ถอดล็อคอินมาโพสต์นะคะ แต่ยืนยันว่าคือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับเรา ไม่ได้ว่างแล้วอยากดราม่า
เริ่มเลยนะคะ... คือเราคบผู้ชายคนนึงมาสักพัก ปีนึงเห็นจะได้ เป็นเพื่อนรุ่นน้องของเพื่อน ด้วยความที่เราคงแบบ "เจ้ใหญ่ใจถึง" เค้าก็เลยจีบเราและขอเป็นแฟน แต่แหม แก่กว่าอยู่หลายปี (แฟนเราเพิ่งจะยี่สิบต้นๆ) ก็เลยคิดหนัก แต่เค้าก็ยังไม่ย่อท้อ ถ้านี่มั่นหน้าพอ ก็คงจะต้องบอกว่า สวยนะ แต่นั่นก็ไม่ใช่ประเด็น หลักใหญ่ใจความที่ทำให้เราตัดสินใจคบเค้า คือ เราจะคบกันแบบหลวมๆ ค่อยๆดูใจกันไป วันนึงถ้าเรื่องของเรามันจะใช่ขึ้นมาจริงๆ มันก็ใช่
ณ วันนั้นจนถึงวันนี้ การคบกันของเราและเค้าก็มีพัฒนาการ แรกๆเราก็คบกันหลวมๆ มี space ให้กันและกัน เคารพเวลาส่วนตัว เช่นเค้าจะต้องรู้ว่า นี่คือเวลาละครหลังข่าว อนุโลมคุยได้แค่ไลน์ นี่คือเวลาออกกำลังกาย ไม่คุยนะ หรือเราเป็นชอบนอนที่สุด อกหักรักคุดตุ๊ดเมิน ยังไงก็ต้องนอนวันละ 8 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย เพราะฉะนั้นจะไม่มีการนอนหลับคาโทรศัพท์ หรือคุยข้ามวันข้ามคืนแบบ "เตงวางก่อนดิ" ไม่มี๊ ไม่มี นอกเหนือจากนั้น เวลาก็หมดไปกับการทำงาน และก็ให้เค้า การคบกันหลวมๆของเค้า หลวมพอให้เราทั้งคู่หายใจได้ แต่ไม่ได้หลวมมากพอให้ใครได้แทรกเข้ามา
เหมือนจะดีใช่ไหมคะ???...... นั่นแค่เฟสแรกของการคบกันค่ะ อย่างที่บอกว่า ถ้ามั่นหน้าพอ ก็คงพูดว่าเราสวย (ฮ่าๆๆ) แต่คงจะเป็นเพราะความลั้ลลา อารมณ์ดี ทะลึ่งตึงตัง แบบไม่สวยมากแต่กลมกล่อม ประกอบกับงานที่เราทำต้องพบเจอผู้คนมากมาย ก็มีผู้ชายเข้ามา ทั้งแก่กว่าและวัยเดียวกัน ทำให้แฟนเรารู้สึกว่า ทุกคนที่เข้ามามั่นคงกว่าเค้า ดีกว่าเค้า ไม่ใช่คนที่เด็กกว่าหลายปี และยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน จากหลวมๆก็แน่นขึ้น แน่นมาก แน่นจนเราหายใจไม่ออก
เวลาเราคบกัน เราก็มีพาสเวิร์ดเฟสบุคกันตั้งแต่แรกๆ ไม่เคยมีปัญหา จนกระทั่งหลังๆที่นางเช็คเฟสบุคเราถี่มาก นิดหน่อย ใครไลค์เยอะ ใครคอมเม้นต์ ใครอินบ็อกซ์ จนเราเหนื่อยกับการตอบคำถาม จากที่เจอกันเดือนละสี่ครั้ง หลังๆก็ไม่ค่อยได้เจอ เพราะเราติดทั้งงานราษฎร์ งานหลวง ต้องเตรียมงานแต่งน้องสาว พร้อมๆกับคิดโปรเจตใหญ่เสนอเจ้านาย ซึ่งโคตรรรรรรจะสำคัญเพราะมีผลต่อ KPI ปีนี้ เค้าก็เริ่มงอแง อยากไปทะเล อยากดูหนัง อยากกินนั่นกินนี่ พอเราไปไม่ได้ ก็พาลว่าเราเปลี่ยนไป เพราะอะไร? หรือเพราะใคร? เราเป็นคนขี้รำคาญ เราก็เลยตัดสินใจ........ เลิก!!!!!!!
เราบอกเลิกเค้าช่วงเดือนที่แล้ว แต่เค้าก็ยังตั้งหน้าตั้งตาง้อเราอยู่ โทรมาแต่เราก็ยังรับบ้าง บางอารมณ์ไม่รับก็ไม่เคยหยุดโทร หลังๆ ตีสอง ตีสาม ก็โทรมา ทั้งที่ตอนคบกันไม่เป็น
เรื่องราวเริ่มน่ากลัวขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ตามมาหาเราที่ออฟฟิศ โดยไม่บอก อารมณ์แบบ จ๊ะเอ๋ ทายสิใครเอ่ย มาดักรอหน้าทางเข้าซอยบ้าน หรือถ้ารู้ว่าเราแพลนจะไปไหน ก็จะตามไปเจอ (หลังๆนี้เลิกเล่น Foursquare เลยนะ) เราว่ามันไม่ใช่อ่ะ สองสามวันที่ผ่านมา เราก็เลย ignore เค้าเพื่อให้เค้าตัดใจและหายไปเอง จนแบบเค้าโพสต์ในเฟสบุคเรา หน้า Wall เลยนะคะ ว่า "อยากจะทำให้เธอท้อง ที่รักจะได้ไม่ไปจากเค้า" กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด เฟสบุคมันใช่ที่ที่เธอจะมาพูดแบบนี้ไหม เราโกรธมาก ปรี๊ดแตก ญาติพี่น้องเราเต็มเฟสบุคเลย เราทะเลาะกับเค้ารุนแรงมาก ไม่เคยเป็นขนาดนี้ และบอกว่าเราจะเปลี่ยนเบอร์ และไปจากเค้า เค้าบอกเราว่า "เค้าจะฆ่าตัวตาย"
เราเชื่อเสมอว่า "คนที่พร่ำว่าจะฆ่าตัวตาย ไม่ทำหรอก คนที่อยากตาย คือตายเลย" เราก็เลยไม่คิดว่าเค้าจะทำจริง แต่เค้าก็ทำจริงๆ....
เมื่อคืนนี้ตอน 4 ทุ่ม ขณะที่เรากำลังกระดี๊กระด๊ากับโค้ชเช แม่เค้าโทรหาเรา บอกว่าแฟนเราจะฆ่าตัวตาย อยากให้เราไปที่บ้าน เรารีบขับรถไปบ้านเค้า ในใจก็งงและสับสน เกิดอะไรขึ้น ทำไมทำแบบนั้น อะไรยังไง ไปถึงเราคุยกับแม่แฟน (ซึ่งจริงๆนางก็ไม่ค่อยปลื้มเรา เพราะเราแก่กว่าลูกเค้า) นางบอกว่า นางเข้าไปในห้องลูกชายเพื่อไปคุยธุระ แต่เห็นลูกชายกำลังจะแขวนคอ แม่เข้าไปห้ามทัน และสอบถามเรื่องราว และเห็นสภาพลูกชายเค้าแย่มาก เลยรีบโทรตามเรา ซึ่งเราว่าคงแย่จริง ไม่งั้นไม่ตามเรามาแน่
เราเข้าไปในห้องเค้า หลักฐานยังคาอยู่เลย ผ้าพันคอ Zara ที่เราซื้อให้เค้าด้วย เค้าวิ่งร้องไห้เข้ามากอดเรา หอมเรา แบบไม่แคร์สายตาแม่เค้า แม่คงอึดอัดเลยเดินออกไป เราถามเค้า ว่าทำแบบนี้ทำไม มันบาปมากนะ เค้าตอบเราว่า เค้าอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเรา ทนไม่ได้ถ้าเรามีคนอื่น เค้ารักเรามาก รู้ว่ามันผิด มันบาป แต่ทนไม่ได้ เรานึกถึงคุณริว จิตสัมผัส ณ จุดนั้น ก็เลยบอกว่าเค้า ไม่ได้ไปเกิดนะ ฆ่าตัวตายอ่ะ เป็นผีลอยไปลอยมาเหมือนในคนอวดผีนะ ที่หลอนที่สุดคือ เค้าบอกว่า "ถ้าเค้าตาย เค้าจะมาอยู่กับเรา ไม่ไปไหน จะอยู่ไม่ให้ใครเข้ามาหาเรา" บอกตรงๆนะ เรากลัว ขนลุกแบบบอกไม่ถูก
เราได้รับการขอร้องจากแม่เค้า ให้นอนอยู่เป็นเพื่อนเค้าหน่อย กลัวว่าจะฆ่าตัวตายอีก เราก็ยอมแต่โดยดี เพราะถ้าไม่หนักหนาจริงๆแม่เค้าคงไม่ขอร้องทั้งๆที่นางก็ไม่ชอบหน้าเรา เรานอนอยู่เปนเพื่อนเค้า เค้าเหมือนคนเมายาเบาๆ (แต่แฟนเราไม่เล่นยาเสพติดนะ) อารมณ์แบบเพ้อๆเดี๋ยวร้อง เดี๋ยวหัวเราะ เราจะไปเข้าห้องน้ำก็ไม่อยากให้ไป กว่าเราจะแยกออกจากเค้าได้ คือเกือบตีสี่ครึ่ง บอกว่าเราต้องไปทำงาน ต้องกลับไปอาบน้ำแต่งตัวที่บ้าน
เค้าเดินมาส่งเราที่รถ และบอกเราว่า "เราจะไม่เลิกกันใช่ไหม ไม่เลิกนะ ถ้าเลิกเค้าจะตายไปอยู่กับเธอ"
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด ขับรถกลับบ้านทั้งน้ำตา อึดอัด กลัว กังวล สับสน ไม่กล้าบอกพ่อแม่ ไม่อยากเล่าให้เพื่อนฟัง เพราะมันไม่อยากให้คบแต่แรกแล้ว อึดอัดมากกกกก ที่สุดถึงที่สุด ไม่รู้จะทำยังไง
เราควรทำยังไง? เราสงสารเค้านะ แต่ยังไงๆเราก็คงจะเลิกอ่ะ จะนานจะช้ายังไง เรารู้สึกว่าเค้าอ่อนแอเกินกว่าจะเป็นคู่ชีวิตเรา ยิ่งเห็นสภาพเค้าวันนี้ เราไม่ไหวอ่ะ... ถ้าเค้าฆ่าตัวตายจริงๆ วิญญาณจะมาติดกับเราจริงๆปะ คือนี่หัวสมัยใหม่โคตรๆนะ แต่ผีก็กลัวนะ เราจะบาปไปด้วยไหมเนี๊ยะ ติดต่อคุณริว คุณเจนไว้ล่วงหน้าเลยได้ไหม
เครียดอ่ะ นี่ยังไม่ได้นอนเต็มตาเลย ฉี่เหลืองแน่นอนวันนี้ อยากจะกรี๊ดเป็นภาษาโมซัมบิก
ป.ล แท็กมั่ว ก็ขออภัยนะคะ
ป.ล 2 เห็นลั้ลลา.. แต่ซีเรียสนะคะ
----------------------------------------
ขอแก้ข่าว แต่ไม่แก้ตัว จากคอมเม้นข้างล่างนะคะ
1. อาจจะให้นิยามคำว่า "คบหลวมๆ" น้อยเกินไป คบหลวมๆของเราไม่ได้หมายถึงการเปิดตัวเอง ถ้าเจอใครใหม่ก็ไปเกาะ คนค่ะ ไม่ใช่กาฝากไม้เลื้อย ที่เราออกกฎว่าคบหลวมๆ ก็เพราะเราเคยเจอการคบกันแบบคาดหวัง ต้องเจอกันบ่อยๆ ต้องนู่นต้องนี่ เราเหนื่อยค่ะ วันๆหมดไปกับการทำงาน พลังชีวิตก็จะหมดแล้ว การที่ต้องมีแฟนแบบที่คาดหวังว่าต้องมาหาทุกเย็น ต้องไปนั่นไปนี่ ต้องคุยกันตลอด ไม่ไหวค่ะ เราเลิกงานก็อยากนอนกระดิกนิ้วเท้า แคะสะดือดูทีวี ขอเวลาส่วนตัวบ้าง ในขณะเดียวกัน เราก็ให้เค้ามีเวลาส่วนตัวเหมือนกัน อยากไปไหนกับเพื่อน..ไป อยากทำอะไร..ทำ ไม่จิก ไม่วุ่นวาย เราไว้ใจกัน และจากสถิติ 1 ปีที่คบกันมา เราไม่เคยมีคนอื่น แม้แต่คุยก็ตาม ทุกคนรับรู้ พ่อแม่รับรู้.... ยังหลวมเกินไปอยู่ไหมคะ????
2. ให้ความหวังผู้ชายเกินไป? ไม่ชอบแล้วคบแต่แรกทำไม?......... ไม่เคยให้ความหวังค่ะ รักจริง คบจริง ไม่ใช้สแตนด์อิน เราจริงจังกับความรักทุกครั้ง อายุใกล้เลข 3 แล้วแต่เรามีแฟนมาแค่ 2 คน คนแรกคบ 7 ปี คนที่สองก็คือเค้าคบ 1 ปี... ยังแลดูเป็นผู้หญิงให้ความหวังใครอยู่หรือไม่คะ??
--- แล้วเค้าเป็นมากขนาดนี้ได้ยังไง... คือระแวงไปเองค่ะ เราไม่เจอกันบ่อยเหมือนเดิม ประกอบกับมีคนเข้ามาจีบเรา แต่เราก็บอกนะว่ามีแฟนแล้ว ในเฟสบุคก็ In Relationship with........ พอนอยด์ ก็เริ่มวุ่นวาย พอวุ่นวาย เราก็รำคาญ เหนื่อย ไม่อยากเถียง เป็นที่มาของการเลิกกัน
3. โฟกัสในชีวิตเราคือเรื่องงานค่ะ ชีวิตมีภาระ เรากำลังสร้างตัวเอง ตอนแก่จะได้ไม่ต้องลำบาก แต่ความรักก็สำคัญสำหรับเรา เพียงแต่ว่ามันทำให้ชีวิตเราลำบากขึ้น เราพักรักก็ได้ เพราะงั้น เราจะบอกว่า attitude ในเรื่องรักของคนเราอาจจะแตกต่างกัน อย่าตัดสินว่าเราเป็นแบบนั้นแบบนี้ คนบางคนติดแฟนมากกกกก แทบจะสิงกันอยู่แล้ว ก็ยังนอกใจกันได้ ของแบบนี้ไม่ได้อยู่ที่ระยะทาง อยู่สัน...ค่ะ
ถ้าจะดีเบทกันเรื่องความรัก เราว่า ตั้งกระทู้ใหม่ดีกว่าเนอะ จุ๊ฟๆ
อึดอัดมว๊ากกก อยากบอกเลิกแฟน แต่ดันจะฆ่าตัวตาย
เริ่มเลยนะคะ... คือเราคบผู้ชายคนนึงมาสักพัก ปีนึงเห็นจะได้ เป็นเพื่อนรุ่นน้องของเพื่อน ด้วยความที่เราคงแบบ "เจ้ใหญ่ใจถึง" เค้าก็เลยจีบเราและขอเป็นแฟน แต่แหม แก่กว่าอยู่หลายปี (แฟนเราเพิ่งจะยี่สิบต้นๆ) ก็เลยคิดหนัก แต่เค้าก็ยังไม่ย่อท้อ ถ้านี่มั่นหน้าพอ ก็คงจะต้องบอกว่า สวยนะ แต่นั่นก็ไม่ใช่ประเด็น หลักใหญ่ใจความที่ทำให้เราตัดสินใจคบเค้า คือ เราจะคบกันแบบหลวมๆ ค่อยๆดูใจกันไป วันนึงถ้าเรื่องของเรามันจะใช่ขึ้นมาจริงๆ มันก็ใช่
ณ วันนั้นจนถึงวันนี้ การคบกันของเราและเค้าก็มีพัฒนาการ แรกๆเราก็คบกันหลวมๆ มี space ให้กันและกัน เคารพเวลาส่วนตัว เช่นเค้าจะต้องรู้ว่า นี่คือเวลาละครหลังข่าว อนุโลมคุยได้แค่ไลน์ นี่คือเวลาออกกำลังกาย ไม่คุยนะ หรือเราเป็นชอบนอนที่สุด อกหักรักคุดตุ๊ดเมิน ยังไงก็ต้องนอนวันละ 8 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย เพราะฉะนั้นจะไม่มีการนอนหลับคาโทรศัพท์ หรือคุยข้ามวันข้ามคืนแบบ "เตงวางก่อนดิ" ไม่มี๊ ไม่มี นอกเหนือจากนั้น เวลาก็หมดไปกับการทำงาน และก็ให้เค้า การคบกันหลวมๆของเค้า หลวมพอให้เราทั้งคู่หายใจได้ แต่ไม่ได้หลวมมากพอให้ใครได้แทรกเข้ามา
เหมือนจะดีใช่ไหมคะ???...... นั่นแค่เฟสแรกของการคบกันค่ะ อย่างที่บอกว่า ถ้ามั่นหน้าพอ ก็คงพูดว่าเราสวย (ฮ่าๆๆ) แต่คงจะเป็นเพราะความลั้ลลา อารมณ์ดี ทะลึ่งตึงตัง แบบไม่สวยมากแต่กลมกล่อม ประกอบกับงานที่เราทำต้องพบเจอผู้คนมากมาย ก็มีผู้ชายเข้ามา ทั้งแก่กว่าและวัยเดียวกัน ทำให้แฟนเรารู้สึกว่า ทุกคนที่เข้ามามั่นคงกว่าเค้า ดีกว่าเค้า ไม่ใช่คนที่เด็กกว่าหลายปี และยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน จากหลวมๆก็แน่นขึ้น แน่นมาก แน่นจนเราหายใจไม่ออก
เวลาเราคบกัน เราก็มีพาสเวิร์ดเฟสบุคกันตั้งแต่แรกๆ ไม่เคยมีปัญหา จนกระทั่งหลังๆที่นางเช็คเฟสบุคเราถี่มาก นิดหน่อย ใครไลค์เยอะ ใครคอมเม้นต์ ใครอินบ็อกซ์ จนเราเหนื่อยกับการตอบคำถาม จากที่เจอกันเดือนละสี่ครั้ง หลังๆก็ไม่ค่อยได้เจอ เพราะเราติดทั้งงานราษฎร์ งานหลวง ต้องเตรียมงานแต่งน้องสาว พร้อมๆกับคิดโปรเจตใหญ่เสนอเจ้านาย ซึ่งโคตรรรรรรจะสำคัญเพราะมีผลต่อ KPI ปีนี้ เค้าก็เริ่มงอแง อยากไปทะเล อยากดูหนัง อยากกินนั่นกินนี่ พอเราไปไม่ได้ ก็พาลว่าเราเปลี่ยนไป เพราะอะไร? หรือเพราะใคร? เราเป็นคนขี้รำคาญ เราก็เลยตัดสินใจ........ เลิก!!!!!!!
เราบอกเลิกเค้าช่วงเดือนที่แล้ว แต่เค้าก็ยังตั้งหน้าตั้งตาง้อเราอยู่ โทรมาแต่เราก็ยังรับบ้าง บางอารมณ์ไม่รับก็ไม่เคยหยุดโทร หลังๆ ตีสอง ตีสาม ก็โทรมา ทั้งที่ตอนคบกันไม่เป็น
เรื่องราวเริ่มน่ากลัวขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ตามมาหาเราที่ออฟฟิศ โดยไม่บอก อารมณ์แบบ จ๊ะเอ๋ ทายสิใครเอ่ย มาดักรอหน้าทางเข้าซอยบ้าน หรือถ้ารู้ว่าเราแพลนจะไปไหน ก็จะตามไปเจอ (หลังๆนี้เลิกเล่น Foursquare เลยนะ) เราว่ามันไม่ใช่อ่ะ สองสามวันที่ผ่านมา เราก็เลย ignore เค้าเพื่อให้เค้าตัดใจและหายไปเอง จนแบบเค้าโพสต์ในเฟสบุคเรา หน้า Wall เลยนะคะ ว่า "อยากจะทำให้เธอท้อง ที่รักจะได้ไม่ไปจากเค้า" กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด เฟสบุคมันใช่ที่ที่เธอจะมาพูดแบบนี้ไหม เราโกรธมาก ปรี๊ดแตก ญาติพี่น้องเราเต็มเฟสบุคเลย เราทะเลาะกับเค้ารุนแรงมาก ไม่เคยเป็นขนาดนี้ และบอกว่าเราจะเปลี่ยนเบอร์ และไปจากเค้า เค้าบอกเราว่า "เค้าจะฆ่าตัวตาย"
เราเชื่อเสมอว่า "คนที่พร่ำว่าจะฆ่าตัวตาย ไม่ทำหรอก คนที่อยากตาย คือตายเลย" เราก็เลยไม่คิดว่าเค้าจะทำจริง แต่เค้าก็ทำจริงๆ....
เมื่อคืนนี้ตอน 4 ทุ่ม ขณะที่เรากำลังกระดี๊กระด๊ากับโค้ชเช แม่เค้าโทรหาเรา บอกว่าแฟนเราจะฆ่าตัวตาย อยากให้เราไปที่บ้าน เรารีบขับรถไปบ้านเค้า ในใจก็งงและสับสน เกิดอะไรขึ้น ทำไมทำแบบนั้น อะไรยังไง ไปถึงเราคุยกับแม่แฟน (ซึ่งจริงๆนางก็ไม่ค่อยปลื้มเรา เพราะเราแก่กว่าลูกเค้า) นางบอกว่า นางเข้าไปในห้องลูกชายเพื่อไปคุยธุระ แต่เห็นลูกชายกำลังจะแขวนคอ แม่เข้าไปห้ามทัน และสอบถามเรื่องราว และเห็นสภาพลูกชายเค้าแย่มาก เลยรีบโทรตามเรา ซึ่งเราว่าคงแย่จริง ไม่งั้นไม่ตามเรามาแน่
เราเข้าไปในห้องเค้า หลักฐานยังคาอยู่เลย ผ้าพันคอ Zara ที่เราซื้อให้เค้าด้วย เค้าวิ่งร้องไห้เข้ามากอดเรา หอมเรา แบบไม่แคร์สายตาแม่เค้า แม่คงอึดอัดเลยเดินออกไป เราถามเค้า ว่าทำแบบนี้ทำไม มันบาปมากนะ เค้าตอบเราว่า เค้าอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเรา ทนไม่ได้ถ้าเรามีคนอื่น เค้ารักเรามาก รู้ว่ามันผิด มันบาป แต่ทนไม่ได้ เรานึกถึงคุณริว จิตสัมผัส ณ จุดนั้น ก็เลยบอกว่าเค้า ไม่ได้ไปเกิดนะ ฆ่าตัวตายอ่ะ เป็นผีลอยไปลอยมาเหมือนในคนอวดผีนะ ที่หลอนที่สุดคือ เค้าบอกว่า "ถ้าเค้าตาย เค้าจะมาอยู่กับเรา ไม่ไปไหน จะอยู่ไม่ให้ใครเข้ามาหาเรา" บอกตรงๆนะ เรากลัว ขนลุกแบบบอกไม่ถูก
เราได้รับการขอร้องจากแม่เค้า ให้นอนอยู่เป็นเพื่อนเค้าหน่อย กลัวว่าจะฆ่าตัวตายอีก เราก็ยอมแต่โดยดี เพราะถ้าไม่หนักหนาจริงๆแม่เค้าคงไม่ขอร้องทั้งๆที่นางก็ไม่ชอบหน้าเรา เรานอนอยู่เปนเพื่อนเค้า เค้าเหมือนคนเมายาเบาๆ (แต่แฟนเราไม่เล่นยาเสพติดนะ) อารมณ์แบบเพ้อๆเดี๋ยวร้อง เดี๋ยวหัวเราะ เราจะไปเข้าห้องน้ำก็ไม่อยากให้ไป กว่าเราจะแยกออกจากเค้าได้ คือเกือบตีสี่ครึ่ง บอกว่าเราต้องไปทำงาน ต้องกลับไปอาบน้ำแต่งตัวที่บ้าน
เค้าเดินมาส่งเราที่รถ และบอกเราว่า "เราจะไม่เลิกกันใช่ไหม ไม่เลิกนะ ถ้าเลิกเค้าจะตายไปอยู่กับเธอ"
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด ขับรถกลับบ้านทั้งน้ำตา อึดอัด กลัว กังวล สับสน ไม่กล้าบอกพ่อแม่ ไม่อยากเล่าให้เพื่อนฟัง เพราะมันไม่อยากให้คบแต่แรกแล้ว อึดอัดมากกกกก ที่สุดถึงที่สุด ไม่รู้จะทำยังไง
เราควรทำยังไง? เราสงสารเค้านะ แต่ยังไงๆเราก็คงจะเลิกอ่ะ จะนานจะช้ายังไง เรารู้สึกว่าเค้าอ่อนแอเกินกว่าจะเป็นคู่ชีวิตเรา ยิ่งเห็นสภาพเค้าวันนี้ เราไม่ไหวอ่ะ... ถ้าเค้าฆ่าตัวตายจริงๆ วิญญาณจะมาติดกับเราจริงๆปะ คือนี่หัวสมัยใหม่โคตรๆนะ แต่ผีก็กลัวนะ เราจะบาปไปด้วยไหมเนี๊ยะ ติดต่อคุณริว คุณเจนไว้ล่วงหน้าเลยได้ไหม
เครียดอ่ะ นี่ยังไม่ได้นอนเต็มตาเลย ฉี่เหลืองแน่นอนวันนี้ อยากจะกรี๊ดเป็นภาษาโมซัมบิก
ป.ล แท็กมั่ว ก็ขออภัยนะคะ
ป.ล 2 เห็นลั้ลลา.. แต่ซีเรียสนะคะ
----------------------------------------
ขอแก้ข่าว แต่ไม่แก้ตัว จากคอมเม้นข้างล่างนะคะ
1. อาจจะให้นิยามคำว่า "คบหลวมๆ" น้อยเกินไป คบหลวมๆของเราไม่ได้หมายถึงการเปิดตัวเอง ถ้าเจอใครใหม่ก็ไปเกาะ คนค่ะ ไม่ใช่กาฝากไม้เลื้อย ที่เราออกกฎว่าคบหลวมๆ ก็เพราะเราเคยเจอการคบกันแบบคาดหวัง ต้องเจอกันบ่อยๆ ต้องนู่นต้องนี่ เราเหนื่อยค่ะ วันๆหมดไปกับการทำงาน พลังชีวิตก็จะหมดแล้ว การที่ต้องมีแฟนแบบที่คาดหวังว่าต้องมาหาทุกเย็น ต้องไปนั่นไปนี่ ต้องคุยกันตลอด ไม่ไหวค่ะ เราเลิกงานก็อยากนอนกระดิกนิ้วเท้า แคะสะดือดูทีวี ขอเวลาส่วนตัวบ้าง ในขณะเดียวกัน เราก็ให้เค้ามีเวลาส่วนตัวเหมือนกัน อยากไปไหนกับเพื่อน..ไป อยากทำอะไร..ทำ ไม่จิก ไม่วุ่นวาย เราไว้ใจกัน และจากสถิติ 1 ปีที่คบกันมา เราไม่เคยมีคนอื่น แม้แต่คุยก็ตาม ทุกคนรับรู้ พ่อแม่รับรู้.... ยังหลวมเกินไปอยู่ไหมคะ????
2. ให้ความหวังผู้ชายเกินไป? ไม่ชอบแล้วคบแต่แรกทำไม?......... ไม่เคยให้ความหวังค่ะ รักจริง คบจริง ไม่ใช้สแตนด์อิน เราจริงจังกับความรักทุกครั้ง อายุใกล้เลข 3 แล้วแต่เรามีแฟนมาแค่ 2 คน คนแรกคบ 7 ปี คนที่สองก็คือเค้าคบ 1 ปี... ยังแลดูเป็นผู้หญิงให้ความหวังใครอยู่หรือไม่คะ??
--- แล้วเค้าเป็นมากขนาดนี้ได้ยังไง... คือระแวงไปเองค่ะ เราไม่เจอกันบ่อยเหมือนเดิม ประกอบกับมีคนเข้ามาจีบเรา แต่เราก็บอกนะว่ามีแฟนแล้ว ในเฟสบุคก็ In Relationship with........ พอนอยด์ ก็เริ่มวุ่นวาย พอวุ่นวาย เราก็รำคาญ เหนื่อย ไม่อยากเถียง เป็นที่มาของการเลิกกัน
3. โฟกัสในชีวิตเราคือเรื่องงานค่ะ ชีวิตมีภาระ เรากำลังสร้างตัวเอง ตอนแก่จะได้ไม่ต้องลำบาก แต่ความรักก็สำคัญสำหรับเรา เพียงแต่ว่ามันทำให้ชีวิตเราลำบากขึ้น เราพักรักก็ได้ เพราะงั้น เราจะบอกว่า attitude ในเรื่องรักของคนเราอาจจะแตกต่างกัน อย่าตัดสินว่าเราเป็นแบบนั้นแบบนี้ คนบางคนติดแฟนมากกกกก แทบจะสิงกันอยู่แล้ว ก็ยังนอกใจกันได้ ของแบบนี้ไม่ได้อยู่ที่ระยะทาง อยู่สัน...ค่ะ
ถ้าจะดีเบทกันเรื่องความรัก เราว่า ตั้งกระทู้ใหม่ดีกว่าเนอะ จุ๊ฟๆ