คิดถุงจังเลย....ทูลหัวของบ่าววววว

พ่อคนดีศรีสยาม
พ่อคนเก่งชองชาติบ้านเมือง
พ่อนักการเมืองยุคใหม่
พ่อคนจบออคฟอร์ด
พ่อคนสองสัญขาติ
พ่อคนดีที่หนีทหาร
พ่อคนเทพเป็นนายกแม้นจะไม่เคยชนะเลือกตั้ง

พ่อรูปหล่อแขนเดี้ยงขวัญใจสาวแก่แม่หม้ายแห่งสยามประเทศ


ตอนนี้นู๋อยู่หนายยยย...

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ข้อความนี้เป็นบทคัดลอกจาก ข้อเขียนของ  นาย อภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ  ที่เขียนไว้ในพื้นที่สาธารณะ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
: รัฐรรมนูญชั่วคราวและการนิรโทษกรรม

อีกเพียง ๑ วันก็จะครบ ๒ เดือนนับตั้งแต่ที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
ได้เข้าควบคุมอำนาจการปกครองประเทศ โดย คสช. ได้แบ่งขั้นตอนการบริหาร (Roadmap) ออกเป็น ๓ ระยะ
โดยขณะนี้เป็นที่คาดหมายว่าจะมีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว
ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของการดำเนินการในระยะที่ ๒

สองเดือนที่ผ่านมา ต้องถือว่าคสช.ประสบความสำเร็จในการนำบ้านเมืองกลับเข้าสู่ความสงบ
มีการจับกุมดำเนินคดีกับผู้ก่อความรุนแรง ผู้ครอบครองอาวุธสงคราม มีการเร่งรัดแก้ไขปัญหาที่ค้างคา เช่น
การจ่ายเงินในโครงการจำนำข้าว สิ่งเหล่านี้เป็นความแตกต่างที่เป็นรูปธรรมจากสภาพบ้านเมืองก่อนการยึดอำนาจ
ทำให้ผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนบ่งบอกว่าสังคมมีความพึงพอใจกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น

อย่างไรก็ตาม การรัฐประหารก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงการเผชิญความจริงได้ว่า
การทำให้ระบอบประชาธิปไตยสะดุดหยุดลง รวมถึงการลิดรอนสิทธิเสรีภาพ
แม้ว่าจะทำด้วยเจตนาให้เกิดความสงบ ทำให้ คสช. ต้องพบกับแรงกดดันทั้งจากในและต่างประเทศ
ให้มีความชัดเจนว่าจะกลับเข้าสู่กระบวนการประชาธิปไตยในภาวะปกติเมื่อใดและอย่างไร
หากไม่นับบางกลุ่มที่สูญเสียอำนาจ และเคลื่อนไหวแสดงการต่อต้านอย่างเปิดเผย
ต้องถือว่าสังคมไทยให้โอกาส คสช. ในการทำงานอย่างเต็มที่
แต่ไม่ได้หมายความว่าจะพึงพอใจให้ คสช. ใช้อำนาจอย่างเช่นในปัจจุบันตลอดไป

สิ่งที่สังคมไทยคาดหวังที่จะเห็นต่อไป คือ “การปฏิรูปประเทศ” เพื่อให้ระบบการเมือง
เศรษฐกิจและสังคมของไทยมีความโปร่งใส เป็นธรรม และมีประสิทธิภาพ
การจะบรรลุเป้าหมายดังกล่าว และนำไปสู่การคืนอำนาจให้แก่ประชาชน จึงมีความคาดหมายว่า
สภาพการจำกัดสิทธิเสรีภาพต่างๆ จะค่อยๆ ถูกผ่อนคลายลง
และเมื่อเข้าสู่ขั้นตอนการมีรัฐบาลและสภานิติบัญญัติ รวมทั้งสภาปฏิรูป การแสดงความคิดเห็นต่างๆ โดยสุจริต
จะสามารถกระทำได้มากขึ้นเพื่อสนับสนุนกระบวนการปฏิรูป โดยมองว่า
หากจะต้องมีการใช้อำนาจโดย คสช. ก็น่าจะเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการรักษาความสงบ
และชำระสะสางความไม่ถูกต้องทั้งหลาย ตั้งแต่ระดับเล็กๆ เช่น ปัญหาอิทธิพลรถตู้ วินมอเตอร์ไซค์ จนถึงการทุจริตระดับชาติ

สำหรับประเด็นการบริหารโดยทั่วไปก็ดี หรือการออกคำสั่งหรือประกาศก็ดี
ย่อมมีคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ซึ่งคนที่ไม่เห็นด้วย ไม่ได้หมายความว่าต้องการสร้างปัญหาให้กับบ้านเมือง
หลายคนเป็นบุคคลที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจจะเห็นการปฏิรูปประเทศประสบความสำเร็จ
ซึ่งคนเหล่านี้ควรมีสิทธิที่จะได้นำเสนอมุมมองอย่างตรงไปตรงมา ผมก็ตั้งใจทำหน้าที่นี้ และขณะนี้
มีหลายประเด็นที่น่าห่วงใย โดยเฉพาะการดำเนินการของ คสช. ที่อาจจะไม่เป็นไปตามความคาดหวังของประชาชน
โดยจะทยอยนำเสนอเป็นประเด็นๆ ต่อไป โดยเฉพาะประกาศและคำสั่งที่ออกมานั้นมีสถานะเป็นกฎหมาย
หากไม่มีการแก้ไข หลายกรณีจะต้องไปใช้สภานิติบัญญัติ หรือรัฐสภาในอนาคตเปลี่ยนแปลง ซึ่งจะเป็นเรื่องยุ่งยาก

ผมมองว่าปัญหาพื้นฐานประการหนึ่งคือ คสช. ให้น้ำหนักกับประเด็นความแตกแยก
ดังที่ประกาศไว้ในวันยึดอำนาจ โดยมองข้ามมิติปัญหาอื่นๆ จึงตกอยู่ในกับดักว่าจะไม่อนุญาตให้มีการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างเลย
และหวังว่าสภาพการณ์แบบนี้ จะสามารถนำไปสู่ความสามัคคีปรองดองในทุกระดับได้
โดยไม่ต้องสนใจประเด็นความถูกผิดของการกระทำต่างๆ ที่นำบ้านเมืองมาสู่วิกฤต

ความสงบที่เกิดขึ้นในปัจจุบันจะมีความยั่งยืนหรือไม่
ต้องพิสูจน์กันในภาวะที่ไม่มีการจำกัดสิทธิในการแสดงความคิดเห็นและเคลื่อนไหว แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไป
หากสังคมเห็นว่าการไม่ชำระสะสางปัญหาระบบนิติรัฐนิติธรรมให้เกิดขึ้น
หรือการทำงานของคสช.ต้องอยู่เหนือการวิพากษ์วิจารณ์โดยสิ้นเชิง ก็จะเกิดการสะสมแรงกดดัน
และสุดท้ายไม่อาจนำไปสู่ความสงบหรือความปรองดองสมานฉันท์ได้

สำหรับรัฐธรรมนูญชั่วคราวที่จะออกมานั้น
ผมไม่ได้มีความคาดหวังอะไรมากนักเกี่ยวกับโครงสร้างครม. สภานิติบัญญัติ หรือสภาปฏิรูป
เพราะทางเลือกของคสช.คงมีไม่มากนัก แต่สิ่งที่จะต้องจับตามอง คือในรัฐธรรมนูญฉบับนี้
หรือกฎหมายที่จะออกต่อไป คงหนีไม่พ้นที่จะมีบทบัญญัตินิรโทษกรรมให้ คสช. เอง
ซึ่งเป็นแนวปฏิบัติโดยทั่วไปเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงนอกรัฐธรรมนูญ ซึ่งแม้ว่าจะเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง
แต่เป็นสภาพความเป็นจริงที่สังคมไทยยอมรับมาโดยตลอด แต่ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า
การนิรโทษกรรมนี้จะไม่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ไปถึงการกระทำในความผิดอื่น ซึ่งจำเป็นต้องชำระสะสางในกระบวนการยุติธรรมตามกฎหมายต่อไป
เพราะหากมีบทบัญญัติในลักษณะดังกล่าว ความยุ่งยากวุ่นวายในประเทศคงจะเริ่มต้นขึ้นอย่างแน่นอน
เพราะต้องไม่ลืมว่าวิกฤตการเมืองที่เกิดขึ้นครั้งหลังนี้มีจุดเริ่มต้นมาจากการที่ประชาชนเกือบทั้งหมดของประเทศ
ต่อต้านแนวความคิดการล้างผิดกับการกระทำ เช่น การทุจริตคอร์รัปชั่น หรือการใช้ความรุนแรงต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน

สำหรับประเด็นปัญหาการปฏิรูปประเทศด้านอื่นๆ ขอยกยอดเป็นวันหลังครับ

อภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ

==============================================================

โอวววว เยสสส  ทูลหัวของบ่าว
สมองช่างจัดจ้านยิ่งนัก  คิดอ่านฉลาดปราชเปรื่อง
ชื่นชม คมช  แล้วหัวหัวนิด ๆ
แถมพูดเอาหล่อ  เข้าข้างตัวเอง
แอบเนียนพูดถึงเสรีภาพเอาใจคนหัวใจเสรีซะด้วย

แหม๊... ยังเนียนเช่นเดิมนะ  ทูลหัวของบ่าววว
อ่อ...ล้างตูดรอนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีได้เลยนะจ๊ะพ่อทูลหัว
เลือกตั้งคราหน้า  ทูลหัวของบ่าวจะชนะถล่มทลายจ่ะ

เพราะ ร.ธ.น ฉบับปี 2558 นั้น
ในมาตรา 8 ข้อ 3 วรรค 4
เค้าจะระบุไว้ว่าห้ามคนนามสกุล ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี

และยังมีข้อ 5 วรรค 2 ด้วยว่า ห้ามคนนามสกุล ชินวัตร ลงสมัครรับเลือกตั้ง

อ้อ..ยังมีในมาตราเดียวกันนี้ ในข้อ 9 วรรค 6 ด้วยครับว่า  
ต่อแต่นี้ไป ห้ามประเทศนี้มี นายกรัฐมนตรีเป็นเพศหญิง ที่ชื่อ ยิ่งลักษณ์
และแถมในววคสุดท้ายด้วยครับว่า...
ห้ามบุคคลที่มีเค้ารูปหน้าเป็น 4 เหลี่ยมเป็นนายกรัฐมนตรีของสารขันฑ์แลนด์นี้ด้วยจร้า


งั้น นู๋มาร์ค ทูลหัวของบ่าวว ..ล้างตรูดรอได้เล้ยยยยยย ฮริ้วววววว...


*****************
ป.ล อย่าแบนล๊อคอินนี้ของนู๋น๊าาา...นู๋สมัครมาเล่นแค่ทายผลบอลจร้า
( น้าเจค  ลำปาง )


..
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่