ตลอด 10 กว่าปีก่อน ผมได้รู้จักผู้ชายที่ชื่อ ชเว ยองซอก ครั้งแรกจากหน้าจอทีวีว่าเขาได้ทำให้กีฬาเทควันโดของไทยได้เหรียญรางวัลจากการแข่งขันโอลิมปิก
ใจผมก็คิดว่าคงคล้ายๆ มวยสากลที่มีโค้ชคิวบา ยกน้ำหนักมีโค้ชจีน หรือแม้แต่ฟุตบอลที่ใช้โค้ชจากบราซิลมาแล้ว ใช้โค้ชจากประเทศต้นกำเนิดกีฬาเพื่อพัฒนากีฬาให้เก่งเหมือนต้นตำรับ
ผมคิดแค่นั้น แต่กลับกลายเป็นว่าหลังจากเหรียญรางวัลเหรียญนั้น ทำให้กีฬาชนิดนี้ดังเป็นพลุแตก ลูกเล็กเด็กแดงตัวเล็กตัวน้อยใส่ชุดสีขาวคาดสายสีต่างๆ เดินกันเต็มไปหมด
และหลังจากเหรียญนั้นอีกเช่นกันที่ทำให้ทุกๆ ครั้งที่มีการแข่งขันกีฬาชนิดนี้จะมีข่าวว่าได้เหรียญรางวัลกลับมา จากเคยลุ้นว่าจะได้เหรียญไหม? เป็น ... จะได้กี่เหรียญ?
หลังจากนั้นตัวตนของผู้ชายคนนี้ได้ถูกนำเสนอจากรายกัน "ฉันรักเมืองไทย" สะท้อนให้เห็นถึงตัวตนของความเป็น "ครู" ของผู้ชายคนนี้ ตบท้ายรายการด้วยความรู้สึกของ "ลูกศิษย์" ที่มีต่อเขา
จนมาถึง 2 ปีก่อน คนไทยได้รู้จักผู้ชายคนนี้มากขึ้นจากรายการ "คนค้นคน" ที่พาเราไปรู้จักชิวิตของเขา และ ครอบครัวของเขาที่บ้านเกิด
จนเหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่าน ดังที่คนไทยทราบกันตามหน้าสื่อทีวีทุกช่อง และ หนังสือพิมพ์ทุกหัวสี
ผมเองไม่ได้รู้จักผู้ชายคนนี้เป็นการส่วนตัว แต่เท่าที่ติดตามผู้ชายคนนี้มาเป็นระยะเวลา 10 กว่าปี รวมทั้งได้ดูแง่มุมต่างต่างๆ ในชีวิตทำให้ผมสรุปได้เป็นข้อๆ ดังนี้
1. ผู้ชายคนนี้ทำให้รู้ว่า ... วินัย คือสิ่งสำคัญที่สุดที่นักกีฬาของเขาต้องมี และเป็นสิ่งที่ทำให้นักกีฬาประสบความสำเร็จ
2. ผู้ชายคนนี้ทำให้รู้ว่า ... นักกีฬาของเขาไม่ใช่ลูกศิษย์ แต่เป็นลูกชายและลูกสาวของเขา
3. ผู้ชายคนนี้ทำให้รู้ว่า ... ธงชาติบนอกของพวกคุณ มันมีคนไทยทั้งประเทศอยู่ในนั้น คุณคือความหวังของพวกเขา
คุณคือความภูมิใจของชาติ
4. ผู้ชายคนนี้ทำให้รู้ว่า ... ถึงภาษาไทยของเขาจะไม่ได้เก่งมากมายอะไร แต่ไม่ว่าคุณจะพูดด้วยภาษาเกิดของคุณ หรือภาษาไทย
สิ่งนึงที่ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยคือ สายตาจริงใจของเขา
เขามีออฟชั่นที่ดีกว่าเข้ามาในชีวิต แต่เขาเลือกที่จะอยู่ที่นี่ด้วยความคิดที่ว่า
"ผมอยู่ประเทศไทย สอนคนไทยมาสิบกว่าปี ก็รักเหมือนลูกชายลูกสาว ถ้าจะให้ผมไปเป็นโค้ชประเทศอื่น นั่งสอนเป็นโค้ช ทำเต็มที่เพื่อที่จะให้ประเทศนั้นชนะนักกีฬาไทย ผมก็คงจะทำใจไม่ได้"
ผมไม่รู้ว่าใครสอนให้เขาพูด หรือ เป็นสิ่งที่เขาคิดจริงๆ แต่เพียงเขาพูดด้วยแววตาแบบนั้น เขาสามารถทำให้คนฟังอย่างผมรู้สึกได้ว่า มันออกมาจากหัวใจของเขา
เท่าที่ผมทราบจากรายการต่างๆ ตอนนี้คนรอบตัวของคุณเหลือแค่ คุณย่า พี่สาว ภรรยา ลูกชาย และ อาจารย์ของเขา
แต่ผมอยากบอกเขาว่า ผมคนไทยคนนึง ภูมิใจมากๆ ที่ธงชาติไทยได้อยู่บนหน้าอกของผู้ชายแบบคุณ และผมเชื่อเหลือเกินว่า มีคนไทยอีกมากมายที่คิดแบบผม
ถึงแม้จะมีอุปสรรคเกิดขึ้นในชิวิต ได้โปรดอย่าท้อ หรือ หมดกำลังใจ มันคือสิ่งที่ทดสอบเขาอีกบททดสอบหนึ่งเท่านั้นเอง
สุดท้ายไม่ว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น สิ่งที่คุณทำให้ผืนแผ่นดินนี้แผ่นดินไทย แผ่นดินของพ่อหลวง ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มันพิสูจน์ และบอกอะไรกับตัวผมได้ว่าคุณมีค่าแค่ไหนสำหรับผืนแผ่นดินนี้
ขอบคุณที่ทำให้ผมได้มีเรื่องเล่าให้ลูกผม หลานผมได้ฟังว่า พ่อ ... ปู่ เกิดมายุคที่มีโค้ชประเทศเกาหลีที่ทุ่มเทหมดชีวิตให้กับคนไทยที่ชื่อ ... ชเว ยองซอก ...
ผู้ชายที่ชื่อ ชเว ยองซอก
ใจผมก็คิดว่าคงคล้ายๆ มวยสากลที่มีโค้ชคิวบา ยกน้ำหนักมีโค้ชจีน หรือแม้แต่ฟุตบอลที่ใช้โค้ชจากบราซิลมาแล้ว ใช้โค้ชจากประเทศต้นกำเนิดกีฬาเพื่อพัฒนากีฬาให้เก่งเหมือนต้นตำรับ
ผมคิดแค่นั้น แต่กลับกลายเป็นว่าหลังจากเหรียญรางวัลเหรียญนั้น ทำให้กีฬาชนิดนี้ดังเป็นพลุแตก ลูกเล็กเด็กแดงตัวเล็กตัวน้อยใส่ชุดสีขาวคาดสายสีต่างๆ เดินกันเต็มไปหมด
และหลังจากเหรียญนั้นอีกเช่นกันที่ทำให้ทุกๆ ครั้งที่มีการแข่งขันกีฬาชนิดนี้จะมีข่าวว่าได้เหรียญรางวัลกลับมา จากเคยลุ้นว่าจะได้เหรียญไหม? เป็น ... จะได้กี่เหรียญ?
หลังจากนั้นตัวตนของผู้ชายคนนี้ได้ถูกนำเสนอจากรายกัน "ฉันรักเมืองไทย" สะท้อนให้เห็นถึงตัวตนของความเป็น "ครู" ของผู้ชายคนนี้ ตบท้ายรายการด้วยความรู้สึกของ "ลูกศิษย์" ที่มีต่อเขา
ผมเองไม่ได้รู้จักผู้ชายคนนี้เป็นการส่วนตัว แต่เท่าที่ติดตามผู้ชายคนนี้มาเป็นระยะเวลา 10 กว่าปี รวมทั้งได้ดูแง่มุมต่างต่างๆ ในชีวิตทำให้ผมสรุปได้เป็นข้อๆ ดังนี้
2. ผู้ชายคนนี้ทำให้รู้ว่า ... นักกีฬาของเขาไม่ใช่ลูกศิษย์ แต่เป็นลูกชายและลูกสาวของเขา
3. ผู้ชายคนนี้ทำให้รู้ว่า ... ธงชาติบนอกของพวกคุณ มันมีคนไทยทั้งประเทศอยู่ในนั้น คุณคือความหวังของพวกเขา
คุณคือความภูมิใจของชาติ
4. ผู้ชายคนนี้ทำให้รู้ว่า ... ถึงภาษาไทยของเขาจะไม่ได้เก่งมากมายอะไร แต่ไม่ว่าคุณจะพูดด้วยภาษาเกิดของคุณ หรือภาษาไทย
สิ่งนึงที่ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยคือ สายตาจริงใจของเขา
"ผมอยู่ประเทศไทย สอนคนไทยมาสิบกว่าปี ก็รักเหมือนลูกชายลูกสาว ถ้าจะให้ผมไปเป็นโค้ชประเทศอื่น นั่งสอนเป็นโค้ช ทำเต็มที่เพื่อที่จะให้ประเทศนั้นชนะนักกีฬาไทย ผมก็คงจะทำใจไม่ได้"
ผมไม่รู้ว่าใครสอนให้เขาพูด หรือ เป็นสิ่งที่เขาคิดจริงๆ แต่เพียงเขาพูดด้วยแววตาแบบนั้น เขาสามารถทำให้คนฟังอย่างผมรู้สึกได้ว่า มันออกมาจากหัวใจของเขา
เท่าที่ผมทราบจากรายการต่างๆ ตอนนี้คนรอบตัวของคุณเหลือแค่ คุณย่า พี่สาว ภรรยา ลูกชาย และ อาจารย์ของเขา
แต่ผมอยากบอกเขาว่า ผมคนไทยคนนึง ภูมิใจมากๆ ที่ธงชาติไทยได้อยู่บนหน้าอกของผู้ชายแบบคุณ และผมเชื่อเหลือเกินว่า มีคนไทยอีกมากมายที่คิดแบบผม
ถึงแม้จะมีอุปสรรคเกิดขึ้นในชิวิต ได้โปรดอย่าท้อ หรือ หมดกำลังใจ มันคือสิ่งที่ทดสอบเขาอีกบททดสอบหนึ่งเท่านั้นเอง
สุดท้ายไม่ว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น สิ่งที่คุณทำให้ผืนแผ่นดินนี้แผ่นดินไทย แผ่นดินของพ่อหลวง ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มันพิสูจน์ และบอกอะไรกับตัวผมได้ว่าคุณมีค่าแค่ไหนสำหรับผืนแผ่นดินนี้
ขอบคุณที่ทำให้ผมได้มีเรื่องเล่าให้ลูกผม หลานผมได้ฟังว่า พ่อ ... ปู่ เกิดมายุคที่มีโค้ชประเทศเกาหลีที่ทุ่มเทหมดชีวิตให้กับคนไทยที่ชื่อ ... ชเว ยองซอก ...