....ของประชาชนเต็มขั้นคนหนึ่งค่ะ
ประชาชนคนนี้ได้เฝ้ามองการต่อสู้ของคุณทักษิณตั้งแต่ถูกยึดอำนาจ
วันที่ 19 ก.ย.2549 เป็นต้นมา
มองเผินๆเหมือนคุณทักษิณจะได้ชัยนะคะ เหมือนมีพัฒนาการที่น่าพอใจ
เพราะประสบความสำเร็จ ได้รับการเลือกตั้งจากประชาชนมาโดยตลอด
นับจาก ปี 2551 จนถึง 2554
ไม่ทราบเหมือนกันค่ะว่า คุณทักษิณคิดยังไง ในวันนี้
ได้นั่งสรุปผลการต่อสู้ที่ผ่านมาอย่างไรบ้าง
จดหมายน้อยวันนี้ มึจุดมุ่งหมายให้คุณทักษิณได้หยุดคิด พิจารณา
ทุกสิ่งอย่างที่เกิดขึ้นรวมทั้งผลของการตั้งหลักสู้ของคุณทักษิณเอง
ในมุมมองของประชาชนเต็มขั้นคนหนึ่ง ที่เป็นแค่ประชาชนคนเล็กๆ…
ที่ไม่ใช่ผู้สนับสนุน คุณทักษิณและตระกูลชินวัตร แน่นอน
และยิ่งไม่ใช่ผู้สนับสนุนกลุ่มคนที่ต้องการล้างระบอบทักษิณให้สิ้นซากจากประเทศไทย
มีข้อสังเกตจากการเฝ้าดูและประเมินผลดังนี้ค่ะ
ความสำเร็จ
1. คุณทักษิณนำพาพรรคพลังประชาน และพรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้ง
โดยได้รับคะแนนเสียงข้างมากทั้งสองครั้ง สามารถเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล
ได้สำเร็จทั้งสองครั้ง
2. ได้ออกแบบนโยบาย “ประชานิยม” ที่ดึงดูดคะแนนเสียงเกษตรกร ชาวนา
พัฒนาการออกแบบนโยบาย “ประชานิยม” ที่ไร้คู่แข่ง ดึงดูดคะแนนเสียงจาก
ประชาชนชั้นกลางทั้ง บนและล่าง อย่างเบ็ดเสร็จ
3. ได้จัดตั้งมวลชนสนับสนุนคุณทักษิณและตระกูลชินวัตร ผ่านแกนนำ นปช.
ประสบผลสำเร็จในภาคเหนือและอิสาน
> เป็นมวลชนจัดตั้งที่ทรงพลัง
> เป็นมวลชนที่ชื่นชอบในความสามารถของคุณทักษิณ และยกคุณทักษิณ
เป็นไอดอล ประชาธิปไตย
> เป็นมวลชนที่พร้อมจะปกป้องพรรคเพื่อไทยให้อยู่ในอำนาจ ถึงกับยอม
ปาวารณาตนเป็น
“ผนังทองแดง กำแพงเหล็ก” ปกป้องรัฐบาลพรรคเพื่อไทย
ให้คงอำนาจทางการเมืองไว้ให้ได้
4. จัดตั้งกองกำลังระดับหมู่บ้าน ถึงจังหวัด (อพปช) อาสาพิทักษ์ประชาธิปไตย
บริหารจัดการโดยแกนนำฮาร์ดคอร์ เป็นแนวร่วมปฏิบัติการกับ นปช.
ถ้าดูเผินๆตามโครงสร้างองค์กรที่ถูกออกแบบอย่างเป็นระบบ ซึ่งมีทั้งมวลชนจัดตั้ง
และกองกำลังอาสาพิทักษ์ประชาธิปไตยที่พร้อมจะลุกฮือขึ้นต่อสู้กับอำนาจนอกระบบ
ส่วนด้านซอพท์แวร์ คือ นโยบายประชานิยม ที่นับวันจะสุดโต่งยิ่งขึ้นเรื่อยๆ….
“เลือกตั้ง” จึงไม่ใช่ปัญหา แต่เป็นโอกาสของตระกูลชินวัตร ที่จะได้อำนาจคืนกลับมา
คุณทักษิณและตระกูลชินวัตร จึงดูแข็งแกร่งน่าเกรงขามในศักยภาพเป็นอย่างยิ่ง
กอปรกับการโหมรณรงค์ล้างสมองว่า
“เลือกตั้ง” คือระบอบประชาธิปไตย..ไปพร้อมกัน
คุณทักษิณ และตระกูลชินวัตรจึงกลายเป็นสัญญลักษณ์ประชาธิปไตยไทย
ที่มวลชนผู้สนับสนุนไม่ต้องอิหลักอิเหลื่อ ว่าต่อสู้เพื่อตัวบุคคลตระกูลนี้
คุณทักษิณทำสำเร็จค่ะ ถ้ามองในมุมมนี้
ยังมีต่อ…
<><> จดหมายน้อยถึงคุณทักษิณ และตระกูลชินวัตร…จากใจ <><>
ประชาชนคนนี้ได้เฝ้ามองการต่อสู้ของคุณทักษิณตั้งแต่ถูกยึดอำนาจ
วันที่ 19 ก.ย.2549 เป็นต้นมา
มองเผินๆเหมือนคุณทักษิณจะได้ชัยนะคะ เหมือนมีพัฒนาการที่น่าพอใจ
เพราะประสบความสำเร็จ ได้รับการเลือกตั้งจากประชาชนมาโดยตลอด
นับจาก ปี 2551 จนถึง 2554
ไม่ทราบเหมือนกันค่ะว่า คุณทักษิณคิดยังไง ในวันนี้
ได้นั่งสรุปผลการต่อสู้ที่ผ่านมาอย่างไรบ้าง
จดหมายน้อยวันนี้ มึจุดมุ่งหมายให้คุณทักษิณได้หยุดคิด พิจารณา
ทุกสิ่งอย่างที่เกิดขึ้นรวมทั้งผลของการตั้งหลักสู้ของคุณทักษิณเอง
ในมุมมองของประชาชนเต็มขั้นคนหนึ่ง ที่เป็นแค่ประชาชนคนเล็กๆ…
ที่ไม่ใช่ผู้สนับสนุน คุณทักษิณและตระกูลชินวัตร แน่นอน
และยิ่งไม่ใช่ผู้สนับสนุนกลุ่มคนที่ต้องการล้างระบอบทักษิณให้สิ้นซากจากประเทศไทย
มีข้อสังเกตจากการเฝ้าดูและประเมินผลดังนี้ค่ะ
ความสำเร็จ
1. คุณทักษิณนำพาพรรคพลังประชาน และพรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้ง
โดยได้รับคะแนนเสียงข้างมากทั้งสองครั้ง สามารถเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล
ได้สำเร็จทั้งสองครั้ง
2. ได้ออกแบบนโยบาย “ประชานิยม” ที่ดึงดูดคะแนนเสียงเกษตรกร ชาวนา
พัฒนาการออกแบบนโยบาย “ประชานิยม” ที่ไร้คู่แข่ง ดึงดูดคะแนนเสียงจาก
ประชาชนชั้นกลางทั้ง บนและล่าง อย่างเบ็ดเสร็จ
3. ได้จัดตั้งมวลชนสนับสนุนคุณทักษิณและตระกูลชินวัตร ผ่านแกนนำ นปช.
ประสบผลสำเร็จในภาคเหนือและอิสาน
> เป็นมวลชนจัดตั้งที่ทรงพลัง
> เป็นมวลชนที่ชื่นชอบในความสามารถของคุณทักษิณ และยกคุณทักษิณ
เป็นไอดอล ประชาธิปไตย
> เป็นมวลชนที่พร้อมจะปกป้องพรรคเพื่อไทยให้อยู่ในอำนาจ ถึงกับยอม
ปาวารณาตนเป็น “ผนังทองแดง กำแพงเหล็ก” ปกป้องรัฐบาลพรรคเพื่อไทย
ให้คงอำนาจทางการเมืองไว้ให้ได้
4. จัดตั้งกองกำลังระดับหมู่บ้าน ถึงจังหวัด (อพปช) อาสาพิทักษ์ประชาธิปไตย
บริหารจัดการโดยแกนนำฮาร์ดคอร์ เป็นแนวร่วมปฏิบัติการกับ นปช.
ถ้าดูเผินๆตามโครงสร้างองค์กรที่ถูกออกแบบอย่างเป็นระบบ ซึ่งมีทั้งมวลชนจัดตั้ง
และกองกำลังอาสาพิทักษ์ประชาธิปไตยที่พร้อมจะลุกฮือขึ้นต่อสู้กับอำนาจนอกระบบ
ส่วนด้านซอพท์แวร์ คือ นโยบายประชานิยม ที่นับวันจะสุดโต่งยิ่งขึ้นเรื่อยๆ….
“เลือกตั้ง” จึงไม่ใช่ปัญหา แต่เป็นโอกาสของตระกูลชินวัตร ที่จะได้อำนาจคืนกลับมา
คุณทักษิณและตระกูลชินวัตร จึงดูแข็งแกร่งน่าเกรงขามในศักยภาพเป็นอย่างยิ่ง
กอปรกับการโหมรณรงค์ล้างสมองว่า “เลือกตั้ง” คือระบอบประชาธิปไตย..ไปพร้อมกัน
คุณทักษิณ และตระกูลชินวัตรจึงกลายเป็นสัญญลักษณ์ประชาธิปไตยไทย
ที่มวลชนผู้สนับสนุนไม่ต้องอิหลักอิเหลื่อ ว่าต่อสู้เพื่อตัวบุคคลตระกูลนี้
คุณทักษิณทำสำเร็จค่ะ ถ้ามองในมุมมนี้
ยังมีต่อ…