[CR] รีวิว ขั้นตอนการไปติ่งอีเวนท์เกมถึงญี่ปุ่นอย่างคร่าวๆ

รีวิวนี้จะชี้แจงขั้นตอนการเตรียมตัวทั้งหมดของการไปติ่ง เผื่อใครอยากไป แต่ทำไม่เป็น แล้วอยากได้แนวทาง บอกก่อนว่าอีเวนท์ที่ไปติ่งนี่คือ Tales of Festival 2014 ที่โยโกฮาม่าอารีน่า เมื่อวันที่ 31 พ.ค. – 1 มิ.ย. ที่ผ่านมา

อนึ่ง นี่คือรีวิวการไปติ่งฉบับแรกของเรา อาจใช้เป็นอ้างอิงมากไม่ได้ เพราะเรารู้ภาษาญี่ปุ่น และเคยอยู่ญี่ปุ่นมาก่อน 1 ปี ทำให้ค่อนข้างรู้ทางหนีทีไล่ดีพอสมควร

การไปติ่งคืออะไร พูดให้เข้าใจง่าย ๆ ก็การไปอีเวนท์นั่นแหละ แค่พกความติ่ง ความอวยไปเต็มสตรีม เห็นอะไรในอีเวนท์ก็ดี๊ด๊าไปหมด คล้าย ๆ การไปคอนเสิร์ตนักร้องอะไรพวกนั้น เพียงแต่เราไม่ได้ไปคอนเสิร์ต แต่ไปอีเวนท์

เข้าใจตรงกันแล้วก็มาเริ่มกันเลย

ขั้นแรก จองตั๋วติ่ง
สิ่งที่ต้องมี
-    เมมเบอร์เว็บจองตั๋ว
-    เพื่อนที่อยู่ญี่ปุ่นและพร้อมที่จะจ่ายเงินให้เราได้
เริ่มจากเช็คเว็บหลักว่าอีเวนท์จะมีวันไหน เปิดจองตั๋วเมื่อไร อะไรยังไง เช็คให้ละเอียด แล้วไปสมัครเมมเบอร์เว็บจองตัวนั่นไว้ แล้วเตรียมเฝ้าเว็บจองได้เลย ส่วนใหญ่เขาจะเปิดหลายรอบ เป็นรอบจับฉลาก รอบพรี รอบขายจริง ก็เฝ้าเว็บมันไว้ทุกรอบจนกว่าเราจะได้ตั๋วนั่นแหละ พอถึงเวลาก็จองซะ(ขั้นตอนนี้ต้องอาศัยทักษะภาษาญี่ปุ่นนิดหน่อย เพราะเว็บมักเป็นภาษาญี่ปุ่น)

ขั้นตอนโดยคร่าว ๆ ส่วนใหญ่(ถ้าสมัครเมมเบอร์ผ่านแล้ว) ก็จะเป็น
-    เลือกวันที่จะไป (อีเวนท์ที่ไปนี้จัดสองวัน และจองทีเดียวสองวันไม่ได้ต้องแยกจอง)
-    เลือกประเภทตั๋ว (ใกล้-ไกล ถูก-แพง) ใส่จำนวนคน (เท่าที่เห็นคือจองได้ครั้งละไม่เกิน 4 คน)
-    เลือกวิธีจ่ายเงิน ยังไม่ได้ลองบัตรเครดิต แต่ที่แน่ ๆ คือบัตรเดบิตจ่ายไม่ได้ สุดท้ายเลยต้องเลือกจ่ายโดยร้านสะดวกซื้อ แล้วไปไหว้วานเพื่อนให้มาจ่ายให้
-    เลือกวิธีรับตั๋ว (ส่งบ้านหรือรับที่คอมบินี) เราเลือกรับที่คอมบินีแล้วให้เพื่อนที่จ่ายตังค์ให้นั่นแหละไปรับให้
ค่าตั๋วติ่ง 2 วัน ประมาณ 5600 บาท (7000เยน*2วัน +ค่าธรรมเนียมบลา ๆ )


ขั้นสอง กำหนดวัน
กำหนดว่าจะไปวันไหน กลับวันไหน แค่คร่าว ๆ ก่อน เพื่อจะได้ไปยังขั้นตอนถัดไปได้ ส่วนตัวไปแปดวัน ตั้งแต่ 30 พฤษภา - 7มิถุนาที่ผ่านมา


ขั้นสาม จองตั๋วเครื่องบิน
พอกำหนดวันได้แล้วก็เลือกสายการบินที่ชอบได้เลย ส่วนตัวชอบบินตรง เพราะไม่อยากต่อเครื่อง เรื่องมาก ขี้เกียจ(สาเหตุหลักอยู่ข้างหลัง) เลยเลือกบินกับ AAA ที่เป็นสายการบินบินตรงของH.I.S. ราคาไปกลับสองหมื่นทอน10บาท ถ้าได้โปร และวันไปหรือกลับไม่ใช่เสาร์อาทิตย์จะถูกกว่านี้ ปัจจุบันบินตรงของสายการบินนี้ไม่มีแล้ว เหลือแต่แบบแวะเขมร

ขั้นสี่  จองโรงแรม
ส่วนตัวใช้ rakuten travel เป็นหลัก เพราะได้ภาษาญี่ปุ่นอยู่แล้ว และพอลองเทียบกับ booking หรือ agoda ดูแล้วพบว่า rakuten มีโรงแรมให้เลือกมากกว่า
เนื่องจากทางนี้ไปกันสามคน เลยหาห้องค่อนข้างยาก booking กับ agoda ไม่ตอบโจทย์เรา เพราะไม่ค่อยมีห้องสามคนให้เลือก และไม่ค่อยชอบโฮสเทล คือเป็นพวกโลกส่วนตัวสูงมาก และสำคัญคือไม่ชอบห้องน้ำรวม
โรงแรมที่จองไปมี 3 ที่ super hotel kannai , lumiere kasai ,narita tobu สองที่แรกมีอาหารเช้าให้ ส่วนที่สุดท้ายไม่มีอาหารเช้า

เลือกโรงแรมที่แรกโดยเน้นที่ราคาและการเดินทางเป็นหลัก คือต้องอยู่ในระดับที่รับได้ และต้องเดินทางสะดวก รวมถึงความชอบส่วนตัว เพราะเคยพักที่โรงแรมเครือเดียวกันนี้มาก่อน เลยตัดสินใจเลือกที่นี่ พักทั้งหมดห้าคืน ราคาเนื่องจากพักหลายคืน และแต่ละคืนไม่เท่ากัน ทำให้จำราคาที่แน่นอนไม่ได้ แต่ถูกสุดอยู่ที่ 2600 กว่าเยน และแพงสุดอยู่ที่ 7000 กว่าเยน(คืนที่แพงที่สุดก็คือคืนที่มีอีเวนท์นั่นแหละ)

ส่วนที่ที่สองนี่เพราะถูกเป็นหลัก คืนละ 2000 เยนเท่านั้น พักสองคืน


สภาพห้องไม่น่ามองเท่าไร เพราะถ่ายตอนจะออก

ที่สุดท้ายเลือกเพราะกลัวเดินทางมาสนามบินไม่ทันเช็คอิน ราคามาตรฐานคืนละ 3500 เยน พักหนึ่งคืน


จองห้องทวิน บอกว่าจะนอนสามคน แต่เขาให้มา4 เตียง.... (เตียงคู่ 2 เตียงเดี่ยว 2 รวมแล้วห้องนี้สามารถนอนได้ 6 คน)

ขั้นห้า ทำแผนละเอียด
พูดไปงั้นแหละ สุดท้ายก็แค่บอกว่าวันไหนจะไปไหนบ้างเท่านั้นเอง แล้วแถมสุดท้ายก็ไม่ได้เป็นไปตามแผนเท่าไรด้วย แต่แนะนำให้ทำเป็นตารางเอกเซลไว้ จะได้รู้ลำดับคร่าว ๆ  กับค่าใช้จ่ายคงที่ (ค่าโรงแรม ค่ารถ เป็นต้น) หาไว้ให้ครบว่าสามารถเดินทางจากที่พักไปจุดหมาย จากที่เที่ยวกลับที่พักได้อย่างไร ราคาเท่าไร เราทำไว้ แต่ไม่ได้ใช้อ้างอิงเลย เพราะเราเคยอยู่ญี่ปุ่นมาก่อน รู้ขั้นตอนดี และรู้วิธีเช็คถ้าเกิดฉุกละหุก

ขั้นหก เตรียมสัมภาระ
สิ่งที่แนะนำให้เตรียมไป
-    ปลั๊กพ่วง จำเป็นมากถ้าไปกันหลายคน โรงแรมที่ญี่ปุ่นมีปลั๊กน้อยมาก แถมเป็นปลั๊กหัวแบน อาจจะใช้กับปลั๊กไทยไม่ได้ ควรเตรียมปลั๊กพ่วงไว้ด้วย เพื่อชีวิตที่ดีกว่านะ
-    ยา แก้ไข้ ปวดหัว ตัวร้อน แก้อักเสบ บลา ๆ  สารพัดเท่าที่จะคิดออก จำเป็นมาก เพราะเราไม่รู้ว่าเราจะป่วยหรือไม่ ถ้าป่วยแล้วไม่มียาก็ลำบากอีก เพราะงั้นเอาไปเถอะ
-    ร่ม พกไว้ดีกว่าไปหาซื้อฉุกละหุก ใครจะไปรู้ ฝนอาจจะตกตอนเราอยู่บนรถเมล์ก็ได้ มีไว้อุ่นใจกว่า
-    อินเตอร์เน็ต อันนี้แล้วแต่ชอบ จะเป็นซิม b-mobile หรือพ็อกเก็ตไวไฟก็ได้ แล้วแต่ว่าไปกี่คน ถ้าไปคนเดียวหรือ 2 คน ซื้อซิมน่าจะคุ้มค่า แต่ถ้าไปหลายคน แถมแต่ละคนมีธุรกิจยิ่งใหญ่ต้องใช้เน็ตตลอดเวลา พ็อกเก็ตไวไฟก็เป็นทางเลือกที่ดีกว่า
-    ถุงกันน้ำ อันนี้แค่เพิ่มเป็นทางเลือก สำหรับคนที่คิดว่าไปแล้วจะเจอฝน ไว้สำหรับใส่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั้งหลาย เผื่อเวลาเจอฝนไม่คาดฝันจะได้ไม่เปียก
-    สัมภาระอื่น ๆ  จัดกระเป๋าตามใจชอบ แต่แนะนำให้เอาของไปน้อย ๆ  เหลือที่ว่างเยอะ ๆ ดีกว่า เพราะไปติ่ง รับรองว่ายังไงก็ต้องซื้อของกลับมาอยู่แล้ว
อื่น ๆ
-    ชุดนอน โดยทั่วไปโรงแรมญี่ปุ่นจะมีให้ แต่บางที่จะเป็นยูกาตะ ค่อนข้างใส่ยาก ถ้าไม่ชอบก็เตรียมไปเองก็ได้
-    ผ้าขนหนู สบู่ แชมพู แปรงสีฟัน ยาสีฟัน ไม่ต้องเตรียมไปก็ได้ โรงแรมมีให้เช่นกัน
-    พกเสื้อผ้าไปน้อย ๆ  แล้วซักผ้าเอาก็เป็นวิธีการประหยัดที่ที่ดี แต่ต้องคำนวณด้วยว่าผ้าจะแห้งทันหรือไม่ (อบผ้าแล้วมันก็ไม่ค่อยแห้งเท่าไรหรอก)

ขั้นสุดท้าย เตรียมลางาน
จะเอาข้ออ้างอะไรไปอ้างหัวหน้าว่าตัวเองจะไปติ่งแต่ไม่ถูกเพ่งเล็งก็รีบหาเตรียมลาไว้เลย ก่อนที่จะมีคนอื่นมาชิงลาก่อนแล้วทำให้เราลาไม่ได้


วันที่1
พอเตรียมตัวเสร็จแล้วก็ได้เวลาบิน อย่างที่บอกไป เราบินด้วยสายการบิน AAA เที่ยวบิน HB088 จากสุวรรณภูมิถึงนาริตะเรื่องมันเกิดตั้งแต่เริ่มบินนี่แหละ คือเราสภาพไม่ค่อยดีอยู่แล้ว บวกกับในเครื่องบินอากาศแห้งมาก แล้วเราเป็นพวกแพ้อากาศแห้ง ดังนั้น พอลงเครื่องปุ๊บ ก็เกิดอาการเจ็บคอ หวัดกินกันในทันทีแต่เรามาติ่ง ไม่มียั่นอยู่แล้ว

พอลงเครื่อง ก็จัดการซื้อตั๋วนาริตะเอ็กเพรสเข้าเมือง ที่มีโปรโมชั่น ขาเข้า+โชว์พาสปอร์ต เหลือเที่ยวละ 1,500 เยน (ข้อมูลจากพันทิป) เพื่อไปลงสถานีคันไนทันทีหลังจากนั้นเราก็เอากระเป๋าไปฝากที่โรงแรม แล้วเริ่มเดินเตร็ดเตร่ในเมืองรอเพื่อนที่เรียนอยู่ที่ญี่ปุ่นเลิก เพื่อมันจะได้เอาตั๋วอีเวนท์มาให้เรา (เป้าหมายชีวิตของวันแรก) พอมันมา ค่อยเดินไปหาอะไรกินในไชน่าทาวน์(อยู่ข้าง ๆ โรงแรม) แล้วเลยไปโยโกฮาม่า เดินเข้าบุ๊คออฟ (อยู่ในนั้นนานมาก) บิ๊กคาเมร่า (อยู่ตึกเดียวกัน) หาอะไรกินมื้อเย็น แล้วเดินไปอนิเมทกับลาชินบัง (อยู่คนละฟากของสถานี)

ตั๋วของอีเวนท์ 2 วัน

วันที่2
พอเข้าวันที่สอง ซึ่งเป็นวันที่มีอีเวนท์วันแรก พอกินข้าวเช้าที่โรงแรมเสร็จ พวกเราก็บึ่งไปโยโกฮามาก่อน เพื่อฆ่าเวลา เพราะอีเวนท์เริ่มบ่ายสาม ก่อนจะพบว่าตัวเองคิดผิด เพราะพอเรามาถึงที่โยโกฮาม่าอารีน่าตอนช่วงเที่ยง ๆ  เราก็พบว่า แถวซื้อของ(บุปปัง) ยาวล้นออกมาถึงบนสะพานลอย

แล้วเราตัดสินใจไปต่อแถวกินข้าวก่อน โดยเป็นข้าวแกงกะหรี่คนละจาน ส่วนเพื่อนกับน้องเพื่อนสั่งขนมและเครื่องดื่มด้วย (ไอ้มนุษย์เจ็บคอไข้ขึ้นก็ได้แต่มองเขากิน)


รูปอาหาร


      
อันแรกสุดเป็นแพมเฟลต ส่วนที่เหลือเป็นของแถมจากอาหาร

พอกินอิ่ม (และได้ของแถมลายอีเวนท์) แล้ว เราจึงไปต่อแถวบุปปัง ซึ่ง แถวไม่ได้สั้นลงเท่าไรเลยเราต่อแถวตั้งแต่ประมาณบ่ายโมง จนประมาณบ่ายสามโมงถึงจะได้เข้าไปซื้อของ ระหว่างนั้นก็ได้ยินเสียงพนักงานประกาศว่า ของชิ้นนั้นชิ้นนี้หมดแล้วไปตลอดทางหลังจากซื้อของได้โดยสวัสดิภาพ (โดยที่ของที่ต้องการหมดไปบ้างหลายชิ้น) ก็ไปต่อแถวเข้าฮอลล์ แล้วเตรียมตัวดูอีเวนท์ได้




สภาพแถว นี่คือเข้ามาในเขตที่ซื้อแล้ว ความจริงมันยาวเหยียดกว่านี่มาก แต่ไม่ได้ถ่ายไว้

เนื่องจากมัวแต่ต่อแถวบุปปัง เลยเข้ามาฟังเสียงประกาศอันแรกสุดไม่ทัน พอเข้ามาปุ๊บก็กลายเป็นว่ากำลังเปิดเพลง Key to My Heart (ToD2) อยู่ซะแล้ว พอเพลงจบก็เป็นประกาศช่วงที่สอง (สตัน+รูตี้ ปลอบรูตี้ไม่ให้ตื่นเต้นที่มาอีเวนท์ครั้งแรกเสียงสั่น ๆ ) แล้วหลังจากนั้นก็เริ่มอีเวนท์เอาจริง ๆ ก็จำเนื้อหาอีเวนท์ไม่ค่อยได้แล้ว จำได้แค่ว่าสนุกมาก

วันแรกคนที่มามีแต่คนเก่า อย่าง เคลส มินต์ ดาออส สตัน รูตี้ ลีออน แล้วค่อยเป็นขาประจำอย่าง ลอยด์ เซลอส(พิธีกร) ยูริ ส่วนหน้าใหม่ก็จะเป็นอันจุ (ผู้ช่วยพิธีกร) ลุดก้า กับยูริอุส

สคิทวันแรกเนื้อหาค่อนข้างจริงจัง (?) เกี่ยวกับการปราบดาออสของเคลส จนทำให้เกิดเรื่องยุ่งยากอย่างมิติบิดเบือน แต่ก็รั่วตามสไตล์

ช่วงทอล์กเป็นแรงกิ้งคู่หูที่จัดอันดับในเทลส์แมกกาซีน หลังจากนั้นก็ประกาศความเคลื่อนไหวของ ToZ เปิดตัว PV ใหม่ ระบบใหม่ และตัวอย่างสคิทหนึ่งอัน (อลิช่า+มิคุลิโอ มุ้งมิ้งมาก) มินิคอนเสิร์ตของ misono ที่สนุกกว่าที่คิดไว้ แล้วก็จบอีเวนท์ด้วยการประกาศครั้งสุดท้าย (ลุดก้า+ยูริอุส)

ข้อความเต็ม ต่อเม้นแรกน้อ
ชื่อสินค้า:   Tales of Festival 2014
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่