ตั้งแต่รู้ว่าละครเวทีสี่แผ่นดินจะกลับมาโลดแล่นบนเวทีรัชดาลัยอีกครั้งก็ตั้งตารอคอยอย่างใจจดใจจ่อ เพราะสำหรับตัวเองขอยกให้ละครเวทีเรื่องนี้เป็นที่สุดแล้วในทุกๆด้าน ทั้งนักแสดง บท เพลง โปรดักชั่น เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย ไม่ต้องพูดถึงความชื่นชอบดั้งเดิมที่มีต่อบทประพันธ์อันทรงคุณค่าเรื่องนี้อยู่แล้ว
ความสำเร็จที่สามารถเปิดรอบการแสดงได้ถึง 100 รอบในครั้งที่แล้วคงเป็นบทพิสูจน์ถึงความยิ่งใหญ่ของละครเวทีเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี
และเมื่อทางทีมงานค่อยๆเปิดเผยรายชื่อนักแสดงกับการกลับมา Restage ในครั้งนี้ออกมา โดยเริ่มจากนักแสดงสุดยอดฝีมือแห่งยุค อย่างพี่นก สินจัย ที่กลับมาเล่นเป็นแม่พลอยเหมือนเดิม แค่นี้ก็เป็นเครื่องการันตีได้เลยว่าสี่แผ่นดินเวอร์ชั่นนี้จะยังคงดีงามแน่ๆ
ยิ่งมาเห็นรายชื่อนักแสดงหลักๆหลายคนที่เป็นที่พูดถึงกันอย่างมากในเวอร์ชั่นที่แล้วอย่าง กัน นภัทรในบทคุณเปรม / อาร์ อาณัตพล ในบทตาอ้น และ รัดเกล้า ในบทช้อย ทันทีที่เห็นรายชื่อเหล่านี้ก็รู้ได้เลยว่าเวอร์ชั่นนี้... “รอดแน่”
เสียดายก็แต่พินต้า ในบทแม่พลอยวัยเด็ก ที่เรียกเสียงฮือฮาจากครั้งที่แล้วที่ไม่ได้กลับมาเล่นอีกครั้ง แต่ก็เข้าใจนะว่าน้องคงโตมากแล้ว (ไม่รู้เสียงแตกสาวไปหรือยัง ชอบเสียงวัยเด็กของน้องมาก) จริงๆไม่ใช่แค่การร้อง แต่การแสดงก็น่ารักน่าชัง และน่าสงสาร เมื่อมาบวกกับเสียงร้องที่สวรรค์มอบให้ เลยทำให้น้องเค้าเป็นแม่พลอยวัยเด็กที่น่าประทับใจมาก
ส่วนนักแสดงใหม่ที่แคสมาก็น่าลุ้นและคาดหวังได้ทั้งไอซ์ และอาเมน โดยเฉพาะ ไอซ์ ที่จะมารับบทสำคัญอย่างตาอั้น เนื่องจากไอซ์เป็นนักร้องที่ร้องเพลงดี มีพลังและอินเนอร์ในการร้องเพลงดีมากอยู่แล้ว แถมได้ข่าวว่าเรียนมาโดยตรงกับศาสตร์ด้านละครเวทีอีก การมารับบทเป็นตาอั้น จึงทำให้ละครเวทีเรื่องนี้น่าสนใจขึ้นมามากเลยทีเดียว
สี่แผ่นดิน เป็นเรื่องราวของแม่พลอย หญิงสาวชาววังที่ได้ผ่านเรื่องราวต่างๆในชีวิตมาถึง 4 รัชกาลหรือสี่แผ่นดิน เธอได้เห็นทั้งความเปลี่ยนแปลงทั้งภายนอก ภายใน (ครอบครัว รวมทั้งตัวเอง) และได้อยู่กับความเปลี่ยนแปลงนั้นจนวันสุดท้ายของชีวิต
สี่แผ่นดิน Restage รอบนี้ก็ยังคงรักษาแก่นของเรื่องนี้ไว้ได้อย่างดี แต่มันดีกว่าครั้งที่แล้วที่มันกระชับขึ้น ความสอดคล้องของเรื่องราวและการขยี้ประเด็นสำคัญๆทำได้ดีขึ้น มาดูสี่แผ่นดินครั้งนี้รู้สึกอินกว่าครั้งที่แล้วขึ้นไปอีก
ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับแม่พลอยไม่ได้งดงามไปทุกเรื่อง ส่วนใหญ่เปลี่ยนแปลงไปในทางขมขื่นและเจ็บปวดด้วยซ้ำ แต่เรื่องราวของแม่พลอยกำลังสอนให้เราเรียนรู้ เรียนรู้ที่จะอยู่กับความเปลี่ยนแปลง เรียนรู้ที่จะเข้าใจว่าท้ายที่สุดแล้ว ชีวิตของเราทุกคนก็ต้องพบกับความเปลี่ยนแปลงเหมือนในเพลง “ภาพ” ที่คุณเปรมร้องว่า... “ ไม่มีใครยั่งยืนคู่ฟ้า ไม่มีคำว่าชั่วนิรันดร์” ซึ่งแก่นแท้ของเรื่องนี้ทางทีมงานได้ส่งผ่านข้อความโดยใช้ละครเวทีเป็นสื่อ ที่ทุกองค์ประกอบสำหรับเราถือว่าทำได้สมบูรณ์แบบ การแสดง เพลง และฉากงดงามตระการตามาก มันทำให้เรารู้สึกว่านี่แหละ...ความงดงามในความเปลี่ยนแปลง..ที่เรามองเห็นจากละครเวทีเรื่องนี้
[CR] Review สี่แผ่นดินเดอะมิวสิคคัล[Restage]...ความงดงามในความเปลี่ยนแปลง
ความสำเร็จที่สามารถเปิดรอบการแสดงได้ถึง 100 รอบในครั้งที่แล้วคงเป็นบทพิสูจน์ถึงความยิ่งใหญ่ของละครเวทีเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี
และเมื่อทางทีมงานค่อยๆเปิดเผยรายชื่อนักแสดงกับการกลับมา Restage ในครั้งนี้ออกมา โดยเริ่มจากนักแสดงสุดยอดฝีมือแห่งยุค อย่างพี่นก สินจัย ที่กลับมาเล่นเป็นแม่พลอยเหมือนเดิม แค่นี้ก็เป็นเครื่องการันตีได้เลยว่าสี่แผ่นดินเวอร์ชั่นนี้จะยังคงดีงามแน่ๆ
ยิ่งมาเห็นรายชื่อนักแสดงหลักๆหลายคนที่เป็นที่พูดถึงกันอย่างมากในเวอร์ชั่นที่แล้วอย่าง กัน นภัทรในบทคุณเปรม / อาร์ อาณัตพล ในบทตาอ้น และ รัดเกล้า ในบทช้อย ทันทีที่เห็นรายชื่อเหล่านี้ก็รู้ได้เลยว่าเวอร์ชั่นนี้... “รอดแน่”
เสียดายก็แต่พินต้า ในบทแม่พลอยวัยเด็ก ที่เรียกเสียงฮือฮาจากครั้งที่แล้วที่ไม่ได้กลับมาเล่นอีกครั้ง แต่ก็เข้าใจนะว่าน้องคงโตมากแล้ว (ไม่รู้เสียงแตกสาวไปหรือยัง ชอบเสียงวัยเด็กของน้องมาก) จริงๆไม่ใช่แค่การร้อง แต่การแสดงก็น่ารักน่าชัง และน่าสงสาร เมื่อมาบวกกับเสียงร้องที่สวรรค์มอบให้ เลยทำให้น้องเค้าเป็นแม่พลอยวัยเด็กที่น่าประทับใจมาก
ส่วนนักแสดงใหม่ที่แคสมาก็น่าลุ้นและคาดหวังได้ทั้งไอซ์ และอาเมน โดยเฉพาะ ไอซ์ ที่จะมารับบทสำคัญอย่างตาอั้น เนื่องจากไอซ์เป็นนักร้องที่ร้องเพลงดี มีพลังและอินเนอร์ในการร้องเพลงดีมากอยู่แล้ว แถมได้ข่าวว่าเรียนมาโดยตรงกับศาสตร์ด้านละครเวทีอีก การมารับบทเป็นตาอั้น จึงทำให้ละครเวทีเรื่องนี้น่าสนใจขึ้นมามากเลยทีเดียว
สี่แผ่นดิน เป็นเรื่องราวของแม่พลอย หญิงสาวชาววังที่ได้ผ่านเรื่องราวต่างๆในชีวิตมาถึง 4 รัชกาลหรือสี่แผ่นดิน เธอได้เห็นทั้งความเปลี่ยนแปลงทั้งภายนอก ภายใน (ครอบครัว รวมทั้งตัวเอง) และได้อยู่กับความเปลี่ยนแปลงนั้นจนวันสุดท้ายของชีวิต
สี่แผ่นดิน Restage รอบนี้ก็ยังคงรักษาแก่นของเรื่องนี้ไว้ได้อย่างดี แต่มันดีกว่าครั้งที่แล้วที่มันกระชับขึ้น ความสอดคล้องของเรื่องราวและการขยี้ประเด็นสำคัญๆทำได้ดีขึ้น มาดูสี่แผ่นดินครั้งนี้รู้สึกอินกว่าครั้งที่แล้วขึ้นไปอีก
ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับแม่พลอยไม่ได้งดงามไปทุกเรื่อง ส่วนใหญ่เปลี่ยนแปลงไปในทางขมขื่นและเจ็บปวดด้วยซ้ำ แต่เรื่องราวของแม่พลอยกำลังสอนให้เราเรียนรู้ เรียนรู้ที่จะอยู่กับความเปลี่ยนแปลง เรียนรู้ที่จะเข้าใจว่าท้ายที่สุดแล้ว ชีวิตของเราทุกคนก็ต้องพบกับความเปลี่ยนแปลงเหมือนในเพลง “ภาพ” ที่คุณเปรมร้องว่า... “ ไม่มีใครยั่งยืนคู่ฟ้า ไม่มีคำว่าชั่วนิรันดร์” ซึ่งแก่นแท้ของเรื่องนี้ทางทีมงานได้ส่งผ่านข้อความโดยใช้ละครเวทีเป็นสื่อ ที่ทุกองค์ประกอบสำหรับเราถือว่าทำได้สมบูรณ์แบบ การแสดง เพลง และฉากงดงามตระการตามาก มันทำให้เรารู้สึกว่านี่แหละ...ความงดงามในความเปลี่ยนแปลง..ที่เรามองเห็นจากละครเวทีเรื่องนี้