สวัสดีครับ เพื่อนๆชาวพันทิปทุกคน ผมมีเรื่องที่สงสัยมานานแล้วว่า เค้าคนนั้นคิดยังไงกับผมกันแน่ หรือมันเป็นเพียงแค่ ความมโนของผมเอง
ผมขอย้อนเรื่องราวไปเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ตอนนั้นผมเรียนอยู่ชั้น ม 5 เป็นช่วงที่เด็ก ม ปลาย ทุกคน รู้กันดีว่า กำลังเข้าสู่สงครามรบครั้งยิ่งใหญ่ ผมก็เป็นหนึ่งในนั้นที่จะพยายามขวนขวายหาความรู้ให้ได้มากที่สุด จึงตัดสินใจไปเรียนพิเศษ ที่ ดาว้อง ( ขอเอ่ยนามสถาบันกวดวิชาน่ะครับ ) กับเพื่อนผู้หญิงอีกสองคน
อ่อ ลืมบอกไปครับ ว่า ผมเป็นเด็กใต้น่ะครับ การเรียนพิเศษ จึงเป็นการเรียนการสอนผ่านทางวีดีโอเท่านั้น ไม่ใช่สด
จนกระทั่งวันหนึ่ง ผมต้องไปเรียนคนเดียว เพราะว่าเพื่อนอีกสองคนมันติดธุระ ระหว่างรอเรียนผมก็ตัดสินใจ ไปซื้ออะไรมานั่งกินเล่น ก่อนที่จะขึ้นไปเรียน โดยในชั้นล่างที่ผมนั่ง จะเป็นโต๊ะใหญ่ ตั้งเรียนกันเป็นแนวตั้ง 3-4 แถว ไว้สำหรับให้นักเรียน หรือ ผู้ปกครองมานั่งเล่น และถัดจากโต๊ะพวกนั้น ก็จะเป็นกระจกใสที่คนข้างนอกและข้างใน สามมารถมองเห็นกันได้ ผมเลือกที่จะนั่งหันหน้าไปทางกระจกนั้น เพื่อที่จะมองบรรยากาศข้างนอก ( ง่ายๆคือ อยากดูอาหารตานั่นเอง 555 ) แล้วออกไปซื้อขนมมากิน ระหว่างที่ผลักประตูออกไป ผมก็ผลักไปชนกับเด็กผู้ชายกลุ่มใหญ่กลุ่มหนึ่ง ที่กำลังมุ่งหน้า เดินผ่านไปพอดี ผมรีบกล่าวคำขอโทษ ก่อนที่จะรีบเดินไปซื้อของกิน ตอนนั้นผมไม่ได้สนใจอะไรใครหรอกน่ะครับ สนใจเพียงอย่างเดียวคือ ของกิน เพราะหิวมากๆ จนผมได้ของที่ถูกใจ ผมก็กลับมานั่งที่เดิม ที่ผมได้วางกระเป๋าเอาไว้ ก่อนที่จะก้มหน้าก้มตากินอย่างเอาเป็นเอาตาย จากทีแรก ที่จะนั่งกินชิวๆ มองผู้คนเดินขวักไขว่ไปมา ซื้อของกินอยู่ข้างนอก สุดท้ายแล้วก็ไม่ได้มองครับ เพราะผมแทบไม่ละสายตาออกจากอาหารตรงหน้าเลย ก่อนที่ผมจะอ้าปากงับไก่แซ่บชิ้นสุดท้าย ผมได้เหลือบมองไปข้างนอก เห็นเด็กผู้ชายคนนึง ที่กำลังมองผมอยู่ ในขณะที่เพื่อนๆของเขา ก็กำลังคุยกันอย่างเมามันส์ แต่สายตาของเด็กหนุ่มคนนั้นกลับหันมาสนใจผมที่กำลังอ้าปากค้างอยู่ ก่อนที่จะรู้สึกตัวได้ว่า ผมก็มองเค้าอยู่เหมืองกัน เค้าก็ค่อยๆรีบหันหน้ากลับไปทันที เหมือนกลัวว่าผมจะรู้ว่าเค้ากำลังมองอยู่
ผมไม่รู้หรอกครับว่าตอนนั้นผมคิดอะไรอยู่กันแน่ แต่ผมมั่นใจได้ว่าผมยังไม่ได้ชอบไอหมอนั่นแน่ๆ จนเวลาผ่านไปเรื่อยๆ เราก็จะเจอกันทุกวันเสาร์ ทุกครั้งที่เจอกันเราก็มองตากันทุกครั้ง ไม่ใช่แค่แปบเดียว แต่มองกันนานอยู่เหมือนกัน สายตาที่มองผม ผมมั่นใจว่าไม่ใช่สายตาที่กวนตีนแน่นอน ถ้ามองหน้าหาเรื่องจิง คงต่อยกันไปนานแล้ว มีหลายครั้งที่ผมแอบแกล้งมัน โดยการไปออเซาะเพื่อนผู้หญิงสุดแสนจะน่ารักของผม ผมทำประหนึ่งว่าเป็นแฟนกัน ไอนั่นเห็น จากที่มองผม มันรีบเข้าไปเรียนเลยครับ ( ไอนี่มันเรียนพิเศษ ครูสมศรี ที่อยู่ติดกับดาว้องน่ะครับ จึงทำให้เจอกันบ่อย ) ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำแบบนี้ไปทำไม มารู้ตัวอีกทีผมก็ชอบมั่นเข้าให้ซะแล้ว เห้ออออ ( ไม่น่าเสียท่าเลยเรา ) ทั้งๆที่เราก็ไม่เคยได้พูดกันเลยสักครั้งนึง มันดูบ้าดีเนอะ ไม่เคยคิดเลยว่าผมจะตกหลุมรักใคร เพราะเพียงแค่การสบตากันเท่านั้น ( ตั้งแต่ครั้งนั้นมา การสบตากับใครนานๆ บ่อยๆ จะเป็นจุดอ่อนของผมตลอด )
ผมพยายามทุกวิถีทาง หาข้อมูลของไอหมอนั่นไว้ให้ได้มากที่สุด แต่ก็เหมือนไม่มีอะไรคืบหน้า จนในที่สุด ผมก็ได้ไปเจอเฟสบุ๊คเค้า จึงได้รู้มาว่า เค้าชื่อแพท ( สมมติ น่ะครับ ) อยู่ ม4 เป็นรุ่นน้องผมปีนึง เรียนโรงเรียนชายล้วนโรงเรียนนึงในจังหวัดผม เป็นนักกีฬาบาส ผมก็จัดแจงแอดเฟส แถมเซฟรูปไว้ในคอมเต็มเลย 555 ( แลดูโรคจิต ) ทุกวันผมก็จะรอให้ถึงทุกวันเสาร์ เพื่อได้ไปเจอหน้าแพท แค่แปบเดียวก็ยังดี ไม่มีครั้งไหนที่เจอกันจะไม่สบตากัน ทุกครั้งที่เจอก็เป็นอันต้องสบตากันเรื่อยไป ( ไม่ให้ผมคิดได้ไงหล่ะ )
จนในที่สุด ผมก็เรียนจบครอส จึงไม่ค่อยมีโอกาสได้เจอแพท แต่มีหรือ ผมจะยอม มีบางครั้งที่ผมยอมถ่อสังขารจากโรงเรียนตัวเองเพื่อไปแอบมองแพทอยู่หน้าโรงเรียน ระยะทางก็ไม่ไกลเท่าไหร่ แค่ 30 กว่ากิโล รอตั้งนานเดินไปเดินมา จนเพื่อนบอกให้กลับ ผมก็ยังขอต่ออีกนิดบอกเพื่อนมันไปว่า ขอเดินแถวหน้าโรงเรียนอีกรอบเดียว ถ้าไม่เจอ ผมจะยอมกลับเลย พูดไม่ทันขาดคำครับ แพทนั่งมอเตอร์ไซ ออกมาจากข้างโรงเรียน ตอนนั้นงานมโนมาเลย 555 นี่มันพรมลิขิตชัดๆ ( คิดไปได้เนอะ นึกแล้วอาย ) มีหลายครั้งเหมือนกันที่ผมไปเจอกับแพทที่ห้าง เจอแล้วก็เหมือนเดิมครับ มองกันเหมือนเดิม แค่เดินสวนกัน ก็ต้องหันมามองหน้ากันทุกครั้ง ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม หลังจากนั้นก็เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมก็อยากไปบอกชอบแพทมันน่ะครับ แต่ก็ไม่กล้าพอ กลัวที่ผ่านมาเราคิดไปเอง แถมกลัวโดนยำตีนด้วย 555
และแล้วเวลาก็ล่วงเลยไปจนผมขึ้น ม 6 ผมได้มีโอกาสไปเที่ยวงานเกษตร ที่มหาลัยนึงเขาจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ที่ไปไม่ใช่อะไรหรอกครับ ผมรู้มาว่า แพทมันเป็นนายแบบพรีเซนเตอร์คลินิคผิวหน้า ที่บู๊ทหนึ่งในงาน ผมเลยชวนเพื่อนไปด้วยอีก 4 คน เพื่อจะไปเดินเที่ยว และไปเจอแพทนั่นเอง ระหว่างที่ผมและเพื่อนกำลังจะเดินผ่านหน้าบู๊ทนั้น ผมเห็นแพทกำลังแจกใบปลิว ให้กับคนที่เดินผ่านไปมาอยู่ ตอนนั้นบอกได้เลยว่า ใจเต้นรัวมาก โคตรเท่ห์อ่ะ เซ็ทผม แต่งหน้า ผมนี่แทบละลาย จนพวกเราเดินผ่านมาที่บู๊ท ผมทำเป็นเดินไม่สนใจ ไม่หันไปมองแพทด้วยซ้ำ ( เพราะผมมองมาแต่ไกลแล้ว 555 ) ผมทำเป็นวางฟอร์ม ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เดินไป ก็คุยกับเพื่อนไป ใจตอนนั้นก็อยากหันไปมองน่ะครับ แต่มันไม่กล้าจิง โรคป๊อดผมมีตลอดเวลาแอบชอบใคร ไอเพื่อนตัวดีของผมสองคนที่เดินอยู่ข้างหน้าผม มันก็เดินหันหลังมาคุยกับผม แล้วหันไปมองแพท ถ้าตอนนั้นจำไม่ผิด ผมคงบอกเพื่อนๆไปแหละว่าผมชอบแพท พวกมันเลยทำแกล้งเดินหันหน้ามาคุยกับผม แต่สายตาเหลือบไปมองแพท ก่อนที่ผมจะได้ยินพวกมันบอกว่า " เห้ยเจ เค้ามองตามมาด้วยหว่ะ กูเห็นมองมานานแล้วยังไม่หยุดมองเลยน่ะเนี่ย " ตอนนั้นเหมือนใครมาจุดประทัดในท้องมเลยก็ว่าได้ ผมไม่เคยเข้าใจในความหมายของดวงตาคู่นั่นเลย ว่าต้องการอะไร ชายแท้ เค้ามองกันแบบนี้มั้ย มองคนแปลกหน้าเค้ามองด้วยสายตาแบบนี้มั้ย ผมไม่เคยรู้ความหมายของมันจิงๆซัที ( ถ้าเรื่องเพื่อนเนี่ย แว๊บเดียว ผมดูออก ส่วนเรื่องตัวเอง ให้ตายผมก็ควายดีๆนี่เอง )
จนในที่สุดวันที่สาวๆรอคอยก็มาถึง เป็นวันที่โรงเรียนแพทมันจัดงานคริสต์มาส ทางโรงเรียนก็จะเปิดให้คนภายนอกเข้ามาดูกิจกรรมต่างๆได้ จุดเด่นของงานคือ นร แต่ละชั้นแต่ละห้อง จะต้องจัดบู๊ท เป็นของตัวเอง โดย ม6 จะรับหน้าที่ บ้านผีสิง ( เป็นที่นิยมของคนที่มาในงาน ไม่เข้าใจเหมือนกัน มันคริสต์มาสตรงไหน 55 ) ส่วนแพท มันอยู่ ม5 มันก็ต้องมาขายไก่ทอดอยู่ในซุ้ม ของห้องมันเอง คือ ขอย้อนไปหน่อยน่ะครับ ก่อนหน้านี้หนึ่งเดือน เพื่อนสนิทตัวดีของผม มันได้ไปคบกับเด็กโรงเรียนแพท ด้วยความที่มันหวังดี มันก็เป็นกามเทพ ตัวน้อยให้ผมใหญ่เลยครับ หาทั้งเบอร์ หาทั้งบีบีมาให้ผม แล้วก็หามาสำเร็จทุกครั้งด้วย ผมก็แอดบีบีไปปกติ แต่ถ้าให้โทรคุย ผมไม่กล้าแน่นอน ไอเพื่อนตัวดีผมก็หวังดีเหลือเกิน คุยให้ด้วย แต่ไม่ได้คุยไรมากมาย แค่บอกประมาณว่ามีคนแอบชอบ บอกด้วยน่ะว่าไม่ใช่ผู้หญิง ( เอิ่มมมม แต่ผมไม่ได้ออกตุ้งติ้งเลยน่ะครับ ถ้าไม่รู้จักผม คงไม่มีใครรู้ว่าเป็น ) จนแพทมันจึงชวน พวกผมไปซื้อไก่ร้านมัน แล้วให้ไปบอกชอบต่อหน้ามันเลย ท้ามาขนาดนี้ มีหรือ ผมจะไม่กล้า ผมปากไวเสมอ ตอบตกลงดิบดี แต่พอเอาเข้าจิงๆ ก็ป๊อดตามเคย 555 ในวันงานผมเดินเวียนเกือบร้อยรอบได้ ไม่กล้าที่จะเข้าไปบอกกับแพทตรงๆ ก็มันกลัวหนิครับ จะให้ทำไงได้ ถ้าเรื่องเพื่อนนี่ ผมจะวิ่งเข้าไปคนแรกเลย จนสุดท้ายผมก็ฮึดสู้จนได้ ก่อนที่จะเดินเข้าไปหน้าซุ้มห้องแพทนั้น ผมดันเดินสวนกับมันพอดี สายตาคู่นั้น ยังคงจับจ้องมองผมเหมือนเดิม กับทุกครั้งที่เคยมอง ทำให้ผมจากที่กล้า ยิ่งป๊อดเข้าไปใหญ่ ( ใครมันจะกล้าว่ะ เป็นผู้ชาย ไปบอกรัก ผู้ชาย ดูยังไงมันก็ไม่ใช่ง่ะ บอกรักครั้งล่าสุดก็เป็นผู้หญิง ความรู้สึกมันเลยต่างกันลิบ ) จนไอเพื่อนตัวแสบคนเดิม ลากผมไปถึงหน้าซุ้ม ที่ตอนนี้คนต่อซื้อไก่กันเต็ม ผมก็เนียนๆไปยืนข้างซุ้ม ก่อนที่จะค่อยๆใจดีสู้เสือตะโกนเรียกชื่อ แพท ออกไป " แพท แพท เราเจน่ะ ที่เพื่อนเราคุยในโทรศัพท์ แล้วบอกว่าเราชอบนายอ่ะ เราจะมาบอกว่า เราชอบนายน่ะ " ผมพูดไปแค่นั้นแหละครับ ดูเหมือนมันจะอึ้งๆไปแปบนึง แล้วก็พยักหน้าให้ผม ก่อนที่ผมจะวิ่งหายไปเลย 5555 แต่ความรู้สึกมันเหมือนได้ปลดปล่อยยังไงก็ไม่รู้ ทุกอย่างโล่งไปหมด ไม่ได้หวังให้มันมาชอบหรอกน่ะครับ แค่ไม่โดนยำตีน ก็บุญแล้ว 5555
หลังจากนั้นมาผมก็ไม่ได้คุยอะไรกับแพทหรอกน่ะครับ แล้วก็ไม่ค่อยได้เจอด้วย แต่ก็ยังคงชอบเหมือนเดิม จนผมได้มาอยู่มหาลัยชื่อในจังหวัดผมนั่นแหละครับ ก็พอได้รู้เรื่องข่าวของแพทบ้าง ว่ามีแฟนแล้ว เป็นสาวทันตะ มหาลัยผม ได้มีโอกาสเจอแพทด้วยครั้งนึง ตอนที่แพทเหมือนจะมานั่งรอแฟนอยู่หน้าหอใน ซึ่งบังเอิญผมก็กำลังเดินผ่านไปพอดี มันก็แอบนอยๆ หน่วงๆ น่ะครับ แต่ผม ก็ไม่ได้หันไปดูหรอก ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น อีกอย่างตอนนั้นผมพึ่งเลิกกับแฟนด้วย เลยไม่ค่อยอยากคิดอะไรสักเท่าไหร่
จนในที่สุดก็ใกล้วันครบรอบ 1 ปี ที่ผมไปบอกชอบแพท ( จิงๆผมไม่ได้นับวันน่ะครับ ก็มันตรงกับงานคริสต์มาส ที่โรงเรียนแพทพอดี ) ผมได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนตัวแสบกามเทพของผม
" เห้ยเจ ปีนี้ไปงานคริสต์มาสโรงเรียน......"
" ไม่รู้หว่ะ คิดดูก่อน "
" กูจะบอกว่า มีคน ฝากบัตรฟรีมาให้ "
" เห้ยยย จิงมั้ย ใครหว่ะ " ตอนนั้นผมดีใจกระโดดโลดเต้น เหมือนคนบ้าเลยครับ
" มันไม่บอกหว่ะ ว่าใคร มันบอกมาว่าส่งกันมาหลายๆ ต่อ แต่ระบุว่าต้องให้เท่านั้น "
" อำกูป่ะเนี่ย "
" กูจะอำเพื่อ จะเอามั้ย ถ้าไม่เอา กูเอาเอง "
" เอาเว้ยๆๆๆๆๆๆ " ผมรีบตอบรับมันทันทีครับ ผมมั่นใจว่าแพทต้องส่งบัตรนี้มาให้ผมแน่ๆ ไม่ได้มโนเข้าข้างตัวเองน่ะ เพราะผมไม่เคยรู้จักใครใน โรงเรียนแพทมาก่อน ยกเว้นแพทคนเดียว แล้วถ้าไม่ใช่แพทจะเป็นใครไปได้ หัวใจผมที่เคยห่อเหี่ยว กลับมาเบ่งบานอีกครั้ง เพียงแค่บัตรในงานสองใบจากคนนิรนาม ที่ผมรู้สึกว่ามันโคตรจะมีค่าของผมเลย ( ในขณะที่คนอื่นต้องซื้อ แต่ผมได้ฟรีเว้ยยย 555 )
วันงานผมก็ไปน่ะครับ ไปกับเพื่อนที่มหาลัย แต่ไม่คิดว่าจะได้เจอแพทหรอก ที่ไปเพราะอยากไปหารายกิน เดินเล่นกับเพื่อนเท่านั้นเอง และแล้ว ผมก็เจอแพทจนได้ ผมที่กำลังเดินเข้างาน ส่วนแพทที่กำลังเดินสวนออกไปจากงาน ท่ามกลาง ผู้คนที่คับคั่ง มากมาย แต่เราสองคนก็ยังหันมาสบตากันเหมือนเดิม ^^
ตอนนี้มันก็ผ่านมา เกือบ 5 ปีแล้วครับ ตั้งแต่วันนั้น จนวันนี้ ผมยังหาคำตอบจากดวงตาคู่นั้นไม่ได้เลย ว่าเค้าสื่อถึงอะไร แต่สิ่งที่ผมรู้ คือ ผมจะเก็บความรู้สึกเหล่านี้ไว้ในความทรงจำของผมตลอดไป ขอบคุณน่ะ
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านกันน่ะครับ ตอนแรกว่าจะเขียนเล่าสั้นๆ ว่าจิงๆแล้ว ผมคิดไปเองรึป่าว เขียนไปเขียนมา จะกลายเป็นนิยายไปซะแล้ว จริงๆแล้วนี่เป็นการเขียนครั้งแรกของผมด้วย ไงก็ฝากเนื้อฝากตัวด้วยน่ะครับ ถ้ามีเรื่องราวอะไรดีๆ หรือ มีสิ่งน่าสนใจ ผมจะเข้ามาเขียนพูดคุยใหม่แน่นอนครับ
คุณเคยรึเปล่า ที่ตบหลุมรักใคร เพียงแค่ได้สบตากัน
ผมขอย้อนเรื่องราวไปเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ตอนนั้นผมเรียนอยู่ชั้น ม 5 เป็นช่วงที่เด็ก ม ปลาย ทุกคน รู้กันดีว่า กำลังเข้าสู่สงครามรบครั้งยิ่งใหญ่ ผมก็เป็นหนึ่งในนั้นที่จะพยายามขวนขวายหาความรู้ให้ได้มากที่สุด จึงตัดสินใจไปเรียนพิเศษ ที่ ดาว้อง ( ขอเอ่ยนามสถาบันกวดวิชาน่ะครับ ) กับเพื่อนผู้หญิงอีกสองคน
อ่อ ลืมบอกไปครับ ว่า ผมเป็นเด็กใต้น่ะครับ การเรียนพิเศษ จึงเป็นการเรียนการสอนผ่านทางวีดีโอเท่านั้น ไม่ใช่สด
จนกระทั่งวันหนึ่ง ผมต้องไปเรียนคนเดียว เพราะว่าเพื่อนอีกสองคนมันติดธุระ ระหว่างรอเรียนผมก็ตัดสินใจ ไปซื้ออะไรมานั่งกินเล่น ก่อนที่จะขึ้นไปเรียน โดยในชั้นล่างที่ผมนั่ง จะเป็นโต๊ะใหญ่ ตั้งเรียนกันเป็นแนวตั้ง 3-4 แถว ไว้สำหรับให้นักเรียน หรือ ผู้ปกครองมานั่งเล่น และถัดจากโต๊ะพวกนั้น ก็จะเป็นกระจกใสที่คนข้างนอกและข้างใน สามมารถมองเห็นกันได้ ผมเลือกที่จะนั่งหันหน้าไปทางกระจกนั้น เพื่อที่จะมองบรรยากาศข้างนอก ( ง่ายๆคือ อยากดูอาหารตานั่นเอง 555 ) แล้วออกไปซื้อขนมมากิน ระหว่างที่ผลักประตูออกไป ผมก็ผลักไปชนกับเด็กผู้ชายกลุ่มใหญ่กลุ่มหนึ่ง ที่กำลังมุ่งหน้า เดินผ่านไปพอดี ผมรีบกล่าวคำขอโทษ ก่อนที่จะรีบเดินไปซื้อของกิน ตอนนั้นผมไม่ได้สนใจอะไรใครหรอกน่ะครับ สนใจเพียงอย่างเดียวคือ ของกิน เพราะหิวมากๆ จนผมได้ของที่ถูกใจ ผมก็กลับมานั่งที่เดิม ที่ผมได้วางกระเป๋าเอาไว้ ก่อนที่จะก้มหน้าก้มตากินอย่างเอาเป็นเอาตาย จากทีแรก ที่จะนั่งกินชิวๆ มองผู้คนเดินขวักไขว่ไปมา ซื้อของกินอยู่ข้างนอก สุดท้ายแล้วก็ไม่ได้มองครับ เพราะผมแทบไม่ละสายตาออกจากอาหารตรงหน้าเลย ก่อนที่ผมจะอ้าปากงับไก่แซ่บชิ้นสุดท้าย ผมได้เหลือบมองไปข้างนอก เห็นเด็กผู้ชายคนนึง ที่กำลังมองผมอยู่ ในขณะที่เพื่อนๆของเขา ก็กำลังคุยกันอย่างเมามันส์ แต่สายตาของเด็กหนุ่มคนนั้นกลับหันมาสนใจผมที่กำลังอ้าปากค้างอยู่ ก่อนที่จะรู้สึกตัวได้ว่า ผมก็มองเค้าอยู่เหมืองกัน เค้าก็ค่อยๆรีบหันหน้ากลับไปทันที เหมือนกลัวว่าผมจะรู้ว่าเค้ากำลังมองอยู่
ผมไม่รู้หรอกครับว่าตอนนั้นผมคิดอะไรอยู่กันแน่ แต่ผมมั่นใจได้ว่าผมยังไม่ได้ชอบไอหมอนั่นแน่ๆ จนเวลาผ่านไปเรื่อยๆ เราก็จะเจอกันทุกวันเสาร์ ทุกครั้งที่เจอกันเราก็มองตากันทุกครั้ง ไม่ใช่แค่แปบเดียว แต่มองกันนานอยู่เหมือนกัน สายตาที่มองผม ผมมั่นใจว่าไม่ใช่สายตาที่กวนตีนแน่นอน ถ้ามองหน้าหาเรื่องจิง คงต่อยกันไปนานแล้ว มีหลายครั้งที่ผมแอบแกล้งมัน โดยการไปออเซาะเพื่อนผู้หญิงสุดแสนจะน่ารักของผม ผมทำประหนึ่งว่าเป็นแฟนกัน ไอนั่นเห็น จากที่มองผม มันรีบเข้าไปเรียนเลยครับ ( ไอนี่มันเรียนพิเศษ ครูสมศรี ที่อยู่ติดกับดาว้องน่ะครับ จึงทำให้เจอกันบ่อย ) ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำแบบนี้ไปทำไม มารู้ตัวอีกทีผมก็ชอบมั่นเข้าให้ซะแล้ว เห้ออออ ( ไม่น่าเสียท่าเลยเรา ) ทั้งๆที่เราก็ไม่เคยได้พูดกันเลยสักครั้งนึง มันดูบ้าดีเนอะ ไม่เคยคิดเลยว่าผมจะตกหลุมรักใคร เพราะเพียงแค่การสบตากันเท่านั้น ( ตั้งแต่ครั้งนั้นมา การสบตากับใครนานๆ บ่อยๆ จะเป็นจุดอ่อนของผมตลอด )
ผมพยายามทุกวิถีทาง หาข้อมูลของไอหมอนั่นไว้ให้ได้มากที่สุด แต่ก็เหมือนไม่มีอะไรคืบหน้า จนในที่สุด ผมก็ได้ไปเจอเฟสบุ๊คเค้า จึงได้รู้มาว่า เค้าชื่อแพท ( สมมติ น่ะครับ ) อยู่ ม4 เป็นรุ่นน้องผมปีนึง เรียนโรงเรียนชายล้วนโรงเรียนนึงในจังหวัดผม เป็นนักกีฬาบาส ผมก็จัดแจงแอดเฟส แถมเซฟรูปไว้ในคอมเต็มเลย 555 ( แลดูโรคจิต ) ทุกวันผมก็จะรอให้ถึงทุกวันเสาร์ เพื่อได้ไปเจอหน้าแพท แค่แปบเดียวก็ยังดี ไม่มีครั้งไหนที่เจอกันจะไม่สบตากัน ทุกครั้งที่เจอก็เป็นอันต้องสบตากันเรื่อยไป ( ไม่ให้ผมคิดได้ไงหล่ะ )
จนในที่สุด ผมก็เรียนจบครอส จึงไม่ค่อยมีโอกาสได้เจอแพท แต่มีหรือ ผมจะยอม มีบางครั้งที่ผมยอมถ่อสังขารจากโรงเรียนตัวเองเพื่อไปแอบมองแพทอยู่หน้าโรงเรียน ระยะทางก็ไม่ไกลเท่าไหร่ แค่ 30 กว่ากิโล รอตั้งนานเดินไปเดินมา จนเพื่อนบอกให้กลับ ผมก็ยังขอต่ออีกนิดบอกเพื่อนมันไปว่า ขอเดินแถวหน้าโรงเรียนอีกรอบเดียว ถ้าไม่เจอ ผมจะยอมกลับเลย พูดไม่ทันขาดคำครับ แพทนั่งมอเตอร์ไซ ออกมาจากข้างโรงเรียน ตอนนั้นงานมโนมาเลย 555 นี่มันพรมลิขิตชัดๆ ( คิดไปได้เนอะ นึกแล้วอาย ) มีหลายครั้งเหมือนกันที่ผมไปเจอกับแพทที่ห้าง เจอแล้วก็เหมือนเดิมครับ มองกันเหมือนเดิม แค่เดินสวนกัน ก็ต้องหันมามองหน้ากันทุกครั้ง ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม หลังจากนั้นก็เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมก็อยากไปบอกชอบแพทมันน่ะครับ แต่ก็ไม่กล้าพอ กลัวที่ผ่านมาเราคิดไปเอง แถมกลัวโดนยำตีนด้วย 555
และแล้วเวลาก็ล่วงเลยไปจนผมขึ้น ม 6 ผมได้มีโอกาสไปเที่ยวงานเกษตร ที่มหาลัยนึงเขาจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ที่ไปไม่ใช่อะไรหรอกครับ ผมรู้มาว่า แพทมันเป็นนายแบบพรีเซนเตอร์คลินิคผิวหน้า ที่บู๊ทหนึ่งในงาน ผมเลยชวนเพื่อนไปด้วยอีก 4 คน เพื่อจะไปเดินเที่ยว และไปเจอแพทนั่นเอง ระหว่างที่ผมและเพื่อนกำลังจะเดินผ่านหน้าบู๊ทนั้น ผมเห็นแพทกำลังแจกใบปลิว ให้กับคนที่เดินผ่านไปมาอยู่ ตอนนั้นบอกได้เลยว่า ใจเต้นรัวมาก โคตรเท่ห์อ่ะ เซ็ทผม แต่งหน้า ผมนี่แทบละลาย จนพวกเราเดินผ่านมาที่บู๊ท ผมทำเป็นเดินไม่สนใจ ไม่หันไปมองแพทด้วยซ้ำ ( เพราะผมมองมาแต่ไกลแล้ว 555 ) ผมทำเป็นวางฟอร์ม ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เดินไป ก็คุยกับเพื่อนไป ใจตอนนั้นก็อยากหันไปมองน่ะครับ แต่มันไม่กล้าจิง โรคป๊อดผมมีตลอดเวลาแอบชอบใคร ไอเพื่อนตัวดีของผมสองคนที่เดินอยู่ข้างหน้าผม มันก็เดินหันหลังมาคุยกับผม แล้วหันไปมองแพท ถ้าตอนนั้นจำไม่ผิด ผมคงบอกเพื่อนๆไปแหละว่าผมชอบแพท พวกมันเลยทำแกล้งเดินหันหน้ามาคุยกับผม แต่สายตาเหลือบไปมองแพท ก่อนที่ผมจะได้ยินพวกมันบอกว่า " เห้ยเจ เค้ามองตามมาด้วยหว่ะ กูเห็นมองมานานแล้วยังไม่หยุดมองเลยน่ะเนี่ย " ตอนนั้นเหมือนใครมาจุดประทัดในท้องมเลยก็ว่าได้ ผมไม่เคยเข้าใจในความหมายของดวงตาคู่นั่นเลย ว่าต้องการอะไร ชายแท้ เค้ามองกันแบบนี้มั้ย มองคนแปลกหน้าเค้ามองด้วยสายตาแบบนี้มั้ย ผมไม่เคยรู้ความหมายของมันจิงๆซัที ( ถ้าเรื่องเพื่อนเนี่ย แว๊บเดียว ผมดูออก ส่วนเรื่องตัวเอง ให้ตายผมก็ควายดีๆนี่เอง )
จนในที่สุดวันที่สาวๆรอคอยก็มาถึง เป็นวันที่โรงเรียนแพทมันจัดงานคริสต์มาส ทางโรงเรียนก็จะเปิดให้คนภายนอกเข้ามาดูกิจกรรมต่างๆได้ จุดเด่นของงานคือ นร แต่ละชั้นแต่ละห้อง จะต้องจัดบู๊ท เป็นของตัวเอง โดย ม6 จะรับหน้าที่ บ้านผีสิง ( เป็นที่นิยมของคนที่มาในงาน ไม่เข้าใจเหมือนกัน มันคริสต์มาสตรงไหน 55 ) ส่วนแพท มันอยู่ ม5 มันก็ต้องมาขายไก่ทอดอยู่ในซุ้ม ของห้องมันเอง คือ ขอย้อนไปหน่อยน่ะครับ ก่อนหน้านี้หนึ่งเดือน เพื่อนสนิทตัวดีของผม มันได้ไปคบกับเด็กโรงเรียนแพท ด้วยความที่มันหวังดี มันก็เป็นกามเทพ ตัวน้อยให้ผมใหญ่เลยครับ หาทั้งเบอร์ หาทั้งบีบีมาให้ผม แล้วก็หามาสำเร็จทุกครั้งด้วย ผมก็แอดบีบีไปปกติ แต่ถ้าให้โทรคุย ผมไม่กล้าแน่นอน ไอเพื่อนตัวดีผมก็หวังดีเหลือเกิน คุยให้ด้วย แต่ไม่ได้คุยไรมากมาย แค่บอกประมาณว่ามีคนแอบชอบ บอกด้วยน่ะว่าไม่ใช่ผู้หญิง ( เอิ่มมมม แต่ผมไม่ได้ออกตุ้งติ้งเลยน่ะครับ ถ้าไม่รู้จักผม คงไม่มีใครรู้ว่าเป็น ) จนแพทมันจึงชวน พวกผมไปซื้อไก่ร้านมัน แล้วให้ไปบอกชอบต่อหน้ามันเลย ท้ามาขนาดนี้ มีหรือ ผมจะไม่กล้า ผมปากไวเสมอ ตอบตกลงดิบดี แต่พอเอาเข้าจิงๆ ก็ป๊อดตามเคย 555 ในวันงานผมเดินเวียนเกือบร้อยรอบได้ ไม่กล้าที่จะเข้าไปบอกกับแพทตรงๆ ก็มันกลัวหนิครับ จะให้ทำไงได้ ถ้าเรื่องเพื่อนนี่ ผมจะวิ่งเข้าไปคนแรกเลย จนสุดท้ายผมก็ฮึดสู้จนได้ ก่อนที่จะเดินเข้าไปหน้าซุ้มห้องแพทนั้น ผมดันเดินสวนกับมันพอดี สายตาคู่นั้น ยังคงจับจ้องมองผมเหมือนเดิม กับทุกครั้งที่เคยมอง ทำให้ผมจากที่กล้า ยิ่งป๊อดเข้าไปใหญ่ ( ใครมันจะกล้าว่ะ เป็นผู้ชาย ไปบอกรัก ผู้ชาย ดูยังไงมันก็ไม่ใช่ง่ะ บอกรักครั้งล่าสุดก็เป็นผู้หญิง ความรู้สึกมันเลยต่างกันลิบ ) จนไอเพื่อนตัวแสบคนเดิม ลากผมไปถึงหน้าซุ้ม ที่ตอนนี้คนต่อซื้อไก่กันเต็ม ผมก็เนียนๆไปยืนข้างซุ้ม ก่อนที่จะค่อยๆใจดีสู้เสือตะโกนเรียกชื่อ แพท ออกไป " แพท แพท เราเจน่ะ ที่เพื่อนเราคุยในโทรศัพท์ แล้วบอกว่าเราชอบนายอ่ะ เราจะมาบอกว่า เราชอบนายน่ะ " ผมพูดไปแค่นั้นแหละครับ ดูเหมือนมันจะอึ้งๆไปแปบนึง แล้วก็พยักหน้าให้ผม ก่อนที่ผมจะวิ่งหายไปเลย 5555 แต่ความรู้สึกมันเหมือนได้ปลดปล่อยยังไงก็ไม่รู้ ทุกอย่างโล่งไปหมด ไม่ได้หวังให้มันมาชอบหรอกน่ะครับ แค่ไม่โดนยำตีน ก็บุญแล้ว 5555
หลังจากนั้นมาผมก็ไม่ได้คุยอะไรกับแพทหรอกน่ะครับ แล้วก็ไม่ค่อยได้เจอด้วย แต่ก็ยังคงชอบเหมือนเดิม จนผมได้มาอยู่มหาลัยชื่อในจังหวัดผมนั่นแหละครับ ก็พอได้รู้เรื่องข่าวของแพทบ้าง ว่ามีแฟนแล้ว เป็นสาวทันตะ มหาลัยผม ได้มีโอกาสเจอแพทด้วยครั้งนึง ตอนที่แพทเหมือนจะมานั่งรอแฟนอยู่หน้าหอใน ซึ่งบังเอิญผมก็กำลังเดินผ่านไปพอดี มันก็แอบนอยๆ หน่วงๆ น่ะครับ แต่ผม ก็ไม่ได้หันไปดูหรอก ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น อีกอย่างตอนนั้นผมพึ่งเลิกกับแฟนด้วย เลยไม่ค่อยอยากคิดอะไรสักเท่าไหร่
จนในที่สุดก็ใกล้วันครบรอบ 1 ปี ที่ผมไปบอกชอบแพท ( จิงๆผมไม่ได้นับวันน่ะครับ ก็มันตรงกับงานคริสต์มาส ที่โรงเรียนแพทพอดี ) ผมได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนตัวแสบกามเทพของผม
" เห้ยเจ ปีนี้ไปงานคริสต์มาสโรงเรียน......"
" ไม่รู้หว่ะ คิดดูก่อน "
" กูจะบอกว่า มีคน ฝากบัตรฟรีมาให้ "
" เห้ยยย จิงมั้ย ใครหว่ะ " ตอนนั้นผมดีใจกระโดดโลดเต้น เหมือนคนบ้าเลยครับ
" มันไม่บอกหว่ะ ว่าใคร มันบอกมาว่าส่งกันมาหลายๆ ต่อ แต่ระบุว่าต้องให้เท่านั้น "
" อำกูป่ะเนี่ย "
" กูจะอำเพื่อ จะเอามั้ย ถ้าไม่เอา กูเอาเอง "
" เอาเว้ยๆๆๆๆๆๆ " ผมรีบตอบรับมันทันทีครับ ผมมั่นใจว่าแพทต้องส่งบัตรนี้มาให้ผมแน่ๆ ไม่ได้มโนเข้าข้างตัวเองน่ะ เพราะผมไม่เคยรู้จักใครใน โรงเรียนแพทมาก่อน ยกเว้นแพทคนเดียว แล้วถ้าไม่ใช่แพทจะเป็นใครไปได้ หัวใจผมที่เคยห่อเหี่ยว กลับมาเบ่งบานอีกครั้ง เพียงแค่บัตรในงานสองใบจากคนนิรนาม ที่ผมรู้สึกว่ามันโคตรจะมีค่าของผมเลย ( ในขณะที่คนอื่นต้องซื้อ แต่ผมได้ฟรีเว้ยยย 555 )
วันงานผมก็ไปน่ะครับ ไปกับเพื่อนที่มหาลัย แต่ไม่คิดว่าจะได้เจอแพทหรอก ที่ไปเพราะอยากไปหารายกิน เดินเล่นกับเพื่อนเท่านั้นเอง และแล้ว ผมก็เจอแพทจนได้ ผมที่กำลังเดินเข้างาน ส่วนแพทที่กำลังเดินสวนออกไปจากงาน ท่ามกลาง ผู้คนที่คับคั่ง มากมาย แต่เราสองคนก็ยังหันมาสบตากันเหมือนเดิม ^^
ตอนนี้มันก็ผ่านมา เกือบ 5 ปีแล้วครับ ตั้งแต่วันนั้น จนวันนี้ ผมยังหาคำตอบจากดวงตาคู่นั้นไม่ได้เลย ว่าเค้าสื่อถึงอะไร แต่สิ่งที่ผมรู้ คือ ผมจะเก็บความรู้สึกเหล่านี้ไว้ในความทรงจำของผมตลอดไป ขอบคุณน่ะ
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านกันน่ะครับ ตอนแรกว่าจะเขียนเล่าสั้นๆ ว่าจิงๆแล้ว ผมคิดไปเองรึป่าว เขียนไปเขียนมา จะกลายเป็นนิยายไปซะแล้ว จริงๆแล้วนี่เป็นการเขียนครั้งแรกของผมด้วย ไงก็ฝากเนื้อฝากตัวด้วยน่ะครับ ถ้ามีเรื่องราวอะไรดีๆ หรือ มีสิ่งน่าสนใจ ผมจะเข้ามาเขียนพูดคุยใหม่แน่นอนครับ