
ความคืบหน้ากรณี "ก้อย" รุ่งระวี ขุระสะ นักเทควันโดสาวทีมชาติไทย อ้างว่าถูก "โค้ชเช" เช ยอง ซุก หัวหน้าผู้ฝึกสอนชาวเกาหลีใต้ลงโทษเกินกว่าเหตุด้วยการต่อยที่ใบหน้าและท้อง จนเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในสังคม จนเป็นเหตุให้ "โค้ชเช" อาจจะไม่เดินทางกลับมาเมืองไทยอีก แต่ท้ายที่สุดระบุว่ามีคิวเดินทางถึงไทยช่วงค่ำ 20 ก.ค.นี้
ล่าสุดเมื่อ 19 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศูนย์ฝึกซ้อมเทควันโด ภายในการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) พลเรือเอกสุรวุฒิ มหารมณ์ อดีตประธานคณะกรรมการเตรียมนักกีฬาไทย ในฐานะประธานพิจารณาข้อเท็จจริงนัดประชุมร่วมกับ ดร.สมคิด ปิ่นทอง ในฐานะรองประธาน และนายปรีชา ต่อตระกูล, นายเลิศ นิตย์ธีรานนท์ และนายณณัฏฐ์ เขมโสภต กรรมการ เพื่อหาข้อสรุปเกี่ยวกับประเด็นปัญหาดังกล่าว โดยมีโค้ชคิม แจ วู ผู้ฝึกสอนเกาหลีใต้อีกคน และ เป็นเอก การะเกตุ ในฐานะหัวหน้านักกีฬาเท่านั้นที่เข้าให้ข้อมูล ส่วน "น้องก้อย" รุ่งระวี กลับไม่เดินทางมา มีเพียง พิทักษ์ ผูกพัน อดีตผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ในฐานะผู้ฝึกสอน "อาร์ดีซี" ต้นสังกัด ที่เดินทางมา แต่กลับไม่เข้าให้ข้อมูลกับคณะกรรมการ เพียงแต่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนที่มารายงานข่าวเท่านั้น
"เดิมทีผมไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวกับปัญหานี้ แต่โดนพาดพิงมาตลอดว่าอยู่เบื้องหลังให้ก้อยออกมาเคลื่อนไหว อย่างไรก็ตามหลังจากเกิดเรื่องขึ้นได้พูดคุยกับครอบครัวของก้อยตลอด แต่ในระยะหลังทางผู้ปกครอง และก้อย ไม่สามารถรับกระแสสังคมได้อีกต่อไป แถมกระแสที่ออกมาไม่มีใครเห็นใจเจ้าตัวเลย ทั้งนี้อยากให้ย้อนกลับไปที่ประเด็นแรก คือโค้ชเชลงโทษเกินกว่าเหตุหรือไม่ และอยากให้ทราบว่าก้อยไม่ได้กุข่าวขึ้นมาเอง อยากให้คณะกรรมการที่ตัดสินเป็นกลาง เพราะส่วนใหญ่เป็นคนของสมาคม ไม่มีใครปกป้องเด็กเลย ซึ่งส่วนตัวอยากให้สมาคมขอโทษเด็กบ้าง แล้วค่อยมาคุยกันเป็นการภายใน"
อย่างไรก็ตามยังมีคลิปเสียงของนักกีฬาที่ออกความเห็นจากกรณีดังกล่าว ซึ่งเนื้อหาระบุว่าเป็นการลงโทษที่หนักหน่วงกว่าทุก ๆ ครั้ง และโค้ชทำรุนแรงเกินไป โดยยังมีน้ำเสียงของรุ่งระวีที่ระบุว่าเกือบจะตอบโต้โค้ชกลับเนื่องจากทนการทำโทษดังกล่าวไม่ไหว และพยายามหาคำตอบว่าโค้ชโกรธนักกีฬาเรื่องอะไร และผู้ฝึกสอนไทยทำไมถึงไม่ช่วยเหลือ
ด้านพลเรือเอกสุรวุฒิ เปิดเผยในการแถลงข่าวว่า เราพยายามเรียนเชิญแล้ว แต่รุ่งระวีไม่มาก็ยิ่งไปกันใหญ่ น่าเสียดายที่ไม่มา เพราะยิ่งเป็นอันตรายต่อตัวเอง และหาที่ยืนในสังคมได้ลำบาก ซึ่งคณะทำงานพยายามหาให้ แต่กลับไม่ให้เกียรติกันทั้งที่เราหวังดี โดยจากที่พูดคุย รุ่งระวีติดทีมชาติตามระบบการคัดเลือกของสมาคมในช่วงเดือน เม.ย. ความเข้าใจในการเป็นทีมชาติถือว่าสั้นแม้จะเล่นเทควันโดมานานแล้วก็ตาม ซึ่งคณะทำงานคงไม่พยายามหาคนผิดหรือต่อความให้ยาว แต่จะพูดคุยกันเป็นการภายใน
"สื่อเกาหลีประโคมว่าอยากเอาตัวโค้ชเชกลับ เพราะอะไร เพราะวงการเทควันโดเกาหลีตกต่ำอย่างเป็นอันตราย ยูธโอลิมปิกมีนักกีฬาได้สิทธิ์เพียงคนเดียวจากการทำอันดับ 4 ขณะที่ไทยได้สิทธิ์ 2 คนจากผลงานเหรียญทอง การพยายามปล่อยคลิปของคนบางกลุ่มนั้น ผมไม่เข้าใจว่าทำเพื่ออะไร อยากจะล้มโค้ช ล้มวงการเทควันโดไปทั้งหมดหรืออย่างไร แล้วเด็กที่เล่นเทควันโด 800,000 คนทั่วประเทศจะทำอย่างไร อยากให้สมาคมเทควันโดเป็นเหมือนสมัยก่อนที่คณะกรรมการเป็นคนจากยิมต่าง ๆ แล้วก็เอาเด็กตัวเองมาติดทีมชาติ แล้วเอารูปนักกีฬาตัวเองได้เหรียญต่าง ๆ ไปโฆษณาดึงเด็กเข้ามาเรียน"
"เรื่องคลิปเสียงดังกล่าว ผมมองว่าเป็นเรื่องของการให้กำลังใจเพื่อนนักกีฬาด้วยกัน ไม่ได้เอามาเป็นประเด็นในการพิจารณา อย่างไรก็ตามในประเด็นให้โค้ชเชขอโทษผ่านสื่อนั้น ที่อื่นอาจจะทำได้ แต่ผมรับไม่ได้ และจะไม่ปล่อยให้โค้ชเชทำเช่นนั้นแน่นอน แต่จะขอให้พูดคุยกันเป็นการภายในจะดีกว่า"
ด้านนายปรีชา ต่อตระกูล อุปนายกสมาคมฯในฐานะคณะกรรมการพิจารณา กล่าวว่า ตนเองอยากให้เรื่องจบเร็วที่สุดแล้วกลับมาคุยกันในบ้าน ตอนนี้นักกีฬาไม่มีสมาธิฝึกซ้อม เพราะประเด็นข่าวดังกล่าว ตอนนี้คุยกับโค้ชเชตลอดซึ่งเขาจะกลับมาทำงานจนถึงโอลิมปิกเกมส์ 2016 ที่ริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล ซึ่งหลังจากกลับถึงประเทศไทยเจ้าตัวจะให้สัมภาษณ์เพียงครั้งเดียว จากนั้นจะขอทำงานในฐานะผู้ฝึกสอนอย่างเดียว
ขณะที่ "บิ๊กเอ" พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมเทควันโด ได้โทรศัพท์ข้ามทวีปจากอเมริกา มาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงการโทรคุยกับ โค้ช เช จนเดินทางกลับมาเมืองไทยว่า ตนได้คุยกับโค้ชเช ด้วยเหตุและผล รวมทั้งอัพเดตเรื่องสถานการณ์ในเมืองไทย ทั้งเรื่องการตั้งกรรมการสอบสวน รวมทั้งอยากให้ เช ทราบถึงกระแสคนไทยเขาคิดอย่างไรต่อ เช และก็ได้บอกเขาไปว่า อย่าใส่ใจเสียงเล็กน้อยมาทำให้เสียความรู้สึก เรายังต้องโฟกัสไปที่ 2 รายการใหญ่ คือ ยูธโอลิมปิกเกมส์ที่จีน และเอเชี่ยนเกมส์ ที่เกาหลี ซึ่ง เช เขาก็เข้าใจ และยังบอกว่า ช่วงเวลาที่หายไป เขาคิดอะไรหลายอย่าง รู้สึกสับสน แต่พอเขาเห็นคนไทยมาให้กำลังใจเขาจำนวนมาก รวมทั้งเห็นลูกศิษย์ของเขาหลายคนคอยให้กำลังใจทำให้เขาคิดได้
"ผมยังส่งรูปที่มีข้อความตอนที่ เช มอบให้ผมเมื่อนานแล้วให้ เช ดู ซึ่งมีข้อความที่ เช เคยเขียนว่า "ก่อนหมดสัญญาผมตั้งใจจะต้องทำให้ทีมชาติไทย คว้าเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ให้ได้" ซึ่งมันเป็นสัญญาใจที่เราทำไว้ต่อกัน พอเชเห็นเขาก็ขอบคุณผม โดย เช ก็ยังตอบผมว่า ยังมีนักกีฬาอีกเป็น 100 คนที่ยังนับถือเขา, ยังมีแฟนกีฬาไทยให้กำลังใจเชมาก และที่สำคัญ ยังมีภาระกิจอันยิ่งใหญ่รอเขาอยู่ และเขาจะกลับมาทำเพื่อนักเทควันโดไทยและคนไทยทุกคน
ทั้งนี้ ข้อมูลรายงานการแข่งขันระบุว่ารุ่งระวีพ่ายแพ้ด้วยสกอร์ 4-15 แทนที่จะเป็นสกอร์ 6-12 ตามที่เจ้าตัวกล่าวอ้าง ด้านแหล่งข่าวระบุว่าตามกติกาแล้วผู้ตัดสินบนเวทีจะให้เวลานักกีฬาเพียงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น ซึ่งรุ่งระวีมาถึงสนามช้า และหวิดถูกตัดสิทธิ์จากการแข่งขันเพียงแต่ฝ่ายจัดการแข่งขันค่อนข้างเกรงใจโค้ชเชจึงอนุญาติให้แข่งขันได้อย่างทุลักทุเล และหากแมตช์ดังกล่าวผู้ฝึกสอนไทยเป็นคนแก้เกมจะถูกตัดสิทธิ์แน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โค้ชเช ยอง ซอก ได้ติดต่อมาถึงนายปรีชาว่าจะเดินทางกลับมาวันที่ 20 ก.ค.นี้ เที่ยวบิน โอแซด 741 เวลา 22.20 น.
http://m.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1405768137
ความคืบหน้า กรณีก้อย...
ความคืบหน้ากรณี "ก้อย" รุ่งระวี ขุระสะ นักเทควันโดสาวทีมชาติไทย อ้างว่าถูก "โค้ชเช" เช ยอง ซุก หัวหน้าผู้ฝึกสอนชาวเกาหลีใต้ลงโทษเกินกว่าเหตุด้วยการต่อยที่ใบหน้าและท้อง จนเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในสังคม จนเป็นเหตุให้ "โค้ชเช" อาจจะไม่เดินทางกลับมาเมืองไทยอีก แต่ท้ายที่สุดระบุว่ามีคิวเดินทางถึงไทยช่วงค่ำ 20 ก.ค.นี้
ล่าสุดเมื่อ 19 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศูนย์ฝึกซ้อมเทควันโด ภายในการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) พลเรือเอกสุรวุฒิ มหารมณ์ อดีตประธานคณะกรรมการเตรียมนักกีฬาไทย ในฐานะประธานพิจารณาข้อเท็จจริงนัดประชุมร่วมกับ ดร.สมคิด ปิ่นทอง ในฐานะรองประธาน และนายปรีชา ต่อตระกูล, นายเลิศ นิตย์ธีรานนท์ และนายณณัฏฐ์ เขมโสภต กรรมการ เพื่อหาข้อสรุปเกี่ยวกับประเด็นปัญหาดังกล่าว โดยมีโค้ชคิม แจ วู ผู้ฝึกสอนเกาหลีใต้อีกคน และ เป็นเอก การะเกตุ ในฐานะหัวหน้านักกีฬาเท่านั้นที่เข้าให้ข้อมูล ส่วน "น้องก้อย" รุ่งระวี กลับไม่เดินทางมา มีเพียง พิทักษ์ ผูกพัน อดีตผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ในฐานะผู้ฝึกสอน "อาร์ดีซี" ต้นสังกัด ที่เดินทางมา แต่กลับไม่เข้าให้ข้อมูลกับคณะกรรมการ เพียงแต่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนที่มารายงานข่าวเท่านั้น
"เดิมทีผมไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวกับปัญหานี้ แต่โดนพาดพิงมาตลอดว่าอยู่เบื้องหลังให้ก้อยออกมาเคลื่อนไหว อย่างไรก็ตามหลังจากเกิดเรื่องขึ้นได้พูดคุยกับครอบครัวของก้อยตลอด แต่ในระยะหลังทางผู้ปกครอง และก้อย ไม่สามารถรับกระแสสังคมได้อีกต่อไป แถมกระแสที่ออกมาไม่มีใครเห็นใจเจ้าตัวเลย ทั้งนี้อยากให้ย้อนกลับไปที่ประเด็นแรก คือโค้ชเชลงโทษเกินกว่าเหตุหรือไม่ และอยากให้ทราบว่าก้อยไม่ได้กุข่าวขึ้นมาเอง อยากให้คณะกรรมการที่ตัดสินเป็นกลาง เพราะส่วนใหญ่เป็นคนของสมาคม ไม่มีใครปกป้องเด็กเลย ซึ่งส่วนตัวอยากให้สมาคมขอโทษเด็กบ้าง แล้วค่อยมาคุยกันเป็นการภายใน"
อย่างไรก็ตามยังมีคลิปเสียงของนักกีฬาที่ออกความเห็นจากกรณีดังกล่าว ซึ่งเนื้อหาระบุว่าเป็นการลงโทษที่หนักหน่วงกว่าทุก ๆ ครั้ง และโค้ชทำรุนแรงเกินไป โดยยังมีน้ำเสียงของรุ่งระวีที่ระบุว่าเกือบจะตอบโต้โค้ชกลับเนื่องจากทนการทำโทษดังกล่าวไม่ไหว และพยายามหาคำตอบว่าโค้ชโกรธนักกีฬาเรื่องอะไร และผู้ฝึกสอนไทยทำไมถึงไม่ช่วยเหลือ
ด้านพลเรือเอกสุรวุฒิ เปิดเผยในการแถลงข่าวว่า เราพยายามเรียนเชิญแล้ว แต่รุ่งระวีไม่มาก็ยิ่งไปกันใหญ่ น่าเสียดายที่ไม่มา เพราะยิ่งเป็นอันตรายต่อตัวเอง และหาที่ยืนในสังคมได้ลำบาก ซึ่งคณะทำงานพยายามหาให้ แต่กลับไม่ให้เกียรติกันทั้งที่เราหวังดี โดยจากที่พูดคุย รุ่งระวีติดทีมชาติตามระบบการคัดเลือกของสมาคมในช่วงเดือน เม.ย. ความเข้าใจในการเป็นทีมชาติถือว่าสั้นแม้จะเล่นเทควันโดมานานแล้วก็ตาม ซึ่งคณะทำงานคงไม่พยายามหาคนผิดหรือต่อความให้ยาว แต่จะพูดคุยกันเป็นการภายใน
"สื่อเกาหลีประโคมว่าอยากเอาตัวโค้ชเชกลับ เพราะอะไร เพราะวงการเทควันโดเกาหลีตกต่ำอย่างเป็นอันตราย ยูธโอลิมปิกมีนักกีฬาได้สิทธิ์เพียงคนเดียวจากการทำอันดับ 4 ขณะที่ไทยได้สิทธิ์ 2 คนจากผลงานเหรียญทอง การพยายามปล่อยคลิปของคนบางกลุ่มนั้น ผมไม่เข้าใจว่าทำเพื่ออะไร อยากจะล้มโค้ช ล้มวงการเทควันโดไปทั้งหมดหรืออย่างไร แล้วเด็กที่เล่นเทควันโด 800,000 คนทั่วประเทศจะทำอย่างไร อยากให้สมาคมเทควันโดเป็นเหมือนสมัยก่อนที่คณะกรรมการเป็นคนจากยิมต่าง ๆ แล้วก็เอาเด็กตัวเองมาติดทีมชาติ แล้วเอารูปนักกีฬาตัวเองได้เหรียญต่าง ๆ ไปโฆษณาดึงเด็กเข้ามาเรียน"
"เรื่องคลิปเสียงดังกล่าว ผมมองว่าเป็นเรื่องของการให้กำลังใจเพื่อนนักกีฬาด้วยกัน ไม่ได้เอามาเป็นประเด็นในการพิจารณา อย่างไรก็ตามในประเด็นให้โค้ชเชขอโทษผ่านสื่อนั้น ที่อื่นอาจจะทำได้ แต่ผมรับไม่ได้ และจะไม่ปล่อยให้โค้ชเชทำเช่นนั้นแน่นอน แต่จะขอให้พูดคุยกันเป็นการภายในจะดีกว่า"
ด้านนายปรีชา ต่อตระกูล อุปนายกสมาคมฯในฐานะคณะกรรมการพิจารณา กล่าวว่า ตนเองอยากให้เรื่องจบเร็วที่สุดแล้วกลับมาคุยกันในบ้าน ตอนนี้นักกีฬาไม่มีสมาธิฝึกซ้อม เพราะประเด็นข่าวดังกล่าว ตอนนี้คุยกับโค้ชเชตลอดซึ่งเขาจะกลับมาทำงานจนถึงโอลิมปิกเกมส์ 2016 ที่ริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล ซึ่งหลังจากกลับถึงประเทศไทยเจ้าตัวจะให้สัมภาษณ์เพียงครั้งเดียว จากนั้นจะขอทำงานในฐานะผู้ฝึกสอนอย่างเดียว
ขณะที่ "บิ๊กเอ" พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมเทควันโด ได้โทรศัพท์ข้ามทวีปจากอเมริกา มาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงการโทรคุยกับ โค้ช เช จนเดินทางกลับมาเมืองไทยว่า ตนได้คุยกับโค้ชเช ด้วยเหตุและผล รวมทั้งอัพเดตเรื่องสถานการณ์ในเมืองไทย ทั้งเรื่องการตั้งกรรมการสอบสวน รวมทั้งอยากให้ เช ทราบถึงกระแสคนไทยเขาคิดอย่างไรต่อ เช และก็ได้บอกเขาไปว่า อย่าใส่ใจเสียงเล็กน้อยมาทำให้เสียความรู้สึก เรายังต้องโฟกัสไปที่ 2 รายการใหญ่ คือ ยูธโอลิมปิกเกมส์ที่จีน และเอเชี่ยนเกมส์ ที่เกาหลี ซึ่ง เช เขาก็เข้าใจ และยังบอกว่า ช่วงเวลาที่หายไป เขาคิดอะไรหลายอย่าง รู้สึกสับสน แต่พอเขาเห็นคนไทยมาให้กำลังใจเขาจำนวนมาก รวมทั้งเห็นลูกศิษย์ของเขาหลายคนคอยให้กำลังใจทำให้เขาคิดได้
"ผมยังส่งรูปที่มีข้อความตอนที่ เช มอบให้ผมเมื่อนานแล้วให้ เช ดู ซึ่งมีข้อความที่ เช เคยเขียนว่า "ก่อนหมดสัญญาผมตั้งใจจะต้องทำให้ทีมชาติไทย คว้าเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ให้ได้" ซึ่งมันเป็นสัญญาใจที่เราทำไว้ต่อกัน พอเชเห็นเขาก็ขอบคุณผม โดย เช ก็ยังตอบผมว่า ยังมีนักกีฬาอีกเป็น 100 คนที่ยังนับถือเขา, ยังมีแฟนกีฬาไทยให้กำลังใจเชมาก และที่สำคัญ ยังมีภาระกิจอันยิ่งใหญ่รอเขาอยู่ และเขาจะกลับมาทำเพื่อนักเทควันโดไทยและคนไทยทุกคน
ทั้งนี้ ข้อมูลรายงานการแข่งขันระบุว่ารุ่งระวีพ่ายแพ้ด้วยสกอร์ 4-15 แทนที่จะเป็นสกอร์ 6-12 ตามที่เจ้าตัวกล่าวอ้าง ด้านแหล่งข่าวระบุว่าตามกติกาแล้วผู้ตัดสินบนเวทีจะให้เวลานักกีฬาเพียงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น ซึ่งรุ่งระวีมาถึงสนามช้า และหวิดถูกตัดสิทธิ์จากการแข่งขันเพียงแต่ฝ่ายจัดการแข่งขันค่อนข้างเกรงใจโค้ชเชจึงอนุญาติให้แข่งขันได้อย่างทุลักทุเล และหากแมตช์ดังกล่าวผู้ฝึกสอนไทยเป็นคนแก้เกมจะถูกตัดสิทธิ์แน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โค้ชเช ยอง ซอก ได้ติดต่อมาถึงนายปรีชาว่าจะเดินทางกลับมาวันที่ 20 ก.ค.นี้ เที่ยวบิน โอแซด 741 เวลา 22.20 น.
http://m.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1405768137