คือตอนนี้มีปัญหาอยู่ค่ะ คือเรื่องราวมีอยู่ว่า
เมื่อประมาณปลายปีที่แล้วดิฉันมีปัญหาการเงิน หมุนเงินไม่ทัน แล้วไม่ว่ามีปัญหาเรื่องอะไรก็จะคุยกับเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของดิฉันซึ่งคบกับมานานกว่า 30 กว่าปี และดิฉันก็คุยเรื่องเงินของดิฉันให้เขาฟังค่ะ
เพื่อนของดิฉันคนนี้เขามีแฟนเป็นทอม แล้วคาดว่าเพื่อนดิฉันคงคุยถึงปัญหาของดิฉันให้แฟนทอมของเขาฟัง แล้วแฟนทอมของเขาก็ยื่นข้อเสนอช่วยดิฉันเรื่องการเงินว่าทำบัตรเครดิตไม๊ ด้วยความที่ดิฉันคิดว่าเขาเป็นเพื่อนและและแฟนเพื่อน และด้วยความเขาใจว่าบัตรเครดิต หากเราไม่กดเราก็ไม่เป็นหนี้ จึงได้รับข้อเสนอช่วยเหลือของเขา
ขั้นแรกเขาได้บอกให้ดิฉันเปิดบัญชีที่ธนาคารแล้วเขาบอกว่าพี่สาวของเขาเปิดร้านอาหาร พี่สาวเขามีเงินจะช่วยเอาไปเดินบัญชีให้ ดิฉันจึงได้ให้บัตร atm และสมุดบัญชีแก่เขาไป
เวลาผ่านไปไม่นาน เขาได้มาขอเอกสารของดิฉันเพื่อการสมัครบัตรเครดิต และได้ให้เบอร์ติดต่อที่ธนาคารติดต่อมาเป็นเบอเขาทั้งหมด ในตอนมาเอาเอกสารเพื่อนของดิฉันอาสาจะเอาเอกสารทั้งหมดไปถ่ายเอกสารให้ แล้วต่อมาดิฉันก็ได้ไปสมัครทำบัตรเครดิตของธนาคาร tmb และได้บัตรมาแล้วค่ะ แล้วในเวลาต่อมาอยู่ๆก็ทราบว่าในบัญชีของธนาคาร tmb อยู่ๆก็มีเงินเข้ามา 640,000 บาท โดยที่คนที่เป็นแฟนทอมของเพื่อนโทรมาบอก ตกใจมากค่ะ เขาบอกว่าเอาเอกสารของดิฉันไปขอยื่นกูวงเงินสินเชื่อด้วย แล้วตอนนั้นดิฉันซึ่งบอกตรงๆก็ทำอาชีพเป็นแม่ค้า อาจไม่ทันคนและตั้งสติยังไม่ทัน เขาได้ของแบ่งหรือพูดง่ายๆก็คือยืมเงิน ในวงเงินสินเชื่อครึ่งนึง คือ320,000 บาท แล้วเร่งรัดให้ดิฉันรีบไปถอนเงินแล้วโอนเงินให้เขา เขาโทรเร่งมาเกือบๆทุก 5-10 นาที ณ ตอนนั้น ดิฉันก็ไปทำตามเขาว่าค่ะ เขาบอกจะช่วยส่งธนาคาร แต่ช่วยได้2-3 เดือนเขาก็หายเงียบค่ะ โทหาก็ไม่รับ ให้ลูกสาวไลนืไปก็ไม่เปิดอ่าน ถึงอ่านก็ไม่ตอบอะไรใดๆทั้งสิ้น
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 28 มิ.ย. มีจดหมายจากบริษัทเชษเตอร์ลอว์ แอด์ คอลเลคชั่นที่ทำหน้าที่ทวงหนี้ให้กับธนาคาร scb ส่งจดหมายยกเลิกสัญญา และให้คืนเงินจำนวน 301,000 บาท และจะดำเนินการฟ้องในอีก 20 วันหากเพิกเฉย
แทบล้มทั้งยืนค่ะเพราะ ดิฉันไม่เคยทำธุรกรรมหรือเป็นลูกค้าของธนาคาร scb เลย และสงสัยอยู่แล้วว่าน่าจะเป็นเพื่อนและทอมที่เป็นคนทำ เพราะดิฉันไม่เคยให้เอกสารส่วนตัวของดิฉันกับใครเลย
ภายในวันนั้นดิฉันได้รีบไปแจ้งความบันทึกประจำวันไว้ในเรื่องของ ธ. scb และได้พยายามติดต่อกับเขา เขาก็ยังไม่รับ แต่ก็เกิดสงสัยว่าเอกสารชำระหนี้ไปลงที่ไหนทำไมไม่เคยได้เห็น ไม่เคยได้รับ ทาง ธ.scb จึงได้ให้ข้อมูลมาว่าเขาให้ไปลงบ้านเลขที่ๆนึงซึ่งดิฉันไม่เคยไปและไม่เคยรู้จัก
ดิฉันจงได้รู้มาว่าเขาได้เปิดเช่าตู้ไปรษณีย์ไว้และให้นำจดหมายทวงหนี้ที่เป็นชื่อดิฉันที่จ่าหน้าบ้านเลขที่ๆให้กับธนาคารไว้ ไปให้ที่ตู้ไปษณีย์ที่เขาเช่าโดยการโทรสั่งกับบุรุษไปษณีย์ที่มีหน้าที่ส่งในเขตบ้านเลขที่นั้น
ต่อมาดิฉันได้นำเอาใบบันทึกประจำวันเขาไปขอความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการของเปิดและตรวจสอบตู้ไปรษณีย์ที่เขาเช่าไว้ พอเปิดตู้ไปษณีย์จึงทราบว่าคนที่เช่าตู้ไปรษณีย์คือเพื่อนของดิฉันเอง และทราบมาอีกว่าเขาไม่ได้เอาเอกสารของดิฉันไปใช้แค่กับ ธ.scb แต่เขาเอาไปใช้ถึง 3 ธนาคารคือ ธ. scb , ธ.uob และ ธ.ธนชาติ รวมหนี้ 3 แบงค์ร่วม 5 แสนกว่าบาท
ถึง ณ เวลานี้ดิฉันได้นำเอกสารที่หามาได้ทั้งหมด จากทางธนาคาร และไปรษณีย์เข้าหาตำรวจ ทางตำรวจได้ให้ดิฉันให้การและได้เซนตืเป็นผู้กล่าวหา ทางตำรวจบอกกับดิฉันว่า ได้ส่งจดหมายเพื่อขอเอกสารจากทางธนาคารใหญ่ที่ กทม. แล้ว
แต่ทางธ.ธนชาติ ได้เร่งรัดว่าภายในวันศุกร์ ถ้าไม่ได้หมายเลขคดีที่ดิฉันเข้าแจ้งความจะส่งเรื่องฉันเข้าฟ้องศาล ชีวิตนี้เกิดมาไม่เคยขึ้นศาลค่ะ รู้สึกไม่สบายใจมาก
ถึง ณ วันนี้ดิฉันต้องวิ่งเต้นหลายที่มากแทบไม่มีเวลาทำมาหากินเลย และบูโรที่ดิฉันรักษามาตลอดชีวิตก็ต้องมาเสีย และมาโดนกับช่วงที่ดิฉันกำลังยื่นเรื่องกู้ซื้อบ้าน ซึ่งตอนนี้เรื่องชะงัก และไม่ผ่าน
เรื่องราวย่อๆทั้งหมดก็เป็นดังที่กล่าวมา ดิฉันอยากขอคำปรึกษาว่า
1. ในเรื่องที่ดิฉันยินยอมให้เขาเอาบัญชีธนาคารที่เขาบอกจะไปเดินบัญชีให้นี่ดิฉันผิดไหม และมีความผิดมากหรือน้อยแค่ไหนคะ
2.วันนี้ที่โิฉันส่งคำขอปรึกษาก็เป็นวัน พุธแล้วอีก2วันก็จะถึงวันศุกร์ ดิฉันควรทำอย่างไรต่อไปคะ เพราะทางธนาคารก็จะฟ้อง และทางตำรวจก็ให้รอ ทำอะไรไม่ถูกแล้วค่ะ
3. ดิฉันไม่มีเงินพอที่จะจ้างทนายความ ฉะนั้นดิฉันควรทำอย่างไรได้บ้างคะ
วอนท่านทนายและท่านผู้รู้กฎหมาย ช่วยทีค่ะ ช่วยตอบดิฉันที เดือดร้อนมากค่ะ
เมื่อประมาณปลายปีที่แล้วดิฉันมีปัญหาการเงิน หมุนเงินไม่ทัน แล้วไม่ว่ามีปัญหาเรื่องอะไรก็จะคุยกับเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของดิฉันซึ่งคบกับมานานกว่า 30 กว่าปี และดิฉันก็คุยเรื่องเงินของดิฉันให้เขาฟังค่ะ
เพื่อนของดิฉันคนนี้เขามีแฟนเป็นทอม แล้วคาดว่าเพื่อนดิฉันคงคุยถึงปัญหาของดิฉันให้แฟนทอมของเขาฟัง แล้วแฟนทอมของเขาก็ยื่นข้อเสนอช่วยดิฉันเรื่องการเงินว่าทำบัตรเครดิตไม๊ ด้วยความที่ดิฉันคิดว่าเขาเป็นเพื่อนและและแฟนเพื่อน และด้วยความเขาใจว่าบัตรเครดิต หากเราไม่กดเราก็ไม่เป็นหนี้ จึงได้รับข้อเสนอช่วยเหลือของเขา
ขั้นแรกเขาได้บอกให้ดิฉันเปิดบัญชีที่ธนาคารแล้วเขาบอกว่าพี่สาวของเขาเปิดร้านอาหาร พี่สาวเขามีเงินจะช่วยเอาไปเดินบัญชีให้ ดิฉันจึงได้ให้บัตร atm และสมุดบัญชีแก่เขาไป
เวลาผ่านไปไม่นาน เขาได้มาขอเอกสารของดิฉันเพื่อการสมัครบัตรเครดิต และได้ให้เบอร์ติดต่อที่ธนาคารติดต่อมาเป็นเบอเขาทั้งหมด ในตอนมาเอาเอกสารเพื่อนของดิฉันอาสาจะเอาเอกสารทั้งหมดไปถ่ายเอกสารให้ แล้วต่อมาดิฉันก็ได้ไปสมัครทำบัตรเครดิตของธนาคาร tmb และได้บัตรมาแล้วค่ะ แล้วในเวลาต่อมาอยู่ๆก็ทราบว่าในบัญชีของธนาคาร tmb อยู่ๆก็มีเงินเข้ามา 640,000 บาท โดยที่คนที่เป็นแฟนทอมของเพื่อนโทรมาบอก ตกใจมากค่ะ เขาบอกว่าเอาเอกสารของดิฉันไปขอยื่นกูวงเงินสินเชื่อด้วย แล้วตอนนั้นดิฉันซึ่งบอกตรงๆก็ทำอาชีพเป็นแม่ค้า อาจไม่ทันคนและตั้งสติยังไม่ทัน เขาได้ของแบ่งหรือพูดง่ายๆก็คือยืมเงิน ในวงเงินสินเชื่อครึ่งนึง คือ320,000 บาท แล้วเร่งรัดให้ดิฉันรีบไปถอนเงินแล้วโอนเงินให้เขา เขาโทรเร่งมาเกือบๆทุก 5-10 นาที ณ ตอนนั้น ดิฉันก็ไปทำตามเขาว่าค่ะ เขาบอกจะช่วยส่งธนาคาร แต่ช่วยได้2-3 เดือนเขาก็หายเงียบค่ะ โทหาก็ไม่รับ ให้ลูกสาวไลนืไปก็ไม่เปิดอ่าน ถึงอ่านก็ไม่ตอบอะไรใดๆทั้งสิ้น
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 28 มิ.ย. มีจดหมายจากบริษัทเชษเตอร์ลอว์ แอด์ คอลเลคชั่นที่ทำหน้าที่ทวงหนี้ให้กับธนาคาร scb ส่งจดหมายยกเลิกสัญญา และให้คืนเงินจำนวน 301,000 บาท และจะดำเนินการฟ้องในอีก 20 วันหากเพิกเฉย
แทบล้มทั้งยืนค่ะเพราะ ดิฉันไม่เคยทำธุรกรรมหรือเป็นลูกค้าของธนาคาร scb เลย และสงสัยอยู่แล้วว่าน่าจะเป็นเพื่อนและทอมที่เป็นคนทำ เพราะดิฉันไม่เคยให้เอกสารส่วนตัวของดิฉันกับใครเลย
ภายในวันนั้นดิฉันได้รีบไปแจ้งความบันทึกประจำวันไว้ในเรื่องของ ธ. scb และได้พยายามติดต่อกับเขา เขาก็ยังไม่รับ แต่ก็เกิดสงสัยว่าเอกสารชำระหนี้ไปลงที่ไหนทำไมไม่เคยได้เห็น ไม่เคยได้รับ ทาง ธ.scb จึงได้ให้ข้อมูลมาว่าเขาให้ไปลงบ้านเลขที่ๆนึงซึ่งดิฉันไม่เคยไปและไม่เคยรู้จัก
ดิฉันจงได้รู้มาว่าเขาได้เปิดเช่าตู้ไปรษณีย์ไว้และให้นำจดหมายทวงหนี้ที่เป็นชื่อดิฉันที่จ่าหน้าบ้านเลขที่ๆให้กับธนาคารไว้ ไปให้ที่ตู้ไปษณีย์ที่เขาเช่าโดยการโทรสั่งกับบุรุษไปษณีย์ที่มีหน้าที่ส่งในเขตบ้านเลขที่นั้น
ต่อมาดิฉันได้นำเอาใบบันทึกประจำวันเขาไปขอความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการของเปิดและตรวจสอบตู้ไปรษณีย์ที่เขาเช่าไว้ พอเปิดตู้ไปษณีย์จึงทราบว่าคนที่เช่าตู้ไปรษณีย์คือเพื่อนของดิฉันเอง และทราบมาอีกว่าเขาไม่ได้เอาเอกสารของดิฉันไปใช้แค่กับ ธ.scb แต่เขาเอาไปใช้ถึง 3 ธนาคารคือ ธ. scb , ธ.uob และ ธ.ธนชาติ รวมหนี้ 3 แบงค์ร่วม 5 แสนกว่าบาท
ถึง ณ เวลานี้ดิฉันได้นำเอกสารที่หามาได้ทั้งหมด จากทางธนาคาร และไปรษณีย์เข้าหาตำรวจ ทางตำรวจได้ให้ดิฉันให้การและได้เซนตืเป็นผู้กล่าวหา ทางตำรวจบอกกับดิฉันว่า ได้ส่งจดหมายเพื่อขอเอกสารจากทางธนาคารใหญ่ที่ กทม. แล้ว
แต่ทางธ.ธนชาติ ได้เร่งรัดว่าภายในวันศุกร์ ถ้าไม่ได้หมายเลขคดีที่ดิฉันเข้าแจ้งความจะส่งเรื่องฉันเข้าฟ้องศาล ชีวิตนี้เกิดมาไม่เคยขึ้นศาลค่ะ รู้สึกไม่สบายใจมาก
ถึง ณ วันนี้ดิฉันต้องวิ่งเต้นหลายที่มากแทบไม่มีเวลาทำมาหากินเลย และบูโรที่ดิฉันรักษามาตลอดชีวิตก็ต้องมาเสีย และมาโดนกับช่วงที่ดิฉันกำลังยื่นเรื่องกู้ซื้อบ้าน ซึ่งตอนนี้เรื่องชะงัก และไม่ผ่าน
เรื่องราวย่อๆทั้งหมดก็เป็นดังที่กล่าวมา ดิฉันอยากขอคำปรึกษาว่า
1. ในเรื่องที่ดิฉันยินยอมให้เขาเอาบัญชีธนาคารที่เขาบอกจะไปเดินบัญชีให้นี่ดิฉันผิดไหม และมีความผิดมากหรือน้อยแค่ไหนคะ
2.วันนี้ที่โิฉันส่งคำขอปรึกษาก็เป็นวัน พุธแล้วอีก2วันก็จะถึงวันศุกร์ ดิฉันควรทำอย่างไรต่อไปคะ เพราะทางธนาคารก็จะฟ้อง และทางตำรวจก็ให้รอ ทำอะไรไม่ถูกแล้วค่ะ
3. ดิฉันไม่มีเงินพอที่จะจ้างทนายความ ฉะนั้นดิฉันควรทำอย่างไรได้บ้างคะ