เรื่องต่อไปนี้ที่จะเขียนมันอันตรายมาก เสี่ยงมาก จะถือว่าเป็นการชี้โพรงให้กระรอกนั้นก็ไม่ถูกเสียทีเดียว อ่านจบแล้วอย่าเอาก้อนหินมาปาหัวผมนะครับ อิอิ
อัยการสั่งฟ้องไอ้เกมส์ฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาเพื่อปกปิดความผิดของตน หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้ ข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี การบรรยายฟ้องของอัยการผมเชื่อว่ามืออาชีพแน่นอน
ขอพูดสักนิดก่อนว่าวิชาชีพทนายจำเป็นต้องให้โอกาศคนได้แก้ตัวแม้ลูกความจะเป็นฆาตกรจริงๆ ก็ต้องเอื้อซึ้งความเป็นธรรมให้เขาอย่างเต็มที่เท่าที่จะมีได้ และหน้าที่ของอัยการ ก็ต้องฟ้องเขาตามเนื้อของหลักฐานและข้อกฏหมาย ต้องต้านกระแสสังคม จะลู่ตามไปไม่ได้ วิชาชีพกฏหมายจำเป็นต้องมั่นคง
จริงอยู่ว่าไอ้เกมมันรับสารภาพ แต่ใครจะไปรู้ว่ามีเบื้องหลังหรือป่าวเพราะมันจำนนไม่ใช่สำนึกผิด เท่าที่เห็นไอ้เกมไม่ได้หาหลักฐานมาพิสูจน์ตัวเองเลย มีแต่ฝ่ายโจทก์ทั้งนั้น ถ้าหลักฐานไม่แน่นหนาละก็รอดแน่นอน
คดีนี้เราต้องให้ความเป็นธรรมกับไอ้เกมด้วยอย่าใช้อารมณ์ ทีนี้พอคดีเข้าสู่ศาลแล้ว อัยการบรรยายฟ้องตาม ม.288 หากผมเป็นทนาย แน่นอนว่าผมต้องสู้ถึงที่สุดในมาตรา 290 กฎหมายเรามีข้อหนึ่งที่บอกว่า เจตนาแต่ไหนก็รับโทษแค่นั้น
หากทนายสามารถพิสูจน์ได้ว่า เจตนามีเพียงแค่ทำร้าย ไอ้เกมส์จึงไม่อาจจะมีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาได้ เพราะความผิดฐานฆ่าคนตายนั้นผู้กระทำต้องมีเจตนาฆ่า
แน่นอนว่าผลของความผิดฐานฐานนี้คือ ผู้ที่ถูกทำร้ายถึงแก่ความตาย ซึ่งผลที่เกิดขึ้นเกินไปจากเจตนาของผู้กระทำผิด ดังนั้นเมื่อผลที่เกิดขึ้นเกินไปกว่าเจตนาของผู้กระทำความผิด ผู้กระทำความผิดจะต้องรับผิดในทางอาญาหรือไม่ในผลที่ได้เกิดขึ้น พิจารณาโดยอาศัย มาตรา 63 ถ้าผลของการกระทำความผิดใดทำให้ผู้กระทำต้องรับโทษหนักขึ้น ผลของการกระทำความผิดนั้นต้องเป็นผลที่ตามธรรมดา ย่อมเกิดขึ้นได้
ก็อีกนั่นแหละหากอัยการไม่สามารถพิสูจน์ให้ศาลเชื่อได้ว่าไอ้เกมมีเจตนาฆ่าตามที่ฟ้องและขอให้ศาลลงโทษ ศาลจะลงโทษไอ้เกมฐานใด(เพราะอัยการฟ้องมาเพียงแค่ฐานเดียวและศาลเห็นว่าไอ้เกมไม่ผิดฐานที่อัยการฟ้องมา)และความผิดฐานพรากผู้เยาว์ก็จะตกไปด้วยเพราะไม่มีสภาพบุคคลแล้ว ณ ตอนนั้น
ซึ่งตาม ป.วิ.อาญา มาตรามาตรา 192 ห้ามมิให้พิพากษา หรือสั่ง เกินคำขอหรือที่มิได้กล่าว ในฟ้อง และวรรคท้าย ถ้าความผิดตามที่ฟ้องนั้นรวมการกระทำหลายอย่าง แต่ละอย่าง อาจเป็นความผิดได้อยู่ในตัวเองศาลจะลงโทษจำเลยในการกระทำผิด อย่างหนึ่งอย่างใดตามที่พิจารณาได้ความก็ได้
ป.วิ.อาญา มาตรา 192 ห้ามไม่ให้ศาลพิพากษาเกินคำขอที่ปรากฏในคำฟ้อง ในคดีนี้อัยการฟ้องตาม ป.อ.มาตรา 288 โดยที่ไม่ได้ฟ้องมาตรา 290 ด้วย
เมื่อไม่อัยการไม่สามารถพิสูจน์ให้สมฟ้องว่าไอ้เกมมีเจตนาฆ่า แต่ปรากฏว่าไอ้เกมทำร้ายผู้ตายจริงและผู้ตายตามการทำร้ายของจำเลย ศาลย่อมลงโทษจำเลยตาม ป.อ.มาตรา 290 ได้ ตาม ป.วิ.อาญา มาตรา 192 ได้ ไม่นอกฟ้องเกินคำขอแต่อย่างใด
กรณีนี้อาจจะจำคุกแค่ 15 ถึง 20 ปีก็เป็นได้ใครจะไปรู้
ที่พูดมาก็แค่ความเป็นไปได้อย่าซีเรียส ไม่พอใจก็ไม่ต้องเดือดร้อน ผมแสดงความคิดเห็นตามสิทธิ์ของผม หากไม่ถูกกิเลสใครก็ขออภัยด้วยแล้วกัน
แล้วแต่จะคิด จะว่าผมชี้โพรงให้กระรอกก็ได้ผมยอมเพราะกระรอกตัวนี้มันเลวก็จริงแต่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากสังคมเลย.....
ไอ้เกมส์ วันชัยฆ่าข่มขืน มีทางรอดแล้ว
อัยการสั่งฟ้องไอ้เกมส์ฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาเพื่อปกปิดความผิดของตน หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้ ข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี การบรรยายฟ้องของอัยการผมเชื่อว่ามืออาชีพแน่นอน
ขอพูดสักนิดก่อนว่าวิชาชีพทนายจำเป็นต้องให้โอกาศคนได้แก้ตัวแม้ลูกความจะเป็นฆาตกรจริงๆ ก็ต้องเอื้อซึ้งความเป็นธรรมให้เขาอย่างเต็มที่เท่าที่จะมีได้ และหน้าที่ของอัยการ ก็ต้องฟ้องเขาตามเนื้อของหลักฐานและข้อกฏหมาย ต้องต้านกระแสสังคม จะลู่ตามไปไม่ได้ วิชาชีพกฏหมายจำเป็นต้องมั่นคง
จริงอยู่ว่าไอ้เกมมันรับสารภาพ แต่ใครจะไปรู้ว่ามีเบื้องหลังหรือป่าวเพราะมันจำนนไม่ใช่สำนึกผิด เท่าที่เห็นไอ้เกมไม่ได้หาหลักฐานมาพิสูจน์ตัวเองเลย มีแต่ฝ่ายโจทก์ทั้งนั้น ถ้าหลักฐานไม่แน่นหนาละก็รอดแน่นอน
คดีนี้เราต้องให้ความเป็นธรรมกับไอ้เกมด้วยอย่าใช้อารมณ์ ทีนี้พอคดีเข้าสู่ศาลแล้ว อัยการบรรยายฟ้องตาม ม.288 หากผมเป็นทนาย แน่นอนว่าผมต้องสู้ถึงที่สุดในมาตรา 290 กฎหมายเรามีข้อหนึ่งที่บอกว่า เจตนาแต่ไหนก็รับโทษแค่นั้น
หากทนายสามารถพิสูจน์ได้ว่า เจตนามีเพียงแค่ทำร้าย ไอ้เกมส์จึงไม่อาจจะมีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาได้ เพราะความผิดฐานฆ่าคนตายนั้นผู้กระทำต้องมีเจตนาฆ่า
แน่นอนว่าผลของความผิดฐานฐานนี้คือ ผู้ที่ถูกทำร้ายถึงแก่ความตาย ซึ่งผลที่เกิดขึ้นเกินไปจากเจตนาของผู้กระทำผิด ดังนั้นเมื่อผลที่เกิดขึ้นเกินไปกว่าเจตนาของผู้กระทำความผิด ผู้กระทำความผิดจะต้องรับผิดในทางอาญาหรือไม่ในผลที่ได้เกิดขึ้น พิจารณาโดยอาศัย มาตรา 63 ถ้าผลของการกระทำความผิดใดทำให้ผู้กระทำต้องรับโทษหนักขึ้น ผลของการกระทำความผิดนั้นต้องเป็นผลที่ตามธรรมดา ย่อมเกิดขึ้นได้
ก็อีกนั่นแหละหากอัยการไม่สามารถพิสูจน์ให้ศาลเชื่อได้ว่าไอ้เกมมีเจตนาฆ่าตามที่ฟ้องและขอให้ศาลลงโทษ ศาลจะลงโทษไอ้เกมฐานใด(เพราะอัยการฟ้องมาเพียงแค่ฐานเดียวและศาลเห็นว่าไอ้เกมไม่ผิดฐานที่อัยการฟ้องมา)และความผิดฐานพรากผู้เยาว์ก็จะตกไปด้วยเพราะไม่มีสภาพบุคคลแล้ว ณ ตอนนั้น
ซึ่งตาม ป.วิ.อาญา มาตรามาตรา 192 ห้ามมิให้พิพากษา หรือสั่ง เกินคำขอหรือที่มิได้กล่าว ในฟ้อง และวรรคท้าย ถ้าความผิดตามที่ฟ้องนั้นรวมการกระทำหลายอย่าง แต่ละอย่าง อาจเป็นความผิดได้อยู่ในตัวเองศาลจะลงโทษจำเลยในการกระทำผิด อย่างหนึ่งอย่างใดตามที่พิจารณาได้ความก็ได้
ป.วิ.อาญา มาตรา 192 ห้ามไม่ให้ศาลพิพากษาเกินคำขอที่ปรากฏในคำฟ้อง ในคดีนี้อัยการฟ้องตาม ป.อ.มาตรา 288 โดยที่ไม่ได้ฟ้องมาตรา 290 ด้วย
เมื่อไม่อัยการไม่สามารถพิสูจน์ให้สมฟ้องว่าไอ้เกมมีเจตนาฆ่า แต่ปรากฏว่าไอ้เกมทำร้ายผู้ตายจริงและผู้ตายตามการทำร้ายของจำเลย ศาลย่อมลงโทษจำเลยตาม ป.อ.มาตรา 290 ได้ ตาม ป.วิ.อาญา มาตรา 192 ได้ ไม่นอกฟ้องเกินคำขอแต่อย่างใด
กรณีนี้อาจจะจำคุกแค่ 15 ถึง 20 ปีก็เป็นได้ใครจะไปรู้
ที่พูดมาก็แค่ความเป็นไปได้อย่าซีเรียส ไม่พอใจก็ไม่ต้องเดือดร้อน ผมแสดงความคิดเห็นตามสิทธิ์ของผม หากไม่ถูกกิเลสใครก็ขออภัยด้วยแล้วกัน
แล้วแต่จะคิด จะว่าผมชี้โพรงให้กระรอกก็ได้ผมยอมเพราะกระรอกตัวนี้มันเลวก็จริงแต่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากสังคมเลย.....