มีโอกาสพาครอบครัวไปเที่ยวอำเภอสองพี่น้อง สุพรรณบุรี
เป็นบ้านของป้า พี่สาวคนโตของคุณแม่
ไปอยู่บ่อยๆ เพราะพ่อชอบไปหากินปลาม้าแถบนั้น
เป็นปลาที่หาทานค่อนข้างยาก อีกทั้งยังมีปลาชะโดตัวโตๆ
เด็กรุ่นใหม่ไม่เคยเห็นแน่ๆ
...............
...............
แต่ครั้งนี้พิเศษกว่าทุกครั้ง เพราะโอกาสแบบนี้มีแค่ปีละครั้งเท่านั้น
คือเป็นวันฉลองวัดของชุมชนคาทอลิคที่นั่น
ผู้คนมากหน้าหลายตา มาจากทุกสารทิศ
เพื่อร่วมเป็นกำลังใจให้กับชาวชุมชนที่นั่น
...............
...............
ในอดีต ชาวคาทอลิคจะอาศัยอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม
อยู่กันทั่วไป ทั่วประเทศ ซึ่งแต่ละกลุ่มก็จะมีวัดหรือโบสถ์เป็นศูนย์กลาง
มีโรงเรียนอยู่ข้างๆวัด
บ้าน วัด โรงเรียน หรือที่เรียกว่า บวร นั่นแหละครับ
...............
...............
แต่ละชุมชนก็จะมีวันฉลองวัดเป็นประจำทุกๆปี แต่แท้จริงแล้วก็คือการฉลองชุมชนนั่นแหละ
ซึ่งชุมชนคาทอลิคในที่ต่างๆก็จะมาร่วมฉลองด้วยกันจนเป็นประเพณี
มากบ้าง น้อยบ้าง ขึ้นอยู่กับระยะทางและความสะดวก
ญาติพี่น้องที่ออกไปหางานทำยังต่างถิ่น ก็จะได้กลับมาพบเจอกันในวันนี้



ส่วนใหญ่ในงานฉลองวัดแบบนี้ ผมจะไม่ค่อยเข้าร่วมพิธีหรอกครับ
แต่จะหาเวลาเดินเล่น ดูของหลากหลายที่มีพ่อค้าแม่ขายนำมาเสนอ
แต่จะสนองหรือไม่ ขึ้นอยู่กับความพอใจของเรา
สำหรับวัดแห่งนี้อยู่ริมน้ำ จึงพาลูกชายมานั่งสูดโอโซนบริสุทธิ์ดีกว่า




พอพิธีการจบสิ้นก็ถึงเวลาฉลองในครอบครัว เครือญาติแล้วครับ
ผมขับรถกลับไปบ้านพี่ชาย ซึ่งเป็นลูกชายคนโตของป้า
ส่วนลูกชายกับภรรยาก็นั่งเรือหางยาวแทนการนั่งรถ
เพื่อไปที่บ้านของป้า ที่อยู่ริมน้ำเช่นกัน โดยเดินทางด้วยเรือใช้เวลาเร็วกว่ารถนะครับ
เพราะรถนั้นต้องขับอ้อมแม่น้ำไปข้ามสะพานอีกที
โดยมีพนักงานกิตติมศักดิ์ขับเรือให้
ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอกครับ...เจ้าของโรงกลึงที่ผมชอบไปรบกวนอยู่บ่อยๆนั่นเอง!!!

ส่วนรถคันนี้มันจอดอยู่เฉยๆในบ้านเจ้าของโรงกลึงมาหลายสิบปีแล้ว
ขอตื้ออยู่ตลอด แต่เจ้าของไม่ยอมขาย
ไม่รู้จะเก็บเอาไว้ทำซากอะไร!!!

ผมแพลนเอาไว้ว่าถ้าเจ้าของยอมขายให้
จะเอามาทำสี เปลี่ยนเครื่องให้แจ่ม
แล้วสะพายกล้องฟิลม์เก๋าๆออกไปถ่ายรูปกับน้าพี ชายหนุ่มผู้หลงใหลการใช้ชีวิตหลังลูกกรงสแตนเลสวันละแปดชั่วโมง
ให้กระหึ่มประเทศไทย...ไปเลยยยยยยยยย!!!!!!!!!
ฉลองวัด!!!
เป็นบ้านของป้า พี่สาวคนโตของคุณแม่
ไปอยู่บ่อยๆ เพราะพ่อชอบไปหากินปลาม้าแถบนั้น
เป็นปลาที่หาทานค่อนข้างยาก อีกทั้งยังมีปลาชะโดตัวโตๆ
เด็กรุ่นใหม่ไม่เคยเห็นแน่ๆ
...............
...............
แต่ครั้งนี้พิเศษกว่าทุกครั้ง เพราะโอกาสแบบนี้มีแค่ปีละครั้งเท่านั้น
คือเป็นวันฉลองวัดของชุมชนคาทอลิคที่นั่น
ผู้คนมากหน้าหลายตา มาจากทุกสารทิศ
เพื่อร่วมเป็นกำลังใจให้กับชาวชุมชนที่นั่น
...............
...............
ในอดีต ชาวคาทอลิคจะอาศัยอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม
อยู่กันทั่วไป ทั่วประเทศ ซึ่งแต่ละกลุ่มก็จะมีวัดหรือโบสถ์เป็นศูนย์กลาง
มีโรงเรียนอยู่ข้างๆวัด
บ้าน วัด โรงเรียน หรือที่เรียกว่า บวร นั่นแหละครับ
...............
...............
แต่ละชุมชนก็จะมีวันฉลองวัดเป็นประจำทุกๆปี แต่แท้จริงแล้วก็คือการฉลองชุมชนนั่นแหละ
ซึ่งชุมชนคาทอลิคในที่ต่างๆก็จะมาร่วมฉลองด้วยกันจนเป็นประเพณี
มากบ้าง น้อยบ้าง ขึ้นอยู่กับระยะทางและความสะดวก
ญาติพี่น้องที่ออกไปหางานทำยังต่างถิ่น ก็จะได้กลับมาพบเจอกันในวันนี้
ส่วนใหญ่ในงานฉลองวัดแบบนี้ ผมจะไม่ค่อยเข้าร่วมพิธีหรอกครับ
แต่จะหาเวลาเดินเล่น ดูของหลากหลายที่มีพ่อค้าแม่ขายนำมาเสนอ
แต่จะสนองหรือไม่ ขึ้นอยู่กับความพอใจของเรา
สำหรับวัดแห่งนี้อยู่ริมน้ำ จึงพาลูกชายมานั่งสูดโอโซนบริสุทธิ์ดีกว่า
พอพิธีการจบสิ้นก็ถึงเวลาฉลองในครอบครัว เครือญาติแล้วครับ
ผมขับรถกลับไปบ้านพี่ชาย ซึ่งเป็นลูกชายคนโตของป้า
ส่วนลูกชายกับภรรยาก็นั่งเรือหางยาวแทนการนั่งรถ
เพื่อไปที่บ้านของป้า ที่อยู่ริมน้ำเช่นกัน โดยเดินทางด้วยเรือใช้เวลาเร็วกว่ารถนะครับ
เพราะรถนั้นต้องขับอ้อมแม่น้ำไปข้ามสะพานอีกที
โดยมีพนักงานกิตติมศักดิ์ขับเรือให้
ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอกครับ...เจ้าของโรงกลึงที่ผมชอบไปรบกวนอยู่บ่อยๆนั่นเอง!!!
ส่วนรถคันนี้มันจอดอยู่เฉยๆในบ้านเจ้าของโรงกลึงมาหลายสิบปีแล้ว
ขอตื้ออยู่ตลอด แต่เจ้าของไม่ยอมขาย
ไม่รู้จะเก็บเอาไว้ทำซากอะไร!!!
ผมแพลนเอาไว้ว่าถ้าเจ้าของยอมขายให้
จะเอามาทำสี เปลี่ยนเครื่องให้แจ่ม
แล้วสะพายกล้องฟิลม์เก๋าๆออกไปถ่ายรูปกับน้าพี ชายหนุ่มผู้หลงใหลการใช้ชีวิตหลังลูกกรงสแตนเลสวันละแปดชั่วโมง
ให้กระหึ่มประเทศไทย...ไปเลยยยยยยยยย!!!!!!!!!