือนก็ถึงปลายปี วันที่ ๘ ธันวาคม เกิดญี่ปุ่นยกทัพบุกเข้าประเทศไทย กลยเป็นสลความเอเชียบูรพา เลยไม่ต้องสอบไล่ให้ยกชั้นไปเลย สบายไปปีหนึ่ง แค่นั้นยังไม่พอ ถึง พ.ศ.๒๔๘๕กำลังเรียนชั้นมัธยมปีที่ ๓ เกิดน้ำท่วมใหญ่ในกรุงเทพ ตั้งแต่เดือนตุลาคม ถึงธันวาคม ทางกระทรวงก็ยกประโยชน์ให้นักเรียนอีก โดยการสอบไล่พอเป็นพิธี ได้ไม่ถึงห้าสิบเปอร์เซ็นต์ก็ได้เลื่อนชั้นไปหมด
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่