กระทู้นี้ผมเขียนแชร์ประสบการณ์และความรู้สึก ในฐานะผู้เริ่มลงทุนในหุ้นนะครับ
วันนี้ set ปรับลงตอนใกล้เที่ยง แดง เกือบยกกระดาน สำหรับ BBL ที่ผมถืออยู่ด้วยต้นทุน 199.75 ได้มาด้วยความไม่ได้ตั้งใจ ตั้งแต่วัน 4 ก.ค 57
บัวหลวงดอกนี้ค่อยๆ โผล่พ้นน้ำทีละนิด จนถึงวันที่14/07/2557 ดอกบัวชูช่อเบ่งบานพ้นน้ำที่ 204.00 ในวันนั้นผมกำลังจะขายอยู่แล้ว แต่ผมก็พลาดตัดสินใจช้าไปนิด ตกบ่ายและมันก็ร่วงพรวดๆ มาเรื่อยๆตลอดทั้งสับดาห์ เล่นทำเอาผมเครียดเลย จึงได้เข้ามาตั้งกระทู้ถามที่ห้องสินธรแห่งนี้ก็ได้รับคำแนะนำดีๆ ไปเยอะ
และต่อมาคือสัปดาห์ที่แล้วตั้งแต่วันจันทร์-ศุกร์ ผมเฝ้าหน้าจอ ลุ้นให้มันขึ้นๆ แต่ราคาหุ้น BBL มันก็ร่วงไปเรื่อยๆ ทุกวันจนถึงศุกร์ที่แล้วเหลือ 195.5 บาท ( ในขณะหุ้นแบงค์อื่นขึ้นเอาๆ) เป็นอะไรที่เศร้ามากๆและแอบเครียด สำหรับมือใหม่เล่นหุ้นอย่างผม
ช่วงวันหยุดวันเสาร์อาทิตย์ ผมก็ทำการทบทวนตัวเองใหม่ว่า เราสร้างความทุกข์ให้ตัวเองทำไม? สร้างความทุกข์จากการขึ้นลงของหุ้นเพื่ออะไร?
ผมเลยเปลี่ยน Mindset ในการเล่นหุ้นใหม่ว่า " เราถือหุ้น อย่าให้หุ้นถือ(ใจ)เรา" ผมคิดว่าหุ้นที่ผมถืออยู่ก็อยู่ในระดับเกรด บลูชิพ เมื่อมันลงได้ มันก็ต้องขึ้นได้ และต้องรู้จักปล่อยวาง ถ้าหุ้นมันลงเกิน 94 บาทก็ตัดขาดทุนไปก็เท่านั้นถือว่าซื้อบทเรียน
พอเริ่มต้นสัปดาห์ใหม่ สัปดาห์นี้ตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันนี้ ผมไม่ได้เฝ้าดูหุ้น BBL ที่หน้าจอ แบบทั้งวันอีกแล้ว ตลาดเปิดดู 1 ครั้ง ตลาดปิดก็ดูอีก 1 ครั้ง
สำหรับเย็นวันนี้ มาเปิดดูโอ้โห้ไม่น่าเชื่อ หุ้นBBL มันปิดที่ 199.50 เขียว เฉยเลยในขณะที่หุ้นบนกระดานตัวอื่นๆ ในset ส่วนใหญ่แดง
ตอนนี้ผมเริ่มเห็น เริ่มสัมผัสได้ เริ่มเข้าถึงคำว่า "จิตวิทยาการลงทุน" ลำพังแค่อ่านหนังสือสอนเล่นหุ้น มันก็แค่เพียงเข้าใจเท่านั้นเอง แต่ถ้าไม่ได้มาเล่นด้วยเงินจริงๆ ไม่ได้มาสัมผัสตลาดหุ้นด้วยตัวเองจริงๆ ทักษะหรือภูมิต้านทาน มันก็จะไม่เกิดจริงๆครับ
สุดท้ายนี้ผมก็ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น กับหุ้น BBL ที่ผมถืออยู่ก็ตาม แต่ตอนนี้ผมก็รู้สึกดีใจที่ได้ประสบการณ์ในตลาดหุ้น และได้พบกับมิตรภาพที่ดีๆในห้องสินธร แห่งนี้ที่มีเพื่อนๆพี่ๆให้คอย คอมเม้นท์ คำแนะนำเสมอเวลาที่ผมตั้งกระทู้ถาม ( ผมตั้งกระทู้ถามเกี่ยวหุ้น BBL ตัวนี้มา 2 ครั้งแล้วครับ)
ผมขออวยพรให้ทุกท่านเป็นเศรษฐีเงินล้านจากการลงทุนทุกๆคนเลยนะครับ
ป.ล กระทู้นี้ผมเขียนแชร์ความรู้สึก ในฐานะมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มลงทุนในหุ้นนะครับ หากท่านใดมองว่าไร้สาระ ผมก็ขออภัย
BBL บัวหลวงที่โผล่พ้นน้ำท่ามกลางวันแดงเดือด
วันนี้ set ปรับลงตอนใกล้เที่ยง แดง เกือบยกกระดาน สำหรับ BBL ที่ผมถืออยู่ด้วยต้นทุน 199.75 ได้มาด้วยความไม่ได้ตั้งใจ ตั้งแต่วัน 4 ก.ค 57
บัวหลวงดอกนี้ค่อยๆ โผล่พ้นน้ำทีละนิด จนถึงวันที่14/07/2557 ดอกบัวชูช่อเบ่งบานพ้นน้ำที่ 204.00 ในวันนั้นผมกำลังจะขายอยู่แล้ว แต่ผมก็พลาดตัดสินใจช้าไปนิด ตกบ่ายและมันก็ร่วงพรวดๆ มาเรื่อยๆตลอดทั้งสับดาห์ เล่นทำเอาผมเครียดเลย จึงได้เข้ามาตั้งกระทู้ถามที่ห้องสินธรแห่งนี้ก็ได้รับคำแนะนำดีๆ ไปเยอะ
และต่อมาคือสัปดาห์ที่แล้วตั้งแต่วันจันทร์-ศุกร์ ผมเฝ้าหน้าจอ ลุ้นให้มันขึ้นๆ แต่ราคาหุ้น BBL มันก็ร่วงไปเรื่อยๆ ทุกวันจนถึงศุกร์ที่แล้วเหลือ 195.5 บาท ( ในขณะหุ้นแบงค์อื่นขึ้นเอาๆ) เป็นอะไรที่เศร้ามากๆและแอบเครียด สำหรับมือใหม่เล่นหุ้นอย่างผม
ช่วงวันหยุดวันเสาร์อาทิตย์ ผมก็ทำการทบทวนตัวเองใหม่ว่า เราสร้างความทุกข์ให้ตัวเองทำไม? สร้างความทุกข์จากการขึ้นลงของหุ้นเพื่ออะไร?
ผมเลยเปลี่ยน Mindset ในการเล่นหุ้นใหม่ว่า " เราถือหุ้น อย่าให้หุ้นถือ(ใจ)เรา" ผมคิดว่าหุ้นที่ผมถืออยู่ก็อยู่ในระดับเกรด บลูชิพ เมื่อมันลงได้ มันก็ต้องขึ้นได้ และต้องรู้จักปล่อยวาง ถ้าหุ้นมันลงเกิน 94 บาทก็ตัดขาดทุนไปก็เท่านั้นถือว่าซื้อบทเรียน
พอเริ่มต้นสัปดาห์ใหม่ สัปดาห์นี้ตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันนี้ ผมไม่ได้เฝ้าดูหุ้น BBL ที่หน้าจอ แบบทั้งวันอีกแล้ว ตลาดเปิดดู 1 ครั้ง ตลาดปิดก็ดูอีก 1 ครั้ง
สำหรับเย็นวันนี้ มาเปิดดูโอ้โห้ไม่น่าเชื่อ หุ้นBBL มันปิดที่ 199.50 เขียว เฉยเลยในขณะที่หุ้นบนกระดานตัวอื่นๆ ในset ส่วนใหญ่แดง
ตอนนี้ผมเริ่มเห็น เริ่มสัมผัสได้ เริ่มเข้าถึงคำว่า "จิตวิทยาการลงทุน" ลำพังแค่อ่านหนังสือสอนเล่นหุ้น มันก็แค่เพียงเข้าใจเท่านั้นเอง แต่ถ้าไม่ได้มาเล่นด้วยเงินจริงๆ ไม่ได้มาสัมผัสตลาดหุ้นด้วยตัวเองจริงๆ ทักษะหรือภูมิต้านทาน มันก็จะไม่เกิดจริงๆครับ
สุดท้ายนี้ผมก็ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น กับหุ้น BBL ที่ผมถืออยู่ก็ตาม แต่ตอนนี้ผมก็รู้สึกดีใจที่ได้ประสบการณ์ในตลาดหุ้น และได้พบกับมิตรภาพที่ดีๆในห้องสินธร แห่งนี้ที่มีเพื่อนๆพี่ๆให้คอย คอมเม้นท์ คำแนะนำเสมอเวลาที่ผมตั้งกระทู้ถาม ( ผมตั้งกระทู้ถามเกี่ยวหุ้น BBL ตัวนี้มา 2 ครั้งแล้วครับ)
ผมขออวยพรให้ทุกท่านเป็นเศรษฐีเงินล้านจากการลงทุนทุกๆคนเลยนะครับ
ป.ล กระทู้นี้ผมเขียนแชร์ความรู้สึก ในฐานะมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มลงทุนในหุ้นนะครับ หากท่านใดมองว่าไร้สาระ ผมก็ขออภัย