[CR] ไปเที่ยว "Croatia" ด้วยกันนะพี่ชาย...ตอนที่ 2 : ยลโฉม Split เสน่ห์เมืองท่าประวัติศาสตร์นับพันปี

กระทู้รีวิว

ภาพถ่ายทิวทัศน์ Backpack เที่ยวต่างประเทศ ประเทศโครเอเชีย บันทึกนักเดินทาง

ต่อจากตอนที่ 1 :

litvice Lakes National Park http://pantip.com/topic/32281092
เราต้องเดินทางออกจาก Plitvice Lakes National Park บ่ายนี้ เรารอรถบัสรอบ 14:30 ซึ่งจะมุ่งหน้าไปยังเมืองสปลิท (Split) แต่รถมาไม่ตรงเวลาเลย มาจริงๆก็เกือบๆบ่าย 3 โมงแล้ว ช่วงระหว่างที่รอรถบัสอยู่ ก็จะมีแท๊กซี่ขาจรแบบเป็นรถตู้(มาในคราบลุงคนหนึ่ง นั่งอยู่แถวๆป้ายรถบัส)ทำตัวเนียนๆมาให้ความช่วยเหลือเรา ถามว่าจะไปไหน ให้ขึ้นรถคันไหน แต่สุดท้ายเค้าก็เสนอให้ไปกับเค้า ให้เราและผู้หญิงแบคแพ๊คอีก 2 คน ช่วยกันหารค่ารถเค้าคิดหัวละ 50 Euro ...บ้ารึเปล่า ฉันไม่ไปหรอกย่ะ เพี้ยนรมเสีย

่
เนื่องจากห่วงเรื่องถ่ายภาพมาก พอรถมาปั๊บ เราก็รีบวิ่งตามหลังรถทันที ให้ได้ที่หน้าข้างหน้าว่างั้นเหอะ ฮ่าๆๆๆ ...และก็ได้นั่งสมใจ (ใครไปเส้นทางนี้ให้นั่งด้านคนขับนะค่ะ วิวภูเขา ทะเลสาบ สวยมากค่ะ) จะมีคนเก็บตั๋วมาเก็บเงิน ราคาประมาน 140 HRK/คน ใครมีกระเป๋าที่ต้องไว้ใต้ท้องรถก็ต้องเสียอีกใบละ 7 HRK รถจะจอดระหว่างทาง 1 ครั้ง ใครต้องเข้าห้องน้ำก็ทำธุระให้เรียบร้อยนะค่ะ คนขับที่นี่ก็ออกสไตล์คนไทย ไม่รีบไม่ร้อน ช้า และขับแบบชิลสุดๆ ถ้ามีคนโบกระหว่างทางก็รับด้วยนะ...เพราะฉนั้นหากคุณมีแพลนที่ต้องไปไหนต่อ จะไปขึ้นเครื่องหรือต่อรถเที่ยวต่อไป กรุณาเผื่อเวลาด้วยค่ะอย่างน้อย 30 นาที - 1 ชั่วโมง เสียวเวลาแน่นอน
เวลาผ่าน 4 ชั่วโมงครึ่ง เราก็มาถึง Split ค่ะ (ช้ากว่ากำหนดการ 30 นาที) ทุ่มกว่าแล้วท้องฟ้ากลายเป็นสีส้มจากแสงอาทิตย์ที่กำลังจะลับขอบฟ้า ช่างเป็นช่วงเวลาที่สวยงามเหลือเกิน...

พอลงจากสถานีรถบัส รีบเดินๆๆๆ หาที่พักก่อนกลัวจะมืด ระหว่างเดินก็หยุดถ่ายรูปเป็นระยะๆ

จากแผนที่คือเราต้องเดินไปให้ถึง Riva (คล้ายๆถนนคนเดิน) แล้วจากตรงนั้นที่พักเราก็ไม่น่าจะหายาก แต่ปรากฎว่าเดินมาได้แค่ 5 นาทีก็เห็นเมืองแล้ว...

ว้าวววว...มันสวยงาม ขออีกรูป...

The Riva (Split's seafront promenade) หรือ ถนนคนเดิน(ทอดน่อง)

ถึงที่พักแล้ว จาก Riva ก็แค่ 2 นาทีเอง เดินหลบเข้ามาทางด้านหลังของตัวตึก แต่กว่าจะหาเจอนี่สิทำเอาเหนื่อย วนไปวนมาเพราะไม่รู้ว่าอยู่ซอกไหน เมื่อใกล้ถึงหรือถึงแล้วต้องโทรหาคนที่เราติดต่อเรื่องห้องไว้ เพราะที่นี่เขาจะไม่อยู่รอเรานะค่ะ
ห้องพักน่ารักดูอบอุ่นเหมือนอยู่บ้านเลยทีเดียว มีของใช้ทุกอย่างที่คุณคาดไม่ถึง อย่างเช่น น้ำยาทาเล็บ น้ำหอม ผงซักฟอก ผ้าอนามัย...อื่นๆ
ใครสนใจลองเข้าไปดูได้ค่ะ ที่พักชื่อ " Tower Square Apartments " อยู่ใจกลางเมืองมากๆ จะไปไหนก็สะดวก

มองออกมานอกหน้าต่างเจอวิวหอคอย ข้างล่างคือร้านอาหารที่ช่วยเราโทรหาเจ้าของห้องค่ะ ใจดีมากๆ อาหารสองร้านข้างล่างนี้อร่อยเลิศเดี๋ยวติดตามชมจะมีรีวิวอาหารด้วย

ด้วยความหิวโหยเราก็สั่งอาหารรอเลย แล้วไปเดินเล่นที่ริมน้ำแป๊บ... ขอจิบบรรยากาศยามเย็นกับวิวเรือสำราญหน่อย

กลับมาที่ร้านอาหารตรงข้ามที่พักเรา ฟาดนี่เลย....หิวสุดๆ (อร่อยเวอร์ๆ แบบกินแล้วตาเป็นประกาย

)
เอ้า...ใครจะตามมาชิมก็ไม่ว่ากัน ไม่ผิดหวังแน่นอน ชื่อร้าน Konoba Marul... มีเวปไซต์ร้านด้วยนะ http://www.konoba-marul.com/

กินอิ่มแล้ว เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก 3 ทุ่มกว่าแล้ว...ออกไปเดินรับลม ย่อยอาหารสักนิด

เช้าวันรุ่งขึ้น เรามีที่ๆจะต้องไปอีก 1 ที่ ก่อนจะเดินทางต่อไป Dubrovnik เนื่องจากทริปมันกระทันหันและคิดไม่ออกว่าจะไปไหน Split จึงเป็นแค่ทางผ่าน...ไม่นึกไม่ฝันว่ามันจะสวยขนาดนี้ เสียดายจริงๆ น่าจะอยู่นานกว่านี้สักนิดคงจะได้เดินให้ทั่วๆ
เช้านี้มีเดินขึ้นเขาอีกแล้ว เราจะขึ้นไปชมวิวเมืองสปลิทจาก Marjan Hill ซึ่งเป็นเขาลูกเล็กๆ เราถามคนแถวนั้นเค้าบอกว่าจาก Riva เดินตรงไปทางเนินเขาไม่เกิน 10 นาทีเราก็จะเจอทางขึ้น (จากภาพคือเนินเขาที่อยู่ข้างหน้าสุดทางเดินนั่น)

วิวริมน้ำระหว่างทาง

เดินเลยมาอีกหน่อยจะเจอโค้งตรงสุดถนน มีวงเวียนเล็กๆอยู่ ให้เดินตรงไปอีก ปล. หันกลับมาเจอวิวเมืองแบบนี้ขอเก็บสักภาพ

เราเดินเลียบริบน้ำมาเรื่อยๆ ก็ประมาน 10 นาทีจริงๆ หันไปเห็นป้ายทางขึ้นเขาอยู่ทางขวามือก็รีบวิ่งข้ามถนนไป

ถึงอากาศจะร้อน แต่ทางเดินขึ้นก็มีต้นไม้คอยบังแดดให้ ปล. อย่าลืมพกน้ำขวดเล็กติดตัวมาด้วยนะค่ะ ขึ้นไปสักพักจะเริ่มเหนื่อย

เดินขึ้นมาไม่ถึง 10 นาทีก็เห็นวิวแล้วค่ะ

ก่อนมาเที่ยวพยายามหาที่ๆจะได้วิวสวยๆ แล้วก็ไม่ผิดหวังจริงๆที่เดินขึ้นมา

เนื่องจากเวลาเรามีน้อย เราก็ต้องวิ่งลงเขาก็ว่าได้เพื่อจะกลับไปเดินชมตัวเมืองเก่าที่อยู่ด้านใน เราเดินมั่วๆไปตามยอดหอคอยเพราะคิดว่ามันต้องมีอะไรสักอย่างที่นั่นเพราะจากแผนที่เมืองมันดูเหมือนเป็นบริเวณราชวังเก่ามาก่อน

ใช่จริงๆด้วย ที่นี่คือพระราชวังดิโอคลีเธียน (Diocletian Palace) แต่เราไม่ได้เข้าไปดูด้านใน ได้แต่เดินรอบๆแบบเร็วๆ ในยุคสมัยโรมันนั้นเวนิสได้ขยายอาณานิคมมายังเมืองท่าแห่งนี้ด้วย และพระราชวังแห่งนี้ก็เป็นที่ประทับของจักรพรรดิ ดิโอคลีเธียนแห่งนครเวนิสนั่นเอง จึงไม่น่าแปลกใจที่อาหารบางอย่างจะคล้ายๆกับอาหารอิตาเลี่ยนโดยเฉพาะอาหารทะเล

ภาพวาดสีสันสวยงาม ดูมีชีวิตชีวา

บริเวณรอบๆ

เดินหลุดออกมาจากเขตเมืองเก่า ก็จะเจอตลาดดอกไม้ ตั้งขายเก็บเต็มไปหมด

อาหารเที่ยงก่อนจากกัน ร้านนี้ติดกับร้านแรกที่ไปทานมาค่ะ แต่ลืมจดชื่อร้านมาด้วย อร่อยไม่แพ้กันเลย แต่รออาหารค่อนข้างนานไม่แน่ใจไปแต่งจานอยู่หรือเปล่า เราสั่งสปาเก็ตตี้ครีมซอสกุ้งและเนื้อปลากระพงขาวราดซอสผักโขม เจริญอาหารไปอีก 1 มื้อ

ได้เวลาเดินทางต่อแล้ว เราเดินย้อนกลับทางเดิมไปยังสถานีรถบัส แต่ต้องไปซื้อตั๋วก่อนนะค่ะ มีเค้าน์เตอร์อยู่ด้านใน ป้าคนขายตั๋วหน้าตาไม่สบอารมณ์มากอย่าได้ถามแกเยอะ...

หน้าตาตั๋วเป็นแบบนี้ ราคา 130 HRK /คน และต้องจ่ายค่ากระเป๋าที่ต้องไว้ใต้ท้องรถเหมือนเดิม ให้ระวังเรื่องเวลา เพราะถ้าออกจากสถานีใหญ่รถจะออกตรงเวลาค่ะ แต่เรื่องไปถึงตรงเวลาหรือไม่นั้น...มันอีกเรื่องนึง ฮ่าๆๆๆ

ลาก่อนสปลิท เราคงได้พบกันใหม่

เศร้าอยู่ได้ไม่นาน ก็ตื่นตากับวิวนอกกระจกรถอีกแล้ว... อุโมงลอดถ้ำเยอะมาก

วิวทะเลก็มีให้ชมตลอดทางพูดง่ายๆคือไม่ได้นอนเลย ไม่กล้านอนกลัวพลาดวิวสวยๆ ปล. แต่พลาดไปอย่างนึง คราวนี้ลืมนึกไปว่าเส้นทางที่รถวิ่งมันจะวิ่งเลียบทะเล ดันไปนั่งผิดข้าง แอบเซ็งเล็กน้อยถ่ายภาพไม่มันเลย ใครจะไปเส้นทางนี้มุ่งหน้าไป Dubrovnik เลือกนั่งด้านขวานะค่ะ แดดอาจจะแรงนิด ใครไม่ชอบก็ให้นั่งอีกด้านนึง