ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีนายนิยม เหลืองเจริญ หรือดีเจแหล่ อดีตแกนนำเสื้อแดงกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ถูกบุกยิงถึงบ้านวานนี้ จนได้รับบาดเจ็บ ล่าสุดปลอดภัยแล้ว เนื่องจากกระสุนไม่ถูกจุดสำคัญ แต่ยังต้องนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนครพิงค์ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเฝ้าระวังภัยอย่างใกล้ชิด
นายนิยม เหลืองเจริญ หรือดีเจแหล่ เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุนั้น ตนได้รับประทานอาหารและสุรา พร้อมกับเพื่อนบ้านและญาติ รวม 5 คน ในบริเวณโต๊ะอาหารด้านนอกตัวบ้าน ซึ่งเมื่อประมาณ 19.30 น. ตนได้ขอตัวเข้าไปนอนในบ้านเพราะรู้สึกง่วง แต่ให้เพื่อนนั่งดื่มสุรากันต่อ โดยก่อนที่จะขึ้นบ้าน ได้แวะกดน้ำที่ตู้เย็นใกล้ประตูเข้าบ้านก็ได้มีเสียงปืนดังขึ้น พร้อมกับที่ตนโดยยิงเข้าที่ข้อมือขวา ขณะที่ยังไม่ทันตั้งตัวก็โดนกระสุนยิงเข้าที่ข้อพับขาขวาอีกหนึ่งนัดเป็นเหตุให้ตนล้มลง และมีเสียงปืนดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อตั้งสติได้จึงดึงตู้เย็นให้ล้มลงมาขวางร่างของตน ขณะเดียวกันคนร้ายก็ยังกระหน่ำยิงอย่างต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 30 นัด เจาะกำแพงจนพรุน และได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ส่วนคนอื่นไม่ได้รับบาดเจ็บ
ขณะนั้นแม้จะมีผู้อยู่ในเหตุการณ์อีก 4 คน แต่ต่างคนต่างหลบห่ากระสุนที่ระดมยิงทั่วบริเวณ จึงมองไม่เห็นตัวคนร้าย แม้จุดที่คนร้ายระดมยิงจะอยู่ห่างเพียง ไม่เกิน 30 เมตร แต่ก็มีต้นไม้และความมืดบดบัง ทำให้ไม่ทราบทั้งรูปพรรณและจำนวนคนร้าย แม้กระทั่งอาวุธที่คนร้ายใช้ โดยทราบจากเจ้าหน้าที่ตำรวจภายหลังว่า น่าจะเป็นอาวุธปืนอาก้า ซึ่งสามารถเก็บปลอกกระสุนได้จำนวนมากทั่วบริเวณ
"ผมไม่เคยมีเรื่องกับใครเป็นการส่วนตัว เพื่อนฝูง และชาวบ้านก็รักใคร่กันดี ไม่มีศัตรู ซึ่งที่สงสัยคาดว่าน่าจะเป็ คนเสื้อแดงเหมือนกัน แต่อยู่คนละกลุ่ม เพราะแม้แต่เสื้อแดงก็มีหลายฝ่าย น่าจะเกิดจากการที่เขาคิดว่าผมไปขัดผลประโยชน์ หรืออาจจะเป็นคดีเก่าที่เเขาคิดว่าผมไปเปิดเผยชื่อกับตำรวจ และคิดจะปิดปาก เบื้องต้นเชื่อว่า การกระทำครั้งนี้ไม่ใช่แค่ขู่ แต่เป็นการหวังผลปิดปาก ให้ผมตายแน่ๆ"นายนิยม กล่าว
นายนิยม กล่าวอีกว่า เป็นโชคดีของตนที่กระสุนไม่เข้าในจุดสำคัญ กระสุนกลับทะลุแขนและขาตนไป โดยนัดที่ข้อมือขวานั้นเมื่อเอ็กซเรย์พบว่า เฉียดกระดูกและเส้นเอ็นข้อมือไป ส่วนนัดที่เจาะข้อพับขาขวานั้นก็ทะลุ ไม่โดนเส้นเลือดใหญ่ ทั้งที่ในระยะแค่ 30 เมตร กับห่ากระสุนกว่า 30 นัด ไม่น่าพลาด ถือว่าพระคุ้มครองตนอยู่ ทั้งนี้หลังจาก ร.ต.ท.ทรงศักดิ์ ตันยาดี พนักงานสอบสวน สภ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ได้สอบเข้ามาปากคำ ตนก็ได้ให้การหมดเปลือก รวมทั้งระบุตัวผู้ต้องสงสัยบางคนให้แก่เจ้าหน้าที่เรียบร้อยแล้ว ต่อจากนี้ก็หวังพึ่งผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ให้กฎหมายรวบตัวคนผิดมาดำเนินคดีได้ โดยเร็วที่สุด
ขณะที่ช่วงเช้าวันนี้ (20 ก.ค.)พล.ต.ต.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบช.ภาค5 รักษาการผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พ.ต.อ.วีระวุฒิ เนียมน้อย รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ และ พ.ต.อ.อนุรักษ์ กิจประเสริฐ ผกก.สภ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ นำทีมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง หลังตำรวจพิสูจน์หลักฐานเชียงใหม่เข้าตรวจสอบหาร่องรอยและหลักฐานตลอดทั้งคืน พบว่ามีปลอกกระสุนอาก้า ขนาด 7.62 มิลลิเมตร ตกอยู่บริเวณสวนลำไยห่างจากบ้านจุดเกิดเหตุไปประมาณ 20 เมตร คาดว่าคนร้ายพุ่งเป้ายิงเข้าใส่ดีเจแหล่เพียงคนเดียว
พล.ต.ต.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ตนได้เรียกประชุมมอบหมายให้ชุดสืบสวนภูธร และสืบสวนภาค 5 ทำงานร่วมกันเพื่อเร่งคลี่คลายคดี หลังการสอบปากคำเจ้าตัวและผู้เกี่ยวข้องเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ให้น้ำหนักว่าเหตุดังกล่าวน่าจะเกิดจากความขัดแย้งส่วนตัวมากที่สุด แต่ก็ไม่ตัดทิ้งประเด็นทางการเมือง เนื่องจากที่ผ่านมานายนิยม มีความขัดแย้งส่วนตัวหลายอย่างกับหลายคน และเคยถูกลอบยิงถล่มบ้านมาแล้วเมื่อ 3 ปีก่อน ซึ่งอาจเป็นได้ว่าการถูกยิงครั้งนี้น่าจะเป็นปัญหาส่วนตัวของคนในกลุ่มก็เป็นได้
'ดีเจแหล่'เผยนาทีระทึกถูกยิงถล่ม
นายนิยม เหลืองเจริญ หรือดีเจแหล่ เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุนั้น ตนได้รับประทานอาหารและสุรา พร้อมกับเพื่อนบ้านและญาติ รวม 5 คน ในบริเวณโต๊ะอาหารด้านนอกตัวบ้าน ซึ่งเมื่อประมาณ 19.30 น. ตนได้ขอตัวเข้าไปนอนในบ้านเพราะรู้สึกง่วง แต่ให้เพื่อนนั่งดื่มสุรากันต่อ โดยก่อนที่จะขึ้นบ้าน ได้แวะกดน้ำที่ตู้เย็นใกล้ประตูเข้าบ้านก็ได้มีเสียงปืนดังขึ้น พร้อมกับที่ตนโดยยิงเข้าที่ข้อมือขวา ขณะที่ยังไม่ทันตั้งตัวก็โดนกระสุนยิงเข้าที่ข้อพับขาขวาอีกหนึ่งนัดเป็นเหตุให้ตนล้มลง และมีเสียงปืนดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อตั้งสติได้จึงดึงตู้เย็นให้ล้มลงมาขวางร่างของตน ขณะเดียวกันคนร้ายก็ยังกระหน่ำยิงอย่างต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 30 นัด เจาะกำแพงจนพรุน และได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ส่วนคนอื่นไม่ได้รับบาดเจ็บ
ขณะนั้นแม้จะมีผู้อยู่ในเหตุการณ์อีก 4 คน แต่ต่างคนต่างหลบห่ากระสุนที่ระดมยิงทั่วบริเวณ จึงมองไม่เห็นตัวคนร้าย แม้จุดที่คนร้ายระดมยิงจะอยู่ห่างเพียง ไม่เกิน 30 เมตร แต่ก็มีต้นไม้และความมืดบดบัง ทำให้ไม่ทราบทั้งรูปพรรณและจำนวนคนร้าย แม้กระทั่งอาวุธที่คนร้ายใช้ โดยทราบจากเจ้าหน้าที่ตำรวจภายหลังว่า น่าจะเป็นอาวุธปืนอาก้า ซึ่งสามารถเก็บปลอกกระสุนได้จำนวนมากทั่วบริเวณ
"ผมไม่เคยมีเรื่องกับใครเป็นการส่วนตัว เพื่อนฝูง และชาวบ้านก็รักใคร่กันดี ไม่มีศัตรู ซึ่งที่สงสัยคาดว่าน่าจะเป็ คนเสื้อแดงเหมือนกัน แต่อยู่คนละกลุ่ม เพราะแม้แต่เสื้อแดงก็มีหลายฝ่าย น่าจะเกิดจากการที่เขาคิดว่าผมไปขัดผลประโยชน์ หรืออาจจะเป็นคดีเก่าที่เเขาคิดว่าผมไปเปิดเผยชื่อกับตำรวจ และคิดจะปิดปาก เบื้องต้นเชื่อว่า การกระทำครั้งนี้ไม่ใช่แค่ขู่ แต่เป็นการหวังผลปิดปาก ให้ผมตายแน่ๆ"นายนิยม กล่าว
นายนิยม กล่าวอีกว่า เป็นโชคดีของตนที่กระสุนไม่เข้าในจุดสำคัญ กระสุนกลับทะลุแขนและขาตนไป โดยนัดที่ข้อมือขวานั้นเมื่อเอ็กซเรย์พบว่า เฉียดกระดูกและเส้นเอ็นข้อมือไป ส่วนนัดที่เจาะข้อพับขาขวานั้นก็ทะลุ ไม่โดนเส้นเลือดใหญ่ ทั้งที่ในระยะแค่ 30 เมตร กับห่ากระสุนกว่า 30 นัด ไม่น่าพลาด ถือว่าพระคุ้มครองตนอยู่ ทั้งนี้หลังจาก ร.ต.ท.ทรงศักดิ์ ตันยาดี พนักงานสอบสวน สภ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ได้สอบเข้ามาปากคำ ตนก็ได้ให้การหมดเปลือก รวมทั้งระบุตัวผู้ต้องสงสัยบางคนให้แก่เจ้าหน้าที่เรียบร้อยแล้ว ต่อจากนี้ก็หวังพึ่งผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ให้กฎหมายรวบตัวคนผิดมาดำเนินคดีได้ โดยเร็วที่สุด
ขณะที่ช่วงเช้าวันนี้ (20 ก.ค.)พล.ต.ต.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบช.ภาค5 รักษาการผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พ.ต.อ.วีระวุฒิ เนียมน้อย รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ และ พ.ต.อ.อนุรักษ์ กิจประเสริฐ ผกก.สภ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ นำทีมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง หลังตำรวจพิสูจน์หลักฐานเชียงใหม่เข้าตรวจสอบหาร่องรอยและหลักฐานตลอดทั้งคืน พบว่ามีปลอกกระสุนอาก้า ขนาด 7.62 มิลลิเมตร ตกอยู่บริเวณสวนลำไยห่างจากบ้านจุดเกิดเหตุไปประมาณ 20 เมตร คาดว่าคนร้ายพุ่งเป้ายิงเข้าใส่ดีเจแหล่เพียงคนเดียว
พล.ต.ต.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ตนได้เรียกประชุมมอบหมายให้ชุดสืบสวนภูธร และสืบสวนภาค 5 ทำงานร่วมกันเพื่อเร่งคลี่คลายคดี หลังการสอบปากคำเจ้าตัวและผู้เกี่ยวข้องเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ให้น้ำหนักว่าเหตุดังกล่าวน่าจะเกิดจากความขัดแย้งส่วนตัวมากที่สุด แต่ก็ไม่ตัดทิ้งประเด็นทางการเมือง เนื่องจากที่ผ่านมานายนิยม มีความขัดแย้งส่วนตัวหลายอย่างกับหลายคน และเคยถูกลอบยิงถล่มบ้านมาแล้วเมื่อ 3 ปีก่อน ซึ่งอาจเป็นได้ว่าการถูกยิงครั้งนี้น่าจะเป็นปัญหาส่วนตัวของคนในกลุ่มก็เป็นได้